คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 101
เราผู้คล้ายกับ จขพ ขอเล่าย้อนหลังคร่าวๆ (เมื่อ50กว่าปีก่อน ..ตอนเด็กๆ พ่อเราก็ไม่เคยสนใจลูก ไม่เคยส่งเสียเล่าเรียน มีแต่แม่ส่งเสียแต่แม่เราสมัยสาวๆ ดุมากด่าเก่งชอบตีคงเพราะเก็บกดจากพ่อเราก็เข้าใจแต่ก็น้อยใจที่พ่อแม่ร้ายทั้งคู่ แต่แม่ยังดีที่ดูแลลูก ยิ่งพ่อเราชอบกินเหล้าเวลาเมา ยังชอบทุบตีทำร้ายแม่กับลูกๆ ตลอด ช่วงอยู่บ้านเช่าด้วยกันต้องอดทนอดกลั้นมากๆ พอช่วงอายุ 13-14 น้องชายแม่ย้ายบ้านเขาสงสารเลยให้บ้านเก่าแม่กับพวกเราไปอยู่แทน แต่พ่อเรายังอยู่บ้านเช่าเพราะน้ากำชับไม่ให้เข้าบ้านเพราะเขาก็เกลียดพ่อเรา พอพ่อเมาชอบมาเขย่าจะพังประตูเหล็กบ้านน้า จะเข้ามาทำร้ายพวกเราในบ้าน พอเข้าไม่ได้มันเอาหินปาขึ้นชั้นบนซึ่งเป็นห้องแถว ชาวบ้านก็รำคาญแต่เขาไม่ยุ่งกัน ตอนนั้นไม่มีกฏหมายครอบครัวด้วย เวลาขายของก็ทำคนเดียวไม่ได้ต้องให้ลูกคนใดคนนึงไปช่วยงานเช้าตลอดเรารับช่วงคนที่3หากไม่ตื่นเช้ามาเตรียมของให้ก็โดนมือตีนเขาอีกแถมอาจไม่ได้ไปโรงเรียนด้วย ก็ต้องทนและยอมตลอดที่เรายังเรียนมัธยมพอเข้ามหาลัยทำงานเองได้เราไม่ทำให้แล้วน้องสาวมารับช่วงและแม่ยังต้องช่วยเพราะต้องขายของหาเงินที่บ้านเช่านั้นด้วยเช่นกัน.หลังจากเราทำงานเราก็เริ่มตัดขาดพ่อไปเลย ให้เงินแม่ใช้คนเดียว เราใจแข็งมากเพราะมันเก็บกดและเกลียดมากแต่สงสารแม่ที่ต้องมารับมือเขาตลอดโดนทำร้ายก็ไม่สู้ ผมโมโหก็ช่วยไม่ได้เพราะคนอื่นจะมองไม่ดี (ญาติฝ่ายพ่อก็ไม่ช่วยเพราะเขาก็ไม่เอาไม่นับญาติแสดงว่าพ่อเราก็แย่จริงขนาดพี่น้องทางพ่อเขายังไม่สนด้วยเลย ยิ่งฝ่ายแม่ก็ไม่ยุ่งเลย กลายเป็นครอบครัวเราโดนโดดเดี่ยวจากญาติๆ ทุกฝ่าย)..พอเราทำงานก็ไม่รับรู้ไม่สนเรื่องพ่ออีกเลยตัดขาดเลย แต่ยังอยู่บ้านรับรู้เรื่องราวพ่อเมาชอบทำร้ายแม่ตลอด เราบอกให้แม่เลิกหรือสู้กลับบ้าง แต่เขาไม่ยอมกลัวพ่อ แต่กับลูกนี่โคตรดุตีก็เก่ง แม่ก็อดทนพูดแต่ว่าใช้กรรมไปก็อยู่ช่วยพ่อไปจนพ่อป่วยและเสียไป แม่ก็สบายขึ้นมาหน่อย ช่วงพ่อป่วย เราก็ไปเยี่ยมครั้งเดียวคือ ตอนบวช เพราะก่อนช่วงนั้นเราป่วยต้องผ่าตัดที่ศิริราชและเพื่อนสนิทไปบนให้ว่าจะเราบวชหากผ่าตัดกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ พอหายดีก็ลางานมาบวชแก้บน 555 ทั้งที่ไม่เคยคิดจะบวชเลย ในตอนนั้นเขายังป่วยอยู่เลย แม่บอกต้องไปเยี่ยมบ้างและให้ไปขออโหสิกรรมกัน..ถือว่าหมดสิ้นเวรกรรมในชาตินี้..ส่วนเรื่องช่วยเหลือเราตอนนั้นเราไม่สนใจเขาเลยใจแข็งมาก ก็คงแม่นั้นล่ะที่ช่วยเหลือ ฉะนั้นเรื่องของ จขกท จะไม่ช่วยก็ได้ถ้าพอมีเหลือหรือถ้าใจแข็งพอจะไม่ช่วย ผมไม่ถือว่าผิดหรืออกตัญญู ในความคิดผมนะ เพราะผมเข้าใจความรู้สึกนั้น..จขกท ยังดี ที่ไม่ถูกทำร้ายทุบตีจากพ่อคุณ ไม่เหมือนผมช่วงเด็กเคยคิดฆ่าตัวตายเคยเอามีดกรีดมือด้วยประชดชีวิตในวัยเด็กมาก แต่ใตไม่กล้าพอ ไม่เช่นนั้นคงไม่ได้มาตอบกระทู้นี่แน่ๆ 😅😅
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
คนที่แนะนำว่าไม่ควรไป เป็น "มิจฉาทิฐิ" ทั้งนั้นครับ
การให้ที่ดีที่สุดในโลกคือ "ให้อภัย"
เราทำบุญกับคนอื่นยังทำเลยครับ พ่อแท้ๆ ที่ให้กำเนิดเรามา
ในมุมมอง ควรไปตอบแทนครับ แม้ท่านจะไม่ได้เลี้ยงดูส่งเสริมก็ตาม
ให้ถือว่าทำบุญ การทำบุญกับพ่อแม่บังเกิดเกล้า คือบุญที่สุดแล้ว
อะไรดีๆ จะส่งบุญถึงคุณครับ
การให้ที่ดีที่สุดในโลกคือ "ให้อภัย"
เราทำบุญกับคนอื่นยังทำเลยครับ พ่อแท้ๆ ที่ให้กำเนิดเรามา
ในมุมมอง ควรไปตอบแทนครับ แม้ท่านจะไม่ได้เลี้ยงดูส่งเสริมก็ตาม
ให้ถือว่าทำบุญ การทำบุญกับพ่อแม่บังเกิดเกล้า คือบุญที่สุดแล้ว
อะไรดีๆ จะส่งบุญถึงคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 10
ไม่ต้องไปค่ะ
พวกเขาไม่มาดูดำดูดีคุณเลย เหมือนว่าตัดขาดกันไปแล้ว
พอมีปัญหาจะมาให้คุณช่วยแบกได้ยังไง
บอกเขาไปตามที่เขียนในกระทู้นี่แหละค่ะ ว่าตอนพ่อมีเงิน พ่อแบ่งให้อา อาก็ดูแลพ่อไปเถอะ
พ่อไม่เคยเลี้ยง ไม่เคยให้อะไรคุณ ทำไมคุณต้องดูแล
อาก็กล้ามากนะที่มาบอกให้คุณไปดูแลพ่อ ไม่มีละอายใจเลย
เราเป็นเหมือนคุณ
แต่พ่อเราเขาไม่ได้เรียกเราไปดูแล เขาอยากเจอเราเฉยๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พวกเขาไม่มาดูดำดูดีคุณเลย เหมือนว่าตัดขาดกันไปแล้ว
พอมีปัญหาจะมาให้คุณช่วยแบกได้ยังไง
บอกเขาไปตามที่เขียนในกระทู้นี่แหละค่ะ ว่าตอนพ่อมีเงิน พ่อแบ่งให้อา อาก็ดูแลพ่อไปเถอะ
พ่อไม่เคยเลี้ยง ไม่เคยให้อะไรคุณ ทำไมคุณต้องดูแล
อาก็กล้ามากนะที่มาบอกให้คุณไปดูแลพ่อ ไม่มีละอายใจเลย
เราเป็นเหมือนคุณ
แต่พ่อเราเขาไม่ได้เรียกเราไปดูแล เขาอยากเจอเราเฉยๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
พ่อผู้ที่ทิ้งลูกไป ไม่เคยแม้แต่จะส่งเสีย ในวันที่ป่วยจะให้เราไปดูแล?