ชาวโคราช ร้องขอเงินสด แทนแจกผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต ชี้กระตุ้นเศรษฐกิจได้ทันที
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9373616
ชาวโคราช ร้องขอเงินสดแทนดิจิทัลวอลเล็ต ชี้แจกเงินสดช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทันที หลังเปลี่ยน แพทองธาร เป็นนายกฯ นโยบายยังไม่ชัดเจน
จากกรณีมีกระแสข่าวรัฐบาลเตรียมปรับเงื่อนไขโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต เป็นการแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบางที่ลงทะเบียนไว้ก่อนเป็นอันดับแรกในวงเงิน 1.22 ล้านบาท ตามที่สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม 1.22 แสนล้าน มาใช้แจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะแจกเงินสดผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) ในครั้งเดียว 10,000 บาทนั้น
วันที่ 22 ส.ค.2567 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของผู้มีรายได้น้อยหลากหลายอาชีพ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ต่อนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต พบว่าส่วนใหญ่ไม่คิดว่า นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต จะได้ไปต่อ
นาย
ณัฐพล ถิ่นทับไทย อายุ 50 ปี พ่อค้าเร่ขายข้าวโป่ง บริเวณสี่แยกหัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ช่วงนี้เศรษฐกิจย่ำแย่มาก ตนรับข้าวโป่งมาขายได้กำไรถุงละ 5 บาท ในอดีตเคยขายได้วันละกว่า 100 ถุง แต่ตอนนี้ขายได้วันละ 50-60 ถุงเท่านั้น และไม่ใช่เฉพาะแยกนี้ ที่แยกอื่นๆ ก็เป็นเหมือนกันหมด ดังนั้น ตนอยากให้รัฐบาลช่วยออกนโยบายมากระตุ้นเศรษฐกิจเป็นการเร่งด่วนเลย
ส่วนเรื่องการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ตนได้ลงทะเบียนยืนยันขอรับสิทธิ์แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐไว้เรียบร้อยแล้ว แต่รู้สึกไม่มั่นใจว่าจะได้รับเงินตามที่รัฐบาลยุคนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะเพิ่งจะเปลี่ยนนายกฯ มาเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งส่วนตัวอยากให้รัฐบาลแจกเป็นเงินสดมาเลย เหมือนช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่รัฐบาลโอนเงินมาให้ครั้งละ 5,000 บาท 3 รอบ รวมเป็นเงิน 15,000 บาท ทำให้ประชาชนนำมามาใช้จ่ายได้เลยทันที
ด้านนาง
อั๊วะ ตันกระโทก อายุ 49 ปี แม่ค้ารถเข็นขายขนมโตเกียว ในพื้นที่ ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่คิดว่าโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตจะไปต่อได้ ทั้งที่ตนลงทะเบียนไว้แล้ว แต่ด้วยความที่รัฐบาลยังไม่มั่นคง จึงคาดหวังอะไรไม่ได้เลย
ที่สำคัญโครงการนี้ก็มีเงื่อนไขยุ่งยากหลายอย่าง โดยเฉพาะต้องใช้กับร้านค้าที่อยู่ในเขตอำเภอตามบัตรประชาชน ซึ่งตนเป็นคนอ.หนองบุญมาก แต่มาทำงานหาเงินอยู่ในพื้นที่อ.เมืองนครราชสีมา ถ้าจะใช้เงินก็ต้องขึ้นรถเมล์ไปที่อ.หนองบุญมาก และบ้านก็อยู่รอบนอกตัวอำเภอ ไม่รู้ว่าจะมีร้านค้าใดรับเงินดิจิทัลวอลแลตบ้าง สุดท้ายต้องวิ่งหาเข้าร้านสะดวกซื้อเจ้าใหญ่ ซึ่งมีสินค้าที่ไม่ได้ตรงตามความต้องการจริงๆ ดังนั้น ตนอยากได้เงินสดนำมาใช้จ่ายค่าเทอมลูก ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าครองชีพอื่นๆ จะดีกว่า
นาย
ประเสริฐ ลับดีพะเนา อายุ 59 ปี พ่อค้าขายไก่อบโอ่ง อยู่บริเวณสี่แยกศาลเจ้าพ่อขุนด่าน ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ช่วงนี้การค้าขายย่ำแย่มาก เคยขายไก่อบได้วันละกว่า 30 ตัว ตอนนี้ลูกค้าลดลงมาก ขายได้วันละ 7-8 ตัวเท่านั้น เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี กำลังซื้อของประชาชนลดลง จึงอยากให้รัฐบาลช่วยออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากเป็นการเร่งด่วนด้วย
นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ตนว่าไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากได้แน่นอน เพราะเงินจะไหลไปสู่ร้านค้ารายใหญ่หมด ร้านค้าเล็กๆ ในซอยอย่างตน คงหมดสิทธิ์ได้เงินส่วนนั้นแน่นอน สู้แจกเป็นเงินสดให้ประชาชนนำมาจับจ่ายซื้อของในร้านค้าเล็กๆ ตามชุมชนต่างๆ ได้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากได้ชัดเจนกว่า
ชาวบ้านหนุนรัฐบาลแพทองธาร แจกเงินสด เชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง มั่นใจนายกฯอุ๊งอิ๊งทำได้
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9373646
ขอนแก่น ชาวบ้านเห็นด้วยรัฐบาลแพทองธาร แจกเงินสดกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง เชื่อมั่นนายกฯอุ๊งอิ๊งทำได้ วอนช่วยกันผลักดัน-ไม่ขัดแย้งกัน
22 ส.ค. 67 – ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ภายตลาดสดเทศบาล1 เขตเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อสำรวจความคิดเห็นประชาชนชาวขอนแก่น หลังจากมีกระแสข่าวมาว่ารัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของ น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะเปลี่ยนจากเงินดิจิทัลวอลเล็ตเป็นเงินสด 10,000 บาท
นาง
ตุ๊กตา สรีอภัย อายุ 57 ปี แม่ค้าขายปลา กล่าวว่า ถ้าได้เป็นเงินสดจริงๆจะดีมากเพราะเงินส่วนนี้จะได้เอาไปเสียค่าน้ำค่าไฟ ให้ลูกไปโรงเรียน เพราะเมื่อดูตามข้อเท็จจริงแล้วถ้าได้เป็นเงินดิจิทัล 10,000 บาทน่าจะใช้ได้ยาก แต่ถ้าเป็นเงินสดจะใช้ง่ายและจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีขึ้นด้วย เพราะจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจจริงๆ สามารถใช้เติมน้ำมันได้ ให้ลูกไปโรงเรียนได้
“
เดี๋ยวนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อน เศรษฐกิจไม่ดี ทุกคนต้องการเงินสด ถ้าได้เงินส่วนนี้มาจะนำไปเสียค่าน้ำ ค่าไฟ เพราะติดมา 2 เดือนแล้วเพราะขาดสภาพคล่องที่จะนำเงินไปใช้จ่าย ขายของก็ยากลำบาก คนซื้อก็ซื้อยาก พฤติกรรมคนซื้อเปลี่ยนไปไม่เหมือนก่อน
ตอนนี้ยังไม่ค่อยเชื่อมั่นว่า จะได้เงิน 10,000 บาท ถ้าทำสำเร็จและได้เงินจริงๆ ตอนนั้นถึงจะเชื่อมั่นในตัวรัฐบาลจริงๆ ตราบใดที่ยังไม่เห็นเงินก็ไม่มีทางเชื่อ และถ้าได้เงินสดอยากจะให้จ่ายงวดเดียว ไม่ต้องแบ่งจ่าย เพราะค่าน้ำก็แพง ค่าไฟก็แพง ค่าน้ำมันรถ ให้ลูกไปโรงเรียน เงิน 10,000 บาท ใช้ได้ไม่กี่วันก็หมด”
ขณะที่ นาง
เพ็ชรัตน์ กองพล 58 ปี แม่ค้าขายไส้กรอก กล่าวว่า เงินสดที่รัฐบาลจะให้ ตนเองคิดว่าดีเพราะทุกคนมีรายจ่ายครอบครัวตนเอง คนแก่อยู่บ้านก็ถามมาว่า จะได้จริงไหม ตนเองก็ได้แต่บอกให้ใจเย็นๆ จะพาทำ และเชื่อว่า จะต้องได้อย่างแน่นอน เพราะรายจ่ายก็มีมาก ถ้าได้เงินตัวนี้เข้ามาจะสามารถช่วยเหลือคนเฒ่าคนแก่เหล่านี้ได้อย่างมาก ความหวังตอนนี้เชื่อว่าทำได้
“
ที่ผ่านมาในรัฐบาลลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี สามารถทำได้มาแล้ว ไม่ว่าใครเข้ามาเป็นรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี น่าจะทำได้ เพราะมีทีมงานของตัวเอง ทุกอย่างสามารถจัดการได้หมด ขนาด 30 บาทรักษาทุกโรคก็ยังสามารถทำได้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคณะรัฐบาลที่จะช่วยกันผลักดันไม่ขัดแย้งกันก็จะสามารถทำได้อย่างแน่นอน”
นาง
เพ็ชรัตน์ กล่าวต่ออีกว่า หากได้เงินจริงอันดับแรกจะนำไปซื้อข้าวสารไว้ในครัวเรือน รวมทั้งของใช้จำเป็น เพราะเงินที่ได้มาแม้ว่ามีข้อแม้ก็จะไปซื้อของใช้จำเป็นเหล่านี้ เงินอื่นๆ ที่เราหาเองก็ค่อยไปซื้อสิ่งของอื่นๆ แทน เพราะเงินที่ให้มาเป็นเงินที่ทางรัฐบาลให้มาใช้จ่ายในการดำรงชีพ อาจจะจ่ายแบบรายงวดก็ได้ ถ้าเป็น 2 งวดก็จะดี ถ้าได้ก้อนเดียว ลูกหลานก็จะมาขอไปหมดทำให้ไม่ได้ใช้
ด้านนาง
ทิวารัตน์ สร้อยสุวรรณ์ อายุ 42 ปี แม่ค้าขายผลไม้ กล่าวว่า ตนเองไม่ได้ลงทะเบียนไว้ตอนที่จะแจกเป็นเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพราะกลัวว่าไม่มีสิทธิ์ไปซื้อร้านค้าที่ต้องการซื้อ เพราะอาศัยอยู่ในเมือง แต่ทะเบียนบ้านอยู่นอกเมือง ก็ต้องกลับบ้านไปซื้อของ มันทำให้เกิดความลำบากในการซื้อของ ไม่เหมือนเงินประชารัฐ แม้ซื้อของข้ามจังหวัดขอแค่มีธงฟ้าติดอยู่ก็จะสามารถซื้อได้ทุกร้าน และสามารถซื้อเป็นของฝากหรือซื้อขนมให้ลูกหลานได้ในแต่ละที่
“
พอมีกระแสข่าวว่าจะมีการแจกเป็นเงินสด ก็จะลงทะเบียนด้วย ถ้าได้เป็นเงินสดจะมีมาก จะดีทั้งคนซื้อ คนขาย เป็นอิสระในดการซื้อของ ไม่จำกัดขอบเขต ไม่จำกัดระยะทาง ไม่จำกัดสถานที่ซื้อ ถ้าคนใช้เงินเป็นก็จะถูกวัตถุประสงค์ แต่ถ้าคนใช้ไม่ถูกหลักก็คงนำไปซื้อของที่ไม่จำเป็น เช่นซื้อหุ้น ซื้อหวย ถ้าตนเองได้เงินมาก็จะนำไปซื้อของเข้าร้านมาค้าขาย เพราะตอนนี้เงินไม่มีหมุน
อย่างไรก็ดีส่วนตัวก็ยังมองว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเป็นจำนวนเงินที่เยอะ แต่ถ้าได้จริงก็อยากให้แจกจ่ายเป็นงวด งวดละ 2,000 บาท เพราะคนไทยใช้เงินไม่เป็น ขนาดคนถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 ก็ยังกลับมาจนเหมือนเดิมได้ ถ้าได้เป็นก้อนก็คงแปปเดียวหมด”
ฝนถล่มแพร่ น้ำป่าซัดวัวทั้งฝูง ลอยคอกลางกระแสน้ำ วอนเกยบ้านใคร ฝากมัดไว้ให้ด้วย
https://www.matichon.co.th/social/news_4748767
ระทึก! ฝนถล่มแพร่ น้ำป่าซัดวัวทังฝูง ลอยคอกลางกระแสน้ำ ไม่รู้ชะตากรรม วอนไปเกยบ้านใครฝากมัดไว้ที่สูงให้ด้วย
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากสถานการณ์ฝนตกติดต่อกัน จนทำให้หลายจังหวัดในภาคเหนือประสบปัญหาน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ทำให้ประชาชนหลายร้อยครัวเรือนได้รับผลกระทบ ซึ่งนอกจากคนแล้ว เหตุน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลากยังส่งผลกระทบไปถึงสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านอีกด้วย
ล่าสุด เพจ
วิทยุจราจร จราจรเพื่อชุมชนเชียงใหม่ ได้โพสต์ภาพ วันประมาณ 6-7 ตัว ไม่ทราบเจ้าของ ถูกน้ำป่าซัดไหลไปตามกระแสน้ำ วอนประชาชนหากเห็นไปเกยบ้านใครฝากมัดไว้ที่สูงด้วย
โดยระบุข้อความว่า
“‘
ขอให้น้องปลอดภัย’ 22 สิงหาคม 67 เวลา 10.30 น. มีวัวจำนวน 6-7 ตัว ไม่ทราบเจ้าของไหลมาตามน้ำ บริเวณสะพานน้ำรัด อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ และลอยคอลงไปสะพานวังหงษ์ท่าข้าม ต.ท่าข้าม อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ แล้ว
หากว่าวัวไปขึ้นที่ริมทางบ้านใคร ได้โปรดเก็บมัดไว้ที่สูงๆ เพื่อตามหาเจ้าของด้วย”
https://www.facebook.com/radiotrafficpolicechiangmai/posts/pfbid02BXnctppWruAJTfgsTRERi6jZcFrjEzSjsmgnQqpUnb5MxhHaZwtzBBUWw3KMaAasl
JJNY : ชาวโคราช ร้องขอเงินสด│ชาวบ้านหนุนรัฐบาลแจกเงินสด│ฝนถล่มแพร่ น้ำป่าซัดวัวทั้งฝูง│ผู้ผลิตวัคซีนฝีดาษลิงรับออร์เดอร์
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9373616
ชาวโคราช ร้องขอเงินสดแทนดิจิทัลวอลเล็ต ชี้แจกเงินสดช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทันที หลังเปลี่ยน แพทองธาร เป็นนายกฯ นโยบายยังไม่ชัดเจน
จากกรณีมีกระแสข่าวรัฐบาลเตรียมปรับเงื่อนไขโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต เป็นการแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบางที่ลงทะเบียนไว้ก่อนเป็นอันดับแรกในวงเงิน 1.22 ล้านบาท ตามที่สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม 1.22 แสนล้าน มาใช้แจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะแจกเงินสดผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) ในครั้งเดียว 10,000 บาทนั้น
วันที่ 22 ส.ค.2567 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของผู้มีรายได้น้อยหลากหลายอาชีพ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ต่อนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต พบว่าส่วนใหญ่ไม่คิดว่า นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต จะได้ไปต่อ
นายณัฐพล ถิ่นทับไทย อายุ 50 ปี พ่อค้าเร่ขายข้าวโป่ง บริเวณสี่แยกหัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ช่วงนี้เศรษฐกิจย่ำแย่มาก ตนรับข้าวโป่งมาขายได้กำไรถุงละ 5 บาท ในอดีตเคยขายได้วันละกว่า 100 ถุง แต่ตอนนี้ขายได้วันละ 50-60 ถุงเท่านั้น และไม่ใช่เฉพาะแยกนี้ ที่แยกอื่นๆ ก็เป็นเหมือนกันหมด ดังนั้น ตนอยากให้รัฐบาลช่วยออกนโยบายมากระตุ้นเศรษฐกิจเป็นการเร่งด่วนเลย
ส่วนเรื่องการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ตนได้ลงทะเบียนยืนยันขอรับสิทธิ์แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐไว้เรียบร้อยแล้ว แต่รู้สึกไม่มั่นใจว่าจะได้รับเงินตามที่รัฐบาลยุคนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะเพิ่งจะเปลี่ยนนายกฯ มาเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งส่วนตัวอยากให้รัฐบาลแจกเป็นเงินสดมาเลย เหมือนช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่รัฐบาลโอนเงินมาให้ครั้งละ 5,000 บาท 3 รอบ รวมเป็นเงิน 15,000 บาท ทำให้ประชาชนนำมามาใช้จ่ายได้เลยทันที
ด้านนางอั๊วะ ตันกระโทก อายุ 49 ปี แม่ค้ารถเข็นขายขนมโตเกียว ในพื้นที่ ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่คิดว่าโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตจะไปต่อได้ ทั้งที่ตนลงทะเบียนไว้แล้ว แต่ด้วยความที่รัฐบาลยังไม่มั่นคง จึงคาดหวังอะไรไม่ได้เลย
ที่สำคัญโครงการนี้ก็มีเงื่อนไขยุ่งยากหลายอย่าง โดยเฉพาะต้องใช้กับร้านค้าที่อยู่ในเขตอำเภอตามบัตรประชาชน ซึ่งตนเป็นคนอ.หนองบุญมาก แต่มาทำงานหาเงินอยู่ในพื้นที่อ.เมืองนครราชสีมา ถ้าจะใช้เงินก็ต้องขึ้นรถเมล์ไปที่อ.หนองบุญมาก และบ้านก็อยู่รอบนอกตัวอำเภอ ไม่รู้ว่าจะมีร้านค้าใดรับเงินดิจิทัลวอลแลตบ้าง สุดท้ายต้องวิ่งหาเข้าร้านสะดวกซื้อเจ้าใหญ่ ซึ่งมีสินค้าที่ไม่ได้ตรงตามความต้องการจริงๆ ดังนั้น ตนอยากได้เงินสดนำมาใช้จ่ายค่าเทอมลูก ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าครองชีพอื่นๆ จะดีกว่า
นายประเสริฐ ลับดีพะเนา อายุ 59 ปี พ่อค้าขายไก่อบโอ่ง อยู่บริเวณสี่แยกศาลเจ้าพ่อขุนด่าน ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ช่วงนี้การค้าขายย่ำแย่มาก เคยขายไก่อบได้วันละกว่า 30 ตัว ตอนนี้ลูกค้าลดลงมาก ขายได้วันละ 7-8 ตัวเท่านั้น เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี กำลังซื้อของประชาชนลดลง จึงอยากให้รัฐบาลช่วยออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากเป็นการเร่งด่วนด้วย
นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ตนว่าไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากได้แน่นอน เพราะเงินจะไหลไปสู่ร้านค้ารายใหญ่หมด ร้านค้าเล็กๆ ในซอยอย่างตน คงหมดสิทธิ์ได้เงินส่วนนั้นแน่นอน สู้แจกเป็นเงินสดให้ประชาชนนำมาจับจ่ายซื้อของในร้านค้าเล็กๆ ตามชุมชนต่างๆ ได้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากได้ชัดเจนกว่า
ชาวบ้านหนุนรัฐบาลแพทองธาร แจกเงินสด เชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง มั่นใจนายกฯอุ๊งอิ๊งทำได้
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9373646
ขอนแก่น ชาวบ้านเห็นด้วยรัฐบาลแพทองธาร แจกเงินสดกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง เชื่อมั่นนายกฯอุ๊งอิ๊งทำได้ วอนช่วยกันผลักดัน-ไม่ขัดแย้งกัน
22 ส.ค. 67 – ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ภายตลาดสดเทศบาล1 เขตเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อสำรวจความคิดเห็นประชาชนชาวขอนแก่น หลังจากมีกระแสข่าวมาว่ารัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะเปลี่ยนจากเงินดิจิทัลวอลเล็ตเป็นเงินสด 10,000 บาท
นางตุ๊กตา สรีอภัย อายุ 57 ปี แม่ค้าขายปลา กล่าวว่า ถ้าได้เป็นเงินสดจริงๆจะดีมากเพราะเงินส่วนนี้จะได้เอาไปเสียค่าน้ำค่าไฟ ให้ลูกไปโรงเรียน เพราะเมื่อดูตามข้อเท็จจริงแล้วถ้าได้เป็นเงินดิจิทัล 10,000 บาทน่าจะใช้ได้ยาก แต่ถ้าเป็นเงินสดจะใช้ง่ายและจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีขึ้นด้วย เพราะจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจจริงๆ สามารถใช้เติมน้ำมันได้ ให้ลูกไปโรงเรียนได้
“เดี๋ยวนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อน เศรษฐกิจไม่ดี ทุกคนต้องการเงินสด ถ้าได้เงินส่วนนี้มาจะนำไปเสียค่าน้ำ ค่าไฟ เพราะติดมา 2 เดือนแล้วเพราะขาดสภาพคล่องที่จะนำเงินไปใช้จ่าย ขายของก็ยากลำบาก คนซื้อก็ซื้อยาก พฤติกรรมคนซื้อเปลี่ยนไปไม่เหมือนก่อน
ตอนนี้ยังไม่ค่อยเชื่อมั่นว่า จะได้เงิน 10,000 บาท ถ้าทำสำเร็จและได้เงินจริงๆ ตอนนั้นถึงจะเชื่อมั่นในตัวรัฐบาลจริงๆ ตราบใดที่ยังไม่เห็นเงินก็ไม่มีทางเชื่อ และถ้าได้เงินสดอยากจะให้จ่ายงวดเดียว ไม่ต้องแบ่งจ่าย เพราะค่าน้ำก็แพง ค่าไฟก็แพง ค่าน้ำมันรถ ให้ลูกไปโรงเรียน เงิน 10,000 บาท ใช้ได้ไม่กี่วันก็หมด”
ขณะที่ นางเพ็ชรัตน์ กองพล 58 ปี แม่ค้าขายไส้กรอก กล่าวว่า เงินสดที่รัฐบาลจะให้ ตนเองคิดว่าดีเพราะทุกคนมีรายจ่ายครอบครัวตนเอง คนแก่อยู่บ้านก็ถามมาว่า จะได้จริงไหม ตนเองก็ได้แต่บอกให้ใจเย็นๆ จะพาทำ และเชื่อว่า จะต้องได้อย่างแน่นอน เพราะรายจ่ายก็มีมาก ถ้าได้เงินตัวนี้เข้ามาจะสามารถช่วยเหลือคนเฒ่าคนแก่เหล่านี้ได้อย่างมาก ความหวังตอนนี้เชื่อว่าทำได้
“ที่ผ่านมาในรัฐบาลลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี สามารถทำได้มาแล้ว ไม่ว่าใครเข้ามาเป็นรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี น่าจะทำได้ เพราะมีทีมงานของตัวเอง ทุกอย่างสามารถจัดการได้หมด ขนาด 30 บาทรักษาทุกโรคก็ยังสามารถทำได้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคณะรัฐบาลที่จะช่วยกันผลักดันไม่ขัดแย้งกันก็จะสามารถทำได้อย่างแน่นอน”
นางเพ็ชรัตน์ กล่าวต่ออีกว่า หากได้เงินจริงอันดับแรกจะนำไปซื้อข้าวสารไว้ในครัวเรือน รวมทั้งของใช้จำเป็น เพราะเงินที่ได้มาแม้ว่ามีข้อแม้ก็จะไปซื้อของใช้จำเป็นเหล่านี้ เงินอื่นๆ ที่เราหาเองก็ค่อยไปซื้อสิ่งของอื่นๆ แทน เพราะเงินที่ให้มาเป็นเงินที่ทางรัฐบาลให้มาใช้จ่ายในการดำรงชีพ อาจจะจ่ายแบบรายงวดก็ได้ ถ้าเป็น 2 งวดก็จะดี ถ้าได้ก้อนเดียว ลูกหลานก็จะมาขอไปหมดทำให้ไม่ได้ใช้
ด้านนางทิวารัตน์ สร้อยสุวรรณ์ อายุ 42 ปี แม่ค้าขายผลไม้ กล่าวว่า ตนเองไม่ได้ลงทะเบียนไว้ตอนที่จะแจกเป็นเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพราะกลัวว่าไม่มีสิทธิ์ไปซื้อร้านค้าที่ต้องการซื้อ เพราะอาศัยอยู่ในเมือง แต่ทะเบียนบ้านอยู่นอกเมือง ก็ต้องกลับบ้านไปซื้อของ มันทำให้เกิดความลำบากในการซื้อของ ไม่เหมือนเงินประชารัฐ แม้ซื้อของข้ามจังหวัดขอแค่มีธงฟ้าติดอยู่ก็จะสามารถซื้อได้ทุกร้าน และสามารถซื้อเป็นของฝากหรือซื้อขนมให้ลูกหลานได้ในแต่ละที่
“พอมีกระแสข่าวว่าจะมีการแจกเป็นเงินสด ก็จะลงทะเบียนด้วย ถ้าได้เป็นเงินสดจะมีมาก จะดีทั้งคนซื้อ คนขาย เป็นอิสระในดการซื้อของ ไม่จำกัดขอบเขต ไม่จำกัดระยะทาง ไม่จำกัดสถานที่ซื้อ ถ้าคนใช้เงินเป็นก็จะถูกวัตถุประสงค์ แต่ถ้าคนใช้ไม่ถูกหลักก็คงนำไปซื้อของที่ไม่จำเป็น เช่นซื้อหุ้น ซื้อหวย ถ้าตนเองได้เงินมาก็จะนำไปซื้อของเข้าร้านมาค้าขาย เพราะตอนนี้เงินไม่มีหมุน
อย่างไรก็ดีส่วนตัวก็ยังมองว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเป็นจำนวนเงินที่เยอะ แต่ถ้าได้จริงก็อยากให้แจกจ่ายเป็นงวด งวดละ 2,000 บาท เพราะคนไทยใช้เงินไม่เป็น ขนาดคนถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 ก็ยังกลับมาจนเหมือนเดิมได้ ถ้าได้เป็นก้อนก็คงแปปเดียวหมด”
ฝนถล่มแพร่ น้ำป่าซัดวัวทั้งฝูง ลอยคอกลางกระแสน้ำ วอนเกยบ้านใคร ฝากมัดไว้ให้ด้วย
https://www.matichon.co.th/social/news_4748767
ระทึก! ฝนถล่มแพร่ น้ำป่าซัดวัวทังฝูง ลอยคอกลางกระแสน้ำ ไม่รู้ชะตากรรม วอนไปเกยบ้านใครฝากมัดไว้ที่สูงให้ด้วย
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากสถานการณ์ฝนตกติดต่อกัน จนทำให้หลายจังหวัดในภาคเหนือประสบปัญหาน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ทำให้ประชาชนหลายร้อยครัวเรือนได้รับผลกระทบ ซึ่งนอกจากคนแล้ว เหตุน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลากยังส่งผลกระทบไปถึงสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านอีกด้วย
ล่าสุด เพจ วิทยุจราจร จราจรเพื่อชุมชนเชียงใหม่ ได้โพสต์ภาพ วันประมาณ 6-7 ตัว ไม่ทราบเจ้าของ ถูกน้ำป่าซัดไหลไปตามกระแสน้ำ วอนประชาชนหากเห็นไปเกยบ้านใครฝากมัดไว้ที่สูงด้วย
โดยระบุข้อความว่า
“‘ขอให้น้องปลอดภัย’ 22 สิงหาคม 67 เวลา 10.30 น. มีวัวจำนวน 6-7 ตัว ไม่ทราบเจ้าของไหลมาตามน้ำ บริเวณสะพานน้ำรัด อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ และลอยคอลงไปสะพานวังหงษ์ท่าข้าม ต.ท่าข้าม อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ แล้ว
หากว่าวัวไปขึ้นที่ริมทางบ้านใคร ได้โปรดเก็บมัดไว้ที่สูงๆ เพื่อตามหาเจ้าของด้วย”
https://www.facebook.com/radiotrafficpolicechiangmai/posts/pfbid02BXnctppWruAJTfgsTRERi6jZcFrjEzSjsmgnQqpUnb5MxhHaZwtzBBUWw3KMaAasl