FSS หรือ คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการเงินได้ตรวจพบว่า Kakao Pay บริการชำระเงินดิจิทัลของ Kakap ได้ส่งข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลของลูกค้าให้กับ Alipay ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Ant Group บริษัทฟินเทคที่ใหญ่ที่สุดของจีน โดยไม่ได้รับความยินยอมจากลูกค้า ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ขณะนี้กำลังพิจารณามาตรการคว่ำบาตร
นอกจากนี้ยังมีแผนจะตรวจสอบว่ามีปัญหาเดียวกันเกิดขึ้นกับบริษัทให้บริการชำระเงินดิจิทัลอื่นในประเทศหรือไม่
**ข้อมูลลูกค้าของ Kakao Pay ถูกส่งไปยัง Alipay**
เมื่อวันที่ 12 หน่วยงานทางการเงินเปิดเผยว่า Kakao Pay ได้ส่งข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลของลูกค้าให้กับ Alipay เพื่อให้บริการชำระเงินใน Apple App Store ทั้งนี้ Apple ต้องการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าจากบริษัทชำระเงินที่ต้องการเข้าร่วมใน App Store ข้อมูลเหล่านี้จะถูกประมวลผลใหม่จากข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า และในกรณีนี้ Kakao Pay ได้มอบหมายงานการประมวลผลใหม่ให้กับบริษัทในเครือ Alipay ซึ่งนำไปสู่การส่งต่อข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลของลูกค้า อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันว่าข้อมูลที่ประมวลผลใหม่ไม่ได้ถูกส่งต่อให้กับ Apple
ตามกฎหมาย 'การใช้และการคุ้มครองข้อมูลเครดิตส่วนบุคคล (กฎหมายข้อมูลเครดิต)' การเก็บรวบรวมข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลหรือการให้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้กับบุคคลอื่นจะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล นอกจากนี้ ตาม 'กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล' บริษัท Alipay ซึ่งมีสำนักงานในต่างประเทศ จำเป็นต้องได้รับความยินยอมสำหรับการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศด้วย แต่คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการเงินพบว่า Kakao Pay ไม่ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งสองข้อนี้
จุดยืนของ Kakao Pay: “การให้ข้อมูลเป็นส่วนหนึ่งของการมอบหมายงาน ไม่ละเมิดกฎหมาย”
ทาง Kakao Pay ชี้แจงว่าไม่ได้ละเมิดกฎหมาย โดยกล่าวว่าข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลที่ส่งให้ Alipay นั้นเป็นข้อมูลที่ให้ในฐานะส่วนหนึ่งของสัญญาการมอบหมายงานกับ Alipay และตามมาตรา 17 วรรค 1 ของกฎหมายข้อมูลเครดิต ระบุว่าการโอนข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลเพื่อการมอบหมายงานประมวลผลไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการเงินเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเกินขอบเขตของการมอบหมายงาน หนึ่งในนักกฎหมายที่เคยดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการการลงโทษของคณะกรรมการกำกับดูแลด้านการเงินกล่าวว่า “การมอบหมายงานเกี่ยวกับข้อมูลมักจะเกิดขึ้นในกรณีที่บริษัทอีคอมเมิร์ซต้องให้ที่อยู่ของลูกค้ากับบริษัทขนส่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการทำงานหลัก แต่ในกรณีนี้ห้ามเกินขอบเขตการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลได้ยินยอมไว้ และเนื้อหาการมอบหมายก็ต้องถูกเปิดเผยด้วย ซึ่งยังคงมีข้อสงสัยว่าเหตุการณ์ของ Kakao Pay เข้าเงื่อนไขเหล่านี้หรือไม่”
ทาง Kakao Pay ตอบคำถามเกี่ยวกับการเปิดเผย ‘การมอบหมายข้อมูลเครดิตส่วนบุคคล’ ว่า “ไม่สามารถเปิดเผยได้”
**'Kakao Pay' มีผู้ใช้งานสะสม 40 ล้านคน...ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอาจถูกส่งไปด้วย*
ถึงแม้จะยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับปริมาณและประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกส่งไปยัง Alipay แต่คาดว่าจะมีขนาดใหญ่
Kakao Pay ซึ่งเป็นบริการที่มีผู้ใช้สะสมกว่า 40 ล้านคนและมีผู้ใช้บริการรายเดือน (MAU) ถึง 24.7 ล้านคนในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ Kakao Pay ยังเป็นผู้ให้บริการข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งมีข้อมูลทางการเงินที่ละเอียดอ่อนของลูกค้าอยู่ด้วย
ในวงการมีการวิจารณ์ว่าการที่ข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลของลูกค้าชาวเกาหลีถูกส่งไปยังบริษัทในเครือของบริษัทจีนที่แข่งขันกับบริษัทเกาหลีเป็นปัญหา โดยแหล่งข่าวในวงการที่ขอไม่เปิดเผยชื่อกล่าวว่า “เนื่องจากการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลยังไม่เป็นที่แพร่หลาย จึงเป็นปัญหาที่ไม่รู้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนจะถูกนำไปใช้ที่ไหนและอย่างไร” และ “หากใช้ข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลในการทำการตลาด บริษัทในประเทศจะอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ”
อย่างไรก็ตาม Kakao Pay ชี้แจงว่า “ข้อมูลที่ให้ไปถูกเข้ารหัส และได้ยืนยันว่า Alipay ไม่ได้ถอดรหัสข้อมูลหรือใช้ข้อมูลที่ให้ไปในการทำการตลาด”
มีการวิเคราะห์ว่าการที่ Kakao Pay ให้ข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลเกี่ยวข้องกับโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัท Kakao Pay ที่หุ้น 32.06% ถือโดยบริษัท Alipay Singapore Holdings ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Alipay และ Ant Group
นอกจากนี้ Kakao Pay ยังเป็นพันธมิตรเริ่มแรกของบริการชำระเงินมือถือระดับโลกของ Alipay ที่เรียกว่า Alipay Plus ซึ่งสนับสนุนการชำระเงินทั้งในประเทศเกาหลีและการชำระเงินของลูกค้า Alipay จากต่างประเทศในเกาหลี
ทาง Kakao Pay ชี้แจงว่า “ในช่วงเวลานั้น Apple ได้ขอให้ Alipay ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทฟินเทคชั้นนำของโลก ช่วยปรับข้อมูลลูกค้าในลักษณะที่ Apple ต้องการ และเราได้ปฏิบัติตามคำขอนั้น” และ “การที่ Alipay เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้เราทำเช่นนั้น”
**“อาจมีการลงโทษหนัก”…“ขยายการตรวจสอบไปยังบริษัทให้บริการชำระเงินอื่น”**
หากการรั่วไหลของข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลจาก Kakao Pay ถูกยืนยันว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย มาตรการลงโทษอาจรุนแรงขึ้น เจ้าหน้าที่ทางการเงินกล่าวว่า “การละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลเครดิตอาจมีโทษทางอาญาและสามารถได้รับการลงโทษอย่างรุนแรงจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน” คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการเงินมีแผนที่จะตรวจสอบบริษัทให้บริการชำระเงินอื่นๆว่ามีการรั่วไหลของข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลในลักษณะเดียวกันหรือไม่
ที่มา
https://n.news.naver.com/article/025/0003379473?sid=101
** สาเหตุที่แท็กห้อง K-POP เพราะเชื่อว่าไอดอลหลายคนน่าจะใช่บริการ Kakap Pay กันเยอะ
[พิเศษ ข่าวใหญ่] Kakao Pay บริการชำระเงินที่มีผู้ใช้งาน 40 ล้านคนในเกาหลี ส่งข้อมูลลูกค้าให้กับ Ant Group จากประเทศจีน
นอกจากนี้ยังมีแผนจะตรวจสอบว่ามีปัญหาเดียวกันเกิดขึ้นกับบริษัทให้บริการชำระเงินดิจิทัลอื่นในประเทศหรือไม่
**ข้อมูลลูกค้าของ Kakao Pay ถูกส่งไปยัง Alipay**
เมื่อวันที่ 12 หน่วยงานทางการเงินเปิดเผยว่า Kakao Pay ได้ส่งข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลของลูกค้าให้กับ Alipay เพื่อให้บริการชำระเงินใน Apple App Store ทั้งนี้ Apple ต้องการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าจากบริษัทชำระเงินที่ต้องการเข้าร่วมใน App Store ข้อมูลเหล่านี้จะถูกประมวลผลใหม่จากข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า และในกรณีนี้ Kakao Pay ได้มอบหมายงานการประมวลผลใหม่ให้กับบริษัทในเครือ Alipay ซึ่งนำไปสู่การส่งต่อข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลของลูกค้า อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันว่าข้อมูลที่ประมวลผลใหม่ไม่ได้ถูกส่งต่อให้กับ Apple
ตามกฎหมาย 'การใช้และการคุ้มครองข้อมูลเครดิตส่วนบุคคล (กฎหมายข้อมูลเครดิต)' การเก็บรวบรวมข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลหรือการให้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้กับบุคคลอื่นจะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล นอกจากนี้ ตาม 'กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล' บริษัท Alipay ซึ่งมีสำนักงานในต่างประเทศ จำเป็นต้องได้รับความยินยอมสำหรับการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศด้วย แต่คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการเงินพบว่า Kakao Pay ไม่ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งสองข้อนี้
จุดยืนของ Kakao Pay: “การให้ข้อมูลเป็นส่วนหนึ่งของการมอบหมายงาน ไม่ละเมิดกฎหมาย”
ทาง Kakao Pay ชี้แจงว่าไม่ได้ละเมิดกฎหมาย โดยกล่าวว่าข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลที่ส่งให้ Alipay นั้นเป็นข้อมูลที่ให้ในฐานะส่วนหนึ่งของสัญญาการมอบหมายงานกับ Alipay และตามมาตรา 17 วรรค 1 ของกฎหมายข้อมูลเครดิต ระบุว่าการโอนข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลเพื่อการมอบหมายงานประมวลผลไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการเงินเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเกินขอบเขตของการมอบหมายงาน หนึ่งในนักกฎหมายที่เคยดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการการลงโทษของคณะกรรมการกำกับดูแลด้านการเงินกล่าวว่า “การมอบหมายงานเกี่ยวกับข้อมูลมักจะเกิดขึ้นในกรณีที่บริษัทอีคอมเมิร์ซต้องให้ที่อยู่ของลูกค้ากับบริษัทขนส่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการทำงานหลัก แต่ในกรณีนี้ห้ามเกินขอบเขตการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลได้ยินยอมไว้ และเนื้อหาการมอบหมายก็ต้องถูกเปิดเผยด้วย ซึ่งยังคงมีข้อสงสัยว่าเหตุการณ์ของ Kakao Pay เข้าเงื่อนไขเหล่านี้หรือไม่”
ทาง Kakao Pay ตอบคำถามเกี่ยวกับการเปิดเผย ‘การมอบหมายข้อมูลเครดิตส่วนบุคคล’ ว่า “ไม่สามารถเปิดเผยได้”
**'Kakao Pay' มีผู้ใช้งานสะสม 40 ล้านคน...ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอาจถูกส่งไปด้วย*
ถึงแม้จะยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับปริมาณและประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกส่งไปยัง Alipay แต่คาดว่าจะมีขนาดใหญ่
Kakao Pay ซึ่งเป็นบริการที่มีผู้ใช้สะสมกว่า 40 ล้านคนและมีผู้ใช้บริการรายเดือน (MAU) ถึง 24.7 ล้านคนในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ Kakao Pay ยังเป็นผู้ให้บริการข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งมีข้อมูลทางการเงินที่ละเอียดอ่อนของลูกค้าอยู่ด้วย
ในวงการมีการวิจารณ์ว่าการที่ข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลของลูกค้าชาวเกาหลีถูกส่งไปยังบริษัทในเครือของบริษัทจีนที่แข่งขันกับบริษัทเกาหลีเป็นปัญหา โดยแหล่งข่าวในวงการที่ขอไม่เปิดเผยชื่อกล่าวว่า “เนื่องจากการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลยังไม่เป็นที่แพร่หลาย จึงเป็นปัญหาที่ไม่รู้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนจะถูกนำไปใช้ที่ไหนและอย่างไร” และ “หากใช้ข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลในการทำการตลาด บริษัทในประเทศจะอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ”
อย่างไรก็ตาม Kakao Pay ชี้แจงว่า “ข้อมูลที่ให้ไปถูกเข้ารหัส และได้ยืนยันว่า Alipay ไม่ได้ถอดรหัสข้อมูลหรือใช้ข้อมูลที่ให้ไปในการทำการตลาด”
มีการวิเคราะห์ว่าการที่ Kakao Pay ให้ข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลเกี่ยวข้องกับโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัท Kakao Pay ที่หุ้น 32.06% ถือโดยบริษัท Alipay Singapore Holdings ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Alipay และ Ant Group
นอกจากนี้ Kakao Pay ยังเป็นพันธมิตรเริ่มแรกของบริการชำระเงินมือถือระดับโลกของ Alipay ที่เรียกว่า Alipay Plus ซึ่งสนับสนุนการชำระเงินทั้งในประเทศเกาหลีและการชำระเงินของลูกค้า Alipay จากต่างประเทศในเกาหลี
ทาง Kakao Pay ชี้แจงว่า “ในช่วงเวลานั้น Apple ได้ขอให้ Alipay ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทฟินเทคชั้นนำของโลก ช่วยปรับข้อมูลลูกค้าในลักษณะที่ Apple ต้องการ และเราได้ปฏิบัติตามคำขอนั้น” และ “การที่ Alipay เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้เราทำเช่นนั้น”
**“อาจมีการลงโทษหนัก”…“ขยายการตรวจสอบไปยังบริษัทให้บริการชำระเงินอื่น”**
หากการรั่วไหลของข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลจาก Kakao Pay ถูกยืนยันว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย มาตรการลงโทษอาจรุนแรงขึ้น เจ้าหน้าที่ทางการเงินกล่าวว่า “การละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลเครดิตอาจมีโทษทางอาญาและสามารถได้รับการลงโทษอย่างรุนแรงจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน” คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการเงินมีแผนที่จะตรวจสอบบริษัทให้บริการชำระเงินอื่นๆว่ามีการรั่วไหลของข้อมูลเครดิตส่วนบุคคลในลักษณะเดียวกันหรือไม่
ที่มา
https://n.news.naver.com/article/025/0003379473?sid=101
** สาเหตุที่แท็กห้อง K-POP เพราะเชื่อว่าไอดอลหลายคนน่าจะใช่บริการ Kakap Pay กันเยอะ