ครอบครัว A และ คุณ B
A มีร้านขายของเก่า
B เป็นคนมีอายุมากและไม่ได้ทำงาน
เรื่องมีอยู่ว่า
ครอบครัว A ติดเงิน คุณ B ยอด 2แสน+ และ A เลือกจ่ายดอกทุกวัน(ที่ขายได้) แต่ก็จะมียืมเงินเพิ่มเพื่อมาทำทุนและทำแบบนั้นเรื่อยมา เป็นระยะเวลาประมาณ 8 ปี อยู่มาวันนึงคุณ B เป็นมะเร็ง เข้ารับการรักษาด้วยบัตรทอง+บัตรคนพิการ(วิตกกังวล) รักษาได้ไม่นาน คนรักของครอบครัว A ได้สร้างหนี้[ไม่ทราบจำนวน] เกือบต้องขายบ้านแต่ญาติช่วยซื้อไว้ แล้วทาง A ต้องหาเงินมาใช้เพราะหนี้ที่สร้างมันอันตรายต่อลูกชายวัย 7 ขวบทั้งสองคน(คนรักAหนีไปแล้ว) .....คุณยายวัย90ซึ่งเป็นแม่ของ AและB(A,Bเป็นญาติกัน) ป่วยติดเตียงมานานแล้วขาดคนดูแลคุณ B จึงได้รับหน้าที่แลกเงินดูแลยายเดือนละ3,000(มีซื้อหนมและข้าวแบ่งยาน(เป็นงี้จริงๆ...งงป่ะ)) แต่สักพักBเริ่มดูยายไม่ไหวจาก1.โรควิตกกังวลของเขา2.ความจุกจิกและเอาแต่ใจของคนแก่ ก็เลยมีบางช่วงที่ไม่ได้ดูแลยายจึงไม่ได้เงิน และใช่ญาติๆไม่สนใจ**ทั้งยายและB**ปล่อยให้Aดูแลเท่าที่ทำได้ส่วนBก็ตามสภาพ แต่ๆๆๆๆ ญาติๆเกิดความ สงสาร?สมน้ำหน้า?สมเพช?หรืออะไรไม่รู้กับครอบครัวA จึงบอกให้Aไม่ต้องจ่ายให้BโดยBเป็นคนที่ไม่ได้มีเงินเป็นทุนเดิมจึงเดือดร้อนมากกับเรื่องนี้
เว้นวรรคไม่ค่อยดีเพราะรีบพิมยังไงฝากความเห็นทีนะครับ
****ความเห็นจากหลายๆแบบ****
*ถ้ายอดดอกเบี้ยที่จ่ายมันถึงยอดสะสม*
*และยอดที่จ่ายไม่ถึง*
Aเคยบ่นท้อบอกจะหนีไปบวดแต่ติดที่มีลูก(???แล้วหนี้คุณBล่ะ???)
Aเคยตบหน้าคนรักอาจเพราะเครียดจากเรื่องหนี้ซึ่งน้าจะเป็นเหตุที่ทำให้คนรักหนีไป
คุณยายมีลูก 7 คน(มั้ง)
มีได้ดี2คนค่อนข้างจะเป็นกลุ่มคนรวยเลยแหละ แต่ไม่เคยคิดจ้างพยาบาลมาดูแลยายจนยายก็แย่ลงๆ (แต่ให้คนป่วยเป็นมะเร็งและโรควิตกกังวลดูแลแถมอายุเยอะ)
คิดเห็นยังไงกับสถานะการครับ
ต่างฝ่ายต่างเดือดร้อนทั้งนั้น
อ่อใช่
Aเป็นลูกคนเล็กสุด (เขาว่ากันว่าใน1ครอบครัวมักจะมี...)
Aได้ชื่อว่าขอยืมตังไปเรื่อยทำทุน หุ้นงาน และใช่ขอไม่สำเร็จก็บอกยายให้ยายไปตากหน้าขอแทน(ตั้งแต่สมัยไหนต่อไหนจนปัจจุบัน)ส่วนคุณBเป็นคนเดียวที่โดนยายขอแล้วยอมหูเบาไปหมด
ทางนี้เป็นผู้น้อยไม่ทีสิทธิมีเสียงเลยช่วยไม่ได้แต่สมเพชโดยแท้ ชีวิตที่สร้างมาแต่ต้องคอยลำบากคนอื่น
ขอความเห็นได้ไหมครับ (เงิน,ญาติ)
A มีร้านขายของเก่า
B เป็นคนมีอายุมากและไม่ได้ทำงาน
เรื่องมีอยู่ว่า
ครอบครัว A ติดเงิน คุณ B ยอด 2แสน+ และ A เลือกจ่ายดอกทุกวัน(ที่ขายได้) แต่ก็จะมียืมเงินเพิ่มเพื่อมาทำทุนและทำแบบนั้นเรื่อยมา เป็นระยะเวลาประมาณ 8 ปี อยู่มาวันนึงคุณ B เป็นมะเร็ง เข้ารับการรักษาด้วยบัตรทอง+บัตรคนพิการ(วิตกกังวล) รักษาได้ไม่นาน คนรักของครอบครัว A ได้สร้างหนี้[ไม่ทราบจำนวน] เกือบต้องขายบ้านแต่ญาติช่วยซื้อไว้ แล้วทาง A ต้องหาเงินมาใช้เพราะหนี้ที่สร้างมันอันตรายต่อลูกชายวัย 7 ขวบทั้งสองคน(คนรักAหนีไปแล้ว) .....คุณยายวัย90ซึ่งเป็นแม่ของ AและB(A,Bเป็นญาติกัน) ป่วยติดเตียงมานานแล้วขาดคนดูแลคุณ B จึงได้รับหน้าที่แลกเงินดูแลยายเดือนละ3,000(มีซื้อหนมและข้าวแบ่งยาน(เป็นงี้จริงๆ...งงป่ะ)) แต่สักพักBเริ่มดูยายไม่ไหวจาก1.โรควิตกกังวลของเขา2.ความจุกจิกและเอาแต่ใจของคนแก่ ก็เลยมีบางช่วงที่ไม่ได้ดูแลยายจึงไม่ได้เงิน และใช่ญาติๆไม่สนใจ**ทั้งยายและB**ปล่อยให้Aดูแลเท่าที่ทำได้ส่วนBก็ตามสภาพ แต่ๆๆๆๆ ญาติๆเกิดความ สงสาร?สมน้ำหน้า?สมเพช?หรืออะไรไม่รู้กับครอบครัวA จึงบอกให้Aไม่ต้องจ่ายให้BโดยBเป็นคนที่ไม่ได้มีเงินเป็นทุนเดิมจึงเดือดร้อนมากกับเรื่องนี้
เว้นวรรคไม่ค่อยดีเพราะรีบพิมยังไงฝากความเห็นทีนะครับ
****ความเห็นจากหลายๆแบบ****
*ถ้ายอดดอกเบี้ยที่จ่ายมันถึงยอดสะสม*
*และยอดที่จ่ายไม่ถึง*
Aเคยบ่นท้อบอกจะหนีไปบวดแต่ติดที่มีลูก(???แล้วหนี้คุณBล่ะ???)
Aเคยตบหน้าคนรักอาจเพราะเครียดจากเรื่องหนี้ซึ่งน้าจะเป็นเหตุที่ทำให้คนรักหนีไป
คุณยายมีลูก 7 คน(มั้ง)
มีได้ดี2คนค่อนข้างจะเป็นกลุ่มคนรวยเลยแหละ แต่ไม่เคยคิดจ้างพยาบาลมาดูแลยายจนยายก็แย่ลงๆ (แต่ให้คนป่วยเป็นมะเร็งและโรควิตกกังวลดูแลแถมอายุเยอะ)
คิดเห็นยังไงกับสถานะการครับ
ต่างฝ่ายต่างเดือดร้อนทั้งนั้น
อ่อใช่
Aเป็นลูกคนเล็กสุด (เขาว่ากันว่าใน1ครอบครัวมักจะมี...)
Aได้ชื่อว่าขอยืมตังไปเรื่อยทำทุน หุ้นงาน และใช่ขอไม่สำเร็จก็บอกยายให้ยายไปตากหน้าขอแทน(ตั้งแต่สมัยไหนต่อไหนจนปัจจุบัน)ส่วนคุณBเป็นคนเดียวที่โดนยายขอแล้วยอมหูเบาไปหมด
ทางนี้เป็นผู้น้อยไม่ทีสิทธิมีเสียงเลยช่วยไม่ได้แต่สมเพชโดยแท้ ชีวิตที่สร้างมาแต่ต้องคอยลำบากคนอื่น