ครอบครัวมีผลต่อชีวิตเด็กคนหนึ่งมากกก หรือผู้ใหญ่คนนึงมากๆ จะพุ่งไปข้างหน้าหรือจะฉุดรั้งชีวิตก็เป็นได้
ตอนนี้เราอายุ 35 ปี ครอบครัวมีปัญหาตั้งแต่เด็กแต่ตอนนั้นยังไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรมีแค่หน้าที่เรียนก็เรียนไป พอโตขึ้นเริ่มทำงาน ทำงานมาสักระยะ สังเกตุคนรอบตัวและเพื่อนๆรุ่นราวคราวเดียวกัน คนที่มีพ่อแม่ซัพพอร์ตชีวิต ซัพพอตด้านต่างๆในชีวิต แลเไม่สร้างปัญหาชีวิตเดินหน้าอย่างรวดเร็ว ต่างกับคนที่มีครอบครัวฉุดรั้ง ครอบครัวฉุดรั้งหมายถึงเด็กที่เพิ่งเรียนจบมาต้องเอาเงินเดือนอันน้อยนิดแบ่งให้ที่บ้าน ทั้งๆที่แค่ใช้ชีวิตในเมืองหลวงมันก็ไม่พอแล้ว ไม่หนำซ้ำพ่อแม่บ้างคนยังมีหนี้สินให้ลูกต้องช่วยผ่อนจ่ายอีก หรือแม่ไปสร้างเรื่องค้ำประกันหรือถูกโกง ลูก็ต้องเข้าไปแก้ให้ คือมันต่างกันจริงๆนะ กับครอบครัวที่ดันลูกไปข้างหน้าให้ถึงฝั่งกับพ่อแม่ที่ฉุดรั้งให้ย้ำอยู่กับที่ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่วันนี้มันเห็นบางอย่างชัด ว่ามันต่างกันจริงๆ เลยอยากมาเขียนไว้เป็นไดอารี่ที่มีเพื่อนสามารถพูดคุยกันได้ กอดและให้กำลังสำหรับคนที่เผชิญเรื่องทำนองนี้อยู่นะคะ เราเข้าใจคุณจริงๆ
อันนี้เป็นผลจากที่เราสังเกตุจากคนรอบตัวมาสักระยะนึงแล้ว เลยอยากมาเขียนคุยกันค่ะ
ตอนนี้เราอายุ 35 ปี ครอบครัวมีปัญหาตั้งแต่เด็กแต่ตอนนั้นยังไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรมีแค่หน้าที่เรียนก็เรียนไป พอโตขึ้นเริ่มทำงาน ทำงานมาสักระยะ สังเกตุคนรอบตัวและเพื่อนๆรุ่นราวคราวเดียวกัน คนที่มีพ่อแม่ซัพพอร์ตชีวิต ซัพพอตด้านต่างๆในชีวิต แลเไม่สร้างปัญหาชีวิตเดินหน้าอย่างรวดเร็ว ต่างกับคนที่มีครอบครัวฉุดรั้ง ครอบครัวฉุดรั้งหมายถึงเด็กที่เพิ่งเรียนจบมาต้องเอาเงินเดือนอันน้อยนิดแบ่งให้ที่บ้าน ทั้งๆที่แค่ใช้ชีวิตในเมืองหลวงมันก็ไม่พอแล้ว ไม่หนำซ้ำพ่อแม่บ้างคนยังมีหนี้สินให้ลูกต้องช่วยผ่อนจ่ายอีก หรือแม่ไปสร้างเรื่องค้ำประกันหรือถูกโกง ลูก็ต้องเข้าไปแก้ให้ คือมันต่างกันจริงๆนะ กับครอบครัวที่ดันลูกไปข้างหน้าให้ถึงฝั่งกับพ่อแม่ที่ฉุดรั้งให้ย้ำอยู่กับที่ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่วันนี้มันเห็นบางอย่างชัด ว่ามันต่างกันจริงๆ เลยอยากมาเขียนไว้เป็นไดอารี่ที่มีเพื่อนสามารถพูดคุยกันได้ กอดและให้กำลังสำหรับคนที่เผชิญเรื่องทำนองนี้อยู่นะคะ เราเข้าใจคุณจริงๆ