หล่อฮังก๊วย ทั้งช่วยลดความอ้วนได้ ลดน้ำตาลในเลือด และผู้ต้องการควบคุมระดับน้ำตาล

*หล่อฮังก๊วย : สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ไม่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ให้ความหวานละมุน จึงปลอดภัยต่อผู้ผู้สูงอายุและผู้ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลช่วยให้เมนูโรคไตอร่อยไม่จืดชืด*

ข้อควรระวังในการบริโภคหล่อฮังก๊วย
ควรระมัดระวังการบริโภคหล่อฮังก๊วยในผู้ที่ตับอ่อนทำงานผิดปกติ หรือตับอ่อนทำงานหนักมากเกินไป เพราะหากรับประทานหล่อฮังก๊วยปริมาณมาก ร่างกายสร้างอินซูลินมากเกินความต้องการ จะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง เกิดอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ ตัวเย็นหรืออาจถึงขั้นเป็นลมหมดสติได้

แม้ว่าจะมีงานวิจัยที่บอกว่าสารในหล่อฮังก๊วยมีผลต่อสุขภาพในการรักษาโรคต่างๆ อย่างไรก็ตามการใช้หล่อฮังก๊วยในปัจจุบันก็ยังนิยมใช้เป็นสารให้ความหวานมากกว่าประโยชน์ทางการรักษา จึงแนะนำให้รับประทานในปริมาณที่เหมาะสม หากมีโรคประจำตัวก็ควรไปพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้องต่อไป

สรรพคุณทางยาของหล่อฮังก๊วย
หล่อฮังก๊วย สมุนไพรฤทธิ์เย็น เป็นผลไม่ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทางการแพทย์ในประเทศจีน และได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) เมื่อปี พ.ศ. 2553 ว่าสามารถใช้เป็นสารให้ความหวานได้อย่างปลอดภัย และยังไม่มีรายงานผลข้างเคียงจากการใช้ในเด็ก สตรีตั้งครรภ์ หรือในหญิงให้นมบุตร
ในผลหล่อฮังก๊วยมีสารที่ชื่อว่า “โมโกรไซด์” (Mogroside) เป็นน้ำตาลจากธรรมชาติกลุ่มฟรุกโตสและกลูโคสเป็นหลัก รสหวานชุ่มคอ แก้ไอขับเสมหะ แก้อาการเจ็บคอ แก้อาการร้อนใน กระหายน้ำ บำรุงกำลัง นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นยาระบายอ่อนๆ แก้อาการท้องผูกได้อีกด้วย

น้ำหล่อฮังก๊วยเพื่อสุขภาพ
หล่อฮังก๊วยในรูปแบบผลสดให้รสชาติค่อนข้างขม ดังนั้นการดื่มในรูปแบบน้ำสมุนไพรจึงเป็นทางเลือกที่บริโภคได้ง่ายกว่า ดังที่ได้รับความนิยมกันในปัจจุบัน

นอกจากน้ำหล่อฮังก๊วยจะให้พลังงาน ความสดชื่น และแก้กระหายน้ำจากน้ำตาลแล้ว ยังให้คุณประโยชน์จากสารพฤกษเคมีในสมุนไพร สามารถดื่มเป็นเครื่องดื่มสำหรับคนรักสุขภาพ หรือแม้กระทั่งผู้ป่วยที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้

วิธีทำน้ำหล่อฮังก๊วย คือ นำลูกหล่อฮังก๊วยฉีกหรือทุบเป็นชื้นๆ ประมาณครึ่งลูก ต้มในน้ำสะอาดประมาณ 1 ลิตร อาจจะใส่ดอกเก๊กฮวยแห้งหรือใบเตยเพื่อเพิ่มความหอมก็ได้ เมื่อต้มจนน้ำเดือดแล้วให้กรองด้วยผ้าขาวบาง สามารถดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น

เคล็ดลับการต้มหล่อฮังก๊วยไม่ให้มีรสขม คือ ต้องทุบผลหล่อฮังก๊วยให้แตก และเมื่อต้มน้ำสมุนไพรจนเดือดให้รีบปิดแก๊สทันที หากต้มนานเกินไปจะทำให้น้ำมีรสขมจนไม่สามารถดื่มได้
เนื่องจาก หล่อฮังก๊วย ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาล 100-250 เท่า โดยมีพลังงานเพียง 0 แคลอรี่ ทำให้ได้รับความนิยมใช้เป็นสารให้ความหวานที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ต้องการควบคุมน้ำตาลในกระแสเลือด พอๆ กับสารสกัดจากหญ้าหวาน

งานวิจัยเกี่ยวกับหล่อฮังก๊วย
ปัจจุบันมีงานวิจัยเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของหล่อฮังก๊วย ซึ่งให้ผลการวิจัยดังนี้
สารสกัดโมโกรไซด์ (Mogroside) ในหล่อฮังก๊วยอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ไกลโคไซด์ (Glycosides) ซาโปนิน (Saponins) มีสารต้านการอักเสบ กระบวนการคือยับยั้งโมเลกุลที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และช่วยป้องกันความเสียหายต่อสารพันธุกรรม (DNA)

จากกการทดลองในห้องปฏิบัติการกับหนูที่เป็นโรคเบาหวาน เมื่อให้สารสกัดจากหล่อฮังก๊วยแก่หนู พบว่ามีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลินที่ตับอ่อน สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดและลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจขึ้นในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยเพิ่มระดับไขมันดี (HDL) ได้อีกด้วย

ในการทดสอบการเกิดมะเร็งในหนูทดลอง พบว่าสารโมโกรไซด์สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกบริเวณผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้สามารถต้านการมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้ด้วย

ในทางแพทย์แผนไทย สมุนไพรที่ได้ชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะนั้นต้องมีสรรพคุณแบบทรีอินวัน คือ ช่วยให้กินข้าวได้ หลับสบาย ถ่ายสะดวก เพราะร่างกายคนเราถ้าไม่มีปัญหาเบื่ออาหาร นอนไม่หลับ ขับถ่ายไม่คล่องแล้ว รับรองว่าอายุยืนยาวแน่นอน

วิธีต้มน้ำหล่อฮังก๊วย
นำผลหล่อฮังก๊วย 2 ลูก ล้างให้สะอาด ทุบให้แตกออก
ต้มกับน้ำประมาณ 3 ลิตร จนเดือดแล้วหรี่ไฟต้มต่อไปราว 5 นาที
จะได้น้ำยาสีกาแฟดำ  
แบ่งดื่มครั้งละ 1-2 แก้ว (250 ซีซี) 3 เวลาก่อนอาหาร และก่อนนอน จะใช้วิธีจิบขณะอุ่นๆ ให้ชุ่มคอ แก้ไอ

นอกจากอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว หล่อฮังก๊วยยังมีวิตามินซี ซึ่งเจ้าวิตามินชนิดนี้จะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่งผลให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคและเชื้อไวรัสต่าง ๆ
น้ำตาลหล่อฮังก๊วย สารให้ความหวานเพื่อสุขภาพ

ปัจจุบัน น้ำตาลหล่อฮังก๊วย ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกสารทดแทนความหวานที่ได้จากธรรมชาติสำหรับบริโภคเติมแต่งในอาหารหรือเครื่องดื่ม มีความหมายมากกว่า น้ำตาลทรายปกติประมาณ 150-200ท่า อีกทั้งยังมีการศึกษาวิจัยที่ให้การยอมรับว่าปลอดภัย เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาล ไม่ส่งผลกระทบกับอินซูลิน รวมทั้งผู้ที่รักสุขภาพต้องการควบคุมน้ำหนักหรือจำกัดปริมาณการบริโภคน้ำตาลในชีวิตประจำวันด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : มูลนิธิสุภาพไทย,disthaiและองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ

แต่มีข้อสงสัยว่า หล่อฮังก๊วย จะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคเบาหวาน หรือไม่  ?  ถ้าคุณหมอเข้ามาอ่านครับ

ขอบคุณครับ

ข้อมูลจาก 
https://www.pptvhd36.com/health/food/5195
https://hdmall.co.th/blog/health/monk-fruit/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่