เพิ่งได้มีโอกาสนั่งดูหมอหลวง รู้สึกว่า นี่เป็นละครที่มีคุณภาพเรื่องหนึ่งทีเดียว
หมอหลวง ออกอากาศ เมื่อปี 2566 กระแสถูกกลบด้วยมาตาลดา
ซึ่งมีประเด็นร่วมสมัย LGBTQ + ความรักของพ่อแม่ในรูปแบบแรงกดดัน
ได้ติดตามดูว่า หมอหลวงได้รางวัลอะไรบ้างหรือไม่ ปรากฏว่าน้อยมาก
ทั้งที่ละครน่าจะได้รับเครดิตมากกว่านี้ หากได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงละครยอดเยี่ยม ก็ไม่ถือว่ามากไป
บทละครหมอหลวงค่อนข้างแหวกแนว มีความคิดริเริ่ม ไม่จำเจ
จริงอยู่ เรื่องก่อนหน้านี้ ทองเอก หมอยาท่าโฉลง โฟกัสเรื่องยาไทย
แต่หมอหลวง นอกจากเรื่องยาแล้วยังนำเสนอสังคมนักเรียนแพทย์แผนไทยในราชสำนัก
เรียงร้อยไว้ในบริบทวัฒนธรรมไทยซึ่งเป็นอาภรณ์ของสตอรี่ที่เปล่งประกาย
การกำกับศิลป์ การกำกับตัวละคร การคัดสรรนักแสดง ออกมากินขาด ดูแล้วใช่ ทุกคน
อย่างเช่น แม่มาริโอ้ คือ กิ๊ก มยุริน เชื่อเลย หน้าตาผิวพรรณ แม่-ลูก ได้
ตัวละครทั้งหมดมีเสน่ห์ในตัวเอง โดยเฉพาะทองแท้ พี่ชายพระเอก ที่ออกมาเท่ห์สมบูรณ์แบบ
เพื่อที่จะ contrast กับพระเอก ที่ออกจะเหมือนไม่ตั้งใจเรียนแต่เฉลียวฉลาด
การคัดเลือกนักเรียนแพทย์แต่ละคน ก็ถือว่าคัดสรร เสื้อผ้า องค์ประกอบฉาก จัดเต็ม ไม่เน้นประหยัดงบ
แถมข้อมูลเรื่องยาต่างๆ นำเสนอได้ดี
เราไม่ต้องไปพิสูจน์ว่าจริงไม่จริง แต่พอเชื่อมกับองค์ความรู้-ข้อมูลบ้าง ทำให้ศิลปะการทำละครมีกึ๋น มีระดับ ไม่ผิวเผิน
สุดท้ายเราก็ต้องรู้ด้วยว่า ละครไม่ใช่สารคดี เราไม่ต้องพิสูจน์ว่ากินรี มีจริงไหม เพราะมันคือ ศิลปะ
ทุกองค์ความรู้ต่างๆ ที่นำมาใช้ คือ ingredients ทางศิลปะ
แต่ถ้าบางอย่างเป็นความรู้ด้านยาจริงด้วย อันนี้ก็ยิ่งต้องชมเชย แต่เชื่อว่าละครต้องดัดแปลงข้อเท็จจริงพอสมควร เพื่อให้ได้อรรถรส
ละครที่มีชั้นเชิงด้านข้อมูล ความรู้ เอาชนะในคนดูกลุ่มมีการศึกษาได้
ในประเทศไทยเอง อาจมีคนดูกลุ่มนี้ไม่มาก แต่ถ้าในระดับนานาชาติ อาจเป็นคนกลุ่มใหญ่
อย่างละครเกาหลีที่ดูยากๆ ก็ได้รับการตอบรับจากสังคมนานาชาติค่อนข้างดี
ที่สำคัญ หมอหลวง สนุกแบบไทยๆ ไม่หนักสมอง
สอดแทรกมุขตลก เพลิดเพลินดี รู้สึกได้ว่าละครเรื่องนี้ สะท้อนความรักที่มีต่อวัฒนธรรมไทยของผู้สร้างงาน
เช่น ซีนไหว้ครู ขลัง งดงาม กินใจ
บทมีความเซียน ในการไขปมปริศนา ในแต่ละตอน มีจุดพีคและปมย่อยๆ อยู่เยอะมาก ตบมุขแบบ surprise ได้ตลอดเรื่อง
องค์ประกอบศิลป์ เสื้อผ้าหน้าผม ปราณีต สวยงาม มีสไตลล์การใช้สีภาพเครื่องแต่งกาย-พื้นหลังแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
การกำกับ บาลานส์ความแข็ง ความอ่อนภายในเรื่องได้ดี รู้ว่าซีนไหนต้องแกร่ง ซีนไหนต้องอ่อน ซีนไหนต้องฮา
น่าจะส่งละครเรื่องนี้ไปขายช่องทีวีต่างประเทศ มีกระแสจากคนทั่วโลกกำลังอยากเรียนรู้วัฒนธรรมไทย
หมอหลวง ละครน้ำดีที่ถูกมองข้าม
หมอหลวง ออกอากาศ เมื่อปี 2566 กระแสถูกกลบด้วยมาตาลดา
ซึ่งมีประเด็นร่วมสมัย LGBTQ + ความรักของพ่อแม่ในรูปแบบแรงกดดัน
ได้ติดตามดูว่า หมอหลวงได้รางวัลอะไรบ้างหรือไม่ ปรากฏว่าน้อยมาก
ทั้งที่ละครน่าจะได้รับเครดิตมากกว่านี้ หากได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงละครยอดเยี่ยม ก็ไม่ถือว่ามากไป
บทละครหมอหลวงค่อนข้างแหวกแนว มีความคิดริเริ่ม ไม่จำเจ
จริงอยู่ เรื่องก่อนหน้านี้ ทองเอก หมอยาท่าโฉลง โฟกัสเรื่องยาไทย
แต่หมอหลวง นอกจากเรื่องยาแล้วยังนำเสนอสังคมนักเรียนแพทย์แผนไทยในราชสำนัก
เรียงร้อยไว้ในบริบทวัฒนธรรมไทยซึ่งเป็นอาภรณ์ของสตอรี่ที่เปล่งประกาย
การกำกับศิลป์ การกำกับตัวละคร การคัดสรรนักแสดง ออกมากินขาด ดูแล้วใช่ ทุกคน
อย่างเช่น แม่มาริโอ้ คือ กิ๊ก มยุริน เชื่อเลย หน้าตาผิวพรรณ แม่-ลูก ได้
ตัวละครทั้งหมดมีเสน่ห์ในตัวเอง โดยเฉพาะทองแท้ พี่ชายพระเอก ที่ออกมาเท่ห์สมบูรณ์แบบ
เพื่อที่จะ contrast กับพระเอก ที่ออกจะเหมือนไม่ตั้งใจเรียนแต่เฉลียวฉลาด
การคัดเลือกนักเรียนแพทย์แต่ละคน ก็ถือว่าคัดสรร เสื้อผ้า องค์ประกอบฉาก จัดเต็ม ไม่เน้นประหยัดงบ
แถมข้อมูลเรื่องยาต่างๆ นำเสนอได้ดี
เราไม่ต้องไปพิสูจน์ว่าจริงไม่จริง แต่พอเชื่อมกับองค์ความรู้-ข้อมูลบ้าง ทำให้ศิลปะการทำละครมีกึ๋น มีระดับ ไม่ผิวเผิน
สุดท้ายเราก็ต้องรู้ด้วยว่า ละครไม่ใช่สารคดี เราไม่ต้องพิสูจน์ว่ากินรี มีจริงไหม เพราะมันคือ ศิลปะ
ทุกองค์ความรู้ต่างๆ ที่นำมาใช้ คือ ingredients ทางศิลปะ
แต่ถ้าบางอย่างเป็นความรู้ด้านยาจริงด้วย อันนี้ก็ยิ่งต้องชมเชย แต่เชื่อว่าละครต้องดัดแปลงข้อเท็จจริงพอสมควร เพื่อให้ได้อรรถรส
ละครที่มีชั้นเชิงด้านข้อมูล ความรู้ เอาชนะในคนดูกลุ่มมีการศึกษาได้
ในประเทศไทยเอง อาจมีคนดูกลุ่มนี้ไม่มาก แต่ถ้าในระดับนานาชาติ อาจเป็นคนกลุ่มใหญ่
อย่างละครเกาหลีที่ดูยากๆ ก็ได้รับการตอบรับจากสังคมนานาชาติค่อนข้างดี
ที่สำคัญ หมอหลวง สนุกแบบไทยๆ ไม่หนักสมอง
สอดแทรกมุขตลก เพลิดเพลินดี รู้สึกได้ว่าละครเรื่องนี้ สะท้อนความรักที่มีต่อวัฒนธรรมไทยของผู้สร้างงาน
เช่น ซีนไหว้ครู ขลัง งดงาม กินใจ
บทมีความเซียน ในการไขปมปริศนา ในแต่ละตอน มีจุดพีคและปมย่อยๆ อยู่เยอะมาก ตบมุขแบบ surprise ได้ตลอดเรื่อง
องค์ประกอบศิลป์ เสื้อผ้าหน้าผม ปราณีต สวยงาม มีสไตลล์การใช้สีภาพเครื่องแต่งกาย-พื้นหลังแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
การกำกับ บาลานส์ความแข็ง ความอ่อนภายในเรื่องได้ดี รู้ว่าซีนไหนต้องแกร่ง ซีนไหนต้องอ่อน ซีนไหนต้องฮา
น่าจะส่งละครเรื่องนี้ไปขายช่องทีวีต่างประเทศ มีกระแสจากคนทั่วโลกกำลังอยากเรียนรู้วัฒนธรรมไทย