สวัสดีค่ะ วันนี้จะขอมาแชร์ประสบการณ์ในการใช้บริการสายการบิน Air Japan สำหรับไฟล์ทขากลับจากนาริตะช่วงวันหยุดยาว Golden Week ของญี่ปุ่นที่ผ่านมานะคะ

ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นที่มาของการใช้บริการครั้งนี้ ทั้งที่มีข่าวโด่งดังเรื่องการเทหรือดีเลย์ของสายการบินนี้ก่อนนะคะ เนื่องจากพวกเราเป็นมนุษย์เงินเดือนที่จะมีโอกาสได้เที่ยวส่วนมากก็ต้องเป็นช่วงหยุดยาว ทำให้ต้องเจอกับสภาวะของตั๋วเครื่องบินแพงเป็นพิเศษ สำหรับทริปนี้เราเริ่มจองตั๋วกันช่วงลปลายเดือนมีนาคมเดินทาง 26 เมษายนกลับ 6 พฤษภาคม ซึ่งชนกับช่วง Golden Week และช่วงพีคของตั๋วเครื่องบินพอดี ราคาตั๋วของสายการบินที่เป็น Full Service จะแพงมาก จึงต้องมองหาตั๋วของสายการบินที่ถูกที่สุดเป็นสายการบิน Low Cost ตอนนั้นที่หาได้มี 2 สายการบินคือ Zip Air และ Air Japan จึงได้ข้อสรุปว่าเราเลือกตั๋วขาไปเป็น Zip Air เพราะไม่กล้าเสี่ยงกลัวไม่ได้เที่ยว และขากลับเลือกเป็น Air Japan ซึ่งเวลาเดินทางของทั้ง 2 สายการบินดีทั้งคู่สำหรับคนที่ต้องการเที่ยวเต็มที่อย่างพวกเราราคาตั๋วที่ได้เฉลี่ยคนละ 16,xxx บาท บางคนที่ไปด้วยกันที่ซื้อน้ำหนักกระเป๋าขากลับของ Air Japan จะสามารถซื้อได้ 23 Kg./กระเป๋า 1 ใบ หากต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่มเกิน 23 Kg. จะเป็นการซื้อเพื่อโหลดกระเป๋ามากกว่า 1 ใบ และสำหรับใครที่มีเด็กเล็กเดินทางด้วยแล้วมีรถเข็นเด็ก (Stroller) จะต้องเสียค่าโหลดรถเข็นเพิ่ม 4,200 yen แต่ถ้า Zip Air ขาไปจะฟรีไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม การ Check-in สำหรับใครที่ไม่ได้โหลดกระเป๋าสามารถทำการเช็คอินออนไลน์ หรือจะไปทำที่เครื่องที่สนามบินก่อนเดินทางได้เลยไม่ต้องไปทำที่เค้าเตอร์นะ

บริการบนเครื่อง แถวที่นั่งจะเป็นแบบ 3-3-3 ทำให้รู้สึกว่าห้องโดยสารกว้างและโปร่ง และไม่ต้องยืนต่อแถวรอกว่าจะถึงที่นั่งนานเหมือนเครื่องแบบแถวที่นั่ง 3-3 เนื่องจากพวกเราไม่ได้ซื้ออาหารทานบนเครื่องจึงไม่สามารถบอกได้ว่ารสชาดอร่อยหรือเป็นยังไงนะ เลยขอพูดถึงบริการอื่นๆ แทน เริ่มจากที่นั่งบนเครื่องสำหรับพวกเราที่สูงเกิน 168 cm รู้สึกว่าความกว้างของที่นั่งโอเค ไม่ติดขา นั่งสบายอยู่แม้จะเหยียดตัวนอน เอนหลังได้เยอะ มีที่ชาร์ตเป็นแบบ USB (Type A & Type C) ให้ 2 แบบเลย บนเครื่องมี Wi-Fi ฟรีให้ใช้ โดยเชื่อมต่อ WiFi จากมือถือหรือแท็บเล็ตได้เลย มีหนังใหม่ๆ ให้ดูได้ฟรี พนักงานต้อนรับบนเครื่องดี ห้องน้ำสะอาด เครื่องออกตรงเวลา ขึ้นเครื่องผ่านงวงช้างจาก Gate ได้เลยไม่ต้องต่อ Shuttle Bus ต่อแถวเช็คอินไม่นาน เค้าเตอร์เช็คอินเปิดก่อนเวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงเป๊ะ บริหารจัดการเวลาได้ดีสำหรับที่ญี่ปุ่นนะ


ความเห็นส่วนตัวสำหรับข้อเสียคือค่ารถเข็นเด็กปกติสายการบินอื่นจะไม่ได้คิดสามารถโหลดได้หรือขึ้นเครื่องฟรี น้ำหนักกระเป๋าต่อใบน่าจะได้ 30 กิโลเหมือนสายการบนิ Low Cost อื่นๆ เพราะส่วนตัวคิดว่าคนนึงจะแบกกระเป๋าเดินทางได้เต็มที่ก็ 25 กิโลก็เข็นลำบากแล้ว ถ้าได้ 23 กิโลแล้วต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 2 กิโลจะพอๆ กับซื้อน้ำหนักกระเป๋า 30 กิโลต่อกระเป๋า 1 ใบในครั้งแรก อาหารบนเครื่องใครที่เปลี่ยนใจอยากสั่งอาหารทานบนเครื่องจะต้องสั่งผ่านแอปและตัดบัตรเครดิตเอาไม่สามารถสั่งกับพนักงานได้นะ ไม่แน่ใจว่ามีใครสามารถสั่งกับพนักงานได้รึป่าวพอดีตอนเราสั่งไม่ได้ต้องสั่งผ่านแอปนะ
สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้บริการแล้วกลัวว่าจะไม่ดีตามที่เห็นในข่าว อยากให้ลองเปิดใจดูเพราะเวลาที่ไม่ได้เป็นแบบในข่าวก็ถือว่าเป็นสายการบินนึงที่โอเคทั้งเรื่องของราคาและไฟล์ทเดินทางที่เวลาดีทั้งขาไปและขากลับเลยสำหรับนักเที่ยวที่ต้องการมีเวลาเที่ยวแบบคุ้มๆ หรือถ้ากังวลจะทำแบบพวกเราก็ได้คือเราจะซื้อประกันเดินทางแยกต่างหากแบบครอบคลุมกรณีเครื่องดีเลย์หรือยกเลิกไฟล์ทเผื่อไว้ทุกครั้ง
[CR] Review Air Japan Flight ขากลับจากนาริตะช่วง Golden Week
ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นที่มาของการใช้บริการครั้งนี้ ทั้งที่มีข่าวโด่งดังเรื่องการเทหรือดีเลย์ของสายการบินนี้ก่อนนะคะ เนื่องจากพวกเราเป็นมนุษย์เงินเดือนที่จะมีโอกาสได้เที่ยวส่วนมากก็ต้องเป็นช่วงหยุดยาว ทำให้ต้องเจอกับสภาวะของตั๋วเครื่องบินแพงเป็นพิเศษ สำหรับทริปนี้เราเริ่มจองตั๋วกันช่วงลปลายเดือนมีนาคมเดินทาง 26 เมษายนกลับ 6 พฤษภาคม ซึ่งชนกับช่วง Golden Week และช่วงพีคของตั๋วเครื่องบินพอดี ราคาตั๋วของสายการบินที่เป็น Full Service จะแพงมาก จึงต้องมองหาตั๋วของสายการบินที่ถูกที่สุดเป็นสายการบิน Low Cost ตอนนั้นที่หาได้มี 2 สายการบินคือ Zip Air และ Air Japan จึงได้ข้อสรุปว่าเราเลือกตั๋วขาไปเป็น Zip Air เพราะไม่กล้าเสี่ยงกลัวไม่ได้เที่ยว และขากลับเลือกเป็น Air Japan ซึ่งเวลาเดินทางของทั้ง 2 สายการบินดีทั้งคู่สำหรับคนที่ต้องการเที่ยวเต็มที่อย่างพวกเราราคาตั๋วที่ได้เฉลี่ยคนละ 16,xxx บาท บางคนที่ไปด้วยกันที่ซื้อน้ำหนักกระเป๋าขากลับของ Air Japan จะสามารถซื้อได้ 23 Kg./กระเป๋า 1 ใบ หากต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่มเกิน 23 Kg. จะเป็นการซื้อเพื่อโหลดกระเป๋ามากกว่า 1 ใบ และสำหรับใครที่มีเด็กเล็กเดินทางด้วยแล้วมีรถเข็นเด็ก (Stroller) จะต้องเสียค่าโหลดรถเข็นเพิ่ม 4,200 yen แต่ถ้า Zip Air ขาไปจะฟรีไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม การ Check-in สำหรับใครที่ไม่ได้โหลดกระเป๋าสามารถทำการเช็คอินออนไลน์ หรือจะไปทำที่เครื่องที่สนามบินก่อนเดินทางได้เลยไม่ต้องไปทำที่เค้าเตอร์นะ
บริการบนเครื่อง แถวที่นั่งจะเป็นแบบ 3-3-3 ทำให้รู้สึกว่าห้องโดยสารกว้างและโปร่ง และไม่ต้องยืนต่อแถวรอกว่าจะถึงที่นั่งนานเหมือนเครื่องแบบแถวที่นั่ง 3-3 เนื่องจากพวกเราไม่ได้ซื้ออาหารทานบนเครื่องจึงไม่สามารถบอกได้ว่ารสชาดอร่อยหรือเป็นยังไงนะ เลยขอพูดถึงบริการอื่นๆ แทน เริ่มจากที่นั่งบนเครื่องสำหรับพวกเราที่สูงเกิน 168 cm รู้สึกว่าความกว้างของที่นั่งโอเค ไม่ติดขา นั่งสบายอยู่แม้จะเหยียดตัวนอน เอนหลังได้เยอะ มีที่ชาร์ตเป็นแบบ USB (Type A & Type C) ให้ 2 แบบเลย บนเครื่องมี Wi-Fi ฟรีให้ใช้ โดยเชื่อมต่อ WiFi จากมือถือหรือแท็บเล็ตได้เลย มีหนังใหม่ๆ ให้ดูได้ฟรี พนักงานต้อนรับบนเครื่องดี ห้องน้ำสะอาด เครื่องออกตรงเวลา ขึ้นเครื่องผ่านงวงช้างจาก Gate ได้เลยไม่ต้องต่อ Shuttle Bus ต่อแถวเช็คอินไม่นาน เค้าเตอร์เช็คอินเปิดก่อนเวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงเป๊ะ บริหารจัดการเวลาได้ดีสำหรับที่ญี่ปุ่นนะ
ความเห็นส่วนตัวสำหรับข้อเสียคือค่ารถเข็นเด็กปกติสายการบินอื่นจะไม่ได้คิดสามารถโหลดได้หรือขึ้นเครื่องฟรี น้ำหนักกระเป๋าต่อใบน่าจะได้ 30 กิโลเหมือนสายการบนิ Low Cost อื่นๆ เพราะส่วนตัวคิดว่าคนนึงจะแบกกระเป๋าเดินทางได้เต็มที่ก็ 25 กิโลก็เข็นลำบากแล้ว ถ้าได้ 23 กิโลแล้วต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 2 กิโลจะพอๆ กับซื้อน้ำหนักกระเป๋า 30 กิโลต่อกระเป๋า 1 ใบในครั้งแรก อาหารบนเครื่องใครที่เปลี่ยนใจอยากสั่งอาหารทานบนเครื่องจะต้องสั่งผ่านแอปและตัดบัตรเครดิตเอาไม่สามารถสั่งกับพนักงานได้นะ ไม่แน่ใจว่ามีใครสามารถสั่งกับพนักงานได้รึป่าวพอดีตอนเราสั่งไม่ได้ต้องสั่งผ่านแอปนะ
สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้บริการแล้วกลัวว่าจะไม่ดีตามที่เห็นในข่าว อยากให้ลองเปิดใจดูเพราะเวลาที่ไม่ได้เป็นแบบในข่าวก็ถือว่าเป็นสายการบินนึงที่โอเคทั้งเรื่องของราคาและไฟล์ทเดินทางที่เวลาดีทั้งขาไปและขากลับเลยสำหรับนักเที่ยวที่ต้องการมีเวลาเที่ยวแบบคุ้มๆ หรือถ้ากังวลจะทำแบบพวกเราก็ได้คือเราจะซื้อประกันเดินทางแยกต่างหากแบบครอบคลุมกรณีเครื่องดีเลย์หรือยกเลิกไฟล์ทเผื่อไว้ทุกครั้ง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม