แฟนอยากแต่งงานในขณะที่เรายังเป็นเดอะแบกของที่บ้าน

สวัสดีครับผมอายุ 34 นะครับ เรื่องนี้ต่อเนื่องจากกระทู้แฟนเป็นสายซัพพอร์ต https://pantip.com/topic/42786365
ที่ผมเคยเขียนไว้นะครับ
และขอออกตัวก่อนว่า สิ่งที่ผมเล่าคือเรื่องจริงที่ผมกำลังเผชิญหน้าอยู่ และอยากขอคำแนะนำครับ
.
ผมมีแฟน และเขาอายุมากกว่า2ปี ฐานะแฟนและผมต่างกันราวฟ้ากับเหว สิ่งที่เหมือนกันคือ เราทั้ง2มีครอบครัวที่อบอุ่น
มีพ่อแม่พี่น้องที่รักใคร กลมเกลียว และเข้าใจ
แฟนนิสัยดี มี Mindset ที่ดีครับ ตลอดระยะเวลาที่คบกันมา 1 ปี แทบไม่เคยทะเลาะกันเลย
แฟนเข้าใจเราทุกอย่าง
แฟนมีนิสัยรักการเทคแคร์ผมและครอบครัวเป็นอย่างมาก และแม่ผมก็รักแฟนมากๆครับ
และถึงแฟนจะฐานะดีแค่ไหน ผมก็ไม่เคยขอเงินแฟนนะครับ 
.
ผมเป็นพนักงานออฟฟิต ระดับ Senior รายได้ประมาณ 40-45K/เดือน
มีภาระผ่อนบ้าน ดูแลค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมดครับ
ผมมีพี่ชาย1คน มีครอบครัวและแยกบ้านออกไปแล้ว พี่ชายช่วยเหลือเดือนละ 20,000 บาท
ดังนั้นเท่ากับว่า ในแต่ละเดือนที่บ้านผมจะมีรายได้ 60-65K ซึ่งหลังจากหักค่าบ้านแล้ว
ต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวังพอสมควรครับ อยู่แบบไม่ฟุ่มเฟือยก็พออยู่ได้
.
ที่ผมจะปรึกษาคือ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมไปเจอครอบครัวแฟนมาครับ (ครั้งแรก)
พ่อแม่ของแฟนให้การต้อนรับเราดีมากๆ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
เรารู้สึกอบอุ่นหัวใจ รู้สึกโล่ง และหายห่วงเรื่องครอบครัวแฟนไปเลยครับ
จากตอนแรกกลัวเขาจะดูถูกเรา เหมือนที่เราเคยดูถูกตัวเอง
ตอนขับรถกลับมากรุงเทพ เลยตัดสินใจถามแฟนว่า
พ่อกับแม่รู้หรือป่าวว่าเรา ฐานะปานกลาง แฟนตอบว่า กังวลทำไม?
เราเลยไม่ได้ถามอะไรต่อ กลัวแฟนจะรู้ว่าเรากังวลเรื่องความต่างมากไปกว่านี้
(เค้าพอจะรู้แบบผิวเผินว่าเรากังวล)
.
เนื้อหาต่อจากนี้คือความกังวลครั้งใหม่
หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วผมไปเจอครอบครัวแฟนมาแล้ว
แฟนเริ่มพูดเรื่องแต่งงาน อยากใช้ชีวิตครอบครัว
และพยายามบอกกับผมว่า ช้าหรือเร็วไม่สำคัญเลย 
และผมก็ได้ตอบแฟนว่า ฐานะการเงินเราเปราะบางมากๆ เขาก็รู้
เราจะหาสินสอด และค่าจัดงานที่ไหน หนี้บ้านก็ยังท่วมท้นอยู่แบบนี้
แฟนบอกว่า เรื่องจัดงานเค้าจะขอจัดการเองทั้งหมด และจะเป็นงานเล็กๆ แบบอบอุ่นภายใน
เชิญเฉพาะคนสนิทๆ
ส่วนเรื่องสินสอด ให้เป็นไปตามที่เราไหว
(ทั้งหมดนี้แฟนคิดคนเดียว ยังไม่ได้บอกกล่าวที่บ้านตัวเอง)
.
พอได้ฟังแบบนี้ผมรู้สึกกังวลมากๆครับ
ไม่รู้ควรจะตอบกลับอย่างไรดี ให้ safe ความรู้สึกแฟน
อยากให้แฟนรู้ว่าเรารักเค้าเช่นกัน แต่เรายังไม่พร้อมในตอนนี้
แฟนมองว่าทุกอย่างง่าย และจัดการได้ด้วยเงิน
.
ผมเลยบอกแฟนว่า ถ้าแต่งงานกันต้องวางแผนหลายเรื่องเลย
ทั้งเรื่องที่อยู่ของเราทั้ง2คน เรื่องการดูแลพ่อแม่ของผมด้วย เพราะปัจจุบันผมดูแลพ่อแม่เองครับ
เมื่อเราตอบแบบนี้ แฟนก็เหมือนคิดได้ครับ แล้วบอกว่า มาเริ่มวางแผนกัน
ขอ Deadline 1 ปี
.
เราเลยตัดสินใจถามเขาว่า "คิดอะไรอยู่ ทำไมถึงรีบแบบนี้นะ เพิ่งจะดูใจกันแค่ปีเดียว"
แฟนตอบว่า "ถ้ามัวแต่คิดว่าไม่พร้อม คงไม่มีวันไหนที่จะพร้อม
และให้เราเอาเรื่องแต่งงานเข้าวาระเร่งด่วนใน pipeline ชีวิตด้วย"
เราไม่ได้ให้คำตอบอะไรหลังจากนั้น
ผมควรทำยังไงดีครับ ควรตัดสินใจยังไง ควรตอบเขายังไง
ลำบากใจมากๆในตอนนี้ 
ให้พูดจากใจจริงคือ อยากอยู่แบบนี้ไปก่อน ยังไม่อยากแต่งงานครับ อยากให้ฐานะมั่นคงกว่านี้
มันดูเอาเปรียบผู้หญิงใช่ไหมครับ ผมมันแย่เนาะ!!
.
ปล1. ผมรักแฟนนะครับ มีเสี้ยวนึงที่อยากใช้ชีวิตด้วย แต่เรามองหาวันที่พร้อมไม่เจอจริงๆ
ชีวิตเรามีเรื่องให้ครุ่นคิด และจัดการมากมาย
ปล2. ข้อดีของผมมีแค่ไม่กี่ข้อ คือเรามีการศึกษาที่ดี และแวดล้อมในสังคมที่ดีครับ ถ้าแฟนมีปัญหาโดยเฉพาะเรื่องงาน
เราช่วยได้หมดเกือบ100% และภาพลักษณ์ภายนอกเราค่อนข้างเป็นไปในทางดี น่าเชื่อถือ ไม่มิจ ไม่มีพิษภัยครับ
ปล3. ที่ผ่านมา มีคนศีลเสมอผ่านเข้ามาหาเราหลายครั้งครับ แต่เรามีแฟนคนนี้แล้ว เลยไม่ได้มองใคร
(แต่ถ้าสวยก็อาจจะมองนิดนึงครับ ไม่เคยคิดจะสานต่ออะไร)
ปล.4 ขอสารภาพว่า ตอนคบกับแฟนได้6เดือน เคยคิดจะเลิกกับเขา แล้วไปกับสาวคนใหม่ที่ฐานะใกล้เคียงกัน
แต่พอเค้ารับรู้ความเดอะแบกของเรา ก็จากไปครับ แต่เค้าก็พูดตรงๆว่า อยากได้คนที่พร้อม ไม่ใช่ร่วมสร้าง
.
ขอคำแนะนำสำหรับเรื่องนี้ครับ
.
สวัสดีครับ จากเจ้าของโพสนะครับ
อัพเดต 5/7 นะครับ
ผมได้อ่านทุกๆความคิดเห็นแล้วนะครับ
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์ครับ บางความคิดเห็นผมได้นำไปใช้ด้วยครับ
สำหรับเรื่องการใช้ชีวิตคู่ได้ตกลงกับว่าที่ภรรยาเรียบร้อยแล้วครับโดย
เราจะแต่งงานภายในปีหน้าครับ และระหว่างนี้ก็จะ parallel กับการปรึษาแพทย์เรื่องการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยทั้งแม่และเด็ก
ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะครับ
หวังว่าจะไม่ได้พบกันในพันทิปอีกนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
เคยอ่านตั้งแต่กระทู้ก่อนหน้านี้
ก่อนอื่นขอเอาใจช่วยนะครับ
และขอแนะนำในฐานะคนที่เคยแต่งงาน และหย่ามาก่อน
จากนี้ขอให้ จขกท เลิกคิดเรื่องที่บ้านฝ่ายหญิงจะดูถูกคุณไปได้เลยครับ
ในสังคมคนรวยจริงๆ คนที่รวยมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ หรือเรียกง่ายๆว่าเศรษฐีเก่า เค้าจะไม่มาโฟกัสเรื่องวัตถุทางสังคม
หรือพูดคุยเรื่องฐานะหรอกครับ วัตถุ เช่น กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้าแบรนด์เนม ใช้ของพวกนี้นะ แต่ไม่โฟกัสไว้ในบทสนทนาเลย
เค้าจะคุยเรื่องทั่วๆไปครับ หรือแม้แต่การใช้สายตาเหยียดหยามออกสื่อก็ไม่มีครับ เพราะเค้ามีความเป็นผู้ดีในตัวครับ
ยิ่งคุณมาในฐานะเพื่อนสนิทลูกสาวเค้า การวางตัวของเราเลยสำคัญมากๆ
ครอบครัวผมเป็นแบบนี้ แต่เค้าจะลับหลังกับลูกสาวหรือไม่ อันนั้นอีกเรื่อง อยู่ที่ความรู้สึกที่เค้ามีให้คุณ
แต่จากเท่าที่อ่าน ครอบครัวฝ่ายหญิงน่าจะไฟเขียวหรือป่าว ฝ่ายหญิงถึงกล้าเปิดใจคุยกับคุณเรื่องแต่งงาน

สิ่งที่คุณควรทำอันดับแรกคือ
ถามตัวเองให้ชัดๆว่า อยากแต่งหรือไม่? ถ้าอยากแต่งให้ไปต่อ
แต่ถ้าอยากอยู่แบบนี้ไม่เรื่อยๆ มันคือไร้เป้าหมาย คุณควรเลิกกับเธอซะ

ถ้าคำตอบคืออยากแต่งงานกับคนนี้แน่ๆ ให้คุณทำ checklist ออกมาเป็นข้อๆเลยครับ
อะไรคือสิ่งที่คุณต้องการหลังแต่งาน มีอะไรในชีวิตบ้างที่คุณต้องรับผิดชอบ
เช่น หลังแต่งงานจะอยู่บ้านไหน บ้านคุณหรือแฟน และ คุณจะดูแลพ่อแม่ยังไง เป็นต้นครับ

พอได้ลิสทุกอย่าง คุณก็เอาลิสอันนี้ไปคุยกับแฟนเลยครับ ว่าคุณต้องการแบบนี้นะ
มีตรงไหนที่เธอยอมรับได้ มีตรงไหนที่ยอมรับไม่ได้ แล้วจะเจอกันตรงกลางได้ยังไง
ผมคิดว่า 1ปี มันเป็นไปได้นะครับ

สุดท้ายนี้ใช้ชีวิตให้มีเป้าหมายครับ
เรื่องงานคุณยังกำหนดระยะเวลาได้เลย
เรื่องชีวิตคู่ และชีวิตคุณคุณก็ต้องทำได้ครับ
หน้าที่การงานอยู่กับคุณแค่เกษียณ คุณเก่งแค่ไหนก็จะเป็นแค่ตำนาน
แต่คู่ชีวิตมีลุ้นที่จะอยู่กับคุณอีกนาน ถ้าคุณเริ่มทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ให้ชัดเจนตั้งแต่วันนี้
ความคิดเห็นที่ 5
แฟนคุณพูดถูก ไม่พร้อม แล้วเมื่อไรจะพร้อม

ไม่พร้อม แล้วไปคบคนอื่นทำไม

คนมีชีวิตคู่ โดยเฉพาะผู้หญิง อายุ 30+ ก็ต้องคาดหวังอยู่แล้ว

แต่ถ้าคุณไม่คิด ไม่หวัง ไม่พร้อม แล้วจะไปยุ่งกับคนอื่นทำไม ให้เขาเสียเวลาอะครับ
ความคิดเห็นที่ 15
แฟนคุณไม่ผิด    แต่ผิดที่ตัวคุณไม่พร้อม   ถ้าคุณไม่พร้อมก็ปล่อยเธอไปเถอะ ให้เธอได้มีโอกาสเจอในสิ่งที่ใช่  เพราะคุณไม่ใช่สำหรับเธอ  
ทุกอย่างมันมาในเวลาที่ไม่คล้องจองกัน มันก็ไม่ใช่อยู่ดี  

   ถ้าตัวคุณไม่พร้อมจะแต่งงาน  อย่าพยายามไปหาแฟน   มันเสียเวลาต่อกันครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่