เราประสบปัญหาคนในครอบครัวทะเลาะกันแบบเสียงดังตั้งแต่จำความได้จนถึงปัจจุบัน
ในช่วงเด็กๆจนถึงม.6 จะเป็นพ่อแม่ทะเลาะกัน ทะเลาะเรื่องงานและเรื่องเงิน เพราะพี่สาวติดพนันและสร้างหนี้เอาไว้ (
ปัจจุบันไม่แน่ใจว่าเลิกรึยังเพราะพี่อยู่บ้านอื่น แต่ที่แน่ๆ ยังสร้างหนี้อยู่ไม่เปลี่ยนแปลง) และเรื่องที่แม่นอกใจ สุดท้ายทั้งคู่แยกทางกันตอนเราเพิ่งจบม.6ใหม่ๆ ก็นึกว่าเรื่องจะดีขึ้น แต่ไม่ใช่เลย
อา(ผู้หญิง) เขามักเป็นคนชอบสอดรู้สอดเห็น
(เผือกเรื่องชาวบ้านนั่นแหละค่ะ) เขาก็เคยทะเลาะกับพ่อแม่เราบ้างค่ะ แต่ตั้งแต่ช่วงเราขึ้นมหาลัย คือเขามีโรคประสาทเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่หลังจากที่อาทำคีโมเสร็จ และกลับมาอยู่บ้านได้ พ่อกับอาเริ่มทะเลาะกันหนักขึ้นเรื่อยๆ เรื่องที่พ่อชอบขับรถไปหาแม่ (
ทั้งๆที่ตอนอยู่กับแม่ทะเลาะกัน ไล่แม่ออกจากบ้านสารพัด แต่พอตอนนี้กลับมาบอกว่าตัวเองไม่เคยพูด แม่เขาออกไปเอง อยากให้แม่กลับมา) อาก็เอาเรื่องพ่อไปพูดให้คนนู้นคนนี้ฟัง เรื่องแม่ เรื่องพี่สาวสร้างหนี้ เรื่องทุกอย่างในบ้านมีทั้งจริงและมโน เอาไปพูดบ้าง บ่นลอยเสียงดังบ้าง
พ่อเขาก็ไม่โอเคก็เลยทะเลาะกัน แรกๆพ่อก็พอทนค่ะ และหลังๆเขาเริ่มลามปามไปถึงเรื่องตายายเราชั่ว แม่ พ่อ พี่สาวชั่วเลว พ่อเลยอารมณ์ขึ้นง่ายมาก
พักหลังลุงก็เริ่มมาอยู่ในวงโต้วาทีนี้ด้วย กลายเป็น พ่อ vs อา vs ลุง สงครามการทะเลาะกันของพี่น้อง (
พี่น้องแท้ๆ)
เลยเป็นจุดความบรรลัยทะเลาะกันบ้านจะแตกรอบ2
พ่อก็ยึดทิฐิของตัวเอง บางทีรู้ว่าไม่มีเงินมากก็ยังชอบไปอวดอาว่าตัวเองมีเงิน พอกินพอใช้ มีความสุข
ส่วนอาก็ชอบเอาชนะด่ากราดลามปามไปถึงคนที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลยอย่างลูกพี่ลูกน้องเรา พี่ชายเรา รวมถึงเราด้วย(
เคยโทรมาด่าเราเหมือนกันแบบงงๆ คือตอนนั้นเราพึ่งตื่น) เอาไปพูดเสียๆหายๆทั้งที่เขามโนเอง ไอเราก็พยายามอยากจะเข้าใจว่าอารมณ์เดือดทั้งคู่ และสูงอายุกันอีก ก็ต้องมีบ้างที่พูดไม่คิด แต่มันไม่ใช่และ
อันนี้พลานไปเรื่อยให้ตัวเองชนะละ เสียงดังลั่นบ้านจัดๆ เขาทะเลาะชั้น1 เราอยู่ชั้น3ใส่อยู่ฟังยังได้ยินเลย
ทะเลาะกันเป็นหลายชม.มากๆ และทะเลาะกันถึงขั้นที่ฝั่งเราจะโดนไล่ออกจากบ้าน (
เพราะลุงเป็นเจ้าบ้าน) แถมลุงเป็นคนที่ต้องดูแลอา และเป็นเหตุที่ฝั่งเราจะโดนไล่ออกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
อาก็ชอบไม่ยอมกินยาโรคประสาท บางวันตอนกลางเช้าหรือกลางคืน เราลงมาเข้าห้องน้ำได้เสียงอาเขาบ่นเรื่องครอบครัวฝั่งเรา เราก็งงว่าคุยกันใครในโทรศัพท์หรอ? สรุปคุยคนเดียว บ่นคนเดียว บ่นเสียงดังด้วยนะประเด็น
ล่าสุดเพิ่งเกิดเลย เราสะดุ้งตื่น10-11โมง เพราะได้ยินพ่อกับอาทะเลาะกันดังมาก (
เราสะดุ้งตื่นเพราะเสียงทะเลาะแทบทุกวัน) เราก็นึกว่าไม่กี่ชม.ก็หยุด
สรุปทะเลาะเถียงกันถึง1ทุ่มกว่า รวมๆ 8 ชม.ฉ่ำๆ ไม่มีการพักดื่มน้ำด้วย พอพ่อเดินขึ้นห้องไป อาเราก็ไม่หยุด ยังบ่นๆๆๆ พลานเรา ลูกพี่ลูกน้อง ทุกคนในบ้าน ดังลั่นตั้งแต่2ทุ่ม ถึง ตี1 คือแบบ เสียงแหบแห้งก็ยังพูดพล่ามได้ โดยรวมก็ 14 ชม.ตึงๆ ถ้าขนาดนี้เอาmvp ไปเถอะ
ถ้ามีคนสงสัยว่าเราไม่ห้ามหรอ? เราเคยห้ามไม่รู้กี่ครั้งแล้วค่ะ พ่อมักจะตะคอกกลับมาว่า
เอ็งเป็นลูกไม่ต้องมายุ่ง ไม่ต้องมาห้ามพ่อ เอ็งเป็นเด็กเป็นเล็ก
ไม่รู้เรื่องอะไร
ก็นั่นแหละค่ะ เราอายุน้อยที่สุดในบ้าน ไม่มีสิทธิอะไรทั้งนั้นค่ะ พยายามแล้วพยายามอีก เขาก็รั้นหัวชนฝา เพราะความที่เขาเป็นพ่อ เป็นผู้พระคุณ เราห้ามไปห้ามเขาหรือเถียงเขาเด็ดขาด
เรารู้แหละค่ะว่าเพื่อนบ้านเขารำคาญแน่ๆ เราเกรงใจข้างบ้าน เพื่อนบ้านมากๆ แต่ทำอะไรไม่ได้.... จนไม่รู้ว่าเราคิดมากไปเองมั้ยว่า พอเราออกไปข้างนอกเพื่อนบ้านมองเราไม่ค่อยดี เพราะเขารู้หมดอยู่แล้วว่าเราเป็นลูกบ้านไหน มันทำให้จิตตกและเครียดกับตัวเองมากๆค่ะ...
จริงๆมันมีเรื่องยิบย่อยเยอะกว่านี้มากๆ จนเป็นนิยายเล่ม2เล่มก็ยังได้ เราเอามาแค่พอคร่าวๆ ถ้าบรรยายแล้วงงหรือไม่เข้าใจยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ
เราบรรยายและเรียบเรียงไม่เก่ง ขอความเห็นทุกคนหน่อยน่ะค่ะว่าควรทำยังไงดี เราเชื่อว่าอาจมีบางคนที่อาจบอกว่าให้อดทน เราแค่ต้องการทราบความเห็นอื่น หรือทางเลือกอื่นๆน่ะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ปัญหาครอบครัว
ในช่วงเด็กๆจนถึงม.6 จะเป็นพ่อแม่ทะเลาะกัน ทะเลาะเรื่องงานและเรื่องเงิน เพราะพี่สาวติดพนันและสร้างหนี้เอาไว้ (ปัจจุบันไม่แน่ใจว่าเลิกรึยังเพราะพี่อยู่บ้านอื่น แต่ที่แน่ๆ ยังสร้างหนี้อยู่ไม่เปลี่ยนแปลง) และเรื่องที่แม่นอกใจ สุดท้ายทั้งคู่แยกทางกันตอนเราเพิ่งจบม.6ใหม่ๆ ก็นึกว่าเรื่องจะดีขึ้น แต่ไม่ใช่เลย
อา(ผู้หญิง) เขามักเป็นคนชอบสอดรู้สอดเห็น (เผือกเรื่องชาวบ้านนั่นแหละค่ะ) เขาก็เคยทะเลาะกับพ่อแม่เราบ้างค่ะ แต่ตั้งแต่ช่วงเราขึ้นมหาลัย คือเขามีโรคประสาทเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่หลังจากที่อาทำคีโมเสร็จ และกลับมาอยู่บ้านได้ พ่อกับอาเริ่มทะเลาะกันหนักขึ้นเรื่อยๆ เรื่องที่พ่อชอบขับรถไปหาแม่ (ทั้งๆที่ตอนอยู่กับแม่ทะเลาะกัน ไล่แม่ออกจากบ้านสารพัด แต่พอตอนนี้กลับมาบอกว่าตัวเองไม่เคยพูด แม่เขาออกไปเอง อยากให้แม่กลับมา) อาก็เอาเรื่องพ่อไปพูดให้คนนู้นคนนี้ฟัง เรื่องแม่ เรื่องพี่สาวสร้างหนี้ เรื่องทุกอย่างในบ้านมีทั้งจริงและมโน เอาไปพูดบ้าง บ่นลอยเสียงดังบ้าง
พ่อเขาก็ไม่โอเคก็เลยทะเลาะกัน แรกๆพ่อก็พอทนค่ะ และหลังๆเขาเริ่มลามปามไปถึงเรื่องตายายเราชั่ว แม่ พ่อ พี่สาวชั่วเลว พ่อเลยอารมณ์ขึ้นง่ายมาก
พักหลังลุงก็เริ่มมาอยู่ในวงโต้วาทีนี้ด้วย กลายเป็น พ่อ vs อา vs ลุง สงครามการทะเลาะกันของพี่น้อง (พี่น้องแท้ๆ)
เลยเป็นจุดความบรรลัยทะเลาะกันบ้านจะแตกรอบ2
พ่อก็ยึดทิฐิของตัวเอง บางทีรู้ว่าไม่มีเงินมากก็ยังชอบไปอวดอาว่าตัวเองมีเงิน พอกินพอใช้ มีความสุข
ส่วนอาก็ชอบเอาชนะด่ากราดลามปามไปถึงคนที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลยอย่างลูกพี่ลูกน้องเรา พี่ชายเรา รวมถึงเราด้วย(เคยโทรมาด่าเราเหมือนกันแบบงงๆ คือตอนนั้นเราพึ่งตื่น) เอาไปพูดเสียๆหายๆทั้งที่เขามโนเอง ไอเราก็พยายามอยากจะเข้าใจว่าอารมณ์เดือดทั้งคู่ และสูงอายุกันอีก ก็ต้องมีบ้างที่พูดไม่คิด แต่มันไม่ใช่และ
อันนี้พลานไปเรื่อยให้ตัวเองชนะละ เสียงดังลั่นบ้านจัดๆ เขาทะเลาะชั้น1 เราอยู่ชั้น3ใส่อยู่ฟังยังได้ยินเลย
ทะเลาะกันเป็นหลายชม.มากๆ และทะเลาะกันถึงขั้นที่ฝั่งเราจะโดนไล่ออกจากบ้าน (เพราะลุงเป็นเจ้าบ้าน) แถมลุงเป็นคนที่ต้องดูแลอา และเป็นเหตุที่ฝั่งเราจะโดนไล่ออกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
อาก็ชอบไม่ยอมกินยาโรคประสาท บางวันตอนกลางเช้าหรือกลางคืน เราลงมาเข้าห้องน้ำได้เสียงอาเขาบ่นเรื่องครอบครัวฝั่งเรา เราก็งงว่าคุยกันใครในโทรศัพท์หรอ? สรุปคุยคนเดียว บ่นคนเดียว บ่นเสียงดังด้วยนะประเด็น
ล่าสุดเพิ่งเกิดเลย เราสะดุ้งตื่น10-11โมง เพราะได้ยินพ่อกับอาทะเลาะกันดังมาก (เราสะดุ้งตื่นเพราะเสียงทะเลาะแทบทุกวัน) เราก็นึกว่าไม่กี่ชม.ก็หยุด
สรุปทะเลาะเถียงกันถึง1ทุ่มกว่า รวมๆ 8 ชม.ฉ่ำๆ ไม่มีการพักดื่มน้ำด้วย พอพ่อเดินขึ้นห้องไป อาเราก็ไม่หยุด ยังบ่นๆๆๆ พลานเรา ลูกพี่ลูกน้อง ทุกคนในบ้าน ดังลั่นตั้งแต่2ทุ่ม ถึง ตี1 คือแบบ เสียงแหบแห้งก็ยังพูดพล่ามได้ โดยรวมก็ 14 ชม.ตึงๆ ถ้าขนาดนี้เอาmvp ไปเถอะ
ถ้ามีคนสงสัยว่าเราไม่ห้ามหรอ? เราเคยห้ามไม่รู้กี่ครั้งแล้วค่ะ พ่อมักจะตะคอกกลับมาว่า เอ็งเป็นลูกไม่ต้องมายุ่ง ไม่ต้องมาห้ามพ่อ เอ็งเป็นเด็กเป็นเล็ก
ไม่รู้เรื่องอะไร
ก็นั่นแหละค่ะ เราอายุน้อยที่สุดในบ้าน ไม่มีสิทธิอะไรทั้งนั้นค่ะ พยายามแล้วพยายามอีก เขาก็รั้นหัวชนฝา เพราะความที่เขาเป็นพ่อ เป็นผู้พระคุณ เราห้ามไปห้ามเขาหรือเถียงเขาเด็ดขาด
เรารู้แหละค่ะว่าเพื่อนบ้านเขารำคาญแน่ๆ เราเกรงใจข้างบ้าน เพื่อนบ้านมากๆ แต่ทำอะไรไม่ได้.... จนไม่รู้ว่าเราคิดมากไปเองมั้ยว่า พอเราออกไปข้างนอกเพื่อนบ้านมองเราไม่ค่อยดี เพราะเขารู้หมดอยู่แล้วว่าเราเป็นลูกบ้านไหน มันทำให้จิตตกและเครียดกับตัวเองมากๆค่ะ...
จริงๆมันมีเรื่องยิบย่อยเยอะกว่านี้มากๆ จนเป็นนิยายเล่ม2เล่มก็ยังได้ เราเอามาแค่พอคร่าวๆ ถ้าบรรยายแล้วงงหรือไม่เข้าใจยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ
เราบรรยายและเรียบเรียงไม่เก่ง ขอความเห็นทุกคนหน่อยน่ะค่ะว่าควรทำยังไงดี เราเชื่อว่าอาจมีบางคนที่อาจบอกว่าให้อดทน เราแค่ต้องการทราบความเห็นอื่น หรือทางเลือกอื่นๆน่ะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ