วันแรกที่เข้ามาในสวนสนุกมอร์นิ่งสตาร์ เด็กอายุ 10 ขวบ จะถูกอหิงสาบอกให้เล่นเครื่องเล่นไหนก็ได้ตามภารกิจที่ให้อิสระ ซึ่งในสวนสนุกแห่งนี้มีแค่เด็กคนเดียววันแรก เหตุผลเพื่อคัดเลือกเด็กเพื่อส่งไปยังกลุ่มว่าอยู่กลุ่มไหน
วันที่สองเด็กต่างอายุจะถูกบังคับให้เล่นเครื่องสนุก หรืออื่น ๆ ตามภารกิจที่ได้จากอหิงสา ไม่เช่นนั้นจะซ้ำชั้น
วันที่สามเด็กที่อยู่ในสวนสนุกจะหายไปครึ่งหนึ่งจากทั้งหมดที่คัดมา และภารกิจที่จะทำก็จะยากขึ้นเยอะจนบางคนทำไม่ได้ก็มี
วันที่สี่เกือบจะสิ้นสุดกำหนดในการเข้าเล่นสวนสนุก นี่คือวันสุดท้ายในการทำภารกิจ
เน็ตมองหามอนิเตอร์เพราะพวกเขานัดกันที่ร้านขายไอศรีมในเช้า ๆ เลย แต่ไม่มีวี่แววของเพื่อนต่างอายุสักนิดกลับไม่มี เน็ตเริ่มรู้สึกว่าจะรอต่อไปไม่ได้แล้ว
ภารกิจประจำวันที่เน็ตโผล่ขึ้นมา…
ขณะที่เดินดูการเปลี่ยนแปลงพื้นที่เครื่องเล่นใหม่ ๆ เขาก็เจอกับ 4 เด็กสาวที่สวมชุดสวยงาม ถึงแม้ว่าเน็ตจะไม่อยากรู้เรื่องของเด็กสาวทั้ง 4 แต่เสียงลือแน่นให้พวกเธอเป็นตัวอย่างต่อสังคมเด็กที่เข้ามาใหม่ แบบเดียวกับบล็อก
“ศูนย์ อยากกินไอศรีมไหม”
คนส่วนใหญ่ในดินแดนพระอาทิตย์เรียกเน็ตว่าศูนย์
“ไม่ครับ” เน็ตตอบและเดินต่อไป
เมื่อวานเน็ตตัดสินใจลองเข้าหอคอยร้อยชั้น เหมือนตัวเขาเองจะแค่เดินตามไปด้วยโดยไม่ทำอะไร
แต่ละชั้นก็มีสรรพอาหาร ของเล่นใหม่ ๆ และเหรียญทองซุกซ่อนตามที่ต่าง ๆ เน็ตไม่เอา
ชั้นที่เป็นปัญหาต่อทุกคนที่เข้าหอคอยคือชั้นสุดท้าย ชั้นที่ 100 เพราะศัตรูที่จะต้องปราบคือสันทยา แบบรูปลักษณ์ดูสยอง
เหล่ายอดมนุษย์แทบจะตัดใจไป เนื่องจากสันทยาเป็นได้ทุกอย่าง ร่างกายต่อใหม่ได้ แข็งแรงหลายเท่ากว่าคน
เน็ตเห็นเหรียญจึงก้มไปเก็บดู แต่ทันใดนั้นน้ำที่มีแรงดันสูงก็ถูกปล่อยจากบอสสันทยา หลายคนหายไป มีอยู่ไม่ถึง 20 คนที่ยังรอดอยู่
มอนิเตอร์โผล่ขึ้นมาจากไหนไม่รู้ เขาเอาของเล่นเสียบบนแผ่นหลังของบอสสันทยา ทันทีก็มีเส้นใยกระจายไปทั่วตัวของบอส ก่อนที่บอสสันทยาจะแน่นิ่งและตัวระเบิดไป
เหล่าคนที่ชนะบอสได้ จึงทำให้พวกเขาได้รับรางวัลกันถ้วนหน้ารวมถึงเน็ตด้วย
แต่สิ่งที่ดรอปจากบอสคือสิ่งที่มอนิเตอร์ตามหามานาน นั่นคือ กุญแจทอง
เมื่อทุกอย่างลงต่อเหล่าคนที่มีกุญแจทองก็วาร์ปมาอยู่จุดเดียวกัน ที่บ้านหลังโตในหอพัก
“ที่นี่ที่ไหน” คนที่หน้าตาไม่คุ้นเคยพูดหาคำตอบ
ที่ไขกุญแจปรากฏที่กำแพง ทุกคนเข้าใจได้ทันทีว่าต้องทำอะไร ทว่าหลายคนเหนื่อยเกินไปจึงขอกลับห้องพักตัวเองเสียดื้อ ๆ
ปัจจุบันเน็ตและคนอื่น ๆ ที่ถือกุญแจต่างเข้ามาในบ้านใหญ่ในหอพัก
ทว่าประตูและทางออกจากบ้านหลังใหญ่นี้ปิดหมด เหล่าผู้ถือกุญแจทองเริ่มใจคอไม่ดี
“เกิดอะไรขึ้น เราต้องไขตอนนี้เลยเหรอ” ชายคนหนึ่งเปิดประเด็น
4 เด็กหญิงคนดังเดินไปและใช้กุญแจปลดล็อก คนอื่น ๆ ที่เห็นต่างสงสัยเรื่องทำไมถูกส่งมาที่บ้านแห่งนี้ แต่พวกเขามีทางเลือกเดียวเลยทยอยไปไขกุญแจที่พนัง
เน็ตดีใจที่มอนิเตอร์อยู่ด้วย เขาเดินไปคุย
“นี่คือออะไร”
“คิดว่าเป็นปริศนาสำคัญของสวนสนุก”
“น่าจะใช่”
ผนังห้องทีมีรูเจาะเป็นกุญแจค่อย ๆ หายไป ด้านในเต็มไปด้วยสมบัติ ทองเพียบ เด็กทุกคนเห็นยิ้มพอใจที่เหมือนได้รับการตอบแทนที่คุ้มค่าได้กำไร แต่แม้จะหยิบและหอบหนีไปที่อื่น เด็กในสวนสนุกทุกคนที่อยู่ครบ 5 วันยังไงก็จะหาจากสวนสนุก
มอนิเตอร์เหมือนรู้อะไรบางอย่างรีบเดินเข้าไปที่มีประตู เน็ตรีบเดินตาม ประตูทองถูกเปิด ในนั้นตายายมั่งมีนั่งอยู่และยิ้มให้
เน็ตงงสุด ๆ มันมีความหมายว่ายังไง
“เธอชื่ออะไรนะ” ยายมั่งถาม
“มอนิเตอร์”
“เข้ามาจากทางประตูเลยใช่ไหม” ตามีขอให้เป็นอย่างนั้น
“ใช่ เดี๋ยวจะพาออกมา” มอนิเตอร์วางมือไปที่กระจก กระจกหายไป ตายายมั่งมีกอดกันอย่างคิดถึง
“เกิดอะไรขึ้น” เด็กหญิงคนดังเดินเข้ามาถาม
“มันจะไม่มีอีกแล้ว” มอนิเตอร์ตอบและจับมือยายมั่งเดินออกจากห้องลับ
หลายคนที่เห็นคนแก่ก็เหวอกันหมด
ด้านนอกบ้านมีเด็กจำนวนมากยืนดูเหตุการณ์ด้านในว่ามันเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากทุกคนถูกวาร์ปเข้ามาในหอพักทุกคน
“ขอถามอะไรหน่อย คนตายายมาทำไม” เด็กหญิงคนดังถามขึ้น ไม่ใช่แค่เธอแต่ทุกคนอยากรู้เหมือนกัน
“รู้ไหมว่าเมื่อถึง 5 วัน เราจะไปที่ไหน”
คำถามนี้เน็ตก็เคยคิดเหมือนกัน
“เกิดใหม่เหรอ” เน็ตพูดเสียงเบา ๆ ให้มอนิเตอร์ได้ยินคนเดียว
“ผ่านจาก 5 วันเราจะถูกคัดแยกให้ไปยังที่ต่าง ๆ บนโลกต่าง ๆ ยิ่งเราทำภารกิจไว้เยอะ เรายิ่งจะได้อะไรดี ๆ กลับไปโลกที่เราจะเกิด” สาวดังอธิบายให้ทุกคนฟัง
“ไม่ใช่เลย” มอนิเตอร์สะบัดหัว
“ให้คนแก่พูดสิ” มีคนตะโกนออกมาจากกลุ่มคนนอกบ้าน
“ทรัพย์สมบัติที่อยู่ด้านหลังเป็นของทุกคน ทุกคนเป็นเจ้าของได้” เสียงชายชราค่อนข้างเบา แต่เมื่อมีเด็กหญิงด้านนอกบ้านคนหนึ่งเดินเข้ามา เธอก็เข้าไม่ได้ มอนิเตอร์พูดไม่ทันชายชราแต่ก็ได้โอกาส
“วันที่ 6 มีคนจำนวนหนึ่งติดอยู่ในสวนสนุก พร้อมทั้งอายุที่ถึงวัยเกษียณ สิ่งที่ทุกคนทำไม่ใช่ไปเกิดใหม่…”
“ไม่มีเหตุผลอะไรเลยว่าคุณจะแก่” สาวดังว่า
“ผมพาคุณไปดูได้”
มีหลายคนที่ยังซ้ำชั้นอยู่ในวันข้างหน้า การมีบทลงโทษที่แสนยาวนานทำให้สมดุลของระบบไปต่อได้ ไม่มีใครรู้เรื่องนี้
ภารกิจประจำวันของเน็ตเด้งขึ้นมา “คืนความทรงจำให้แก่ผู้สูงอายุ” เหลือแค่ 1 ชั่วโมงภารกิจนี้จะเป็นโมฆะ เน็ตไม่ทำ ถึงจะเหลือแค่นาทีเดียวเขาก็จะไม่ทำ เพราะมันไม่มีทางเลยที่จะเจอคนแก่ในสวนสนุกที่นี่ นอกจากตายายมั่งมี
การถกเถียงเป็นไปอย่างดุดัง กลุ่มทั้งหมดเผยสมาชิกออกมา
เด็กอายุน่าจะ 5 ขวบโผล่ขึ้นมาทำให้การสนทนาหยุดลง
“พวกคุณทำ พวกคุณเห็น พวกคุณได้ยิน คิดว่ามันคือเรื่องจริงเหรอ ต้องแก่มากเท่าไหร่มันถึงจะเป็นเรื่องจริงกันแน่” เด็กห้าขวบพูด
“อะไรของเอ็งวะ” เสียงใครสักคนดังทุกทิศ เสียงนั้นเหมือนคนแก่ แต่ดังชัดเจนมากว่าอายุน่าจะถึง 100 ปี
วินาทีนั้นภารกิจประจำวันของเน็ตก็เสร็จสิ้น เสียงของเด็กห้าขวบพูดต่อ
“ก็แค่ยอมรับว่าพวกเอ็งได้ตายไปหมดแล้ว มันก็น่าจะเพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ แค่พวกเอ็งนั่งนอนโดยไม่ต้องทำอะไร ชีวิตอมตะมันก็เป็นของเอ็งแล้ว …ไม่ชอบใช่ไหม”
ค่ำคืนสุดท้ายของวันที่สี่จบลงแบบมีเงื่อนไข เด็กห้าขวบยื่นภารกิจให้ทุกคนต้องทำแบบมัดมือชก ภารกิจเจอเตือนว่าให้ทำอะไรยิ่งย้ำว่าเด็กคนนี้เป็นผู้วิเศษ
เด็กบางคนร้องไห้เพราะผิดหวังกับสิ่งที่ตนทำมาตามขั้นตอนตนเอง
ความทรงจำจากชาติต่าง ๆ ประดังเข้าสู่สมองของทุกคนจนเจ็บปวดทรมาน
เน็ตไม่เห็นใครเลย สิ่งเดียวที่เห็นคือตัวเองที่น่ากระจกร่ำร้องไห้
Morning Star 4 Ver.1.2 ปริศนาสำคัญ
วันที่สองเด็กต่างอายุจะถูกบังคับให้เล่นเครื่องสนุก หรืออื่น ๆ ตามภารกิจที่ได้จากอหิงสา ไม่เช่นนั้นจะซ้ำชั้น
วันที่สามเด็กที่อยู่ในสวนสนุกจะหายไปครึ่งหนึ่งจากทั้งหมดที่คัดมา และภารกิจที่จะทำก็จะยากขึ้นเยอะจนบางคนทำไม่ได้ก็มี
วันที่สี่เกือบจะสิ้นสุดกำหนดในการเข้าเล่นสวนสนุก นี่คือวันสุดท้ายในการทำภารกิจ
เน็ตมองหามอนิเตอร์เพราะพวกเขานัดกันที่ร้านขายไอศรีมในเช้า ๆ เลย แต่ไม่มีวี่แววของเพื่อนต่างอายุสักนิดกลับไม่มี เน็ตเริ่มรู้สึกว่าจะรอต่อไปไม่ได้แล้ว
ภารกิจประจำวันที่เน็ตโผล่ขึ้นมา…
ขณะที่เดินดูการเปลี่ยนแปลงพื้นที่เครื่องเล่นใหม่ ๆ เขาก็เจอกับ 4 เด็กสาวที่สวมชุดสวยงาม ถึงแม้ว่าเน็ตจะไม่อยากรู้เรื่องของเด็กสาวทั้ง 4 แต่เสียงลือแน่นให้พวกเธอเป็นตัวอย่างต่อสังคมเด็กที่เข้ามาใหม่ แบบเดียวกับบล็อก
“ศูนย์ อยากกินไอศรีมไหม”
คนส่วนใหญ่ในดินแดนพระอาทิตย์เรียกเน็ตว่าศูนย์
“ไม่ครับ” เน็ตตอบและเดินต่อไป
เมื่อวานเน็ตตัดสินใจลองเข้าหอคอยร้อยชั้น เหมือนตัวเขาเองจะแค่เดินตามไปด้วยโดยไม่ทำอะไร
แต่ละชั้นก็มีสรรพอาหาร ของเล่นใหม่ ๆ และเหรียญทองซุกซ่อนตามที่ต่าง ๆ เน็ตไม่เอา
ชั้นที่เป็นปัญหาต่อทุกคนที่เข้าหอคอยคือชั้นสุดท้าย ชั้นที่ 100 เพราะศัตรูที่จะต้องปราบคือสันทยา แบบรูปลักษณ์ดูสยอง
เหล่ายอดมนุษย์แทบจะตัดใจไป เนื่องจากสันทยาเป็นได้ทุกอย่าง ร่างกายต่อใหม่ได้ แข็งแรงหลายเท่ากว่าคน
เน็ตเห็นเหรียญจึงก้มไปเก็บดู แต่ทันใดนั้นน้ำที่มีแรงดันสูงก็ถูกปล่อยจากบอสสันทยา หลายคนหายไป มีอยู่ไม่ถึง 20 คนที่ยังรอดอยู่
มอนิเตอร์โผล่ขึ้นมาจากไหนไม่รู้ เขาเอาของเล่นเสียบบนแผ่นหลังของบอสสันทยา ทันทีก็มีเส้นใยกระจายไปทั่วตัวของบอส ก่อนที่บอสสันทยาจะแน่นิ่งและตัวระเบิดไป
เหล่าคนที่ชนะบอสได้ จึงทำให้พวกเขาได้รับรางวัลกันถ้วนหน้ารวมถึงเน็ตด้วย
แต่สิ่งที่ดรอปจากบอสคือสิ่งที่มอนิเตอร์ตามหามานาน นั่นคือ กุญแจทอง
เมื่อทุกอย่างลงต่อเหล่าคนที่มีกุญแจทองก็วาร์ปมาอยู่จุดเดียวกัน ที่บ้านหลังโตในหอพัก
“ที่นี่ที่ไหน” คนที่หน้าตาไม่คุ้นเคยพูดหาคำตอบ
ที่ไขกุญแจปรากฏที่กำแพง ทุกคนเข้าใจได้ทันทีว่าต้องทำอะไร ทว่าหลายคนเหนื่อยเกินไปจึงขอกลับห้องพักตัวเองเสียดื้อ ๆ
ปัจจุบันเน็ตและคนอื่น ๆ ที่ถือกุญแจต่างเข้ามาในบ้านใหญ่ในหอพัก
ทว่าประตูและทางออกจากบ้านหลังใหญ่นี้ปิดหมด เหล่าผู้ถือกุญแจทองเริ่มใจคอไม่ดี
“เกิดอะไรขึ้น เราต้องไขตอนนี้เลยเหรอ” ชายคนหนึ่งเปิดประเด็น
4 เด็กหญิงคนดังเดินไปและใช้กุญแจปลดล็อก คนอื่น ๆ ที่เห็นต่างสงสัยเรื่องทำไมถูกส่งมาที่บ้านแห่งนี้ แต่พวกเขามีทางเลือกเดียวเลยทยอยไปไขกุญแจที่พนัง
เน็ตดีใจที่มอนิเตอร์อยู่ด้วย เขาเดินไปคุย
“นี่คือออะไร”
“คิดว่าเป็นปริศนาสำคัญของสวนสนุก”
“น่าจะใช่”
ผนังห้องทีมีรูเจาะเป็นกุญแจค่อย ๆ หายไป ด้านในเต็มไปด้วยสมบัติ ทองเพียบ เด็กทุกคนเห็นยิ้มพอใจที่เหมือนได้รับการตอบแทนที่คุ้มค่าได้กำไร แต่แม้จะหยิบและหอบหนีไปที่อื่น เด็กในสวนสนุกทุกคนที่อยู่ครบ 5 วันยังไงก็จะหาจากสวนสนุก
มอนิเตอร์เหมือนรู้อะไรบางอย่างรีบเดินเข้าไปที่มีประตู เน็ตรีบเดินตาม ประตูทองถูกเปิด ในนั้นตายายมั่งมีนั่งอยู่และยิ้มให้
เน็ตงงสุด ๆ มันมีความหมายว่ายังไง
“เธอชื่ออะไรนะ” ยายมั่งถาม
“มอนิเตอร์”
“เข้ามาจากทางประตูเลยใช่ไหม” ตามีขอให้เป็นอย่างนั้น
“ใช่ เดี๋ยวจะพาออกมา” มอนิเตอร์วางมือไปที่กระจก กระจกหายไป ตายายมั่งมีกอดกันอย่างคิดถึง
“เกิดอะไรขึ้น” เด็กหญิงคนดังเดินเข้ามาถาม
“มันจะไม่มีอีกแล้ว” มอนิเตอร์ตอบและจับมือยายมั่งเดินออกจากห้องลับ
หลายคนที่เห็นคนแก่ก็เหวอกันหมด
ด้านนอกบ้านมีเด็กจำนวนมากยืนดูเหตุการณ์ด้านในว่ามันเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากทุกคนถูกวาร์ปเข้ามาในหอพักทุกคน
“ขอถามอะไรหน่อย คนตายายมาทำไม” เด็กหญิงคนดังถามขึ้น ไม่ใช่แค่เธอแต่ทุกคนอยากรู้เหมือนกัน
“รู้ไหมว่าเมื่อถึง 5 วัน เราจะไปที่ไหน”
คำถามนี้เน็ตก็เคยคิดเหมือนกัน
“เกิดใหม่เหรอ” เน็ตพูดเสียงเบา ๆ ให้มอนิเตอร์ได้ยินคนเดียว
“ผ่านจาก 5 วันเราจะถูกคัดแยกให้ไปยังที่ต่าง ๆ บนโลกต่าง ๆ ยิ่งเราทำภารกิจไว้เยอะ เรายิ่งจะได้อะไรดี ๆ กลับไปโลกที่เราจะเกิด” สาวดังอธิบายให้ทุกคนฟัง
“ไม่ใช่เลย” มอนิเตอร์สะบัดหัว
“ให้คนแก่พูดสิ” มีคนตะโกนออกมาจากกลุ่มคนนอกบ้าน
“ทรัพย์สมบัติที่อยู่ด้านหลังเป็นของทุกคน ทุกคนเป็นเจ้าของได้” เสียงชายชราค่อนข้างเบา แต่เมื่อมีเด็กหญิงด้านนอกบ้านคนหนึ่งเดินเข้ามา เธอก็เข้าไม่ได้ มอนิเตอร์พูดไม่ทันชายชราแต่ก็ได้โอกาส
“วันที่ 6 มีคนจำนวนหนึ่งติดอยู่ในสวนสนุก พร้อมทั้งอายุที่ถึงวัยเกษียณ สิ่งที่ทุกคนทำไม่ใช่ไปเกิดใหม่…”
“ไม่มีเหตุผลอะไรเลยว่าคุณจะแก่” สาวดังว่า
“ผมพาคุณไปดูได้”
มีหลายคนที่ยังซ้ำชั้นอยู่ในวันข้างหน้า การมีบทลงโทษที่แสนยาวนานทำให้สมดุลของระบบไปต่อได้ ไม่มีใครรู้เรื่องนี้
ภารกิจประจำวันของเน็ตเด้งขึ้นมา “คืนความทรงจำให้แก่ผู้สูงอายุ” เหลือแค่ 1 ชั่วโมงภารกิจนี้จะเป็นโมฆะ เน็ตไม่ทำ ถึงจะเหลือแค่นาทีเดียวเขาก็จะไม่ทำ เพราะมันไม่มีทางเลยที่จะเจอคนแก่ในสวนสนุกที่นี่ นอกจากตายายมั่งมี
การถกเถียงเป็นไปอย่างดุดัง กลุ่มทั้งหมดเผยสมาชิกออกมา
เด็กอายุน่าจะ 5 ขวบโผล่ขึ้นมาทำให้การสนทนาหยุดลง
“พวกคุณทำ พวกคุณเห็น พวกคุณได้ยิน คิดว่ามันคือเรื่องจริงเหรอ ต้องแก่มากเท่าไหร่มันถึงจะเป็นเรื่องจริงกันแน่” เด็กห้าขวบพูด
“อะไรของเอ็งวะ” เสียงใครสักคนดังทุกทิศ เสียงนั้นเหมือนคนแก่ แต่ดังชัดเจนมากว่าอายุน่าจะถึง 100 ปี
วินาทีนั้นภารกิจประจำวันของเน็ตก็เสร็จสิ้น เสียงของเด็กห้าขวบพูดต่อ
“ก็แค่ยอมรับว่าพวกเอ็งได้ตายไปหมดแล้ว มันก็น่าจะเพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ แค่พวกเอ็งนั่งนอนโดยไม่ต้องทำอะไร ชีวิตอมตะมันก็เป็นของเอ็งแล้ว …ไม่ชอบใช่ไหม”
ค่ำคืนสุดท้ายของวันที่สี่จบลงแบบมีเงื่อนไข เด็กห้าขวบยื่นภารกิจให้ทุกคนต้องทำแบบมัดมือชก ภารกิจเจอเตือนว่าให้ทำอะไรยิ่งย้ำว่าเด็กคนนี้เป็นผู้วิเศษ
เด็กบางคนร้องไห้เพราะผิดหวังกับสิ่งที่ตนทำมาตามขั้นตอนตนเอง
ความทรงจำจากชาติต่าง ๆ ประดังเข้าสู่สมองของทุกคนจนเจ็บปวดทรมาน
เน็ตไม่เห็นใครเลย สิ่งเดียวที่เห็นคือตัวเองที่น่ากระจกร่ำร้องไห้