พากเพียร toshare

@ ธรรมประเสริฐ เทิดปรกเศียร จักมุเพียร เจิดมรรคพร เมตตาสรรค์ มั่นเตือนสอน รักอาทร รอนอธรรม @ ธ โปรดสอน ทอนปรุงสร้าง ตัว"กู"กร่าง แต่งกงกรรม ปลุก

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ @ พอเพียงประเดิมสติประจักษ์ .........สิสลัก ณ แก่นใจ พากเพียรมุมั่น มิลุไฉน .........ผลิไสวอร่ามงาม

@ "รักสามัคคี"คำ ธ ทรงย้ำแนะสั่งส อน เป็นขวัญเป็นแก่นพร ละแย้งย้อน ฤ ซ่อนกล @ ทรงหวังเป็นหนึ่งเดียว กระแสเชี่ยวพลังดล นำไทยได้พูลผล ประจักษ์หนสวรรค์พลัน รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ห

ใช้ รัสสระ(สระสั้น) แทนคำ รูปเอก ในตำแหน่ง บังคับ (เอก ๗) @ ขอ"โคลงฉันท์"ผลิให้ .....ไสวกานท์ โดย ละ"รูปเอก" จาร .....จะแจ้ง แทนด้วย"สระสั้น" วาน .....ชมติ..กันนา แต่งส

*** เบญจางคอักษร *** กาพย์พรหมคีติ (มีเสียงขับอันไพเราะ) บทละ ๘ วรรค วรรคหน้า ๕ พยางค์  วรรคหลัง ๖ พยางค์ ส่งสัมผัส บทท้ายวรรค ๘ รับสัมผัส บทท้ายวรรค ๒ @ กานท์กาพย์แบบเก่าก่อน อุระร้อนจารขับขา

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ @ พอเพียงประเดิมสติประจักษ์ สิสลัก ณ แก่นใจ พากเพียรมุมั่น มิลุไฉน ผลิไสวอร่ามงาม

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ @ พอเพียงประเดิมสติประจักษ์......สิสลัก ณ แก่นใจ พากเพียรมุมั่น มิลุไฉน..................ผลิไสวอร่ามงาม @ พอเพียง       คือชีวี   

กลอนฉันท์เกณฑ์ : อย่างน้อยมี ลหุ ๑ คำ ในทุกวรรค กลอนฉันท์สาม @ ข้าจะมั่น....มุสรรค์สร้าง "ระทม"สร่าง....พิบัติ, พาล @ ละลด"กู....ลุรู้ขาน ผลิผ่องฌาณ...หาญ! สินำ @ "รัก" ริเ

ยานีฉันท์ ๑๑ สองแบบ @ ค ค ล ค ค ... ค ค ค ล ค ค      ค ค ล ค ค ... ค ค ค ล ค ค @ ยานี เสนอจาร ​หวังเพื่อนสาน สิยังรอ ขอแรง มุมั่นก่อ ฉันท์จึ่งพอ ขจรไป @ ค ค ล ค ค ... ล ค ค ค ค ค &n

ริเริ่ม : Soul Master @ x x x 1 .... x 1 2 3 2 x x 3 ........ x 3 x 1 @ x x x 1 .... x 1 2 3 2 x x 3 ........ x 3 x x โดยให้ในแต่ละวรรคต้องมี รูปวรรณยุกต์ เอก หรือ โท ๑ คำ สลับวรรคกันไป @ ทุกวัน