กระทู้เกือบ สว. เล่าความหลังเมื่อสมัยยังเป็นเด็ก555
ผมเกิดและเติบโตมาในหมู่บ้านหลังเขา ในภาคอีสาน ที่หมู่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้
พ่อแม่เช่าที่ดินทำไร่ ทำนา และรับจ้างไปทั่ว จนมีคราวนึงพ่อได้งานรับจ้างบุกเบิกที่ดิน หรือเอาง่ายๆก็คืองานถางป่าเพื่อให้ทำไร่ได้นั่นเอง เราตัวเล็กๆอยู่ป.5 ก็แบกจอบแบกเสียมไปช่วยพ่อแม่ช่วงเสาร์-อาทิตย์
แล้วพอถางป่ามันจะมีพวกต้นไม้ที่ตัดลงมา พ่อถามเจ้าของที่แล้วเค้าไม่เอา เค้าบอกให้ขนไปทิ้ง พ่อเลยเกิดไอเดีย เอาไม้มาเผาถ่านขาย
แล้วทีนี้ก็ต้องเอาไปตระเวณขาย ซึ่งแม่รับหน้าที่นี้โดยมีเรากับพี่สาวคอยตามไปช่วย โดยใช้รถเข็นตระเวณขายตามหมู่บ้าน จำได้ว่ากระสอบละ 30 บาท
ตอนนั้นคือโคตรอายเพื่อนเลย ได้ฉายาที่โรงเรียนว่า ไอ้ถ่าน แต่เรากับพี่ก็ไม่เคยหยุดนะ ก็ยังไปขายกับแม่ทุกวัน เลิกเรียนมาเย็นๆก็ออกไปที่ไร่ ช่วยพ่อตัดฟืนเผาถ่าน จนทำได้เป็นปีก็เริ่มชิน เพื่อนก็เลิกล้อแล้วเพราะล้อไปเราก็ไม่สน ก็เลยเลิกกันไปเอง555
ทีนี้มันมีจุดอายสุดต่อมาอีก คือพอทำได้สักพัก เริ่มขายดี พ่อก็ไปซื้อมอเตอร์ไซค์มือสอง เอามาพ่วงกับรถเข็นเพื่อออกไปขายนอกหมู่บ้าน แล้วจะมีลุงคนนึงที่บ้านอยู่หลังอำเภอ แกก็จะซื้อถ่านกับเราประจำ เราก็ไม่รู้หรอกว่าแกเป็นใคร เรียกกันกับพี่แค่ว่าลุงหลังอำเภอ เวลาไปขายถ่านผ่านหน้าบ้านแกก็ต้องจอดถามว่า ลุง ซื้อถ่านมั๊ยครับ แกก็อุดหนุนเราอยู่เป็นปี ก็เลิกขายถ่านไป เพราะไม้หายาก และเตาแก๊สเริ่มแพร่หลาย
แล้วพอเราขึ้นมัธยม ม.1 ดันจับพลัดจับผลูยังไงไม่รู้ ไปแข่งวิชาการระดับอำเภอ ดันได้ที่1 คณิตศาสตร์โอลิมปิค ก็เลยต้องเข้าค่ายฝึกซ้อมเพื่อไปแข่งระดับจังหวัด จำได้ว่าเข้าค่าย 2อาทิตย์ แม่มีเงินให้ไป 20 บาท แล้วพอเข้าค่ายก็จะมีศึกษาธิการอำเภอมากล่าวให้โอวาท ปรากฎว่าเป็นลุงหลังอำเภอที่ซื้อถ่านเราประจำ เราก็พยายามนั่งหลบมุมกลัวแกจำได้ สักพักแกยืนจ้องเราแล้วพูดออกไมค์ว่า นั่นใช่ไอ้หนูที่เคยเอาถ่านมาขายให้ลุงรึป่าวน่ะ ไอ้เราก็โคตรอาย อ้อมแอ้มตอบไปว่า ใช่ครับ แต่ตอนนี้เลิกขายแล้วครับ

สายตาทุกคนในห้องประชุมขนาดใหญ่ก็มองมาที่เรา คืออายมาก อายจนจำอะไรไม่ได้ แต่คุณครูมาเล่าให้ฟังว่า แกกล่าวชื่นชมเรา และให้เพื่อนๆเอาเป็นตัวอย่าง
แต่เหตุการณ์ในครั้งนั้น ถึงจะน่าอาย ก็กลับกลายเป็นผลดีส่วนนึง เพราะตอนแรกเราก็กลัวว่าถ้าเพื่อนรู้เราคงโดนล้อ เพราะคนที่มาแข่งวิชาการระดับนี้จะมาจากโรงเรียนประจำอำเภอกันหมด ซึ่งส่วนใหญ่จะฐานะดี มีเรามาจากโรงเรียนขยายโอกาสฯหลังเขาอยู่คนเดียว แต่ไม่เลย เรากลับกลายเป็นที่รักของทุกคน เงิน 20 บาทที่แม่ให้ไปแทบไม่ได้ใช้ มีเพื่อน มีคุณครู เอาขนมมาฝากทุกวัน และลุงศึกษาธิการก็มาเยี่ยมที่บ้าน และคอยช่วยเหลือหาทุนการศึกษามาให้อยู่เรื่อยๆ จนเราเรียนจบมาได้ แม้จะยากลำบากบ้างในบางครั้ง
นึกๆย้อนกลับไป ก็ขำตัวเองดีเหมือนกัน
ยังไม่นับโตมา ที่ทำทุกอย่างที่ได้เงินจริงๆ ทั้งไปรับจ๊อบรื้อรถเกิดอุบัติเหตุที่มีคนตาย ล้างคราบเลือดไม่มีคนกล้าทำ เราไปทำหมด ได้เงินดีด้วย หรือไปเป็นไรเดอร์ส่งอาหารตอนเย็น บางทีต้องส่งอาหารให้ลูกน้องตัวเอง ก็มีเขินๆกันไป
แล้วเพื่อนๆมีเหตุการณ์ หรือประสบการณ์การทำงานที่น่าอายแต่กลับเป็นผลดี กันบ้างมั๊ยครับ เอามาแชร์กันหน่อย
เพื่อนๆเคยทำอาชีพ หรือทำงานหารายได้ อะไรที่คิดว่าน่าอายกันมั๊ยครับ
ผมเกิดและเติบโตมาในหมู่บ้านหลังเขา ในภาคอีสาน ที่หมู่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้
พ่อแม่เช่าที่ดินทำไร่ ทำนา และรับจ้างไปทั่ว จนมีคราวนึงพ่อได้งานรับจ้างบุกเบิกที่ดิน หรือเอาง่ายๆก็คืองานถางป่าเพื่อให้ทำไร่ได้นั่นเอง เราตัวเล็กๆอยู่ป.5 ก็แบกจอบแบกเสียมไปช่วยพ่อแม่ช่วงเสาร์-อาทิตย์
แล้วพอถางป่ามันจะมีพวกต้นไม้ที่ตัดลงมา พ่อถามเจ้าของที่แล้วเค้าไม่เอา เค้าบอกให้ขนไปทิ้ง พ่อเลยเกิดไอเดีย เอาไม้มาเผาถ่านขาย
แล้วทีนี้ก็ต้องเอาไปตระเวณขาย ซึ่งแม่รับหน้าที่นี้โดยมีเรากับพี่สาวคอยตามไปช่วย โดยใช้รถเข็นตระเวณขายตามหมู่บ้าน จำได้ว่ากระสอบละ 30 บาท
ตอนนั้นคือโคตรอายเพื่อนเลย ได้ฉายาที่โรงเรียนว่า ไอ้ถ่าน แต่เรากับพี่ก็ไม่เคยหยุดนะ ก็ยังไปขายกับแม่ทุกวัน เลิกเรียนมาเย็นๆก็ออกไปที่ไร่ ช่วยพ่อตัดฟืนเผาถ่าน จนทำได้เป็นปีก็เริ่มชิน เพื่อนก็เลิกล้อแล้วเพราะล้อไปเราก็ไม่สน ก็เลยเลิกกันไปเอง555
ทีนี้มันมีจุดอายสุดต่อมาอีก คือพอทำได้สักพัก เริ่มขายดี พ่อก็ไปซื้อมอเตอร์ไซค์มือสอง เอามาพ่วงกับรถเข็นเพื่อออกไปขายนอกหมู่บ้าน แล้วจะมีลุงคนนึงที่บ้านอยู่หลังอำเภอ แกก็จะซื้อถ่านกับเราประจำ เราก็ไม่รู้หรอกว่าแกเป็นใคร เรียกกันกับพี่แค่ว่าลุงหลังอำเภอ เวลาไปขายถ่านผ่านหน้าบ้านแกก็ต้องจอดถามว่า ลุง ซื้อถ่านมั๊ยครับ แกก็อุดหนุนเราอยู่เป็นปี ก็เลิกขายถ่านไป เพราะไม้หายาก และเตาแก๊สเริ่มแพร่หลาย
แล้วพอเราขึ้นมัธยม ม.1 ดันจับพลัดจับผลูยังไงไม่รู้ ไปแข่งวิชาการระดับอำเภอ ดันได้ที่1 คณิตศาสตร์โอลิมปิค ก็เลยต้องเข้าค่ายฝึกซ้อมเพื่อไปแข่งระดับจังหวัด จำได้ว่าเข้าค่าย 2อาทิตย์ แม่มีเงินให้ไป 20 บาท แล้วพอเข้าค่ายก็จะมีศึกษาธิการอำเภอมากล่าวให้โอวาท ปรากฎว่าเป็นลุงหลังอำเภอที่ซื้อถ่านเราประจำ เราก็พยายามนั่งหลบมุมกลัวแกจำได้ สักพักแกยืนจ้องเราแล้วพูดออกไมค์ว่า นั่นใช่ไอ้หนูที่เคยเอาถ่านมาขายให้ลุงรึป่าวน่ะ ไอ้เราก็โคตรอาย อ้อมแอ้มตอบไปว่า ใช่ครับ แต่ตอนนี้เลิกขายแล้วครับ
แต่เหตุการณ์ในครั้งนั้น ถึงจะน่าอาย ก็กลับกลายเป็นผลดีส่วนนึง เพราะตอนแรกเราก็กลัวว่าถ้าเพื่อนรู้เราคงโดนล้อ เพราะคนที่มาแข่งวิชาการระดับนี้จะมาจากโรงเรียนประจำอำเภอกันหมด ซึ่งส่วนใหญ่จะฐานะดี มีเรามาจากโรงเรียนขยายโอกาสฯหลังเขาอยู่คนเดียว แต่ไม่เลย เรากลับกลายเป็นที่รักของทุกคน เงิน 20 บาทที่แม่ให้ไปแทบไม่ได้ใช้ มีเพื่อน มีคุณครู เอาขนมมาฝากทุกวัน และลุงศึกษาธิการก็มาเยี่ยมที่บ้าน และคอยช่วยเหลือหาทุนการศึกษามาให้อยู่เรื่อยๆ จนเราเรียนจบมาได้ แม้จะยากลำบากบ้างในบางครั้ง
นึกๆย้อนกลับไป ก็ขำตัวเองดีเหมือนกัน
ยังไม่นับโตมา ที่ทำทุกอย่างที่ได้เงินจริงๆ ทั้งไปรับจ๊อบรื้อรถเกิดอุบัติเหตุที่มีคนตาย ล้างคราบเลือดไม่มีคนกล้าทำ เราไปทำหมด ได้เงินดีด้วย หรือไปเป็นไรเดอร์ส่งอาหารตอนเย็น บางทีต้องส่งอาหารให้ลูกน้องตัวเอง ก็มีเขินๆกันไป
แล้วเพื่อนๆมีเหตุการณ์ หรือประสบการณ์การทำงานที่น่าอายแต่กลับเป็นผลดี กันบ้างมั๊ยครับ เอามาแชร์กันหน่อย