เริ่มแรกเลยคือเราเรียน ป.ตรี ซึ่งไม่ได้ชื่นชอบและอยากเรียนคณะนี้ แต่พ่อแม่ก็อยากให้เรียน จนบางอย่างเราเรียนไปแล้วก็ทำออกมาได้ไม่ดี ไม่ชอบไม่ใช่แบบที่อยากเรียนยอมรับว่าไม่ไหว เลยตัดสินใจออกและคุยกับพ่อแม่ ถ้าเราเรียนต่อก็เหมือนไปพลาญเงินพ่อแม่ เลยคุยกับพ่อแม่ว่าเราจะไปทำงาน จะไม่ใช่เงินพ่อแม่สักบาท แก่ก็เคยบอกว่าหาเงินเองได้แล้วจะทำไรก็ทำได้
ซึ่งเราก็ทำงานของเราไป มีเงินเก็บ เงินได้ไม่เยอะนะคะแต่ไม่ได้ขัดสนอะไร เอาให้ยาย เลี้ยงของน้องบ้าง แม่ชอบมาขอเงิน 1-8พัน ทุกเดือน บอกยืมไปปล่อยกู้ไรงี้
(เราไม่ได้อยู่กับพ่อแม่นะคะ) พอทีนี้พ่อกับแม่มาหาช่วงสงกรานต์
พ่อพูดกับเราว่า : ไม่ต้องทำงานแล้วมีตังค์ส่งให้เรียนก็เรียนไป
แม่พูดว่า : เรียนเถอะ ปวส.ก็ได้ หางานทำช่วง ส.อา.
พูดไม่เหมือนกันไปอีก พอเขากลับเขาก็ชอบโทรมาถามว่าได้ที่เรียนยัง เรียนไหน ได้หรือยัง (เราก็เลยต่อปวส. เพราะเคยถามต่อป.ตรี เขาบอกเอา ปวส.นี้แหละ)
เราก็ออกงานพอเราเริ่มไปเรียนปรับพื้นฐาน ค่ากิน/หอ/ชุด/อุปกรณ์/วัสดุ/ค่าสมัคร ทีนี้เงินเราก็เริ่มจะหมด เลยต้องขอพ่อกับแม่ พอเราขอแม่ก็บอกว่าให้ทำเป็นบัญชีไว้แล้วจบก็เอามาคืนอย่างต่ำเดือนละ3000พัน
คือเรารู้สึกว่า เราทำงานหาเงินแบบไม่ต้องให้เขาส่งเสียก็ดีมีเงินให้เขายืมทุกเดือน แถมเขาก็ได้รายได้จากดอก ลดค่าใช้ให้เขาด้วย แล้วก็บอกกับเราเองว่าให้เราเรียนมีเงินส่งเราก็ให้เราเรียนไป บังคับให้เราเรียน แล้วยังให้เรามาเป็นหนี้เขาคอยรอคืนเงิน ที่จริงไม่ได้อยากเรียนขนาดนั้น แต่เขาก็กล่อม กดดัน คะยั้นคะยอให้เรียนเหลือเกิน หรือเราไม่เรียนดีกว่า
เงินที่เขาให้ไม่พอกินหรอกค่ะ เขาบอกให้แฟนเราออกค่าหอค่าน้ำไฟค่ากินที่ไม่พอให้(ซึ่งเราเห็นว่าเขาเป็นแค่แฟน ไม่ได้แต่งงานจดทะเบียนอะไร เป็นแค่คู่รักวัยรุ่น แฟนก็หาเงินเลี้ยงตัวเองด้วยไม่มีใครให้)
* เรียนที่แม่บอกให้หาทำ ส.อา. บอกแม่แล้วว่าไม่ไหวค่ะ เพราะร้านแถวนี้เป็นร้านกลางคืน กว่าจะเลิกเรียนก็โดนหักเงินจนไม่เหลือ บางร้านก็เลิกดึก
ถ้าเรียนแล้วต้องมาขัดสน ต้องมาเป็นหนี้รอใช้หนี้พ่อแม่ตัวเอง มาทำให้แฟนลำบาก หรือจะไม่เรียนดีค่ะ ตอนเขาขอให้เราเรียนเขาพูดดีเหลือเกิน พอเราเริ่มเรียนกับบอกให้เราใช้คืน คือไม่อยากใช้คืนเพราะตอนแรกเราก็ทำงานของเราดีๆ ไม่ได้ขอหรือบังคับพ่อแม่ว่าจะเรียน เป็นท่านเองที่มาบอกจะส่งเราเรียน จะไม่เรียนดี หรือต้องบอกกับเขาแบบไหนดี
พ่อแม่ไม่ให้ทำงานแต่บังคับให้เรียนต่อ และยังบอกว่าต้องคืนเงินที่ส่งเรียน
ซึ่งเราก็ทำงานของเราไป มีเงินเก็บ เงินได้ไม่เยอะนะคะแต่ไม่ได้ขัดสนอะไร เอาให้ยาย เลี้ยงของน้องบ้าง แม่ชอบมาขอเงิน 1-8พัน ทุกเดือน บอกยืมไปปล่อยกู้ไรงี้
(เราไม่ได้อยู่กับพ่อแม่นะคะ) พอทีนี้พ่อกับแม่มาหาช่วงสงกรานต์
พ่อพูดกับเราว่า : ไม่ต้องทำงานแล้วมีตังค์ส่งให้เรียนก็เรียนไป
แม่พูดว่า : เรียนเถอะ ปวส.ก็ได้ หางานทำช่วง ส.อา.
พูดไม่เหมือนกันไปอีก พอเขากลับเขาก็ชอบโทรมาถามว่าได้ที่เรียนยัง เรียนไหน ได้หรือยัง (เราก็เลยต่อปวส. เพราะเคยถามต่อป.ตรี เขาบอกเอา ปวส.นี้แหละ)
เราก็ออกงานพอเราเริ่มไปเรียนปรับพื้นฐาน ค่ากิน/หอ/ชุด/อุปกรณ์/วัสดุ/ค่าสมัคร ทีนี้เงินเราก็เริ่มจะหมด เลยต้องขอพ่อกับแม่ พอเราขอแม่ก็บอกว่าให้ทำเป็นบัญชีไว้แล้วจบก็เอามาคืนอย่างต่ำเดือนละ3000พัน
คือเรารู้สึกว่า เราทำงานหาเงินแบบไม่ต้องให้เขาส่งเสียก็ดีมีเงินให้เขายืมทุกเดือน แถมเขาก็ได้รายได้จากดอก ลดค่าใช้ให้เขาด้วย แล้วก็บอกกับเราเองว่าให้เราเรียนมีเงินส่งเราก็ให้เราเรียนไป บังคับให้เราเรียน แล้วยังให้เรามาเป็นหนี้เขาคอยรอคืนเงิน ที่จริงไม่ได้อยากเรียนขนาดนั้น แต่เขาก็กล่อม กดดัน คะยั้นคะยอให้เรียนเหลือเกิน หรือเราไม่เรียนดีกว่า
เงินที่เขาให้ไม่พอกินหรอกค่ะ เขาบอกให้แฟนเราออกค่าหอค่าน้ำไฟค่ากินที่ไม่พอให้(ซึ่งเราเห็นว่าเขาเป็นแค่แฟน ไม่ได้แต่งงานจดทะเบียนอะไร เป็นแค่คู่รักวัยรุ่น แฟนก็หาเงินเลี้ยงตัวเองด้วยไม่มีใครให้)
* เรียนที่แม่บอกให้หาทำ ส.อา. บอกแม่แล้วว่าไม่ไหวค่ะ เพราะร้านแถวนี้เป็นร้านกลางคืน กว่าจะเลิกเรียนก็โดนหักเงินจนไม่เหลือ บางร้านก็เลิกดึก
ถ้าเรียนแล้วต้องมาขัดสน ต้องมาเป็นหนี้รอใช้หนี้พ่อแม่ตัวเอง มาทำให้แฟนลำบาก หรือจะไม่เรียนดีค่ะ ตอนเขาขอให้เราเรียนเขาพูดดีเหลือเกิน พอเราเริ่มเรียนกับบอกให้เราใช้คืน คือไม่อยากใช้คืนเพราะตอนแรกเราก็ทำงานของเราดีๆ ไม่ได้ขอหรือบังคับพ่อแม่ว่าจะเรียน เป็นท่านเองที่มาบอกจะส่งเราเรียน จะไม่เรียนดี หรือต้องบอกกับเขาแบบไหนดี