สวัสดีค่ะ ฉันทำงานประจำที่เดียวกันกับสามีชื่อ B ซึ่งหลังเลิกงานฉันทำกิจการกับพ่อแม่ของฉัน โดยที่สามีไม่ช่วยงานในกิจการ และงานบ้านใดๆ จนฉันอยากหย่า หลังจากที่ฉันโพสท์กระทู้นี้
https://pantip.com/topic/42484119 ฉันขอขอบคุณคำแนะนำจากทุกคน นำไปเจรจากับ B ว่าต้องการให้ B มาช่วยงานและให้เงินส่วนแบ่งด้วย แต่ B ไม่เห็นด้วย เขาบอกว่าเขาต้องการต่างคนต่างอยู่ คือ ต้องการทำเฉพาะงานประจำเท่านั้นเขามีงานยุ่ง ไม่อยากต้องมายุ่งยากหาเงินเพิ่มกับกิจการบ้านของฉันค่ะ มีบางความเห็นบอกประมาณว่า สามีมีงานประจำทำ การที่สามีไม่มายุ่งเกี่ยวกับกิจการเงินๆ ทอง ๆ ของครอบครัวภรรยา ก็เป็นเรื่องปกติ
สองสามเดือนต่อมา เราอยู่กันมึนๆ ตึงๆ ฉันชวนฺ B ไปเที่ยวต่างประเทศกับทัวร์แห่งหนึ่ง B อ้างว่าไม่มีเงิน ฉันจึงบอกว่าถ้าไม่ไปก็ไม่ต้องไป เพราะฉันจะชวนพ่อแม่ไปเที่ยวแทน แต่ B ไม่ยอม แล้วเบิกเงินเกินบัญชีไปเที่ยวกับฉัน เบิกไปก็บ่นไป ฉันเลยถามว่าเงินหายไปไหน B ไม่ยอมบอก
B สามีผู้มีรายได้งานประจำ 50000 แต่เงินไม่พอใช้เลย บ้านพักเล็กๆ ของเขา ก็ไม่ได้สนใจดูแลเช็ดกวาดอะไร ทนๆ อยู่ไป เวลาว่างคือนั่งเล่นเกม กับนิยายทั้งวัน ไม่คิดกลับบ้านไปช่วยภรรยา กลับบ้านก็เหมือนจำใจ ไม่คิดช่วยกิจการและงานบ้านใดๆ (แต่คนอื่นขอร้องมีเวลาและเงินเต็มที่) ตัดมาที่ภรรยาอย่างฉันเงินเดือน 40000 ผ่อนบ้าน 26000 ต้องขยันหาเงิน อดออม มีวินัยทุกอย่าง ซึ่งก็มีเงินพอใช้กับคุณภาพชีวิตที่ฉันต้องการ
ดังที่ฉันเคยเล่าว่า B อยู่ที่บ้านพักสำนักงาน กลับบ้านฉันเดือนละไม่กี่วัน หมู่บ้านพักแห่งนี้มีคนพักเป็นร้อยคนค่ะ มีแมวจรตัวหนึ่ง ซึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ N เลี้ยงไว้ ต่อมาแมวป่วย N จึงมาชวนให้ B พาไปหาสัตวแพทย์ B ก็พาไป ขับรถข้ามจังหวัดเป็น 100 กิโลเมตร แถมยังต้องจ่ายเงินรักษาเป็นหมื่น B ยอมจ่ายทันทีไม่มีลังเล เวลาที่ N มีธุระ นำแมวมาฝาก B B ก็จะดูแลแมวให้เป็นอย่างดี ตอนนี้ฉันรู้ว่า B ไม่ได้คิดอะไรกับ N เชิงชู้สาว (แต่ N คิดยังไงฉันไม่รู้)
ล่าสุด B จะชวนฉันขับรถพาแมวไปหาหมอ เนื่องจาก N มีธุระ ฉันบอก B ว่าไม่ว่าง B จึงตวาดใส่ว่าฉันเป็นคนไม่มีน้ำใจ งกแต่หาเงิน ฉันจึงตวาดกลับไปว่าทำงานหนักก็เพื่อตัวเอง ไม่ได้มีเวลาว่างไปดูแลคนอื่นค่ะสะบัดบ๊อบใส่
ฉันพูดกับ B ว่าฉันเหนื่อยที่ต้องหาเงินเพิ่มแล้ว ฉันจะขายบ้านหลังนี้นำเงินคืนให้พ่อแม่ แล้วเราสองคนไปซื้อบ้านจัดสรร กู้ร่วมกัน ผ่อนคนละครึ่ง B ไม่พอใจ บอกว่าผมไม่ได้โลภอยากได้สมบัติแบบคุณ อยู่บ้านพักสำนักงานก็พอแล้ว แล้ว B ก็ไปพูดถึงเพื่อนในที่ทำงานหลายๆ คน หลายๆ แผนก (ที่เงินเดือนน้อยกว่าเราสองคน) พอมีครอบครัวก็ไปอยู่บ้านพ่อแม่บ้าง ปลูกบ้านเองบ้าง ซื้อบ้านจัดสรรบ้าง (ที่นี่มีโรงเรียนดีสำหรับเด็กๆ) ว่าเป็นคนหาเหาใส่หัวทั้งนั้น
เรื่องที่ไม่เคยพูดกันก่อนแต่งงาน จนมาถึงวันนึงก็ทนไม่ได้ ฉันต้องการหย่า ฉันตระหนักแล้วว่าอยู่เป็นแม่หม้ายเดียวดายอยู่กับพ่อแม่ที่รักฉันที่สุด ดีกว่าออกจากบ้านไปอยู่กับ B แต่ทำไมเขาไม่ยอมหย่านะ ฟ้องหย่าก็ไม่ได้ ใครเคยมีประสบการณ์คล้ายๆ กันบ้าง แชร์กันได้นะคะ
สามีภรรยา มีเป้าหมายในชีวิตไม่ตรงกัน อยากหย่า แต่สามีไม่ยอมหย่า
สองสามเดือนต่อมา เราอยู่กันมึนๆ ตึงๆ ฉันชวนฺ B ไปเที่ยวต่างประเทศกับทัวร์แห่งหนึ่ง B อ้างว่าไม่มีเงิน ฉันจึงบอกว่าถ้าไม่ไปก็ไม่ต้องไป เพราะฉันจะชวนพ่อแม่ไปเที่ยวแทน แต่ B ไม่ยอม แล้วเบิกเงินเกินบัญชีไปเที่ยวกับฉัน เบิกไปก็บ่นไป ฉันเลยถามว่าเงินหายไปไหน B ไม่ยอมบอก
B สามีผู้มีรายได้งานประจำ 50000 แต่เงินไม่พอใช้เลย บ้านพักเล็กๆ ของเขา ก็ไม่ได้สนใจดูแลเช็ดกวาดอะไร ทนๆ อยู่ไป เวลาว่างคือนั่งเล่นเกม กับนิยายทั้งวัน ไม่คิดกลับบ้านไปช่วยภรรยา กลับบ้านก็เหมือนจำใจ ไม่คิดช่วยกิจการและงานบ้านใดๆ (แต่คนอื่นขอร้องมีเวลาและเงินเต็มที่) ตัดมาที่ภรรยาอย่างฉันเงินเดือน 40000 ผ่อนบ้าน 26000 ต้องขยันหาเงิน อดออม มีวินัยทุกอย่าง ซึ่งก็มีเงินพอใช้กับคุณภาพชีวิตที่ฉันต้องการ
ดังที่ฉันเคยเล่าว่า B อยู่ที่บ้านพักสำนักงาน กลับบ้านฉันเดือนละไม่กี่วัน หมู่บ้านพักแห่งนี้มีคนพักเป็นร้อยคนค่ะ มีแมวจรตัวหนึ่ง ซึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ N เลี้ยงไว้ ต่อมาแมวป่วย N จึงมาชวนให้ B พาไปหาสัตวแพทย์ B ก็พาไป ขับรถข้ามจังหวัดเป็น 100 กิโลเมตร แถมยังต้องจ่ายเงินรักษาเป็นหมื่น B ยอมจ่ายทันทีไม่มีลังเล เวลาที่ N มีธุระ นำแมวมาฝาก B B ก็จะดูแลแมวให้เป็นอย่างดี ตอนนี้ฉันรู้ว่า B ไม่ได้คิดอะไรกับ N เชิงชู้สาว (แต่ N คิดยังไงฉันไม่รู้)
ล่าสุด B จะชวนฉันขับรถพาแมวไปหาหมอ เนื่องจาก N มีธุระ ฉันบอก B ว่าไม่ว่าง B จึงตวาดใส่ว่าฉันเป็นคนไม่มีน้ำใจ งกแต่หาเงิน ฉันจึงตวาดกลับไปว่าทำงานหนักก็เพื่อตัวเอง ไม่ได้มีเวลาว่างไปดูแลคนอื่นค่ะสะบัดบ๊อบใส่
ฉันพูดกับ B ว่าฉันเหนื่อยที่ต้องหาเงินเพิ่มแล้ว ฉันจะขายบ้านหลังนี้นำเงินคืนให้พ่อแม่ แล้วเราสองคนไปซื้อบ้านจัดสรร กู้ร่วมกัน ผ่อนคนละครึ่ง B ไม่พอใจ บอกว่าผมไม่ได้โลภอยากได้สมบัติแบบคุณ อยู่บ้านพักสำนักงานก็พอแล้ว แล้ว B ก็ไปพูดถึงเพื่อนในที่ทำงานหลายๆ คน หลายๆ แผนก (ที่เงินเดือนน้อยกว่าเราสองคน) พอมีครอบครัวก็ไปอยู่บ้านพ่อแม่บ้าง ปลูกบ้านเองบ้าง ซื้อบ้านจัดสรรบ้าง (ที่นี่มีโรงเรียนดีสำหรับเด็กๆ) ว่าเป็นคนหาเหาใส่หัวทั้งนั้น
เรื่องที่ไม่เคยพูดกันก่อนแต่งงาน จนมาถึงวันนึงก็ทนไม่ได้ ฉันต้องการหย่า ฉันตระหนักแล้วว่าอยู่เป็นแม่หม้ายเดียวดายอยู่กับพ่อแม่ที่รักฉันที่สุด ดีกว่าออกจากบ้านไปอยู่กับ B แต่ทำไมเขาไม่ยอมหย่านะ ฟ้องหย่าก็ไม่ได้ ใครเคยมีประสบการณ์คล้ายๆ กันบ้าง แชร์กันได้นะคะ