เราทำงานในหน่วยงานรัฐ (ไม่ใช่ราชการ) อยากย้ายงานเพราะรู้สึกใกล้หมดไฟกับงานเดิมแล้ว งานล้นมือเรามาก และเบื่อกับความจุกจิกวุ่นวายของหัวหน้า พอเราตั้งใจทำงาน หัวหน้าก็ชอบโยนงานมาให้เราเยอะ เวลาสั่งงานก็ชอบมาเร่งขอให้ส่งงานแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่เคยกำหนดเดดไลน์งานให้เรา และชอบไลน์สั่งงานเราในวันหยุด/นอกเวลางาน เราเครียด และที่เราอยากย้ายฝ่ายมากกว่าอยากลาออก เพราะเราไม่อยากไปสตาร์ทเงินเดือนในอัตราแรกเข้าใหม่ เราอายุ 30+ แล้ว เงินเดือนถึง 25K แล้วทั้งที่ทำงานฝ่ายสนับสนุน และตำแหน่งระดับทั่วไป ถ้าเราลาออกไปทำงานที่อื่น คงไม่มีที่ไหนให้เงินเดือนเราเริ่มต้น 25K หรือแม้แต่ถ้าลาออกจากหน่วยงานแล้วสมัครใหม่ในหน่วยงานเดิม ก็ต้องไปเริ่มเงินเดือนระดับแรกเข้าใหม่
เข้าประเด็นเลยละกัน ถ้าเราจะย้ายฝ่าย เราต้องไปสมัครงานในฝ่ายที่เปิดรับ และต้องยื่นผลคะแนนภาษาอังกฤษ ซึ่งอันนี้ไม่น่าเป็นห่วง เราสามารถไปสอบโทอิคได้จนกว่าจะได้คะแนนผ่านเกณฑ์ แต่ที่เป็นห่วงมากๆคือ ถ้าฝ่ายงานใหม่ที่จะย้ายไปเกิดรับเราแล้ว แต่หัวหน้าเดิมของเราไม่อนุมัติ เราก็ย้ายไปไม่ได้ และเราคิดว่ามีโอกาสสูงมากที่หัวหน้าจะไม่ยอมให้เราย้าย ด้วยหลายสาเหตุ เช่น
1. เราเป็นตัวหลักของงานที่ทำอยู่ตอนนี้ งานที่เราทำ มีเราทำอยู่คนเดียว ไม่มีคนทำแทน มีหัวหน้าซัพพอร์ทบางเรื่อง แต่เขาก็ทำแทนเราทั้งหมดไม่ไหว งานในหน่วยเราแบ่งเป็น 2 พาร์ทใหญ่ๆ เรารับไปคนเดียวพาร์ทนึงแล้ว ยังไม่รวมงานจุกจิกน่าเบื่อที่ไม่มีใครอยากทำอีก (ทำรายงานประชุมหน่วย/ดูแลพัสดุสำนักงาน/ดูแลงาน HR ของหน่วยตัวเอง)
2. หน่วยงานที่เราสังกัดอยู่ หาพนักงานใหม่ยากมาก รับมากี่คนก็อยู่ไม่ทน เพราะงานจุกจิกมาก+นิสัยหัวหน้า+นิสัยเพื่อนร่วมงาน คนมาใหม่ทนไม่ค่อยไหว ต้องเปิดรับใหม่อยู่เรื่อยๆตลอดทั้งปี (เราคือคนที่ต้องประสานงานกับ HR เวลาเปิดรับพนักงานใหม่ และเราอยู่ในเหตุการณ์สัมภาษณ์งานตลอด แต่นี่ไม่ใช่งานหลักเรา)
3. หัวหน้าเคยพูดกับเราเกี่ยวกับเรื่องการย้ายงาน (พูดถึงกรณีของคนอื่น) ว่า ถ้าเขามีลูกน้องขยัน ทำงานดี เขาก็ไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆหรอก แต่ถ้าทำงานไม่ดี ไม่ขยัน เขาก็ไม่รั้งไว้หรอก ซึ่งเราดันเป็นคนที่ขยันและทำงานดี เวลาถึงช่วงประเมินผลงาน หัวหน้าก็ให้คะแนนประเมินดีตลอด จะให้เราเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนทำงานแย่ๆ หรือไม่ตั้งใจทำงาน เราก็ทำไม่ได้ เพราะเราเป็นคนมีความรับผิดชอบ
4. หัวหน้าค่อนข้างสะดวกใจเวลาคุยกับเรา คือไว้วางใจเราในระดับนึง จนบางทีขาดความเกรงใจเลย เพราะเรามีนิสัยรับผิดชอบงาน ไม่บ่น ไม่โวยวาย ไม่หาพวกไว้นินทาใคร (ในห้องทำงาน ลูกน้องส่วนใหญ่มีนิสัยชอบหาพวกนินทาคนอื่น และมีความคิดค่อนข้าง Strike หัวหน้า บางคนทำงานผิดพลาดตลอดจนกลายเป็นภาระหัวหน้า หัวหน้ารู้ทั้งหมด แต่ไม่ทำอะไรนอกจากแอบบ่นระบายให้เราฟัง ส่วนเรานินทาเขาแค่ในพันทิป เขาไม่รู้) เราเหมือนเป็นมือข้างนึงของเขา (ส่วนมืออีกข้างของเขาก็คือรองหัวหน้า ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับหัวหน้ามานาน) ตอนที่หน่วยงานจัดกิจกรรมสัมมนา หน่วยเราต้องส่งตัวแทนไปร่วม 2 คน ตอนแรกหัวหน้าจะชวนรองหัวหน้าไปด้วยกัน แต่รองหัวหน้าไม่ว่าง เขาก็มาชวนเราแทน เราเองก็ค่อนข้างสะดวกใจที่ได้คุยกับหัวหน้า ยกเว้นเรื่องงานที่รู้สึกเอือมระอาเวลาคุยด้วย
5. หัวหน้าเราเหมือนมีสิทธิเด็ดขาดในการตัดสินอนาคตลูกน้อง ในส่วนงานที่เราอยู่ยังมีคนที่ใหญ่กว่าหัวหน้าเราอีกหลายขั้น (หน.สำนักงาน/รอง ผอ./ผอ.) แต่พวกที่อยู่ในวงเล็บแทบไม่ได้รู้จักกับลูกน้องระดับเราๆเลย ทั้งเรื่องประเมินผลการทำงานลูกน้อง เรื่องต่อสัญญาจ้าง หรือเรื่องจะอนุมัติให้ลูกน้องย้ายงาน พวกเขามอบอำนาจการตัดสินใจให้หัวหน้าเราทั้งหมด พวกเขาแค่เป็นคนเซ็นอนุมัติให้เท่านั้น ส่วนฝ่าย HR ไม่ต้องหวังพึ่ง หัวหน้าเราว่ายังไง ฝ่าย HR ก็ว่าตามนั้น
เหตุผลเท่านี้พอ (เท่านี้ก็มากแล้ว) พอเรานึกว่าถ้าเราจะย้ายงาน แต่หัวหน้าคงไม่อนุมัติ เราก็ไม่มีแรงใจที่จะไปสมัครงานในฝ่ายอื่น (เผลอๆถ้าหัวหน้ารู้ว่าเราไปสมัครงานใหม่ก็อาจโกรธเราด้วย เพราะเราไม่บอกเขาก่อนว่าจะหางานใหม่ และหัวหน้าเราก็รู้จักคนไปทั่วหน่วยงาน) ไม่มีแรงใจที่จะไปสอบภาษาอังกฤษเพื่อเอาคะแนนไปยื่นตอนสมัครงานใหม่ เพราะคิดว่าสอบไปก็เสียเงินและเสียเวลาเปล่าๆ เราไม่รู้จะทำยังไงเพื่อให้หัวหน้ายอมให้เราย้ายงาน เราไม่มีกฎหมายแรงงานให้พึ่งพาเวลามีปัญหาด้วย หรือว่าเราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากต้องลาออกเท่านั้น
ถ้าเราจะย้ายฝ่ายในหน่วยงาน แต่หัวหน้าไม่อนุญาต เราจะทำยังไงได้บ้าง (ที่ไม่ใช่ลาออก)
เข้าประเด็นเลยละกัน ถ้าเราจะย้ายฝ่าย เราต้องไปสมัครงานในฝ่ายที่เปิดรับ และต้องยื่นผลคะแนนภาษาอังกฤษ ซึ่งอันนี้ไม่น่าเป็นห่วง เราสามารถไปสอบโทอิคได้จนกว่าจะได้คะแนนผ่านเกณฑ์ แต่ที่เป็นห่วงมากๆคือ ถ้าฝ่ายงานใหม่ที่จะย้ายไปเกิดรับเราแล้ว แต่หัวหน้าเดิมของเราไม่อนุมัติ เราก็ย้ายไปไม่ได้ และเราคิดว่ามีโอกาสสูงมากที่หัวหน้าจะไม่ยอมให้เราย้าย ด้วยหลายสาเหตุ เช่น
1. เราเป็นตัวหลักของงานที่ทำอยู่ตอนนี้ งานที่เราทำ มีเราทำอยู่คนเดียว ไม่มีคนทำแทน มีหัวหน้าซัพพอร์ทบางเรื่อง แต่เขาก็ทำแทนเราทั้งหมดไม่ไหว งานในหน่วยเราแบ่งเป็น 2 พาร์ทใหญ่ๆ เรารับไปคนเดียวพาร์ทนึงแล้ว ยังไม่รวมงานจุกจิกน่าเบื่อที่ไม่มีใครอยากทำอีก (ทำรายงานประชุมหน่วย/ดูแลพัสดุสำนักงาน/ดูแลงาน HR ของหน่วยตัวเอง)
2. หน่วยงานที่เราสังกัดอยู่ หาพนักงานใหม่ยากมาก รับมากี่คนก็อยู่ไม่ทน เพราะงานจุกจิกมาก+นิสัยหัวหน้า+นิสัยเพื่อนร่วมงาน คนมาใหม่ทนไม่ค่อยไหว ต้องเปิดรับใหม่อยู่เรื่อยๆตลอดทั้งปี (เราคือคนที่ต้องประสานงานกับ HR เวลาเปิดรับพนักงานใหม่ และเราอยู่ในเหตุการณ์สัมภาษณ์งานตลอด แต่นี่ไม่ใช่งานหลักเรา)
3. หัวหน้าเคยพูดกับเราเกี่ยวกับเรื่องการย้ายงาน (พูดถึงกรณีของคนอื่น) ว่า ถ้าเขามีลูกน้องขยัน ทำงานดี เขาก็ไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆหรอก แต่ถ้าทำงานไม่ดี ไม่ขยัน เขาก็ไม่รั้งไว้หรอก ซึ่งเราดันเป็นคนที่ขยันและทำงานดี เวลาถึงช่วงประเมินผลงาน หัวหน้าก็ให้คะแนนประเมินดีตลอด จะให้เราเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนทำงานแย่ๆ หรือไม่ตั้งใจทำงาน เราก็ทำไม่ได้ เพราะเราเป็นคนมีความรับผิดชอบ
4. หัวหน้าค่อนข้างสะดวกใจเวลาคุยกับเรา คือไว้วางใจเราในระดับนึง จนบางทีขาดความเกรงใจเลย เพราะเรามีนิสัยรับผิดชอบงาน ไม่บ่น ไม่โวยวาย ไม่หาพวกไว้นินทาใคร (ในห้องทำงาน ลูกน้องส่วนใหญ่มีนิสัยชอบหาพวกนินทาคนอื่น และมีความคิดค่อนข้าง Strike หัวหน้า บางคนทำงานผิดพลาดตลอดจนกลายเป็นภาระหัวหน้า หัวหน้ารู้ทั้งหมด แต่ไม่ทำอะไรนอกจากแอบบ่นระบายให้เราฟัง ส่วนเรานินทาเขาแค่ในพันทิป เขาไม่รู้) เราเหมือนเป็นมือข้างนึงของเขา (ส่วนมืออีกข้างของเขาก็คือรองหัวหน้า ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับหัวหน้ามานาน) ตอนที่หน่วยงานจัดกิจกรรมสัมมนา หน่วยเราต้องส่งตัวแทนไปร่วม 2 คน ตอนแรกหัวหน้าจะชวนรองหัวหน้าไปด้วยกัน แต่รองหัวหน้าไม่ว่าง เขาก็มาชวนเราแทน เราเองก็ค่อนข้างสะดวกใจที่ได้คุยกับหัวหน้า ยกเว้นเรื่องงานที่รู้สึกเอือมระอาเวลาคุยด้วย
5. หัวหน้าเราเหมือนมีสิทธิเด็ดขาดในการตัดสินอนาคตลูกน้อง ในส่วนงานที่เราอยู่ยังมีคนที่ใหญ่กว่าหัวหน้าเราอีกหลายขั้น (หน.สำนักงาน/รอง ผอ./ผอ.) แต่พวกที่อยู่ในวงเล็บแทบไม่ได้รู้จักกับลูกน้องระดับเราๆเลย ทั้งเรื่องประเมินผลการทำงานลูกน้อง เรื่องต่อสัญญาจ้าง หรือเรื่องจะอนุมัติให้ลูกน้องย้ายงาน พวกเขามอบอำนาจการตัดสินใจให้หัวหน้าเราทั้งหมด พวกเขาแค่เป็นคนเซ็นอนุมัติให้เท่านั้น ส่วนฝ่าย HR ไม่ต้องหวังพึ่ง หัวหน้าเราว่ายังไง ฝ่าย HR ก็ว่าตามนั้น
เหตุผลเท่านี้พอ (เท่านี้ก็มากแล้ว) พอเรานึกว่าถ้าเราจะย้ายงาน แต่หัวหน้าคงไม่อนุมัติ เราก็ไม่มีแรงใจที่จะไปสมัครงานในฝ่ายอื่น (เผลอๆถ้าหัวหน้ารู้ว่าเราไปสมัครงานใหม่ก็อาจโกรธเราด้วย เพราะเราไม่บอกเขาก่อนว่าจะหางานใหม่ และหัวหน้าเราก็รู้จักคนไปทั่วหน่วยงาน) ไม่มีแรงใจที่จะไปสอบภาษาอังกฤษเพื่อเอาคะแนนไปยื่นตอนสมัครงานใหม่ เพราะคิดว่าสอบไปก็เสียเงินและเสียเวลาเปล่าๆ เราไม่รู้จะทำยังไงเพื่อให้หัวหน้ายอมให้เราย้ายงาน เราไม่มีกฎหมายแรงงานให้พึ่งพาเวลามีปัญหาด้วย หรือว่าเราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากต้องลาออกเท่านั้น