ตามหัวข้อกระทู้นะคับ ผมอยากเล่าประสบการณ์การเป็นมะเร็ง เผื่อมีใครเข้ามาอ่านแล้วจะได้รับประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย หรืออาจไม่ได้อะไรเลย

เรื่องเริ่มต้นเมื่อช่วงต้นปี 2565 น่าจะประมาณเดือนมีนาคม ผมมีอาการไอ เจ็บคอ ซึ่งผมก็คิดว่าปกติ เนื่องจากผมทำงานพูดคุย สื่อสารตลอดเวลา ปีนึงจะเป็นหลอมลม หรือ คอ อักเสบ ครั้งสองครั้งอยู่แล้ว ผมจึงไปหาหมอรับยามาทาน ผ่านไป 2-3 วันก็หายแบบทุกครั้ง ไม่มีปัญหาอะไร

ต่อมาเดือนเมษายน ,พฤษภาคม ,มิถุนายน ผมก็มีอาการไอ เจ็บคอ เหมือนเดิมโดยเป็นตลอดเดือนละ 1-2 ครั้ง ไปหาหมอตรวจก็จะบอกว่าเป็นหลอมลมอักเสบ ทอมซิลอักเสบ รับยามากินก็จะดีขึ้น แต่ผ่านไป 1-2 สัปดาห์ก็จะเป็นอีก ช่วงนี้กินยา อมยา ยาพ่นคอ ตลอด

พอเข้าเดือนกรกฏาคมที่บ้านติดโควิดกันครับ ซึ่งผมก็ไม่รอดติดกันทั้งบ้านทั้งไข้ ทั้งไอ ทั้งเจ็บคอ กักตัวอยู่บ้าน รักษาตามอาการไปผ่านไป 1 อาทิตย์ก็หายไม่สบายกันหมด ยกเว้นผมที่ยังไอ เจ็บคอ และมีอาการเพิ่มเติมคือมักมีไข้อ่อนๆช่วงตอนเย็น ทานยาพาราก็ดีขึ้นเหมือนจะหาย แต่ตอนเย็นวันถัดไปก็จะมีไข้อีก เป็นเกือบทุกวัน ไปหาหมอก็บอกว่าอาจเป็น LONG COVID ก็รักษากันไปตามอาการ

เดือนสิงหาคม อาการไอ เจ็บคอ ไข้อ่อนๆก็ยังเป็นเรื้อรังอยู่ ไปหาหมอครั้งนี้ หมอให้ X-ray ปอด ผลออกมาเป็นหลอดลมอักเสบ จากที่ผมดูก็น่าจะใช่ในรูปมันเหมือนจะมีเส้นๆแผ่ออกมาคล้ายๆรากต้นไม้ หมอมันคือเส้นเลือด หลอมลม เป็นเพราะเราไอหนักมากจนเส้นบวม อักเสบ โอเค ฟังแล้วตรงอยู่ที่คอเราเส้นเลือดนูนขึ้นมาเห็นชัด แถวหน้าอกก็เหมือนเห็นเส้นเลือดใต้ผิวหนังชัดขึ้น ดังนั้นรับยามากินกลับบ้าน

เดือนกันยายน อาการต่างๆก็ยังไม่ดีขึ้น ภรรยาเลยแนะนำว่าลองเปลี่ยนโรงพยาบาลมั้ย เจอหมอที่อื่นบ้าง เค้ามีความคิดเห็น หรือ แนวทางรักษาอื่นที่แตกต่าง ผมก็เลยเปลี่ยนไปตรวจที่โรงพยาบาลอื่น เล่าอาการให้หมอฟัง หมอก็บอกว่าอาจจะเป็นกรดไหลย้อนเพราะมีผลให้ ไอ เจ็บคอ แสบร้อนทรวงอกเหมือนกัน หมอเลยให้ยาลดกรดไหลย้อนมากิน โอเค คราวนี้หลังกินยา อาการดีขึ้น น่าจะมาถูกทาง จะหายแล้ว

เดือนตุลาคม กลับมาไอ เจ็บคอหนักอีกแล้ว ไข้อ่อนๆตอนเย็นก็ยังมี เพิ่มเติมตอนนอนมักจะมีเหงื่อออก ทั้งที่เปิดแอร์นอนตลอด ครั้งนี้กลับไปหาหมอที่โรงพยาบาลแรก หมอจับ X-ray ปอด ผลออกมาปอดปกติ เส้นๆที่แผ่เหมือนรากก็ไม่มีแล้ว หมอก็บอกว่าทอมซิลอักเสบ รักษาอาการเหมือนเดิม

มาถึงตอนนี้ผมกับแฟนเริ่มเอะใจกับน้ำหนักแล้วคับ ปกติผมจะหนักประมาณ 62 กก. ช่วงที่ผ่านมาน้ำหนักจะลด 1-2 กก. ก็เลยไม่ได้สนใจคิดว่าเจ็บคอเลยกินน้อยลงบ้าง แต่จริงๆแล้วน้ำหนักค่อยๆลดลงมาเรื่อยๆ เดือนตุลาคมถ้าจำไม่ผิดผมน่าจะหนัก 54-55 กก. ผอมลงแล้วคับ

เดือนพฤศจิกายน ไอ เจ็บคออย่างหนัก พูดไป ไอไป แทบจะไม่ได้พูดคุยกับใคร ต้องหยุดงานบ่อยมาก กับภรรยาก็แทบไม่ได้คุยกันเลย สื่อสารกันผ่านโทรจิตแทน ร็สึกเจ็บหน้าอกมากขึ้น ปวดคอ ปวดไหล่กับแขนข้างซ้าย ตกเย็นก็จะเป็นไข้อ่อนๆ กลางคืนนอนก็เหงื่อออกจนเสื้อเปียก ที่นอนเปียกทั้งที่เปิดแอร์ น้ำหนักเหลือประมาณ 50 กก. ไปหาหมอที่โรงพยาบาลแรกอีกครั้ง หมอน่าจะจำผมได้แล้ว เพราะผมยังจำหมอได้เลย เจอคนเดิมตลอด หมอบอกน่าจะเป็นเรื้อรังไม่หายเพราะงานที่ทำ ถ้าจะให้หายคงต้องลาออกจากงาน ในใจผมนี่ หืมมมมมมมม รับยากลับบ้านคับ

เดือนธันวาคม ช่วงต้นเดือนอาการทุกอย่างอยู่ครบ ไอ เจ็บคอ เจ็บหน้าอก เป็นไข้ ปวดคอ ปวดแขน นอนเหงื่อออก เพิ่มเติมไอหนักขึ้นบ่อยขึ้น จนบ้างครั้งอาเจียน ร็สึกชาๆช่วงหน้าออกและแขนซ้าย ภรรยาแนะนำเปลี่ยนโรงพยาบาล ไม่ไป 2 ที่แรกแล้ว ที่นี่เป็นโรงพยาบาลที่ 3 หมอฟังอาการแล้วสันนิษฐานว่าอาจไทรอยด์เป็นพิษ ถ้างั้นตรวจไทรอยด์ให้ผมเลยคับหมอ ผลออกมาปกติคับไม่ได้เป็นไทรอยด์

มาถึงตอนนี้น้ำหนักผมเหลือประมาณ 46-47 กก. ภรรยาบอกว่าผมซูบผอมลงมาเยอะ นั่งหมดเรี่ยวแรงอยู๋ที่มุมโซฟา ดูทรุดโทรมมาก อาขเพราะตอนกลางนอนไม่ค่อยหลับ ไอ เจ็บคอ เจ็บหน้าอก เจ็บแขนไปหมด จะนอนหงาย นอนตะแคง นอนคว่ำก็ไม่ดีขึ้นเลย อาหารก็กินได้น้อย

ช่วงกลางเดือนธันวาคมมีวันหนึ่งผมเจ็บแบบไม่ไหวแล้วจึงออกไปหาหมอ โดยคราวนี้ผมกับภรรยา ตั้งใจที่จะไม่เจอหมอคนเดิม จึงบอกอาการกับฝ่ายคัดกรองว่าวันนี้มีอาการเจ็บหน้าอก หายใจลำบาก มีไข้ ไม่บอกเกี่ยวกับเรื่องไอ วันนี้เลยได้ไปเจอหมอหัวใจ หมดตรวจเบื้องต้นปกติ เลยส่งไปหาหมอปอด 

หมอปอดฟังอาการ ดูประวัติ X-ray แล้วแนะนำให้ทำ CT Scan หมออกใบรับรองขอทำ CT Scan ส่งประกันทำเรื่องอนุมัติ ประมาณ 1 อาทิตย์ก็ได้คิวทำ CT ทราบผลวันถัดไปซึ่งเป็นวันคริสต์มาสอีฟ 24 ธันวาคม จำแม่นเลยคับ หมอนัดมาฟังผลพบว่ามีก้อนเนื้อขนาดประมาณ 9 ซม. อยู่ระหว่างปอด หัวใจ และหลอดลม โดยค่อนไปทางซ้าย เบียดทับหัวใจและเส้นเลือดใหญ่.........

ติดตามต่อความเห็นที่ 7 นะคับ