JJNY : พิธาเลคเชอร์นิสิตมศว│Netflix เคลื่อนไหว หลัง'โน้ส อุดม'โพสต์│ขึ้นราคาหมู 2 บาท│“ฮุน เซน”หารือผู้นำรบ.ทหารเมียนมา

พิธา เลคเชอร์นิสิต มศว ชี้ ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ คือเป้าหมายไม่ใช่วิธีการ ฉบับก้าวไกลต้องมี ‘4 ส.’ 
https://www.matichon.co.th/politics/news_4564480
 
 
พิธา เลคเชอร์นิสิต มศว ลั่นหาก ‘ก้าวไกล’ เป็นรบ. ดันศก.สร้างสรรค์ – ซอฟต์พาวเวอร์ ด้วย 4 ส.
 
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ห้องประชุมชั้น 2 คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล(ก.ก.) บรรยายพิเศษหัวข้อ “Soft Power ไทยจะไปต่ออย่างไรในเวทีโลก” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาเศรษฐกิจการเมืองระหว่างประเทศ ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีนิสิตให้ความสนใจรับฟังจนเต็มห้องประชุมชั้น 2 คณะสังคมศาสตร์
 
นายพิธา กล่าวว่า วันนี้เป็นการมาพูดที่ มศว ครั้งแรก ไม่ได้ต้องการมาเลกเชอร์หรือบรรยายฝ่ายเดียว แต่ต้องการเป็น Facilitator (กระบวนกร) ที่นำกระบวนการเรียนรู้ ในห้องเรียนที่เป็น Flipped classroom ซึ่งเน้นการมีส่วนร่วมของผู้เรียน การแลกเปลี่ยนและการถาม-ตอบ แต่ละคำตอบไม่มีถูกหรือผิด
ทั้งนี้ขอแบ่งเนื้อหาเป็น 3 ส่วนคือ 

1.หาความหมายของ Power และประเภทของ Power ความแตกต่างระหว่าง Hard Power กับ Soft Power และ Soft Power กับ Pop Culture 
2.Orange Economy คืออะไร 
และ 3.อนาคตของซอฟต์พาวเวอร์ไทย 

โดยพิธาตั้งคำถามให้นิสิตตอบและแลกเปลี่ยนกัน ชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลทำขณะนี้คือการสนับสนุนระดับอุตสาหกรรมเป็นรายอุตสาหกรรม เช่น กีฬา การท่องเที่ยว อาหาร แต่สิ่งที่ควรจะเป็นคือการยกระดับเป็น Orange Economy หรือซอฟต์พาวเวอร์เช่นเดียวกับที่ประเทศเกาหลีใต้ทำ ซึ่งสร้างด้วย content, creativity และ culture
 
นายพิธา กล่าวว่า ซอฟต์พาวเวอร์คือเป้าหมาย (Ends) ไม่ใช่วิธีการ (Means) เป็นเรื่องระยะยาวมากกว่าระยะสั้น และคำนึงถึงเรื่องคุณค่าทางการเมือง (Political Values) ของประเทศมากกว่าเรื่องมูลค่า เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและนโยบายต่างประเทศ เช่น ในความเห็นของตน ซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยคือความหลากหลาย (Diversity) อยากให้คนทั่วโลกจดจำว่าไทยคือประเทศแรกๆ ในเอเชียที่ผ่านกฎหมาย “สมรสเท่าเทียม” คืนสิทธิและศักดิ์ศรีให้คู่รักทุกเพศแต่งงานกันได้
 
โดยหากตนและพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล บทบาทของรัฐเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์และซอฟต์พาวเวอร์ ต้องทำให้เกิด 4 ส. ประกอบด้วย 
1.เสรีภาพ คือการปล่อยของเพื่อลองผิดลองถูกในสังคมที่อดทนอดกลั้นได้ เช่น แก้ไขกฎหมายที่กดทับการแสดงออก 
2.สวัสดิการ คือการให้คนในวงการสามารถคิด ทำ สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างเต็มที่ เช่น สัญญาแรงงานต้องเป็นธรรม 
3.ส่งเสริม เช่น ไทยควรสนับสนุนงบประมาณด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์อีกประมาณ 10 เท่า 
และ 4.ศึกษา คือการสนับสนุนการศึกษาด้านศิลปะ เพื่อเพิ่มผู้มีความสามารถหรือผู้มีพรสวรรค์ (Talent) ในวงการให้มากขึ้น
 
จากนั้นช่วงท้ายเป็นการถามตอบ มีนิสิตถามคำถามอย่างหลากหลาย โดยนายพิธา กล่าวชื่นชมและระบุว่า การประเมินว่าห้องเรียนนั้นประสบความสำเร็จหรือไม่ ไม่ได้มองจาก Performance ว่าผู้เรียนตอบคำถามถูกต้องหรือไม่ แต่มองจาก Participation คือผู้เรียนมีส่วนร่วมในห้องเรียนมากน้อยแค่ไหน ซึ่งห้องเรียนในวันนี้เป็นหนึ่งในห้องเรียนที่ตนรู้สึกประทับใจมาก



Netflix เคลื่อนไหว หลัง 'โน้ส อุดม' โพสต์คืนกล่อง-จาน ชาวเน็ตแห่คอมเมนต์สนั่น
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8220886

Netflix เคลื่อนไหว หลัง ‘โน้ส อุดม’ โพสต์คืนกล่อง-จาน ชาวเน็ตคอมเมนต์สนั่น คุณป้ารายหนึ่งเผย “สนุกมากเลย เปิดโลกวัยเกษียณของฉัน” คนแห่ชื่นชม
 
วันที่ 7 พ.ค. 2567 หลังจาก Netflix ปล่อยทอล์กโชว์ “เดี่ยวสเปเชียล ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์” ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากผู้คนและคนดังหลากหลายวงการ โดยเฉพาะช่วงที่พูดถึงเรื่อง ความพอเพียง ทำให้มีคนบางกลุ่มที่รับไม่ได้ ถึงขั้นโพสต์ชวนให้ยกเลิกการเป็นสมาชิก Netflix และนำกล่องไปคืน
 
เพจเฟซบุ๊กทางการของ Netflix ประเทศไทย ผู้ให้บริการความบันเทิงสตรีมมิ่ง ได้แชร์โพสต์ของ โน้ส อุดม แต้พานิช ที่ถือกล่องและจาน Netflix และเขียนข้อความระบุว่า “ทนกระแสกดดันไม่ไหว โน้ส อุดม บุกสำนักงานใหญ่ ตัดสินใจคืนจานและกล่อง ไม่ดูเดี่ยวมันแล้ว พอกันที”
 
โดยเพจ Netflix ได้เขียนแคปชั่นประกอบว่า “เสียใจมากครับ” ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชอบกันเป็นจำนวนมาก ขณะที่ส่วนหนึ่งก็ไม่เห็นด้วยกับท่าทีดังกล่าว

นอกจากนี้ มีคุณป้ารายหนึ่งเข้ามาคอมเมนต์ว่า “สนุกมากเลย เปิดโลกวัยเกษียณของฉัน” ทำให้มีคนเข้ามาชื่นชมคุณป้าเป็นจำนวนมากว่า น่ารักมาก นี่แหละผู้ใหญ่ที่น่านับถือ น่าเคารพ

https://www.facebook.com/NetflixTH/posts/pfbid031xwQRtg3vxbbrqqefHhhsRFVoXTNGjaCMt25VNV4jhog9KVb9DDdyeP1Hz7Frcygl


  
ขึ้นราคาหมู 2 บาท สู่เป้า 80 บาท วันนี้ (7 พ.ค. 67) อุ้มเกษตรกรพ้นขาดทุน
https://www.prachachat.net/economy/news-1557558

ราคาหมูหน้าฟาร์ม ปรับขึ้น 2 บาทวันนี้ (7 พ.ค. 67) ดันราคาหมู เป็นไปตามเป้า 80 บาทต่อกิโลกรัม ช่วยเกษตรกรพ้นขาดทุน หลังหมูเถื่อนถล่ม ยังเดินหน้าตัดวงจรทำหมูหันต่อ
 
วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ พิจารณาปรับราคาสุกร มีชีวิตหน้าฟาร์ม (สัปดาห์ที่ 19/2567) วันพระที่ 7 พฤษภาคม 2567 กก.ละ 2 บาท จากก่อนหน้านี้ที่ตรึงราคาไว้ในงาดวันพระที่ 1 พฤษภาคม 2567

เบื้องต้น หาปรับราคาแล้ว จะมีผลให้ราคาหน้าฟาร์มปรับขึ้นเป็น กก.ละ 80 บาท ตามเป้าหมาย ช่วยเกษตรกรให้พ้นจากการขาดทุนหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมูเถื่อนและต้นทุนที่ปรับสูงขึ้นก่อนหน้านี้ แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าราคาหมูขุนดังกล่าว เป็นราคาสมาคมแนะนำ ขายจริงยังไปไม่ถึง 80 แต่จะ สูงสุดราคาอยู่ที่ 76 บาทเท่านั้น
 
สำหรับการปรับราคาครั้งนี้ สอดรับกับสหกรณ์ผู้เลี้ยงสุกรชลบุรี จำกัด ที่ได้ประกาศแจ้งสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร ว่า ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม วันพระที่ 7 พฤษภาคม 2567 ปรับขึ้นอีก 2 บาทต่อกิโลกรัม จากฐานเดิม หลังจากเมื่อวันพระที่ 1 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ภาคตะวันออก แจ้งประกาศราคาแนะนำสุกรขุน อยู่ที่ 76 บาทต่อกิโลกรัม ดังนั้นราคาจะ อยู่ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัมเช่นกันทำล่วงหน้าไปประมาณ
ส่วนการเดินหน้าจัดทำโครงการตัดวงจรสุกร (หมูหัน) ก็จะยังมีการดำเนินการต่อเนื่องต่อไปอีก โดยกรมปศุสัตว์ กำลังตั้งคณะทำงานและตรวจสอบร่วมกับสมาคม เพื่อดำเนินมาตรการนี้
 
ทั้งนี้ ในปัจจุบันได้มีการจัดทำหมูหันไปแล้ว 4 หมื่นตัว จากเป้าหมาย 450,000 ตัว กำหนดภายในระยะเวลา 90 วัน เริ่มวันที่ 11 มีนาคม 2567 เป็นต้นมา ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 11 มิถุนายน 2567
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่