JJNY : 5in1 ‘พิธา’ควงส.ส.ระยอง│‘ศิริกัญญา’ชี้‘อุ๊งอิ๊ง’ไร้ตำแหน่ง│ยุบก้าวไกลแน่│ศก.เอเชีย-แปซิฟิกขยายตัว│ปะการังฟอกขาว

‘พิธา’ ควง ส.ส.ระยอง ก้าวไกล รับฟังชาวบ้าน ได้รับผลกระทบ เหตุเพลิงไหม้ จ่อสะท้อนให้ครม.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4561269

‘พิธา’ ควง ส.ส.ระยอง ก้าวไกล 5 คน รับฟังปัญหาชาวบ้านหนองพะวา จ.ระยอง ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ โรงงานเก็บกากสารเคมีอุตสาหกรรมไฟไหม้ เพื่อสะท้อนปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี จี้เร่งขนย้ายสารเคมีให้เร็วที่สุด

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส.ระยอง 5 คน ประกอบด้วย น.ส.กมนทรรศน์ กิตติสุนทรสกุล นายกฤช ศิลปชัย นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ และนางสว่างจิตต์ เลาหะโรจนพันธ์ จัดกิจกรรม ‘Mini Town Hall Meeting @หนองพะวา’ ที่วัดหนองพะวา ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง

เปิดโอกาสให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีเพลิงไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมีวินโพรเสส ได้มีส่วนร่วมในการสะท้อนปัญหา ความต้องการ รวมถึงแนวทางในการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น โดยทางพรรคก้าวไกลจะนำปัญหาที่ได้รับฟัง ไปเร่งจัดทำเป็นข้อสรุป เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งความเดือดร้อนของประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้เร่งขนย้ายสารเคมีออกไปจากโรงงานนี้โดยเร็วที่สุด

ต่อมามีแกนนำชาวบ้านได้ยื่นหนังสือผ่านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้ไปเร่งรัฐบาลในการจัดการปัญหาผลกระทบจากโรงงานดังกล่าวโดยเร็ว โดยเฉพาะการเร่งขนกากสารเคมีออกไปจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด หลังเกิดเหตุไฟไหม้ผ่านไป 2 สัปดาห์แล้ว ยังไม่มีการดำเนินการขนย้ายสารเคมีแต่อย่างใด


 
‘ศิริกัญญา’ ชี้ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ตำหนิแบงก์ชาติ ไม่มีแรงกระเพื่อม เหตุไร้ตำแหน่งทางเศรษฐกิจ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4561233

‘ศิริกัญญา’ ชี้ ’อุ๊งอิ๊ง‘ ตำหนิแบงก์ชาติ ไม่มีแรงกระเพื่อมเหตุไร้ตำแหน่งทางศก.มอง การให้เหตุผลสั้นเกินไปกระทบวงกว้าง ทำต่างชาติหวั่น แนะ หากจะกดดัน ให้เสนอทบทวนเป้าหมายเงินเฟ้อ-กำชับแทนพูดต่อสาธารณะ
 
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวแถลงบนเวที 10 เดือน ที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10 พาดพิงทำนองตำหนิธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) ที่ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการบริหารเศรษฐกิจ เป็นการบีบการทำหน้าที่ของผู้ว่าฯ แบงก์ชาติหรือไม่ ว่า การพูดในครั้งนี้ คงไม่ได้สร้างความกดดันมากไปกว่าที่รัฐบาลเคยทำมาอยู่แล้ว เพราะแรงกดดันจากรัฐบาลที่มีไปถึงแบงก์ชาติ ไม่ได้เป็นสิ่งที่เพิ่งเกิดตอนที่ น.ส.แพทองธารพูด ทั้งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต่างก็พุ่งเป้าไปที่แบงก์ชาติ ที่ดำเนินนโยบายการเงินไม่สอดคล้องกับรัฐบาลอยู่แล้ว ซึ่งแรงกดดันก็คงไม่ได้ต่างจากเดิม อีกทั้งแรงกดดันจากฝั่งรัฐบาลมีน้ำหนักมากกว่า น.ส.แพทองธาร ที่ขณะนี้ยังไม่มีตำแหน่งใดในรัฐบาล หรือตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับด้านเศรษฐกิจ
 
น.ส.ศิริกัญญากล่าวต่อว่า แต่สิ่งที่มีนัยยะมากๆ ในฐานะหัวหน้าพรรค คือการพูดถึงกฎหมายที่ให้อิสระกับแบงก์ชาติ และยังระบุอีกว่ากฎหมายที่ให้อิสระมากเกินไป เป็นอุปสรรคในการดำเนินนโยบายของรัฐ ทางฝั่งนิติบัญญัติก็ต้องเก็งข้อสอบแล้วว่า ขณะนี้จะมีการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธนาคารแห่งประเทศไทย จากทาง ส.ส. พรรค พท. หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะครั้งล่าสุดที่มีการแก้ไขคือปี 2550 ที่แก้ไขให้แบงก์ชาติมีความเป็นอิสระมากขึ้นด้วยซ้ำ
 
เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าจับตา ที่ไม่ใช่แค่จากประชาชน แต่รวมถึงนักลงทุนต่างชาติ ที่จะมองเข้ามาว่า แบงก์ชาติจะคงความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบายการเงินอยู่หรือไม่ วิธีการที่จะกดดันแบงก์ชาตินั้นมีหลายวิธี ที่ไม่ต้องสื่อสารต่อสาธารณะก็สามารถทำได้ หรือถ้าต้องการให้เป็นทางการที่สุด คือการให้มีการทบทวนเป้าหมายเงินเฟ้อของแบงก์ชาติ ให้มีกรอบที่แคบลง และพยายามกำชับให้แบงก์ชาติปฏิบัติตามกรอบอย่างเคร่งครัดมากขึ้น แต่การออกมาพูดเพียงแค่สั้นๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของสปีช ก็ค่อนข้างจะส่งผลกระทบต่อวงกว้าง อย่างที่เราเห็นว่า สื่อต่างชาติเริ่มนำเสนอข่าวเรื่องนี้แล้ว
 
เมื่อถามว่า การพาดพิงตำหนิออกสื่อ มองว่ามีจะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า จริงๆ การทำงานของแบงก์ชาติเป็นสิ่งที่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้อยู่แล้ว ทั้งในฐานะประชาชนและทางฝั่งการเมือง แต่การให้เหตุผลต่อแบงก์ชาติที่สั้นเกินไป คนก็อาจจะไม่เข้าใจหรือเข้าใจผิดได้ ยกตัวอย่าง การโบ้ยความผิดว่าการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล ดำเนินได้ไม่ค่อยดีเพราะแบงก์ชาติมีอิสระมากเกินไป การให้ข้อมูลแบบนี้ก็อาจจะมีปัญหาได้
 
น.ส.ศิริกัญญากล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของแบงก์ชาติหรือธนาคารกลางทั่วโลก กับเป้าหมายของรัฐบาล ไม่มีวันเหมือนกันอยู่แล้ว เพราะรัฐบาลก็มุ่งหวังให้เศรษฐกิจในระยะสั้น เติบโตไปในทิศทางที่ดีและเร็ว แต่สำหรับแบงก์ชาติเขามองในระยะยาวกว่านั้น ดังนั้นแบงก์ชาติไม่ได้สนใจว่า เศรษฐกิจปีหน้าจะเติบโตเท่าไหร่อย่างไร แต่จะให้ความสำคัญกับความมั่นคง
 
และเสถียรภาพของเศรษฐกิจในระยะกลาง เป็นต้น ดังนั้น คุณจะทำให้นโยบายการเงินของแบงก์ชาติ สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งความเป็นอิสระของธนาคารกลางก็มีด้วยเหตุผลว่า ป้องกันไม่ให้แบงก์ชาติถูกครอบงำ หรือถูกแทรกแซง เพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายระยะสั้นของรัฐบาล ดังนั้นจะมองว่า ความเป็นอิสระของแบงก์ชาติ เป็นอุปสรรคที่ทำให้รัฐบาลต้องดำเนินนโยบายขาดดุล ก็เป็นเรื่องผิดฝาผิดตัว หากคุณต้องการกระตุ้นในระยะสั้น คุณต้องใช้นโยบายการคลังอยู่แล้ว



รายการ เอื้อยtalk คุยกับ “ไพศาล พืชมงคล” ยุบก้าวไกลแน่ แต่จะยิ่ง ฉิบ_าย ใหญ่
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_4561507

รายการเอื้อยTalk คุยกับ ไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี วิเคราะห์ พรรคก้าวไกลไม่ได้เจอคู่ต่อสู้ที่ฉลาด คนเลือกก้าวไกลเพราะต้องการความเปลี่ยนแปลง มองทักษิณต้องการมีอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ เพราะมีลักษณะความเป็นผู้นำระดับโลก เป็นคนอัจฉริยะ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก ขยายตัว 4.5% ในปี 2567
https://www.dailynews.co.th/news/3403458/

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( ไอเอ็มเอฟ ) เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ การเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในปีนี้ จะอยู่ที่ 4.5% ซึ่งลดลงจากการเติบโตที่ระดับ 5% เมื่อปี 2566.

สำนักข่าวซินหัวรายงานจากประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ว่ารายงาน “แนวโน้มเศรษฐกิจระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” โดยไอเอ็มเอฟ ระบุว่าเอเชีย-แปซิฟิกจะยังคงเป็นภูมิภาคซึ่งมีพลวัตมากที่สุดในโลก และมีส่วนส่งเสริมการเติบโตทั่วโลกราว 60% ในปีนี้

ไอเอ็มเอฟกล่าวว่า ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกโอบรับตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่หลากหลาย ตั้งแต่การบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่งของประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไปจนถึงการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของการท่องเที่ยวในหลายประเทศแถบหมู่เกาะแปซิฟิก

ปัจจุบัน ความเสี่ยงระยะใกล้ของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกอยู่ในจุดสมดุล ภาวะเงินเฟ้อที่ลดลงและแนวโน้มดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ของการควบคุมเงินเฟ้อ โดยไม่ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

ขณะเดียวกัน การเติบโตที่แข็งแกร่งเกินคาดของเศรษฐกิจยุโรปและสหรัฐ จะช่วยกลุ่มผู้ส่งออกในเอเชียเติบโตด้วย อย่างไรก็ตาม การกระจายตัวทางภูมิเศรษฐศาสตร์และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ยังคงเป็นภัยเสี่ยงขาลงรุนแรง ต่อการเติบโตระยะกลางของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่