แต่สำหรับแบตเตอรี่ลูกปัจจุบันที่ใช้อยู่มีความแตกต่างออกไปจากลูกก่อนๆ ก็คือว่า 

เป็นแบตเตอรี่ที่ถือว่าใช้งานนานที่สุดในบรรดาที่ใช้มา  ซึ่งแบตลูกนี้พอถึงอายุเข้าปีที่ 3 ก็จะเริ่มแสดงอาการไฟอ่อนให้เห็นเหมือนแบตเตอรี่ลูกก่อนๆ ที่เคยใช้มานั่นแหละครับ  แต่รอบนี้แทนที่จะจับเปลี่ยนแบตเลยผมเลยอยากลองทำแบบนี้ดูว่าจะเป็นอย่างไร

กะว่าจะชาร์จไฟเพื่อใช้งานต่อสักหน่อย จะยังไม่เปลี่ยนเลย เพราะช่วงนั้นไม่ได้มีแพลนเดินทางไกลหรือไปแคมป์ปิ้งในป่า

พอดีว่าเมื่อหลายปีก่อนผมซื้อที่ ชาร์จแบตเตอรี่ไว้อันหนึ่ง ตัวเล็กๆ กะเอาไว้สำหรับชาร์จแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ (เป็นแบตแห้งความจุ 9 Ah)

เพราะบางทีมอเตอร์ไซค์จอดนาน ไม่ได้ขี่ทุกวัน เลยเอาไว้ชาร์จตอนที่แบตอ่อนจนสตาร์ทไม่ติด ซึ่งก็ใช้ได้ผลดีมาก

ชาร์จทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง ระดับแบตเตอรี่ก็จะได้กลับมาเต็ม 100 เปอร์เซนต์ (ค่าที่อ่านได้จากเครื่องชาร์จแบตเตอรี่)

สำหรับแบตเตอรี่รถยนต์คันนี้ เป็นแบบเติมน้ำกลั่น และที่ผ่านมาใช้อยู่ยี่ห้อเดียวมาตลอด  (เป็นยี่ห้อเดียวกับที่ติดรถมาจากโรงงาน ยี่ห้อเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์ใหญ่สองตัว) 

ไม่เคยเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นเลย เป็นความชอบส่วนตัวล้วนๆ ไม่ได้มีเหตุผลอะไร  ซึ่งลักษณะการใช้งานของผมก็คือจะมีการเติมน้ำกลั่นให้ได้ระดับอยู่เสมอ 

ไม่เคยปล่อยให้น้ำกลั่นอยู่ต่ำกว่าระดับ Low กำจัดขี้เกลือตรงขั้วแบตเตอรี่อยู่เสมอ  ซึ่งที่ผ่านมาแบตเตอรี่ทุกลูกที่ใช้งานก็จะบำรุงรักษาอยู่แค่ประมาณนี้ 

ซึ่งเมื่ออายุการใช้งานเข้าสู่ปี่ที่ 3 ก็จะเริ่มแสดงอาการไฟอ่อนให้เห็น  คือรถจะเริ่มสตาร์ทติดช้ากว่าตอนที่เปลี่ยนแบตเตอรี่ในช่วงแรกๆ 

จนถึงขั้นไฟหมดเกลี้ยงสตาร์ทไม่ติดเลยก็ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ไปตามระเบียบ

จนมาถึงแบตเตอรี่ลูกปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ตอนนี้ที่พึ่งเปลี่ยนออกไป ก็ไม่ได้ต่างจากแบตลูกก่อนๆ คือประมาณปีที่สามเริ่มแสดงอาการไฟแบตเตอรี่อ่อน

แต่ยังสตาร์ทรถได้อยู่แต่จะสตาร์ทติดช้ากว่าปกติ   แต่รอบนี้พอแบตอ่อนผมก็ทำการชาร์จแบตเตอรี่ด้วยเครื่องชาร์จอันที่มีอยู่นี่แหละ 

โดยการชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืน คือชาร์จตั้งแต่ประมาณ 18.00 น ไปจนถึง 05.00 น ของอีกวัน  ได้ระดับไฟแบตเตอรี่กลับมาที่ 100 เปอร์เซนต์

(ค่าที่อ่านได้จากเครื่องชาร์จแบตเตอรี่)  จากที่ตอนเริ่มชาร์จระดับไฟเหลืออยู่ประมาณ 30 เปอร์เซนต์  ซึ่งช่วงปีที่สามนี้ ผมชาร์จไปแค่ประมาณ 2 ครั้ง แล้วก็ใช้ต่อยาวเลย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

ระดับไฟแบตเตอรี่เริ่มอ่อนเร็วขึ้น (เดาว่าแบตน่าจะคายประจุเร็วขึ้นจากการที่อายุการใช้งานหลายปีแล้ว)  

ช่วงนั้นผมชาร์จแบตที่สามเดือนชาร์จครั้งนึง จนถึงเมื่อวาน วันที่ครบ 5 ปี เมื่อคืนก่อนผมชาร์จข้ามคืนทิ้งไว้จนแบตเต็ม

ในตอนเช้าสตาร์ทรถเพื่อไปทำงาน รถสตาร์ทติดปกติแต่ใช้เวลานานกว่าทุกครั้งและทำท่าเหมือนจะสตาร์ทไม่ติด แต่ก็ยังติด  

ทำให้คิดว่า วันนี้จะต้องไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่แล้ว สมควรแก่เวลาแล้ว ตอนเลิกงานลุ้นตัวโก่งเลย เกือบสตาร์ทไม่ติด ยังดีเฮือกสุดท้ายยังสตาร์ทติดได้  

ผมเลยขับออกไปร้านแบตเตอรี่ข้างๆ ที่ทำงาน เปลี่ยนแบตลูกใหม่ไปเรียบร้อย ทดสอบระบบการชาร์จเก็บประจุไปเรียบร้อยแล้วหลังติดตั้ง

ก็ยังเป็นแบตยี่ห้อเดิมแต่รอบนี้ลองเปลี่ยนมาใช้แบบ Maintenance Free ลองดูเป็นครั้งแรก เพราะเห็นขนาดกระทัดรัดน่าใช้ดีอีกทั้ง PPV อีกคันที่บ้านใช้รุ่นนี้อยู่ ผ่านมา 2 ปีแล้วไฟก็ยังแรงดีอยู่และไม่ต้องมาคอยเปิดฝาเติมน้ำกลั่นสะดวกดี

แต่สำหรับแบตลูกต่อไปก็คงไม่ลองชาร์จใช้แล้วล่ะครับ แบตอ่อนเมื่อไหร่ก็คงเปลี่ยนลูกใหม่ไปเลย

ไม่อยากมาคอยเปิดฝากระโปรงรถเพื่อชาร์จไฟ

ที่ผ่านมาแค่อยากหาอะไรทำสนุกๆ เฉยๆ

+++++++++++++++++++++++++++++