เมื่อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สร้างปัญหาฝุ่นควัน และ PM 2.5 ในขณะที่ปลาป่น ก็ทำลายทะเลไทยให้วิกฤตหนัก เช่นกัน
แล้วทำไมทั้งพืช และสัตว์ 2 ชนิดนี้ กำลังส่งผลกระทบอะไรต่อคนไทย และประเทศไทย
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
พืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ สามารถเพาะปลูกได้ทุกพื้นที่ ใช้น้ำน้อยกว่าการทำนาถึง 2-3 เท่า เคยมีคนพูดไว้ว่า
"แค่โยนเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดไว้ เดี๋ยวก็โต ไม่ต้องดูแลมาก ปลูกไปแบบตามมีตามเกิดก็ได้"
ด้วยความปลูกง่าย ทำให้มีเกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั่วประเทศกว่า 376,000 ครัวเรือน ด้วยความที่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ราคาไม่ค่อยผันผวน ไม่เน่าเสีย มีตลาดรองรับตลอด ทำให้มีผู้สนใจมาเป็นเกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้น
ด้วยความง่ายนี้เอง และมีตลาดรองรับ ทำให้หลายๆ รัฐบาลพยายามส่งเสริมให้ชาวนาปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา หรือฤดูแล้งเพราะใช้น้ำน้อย และสามารถสร้างรายได้ระหว่างพักการทำนาได้ด้วย
ถึงแม้จะมีการส่งเสริม และรณรงค์ให้ปลูกเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ยังเพียงพอสำหรับการผลิตอาหารสัตว์ภายในประเทศ ทำให้ในแต่ละปีต้องมีการนำเข้าวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์เพิ่มขึ้นปีละหลายล้านตัน ทั้งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กากถั่วเหลือง ข้าวสาลี และปลาป่น ถึงแม้ว่าจะมีการอนุญาตให้นำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์จากต่างประเทศได้ แต่ก็ถูกข้อกำหนดที่รัฐบาลตั้งเงื่อนไขในการนำเข้าข้าวสาลีไว้ในอัตรา 3 :1 คือ นำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน ต้องซื้อข้าวโพดในประเทศ 3 ส่วน ถึงแม้ว่าข้าวโพดในประเทศจะมีราคาซื้อ-ขายที่สูงกว่าการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ก็เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับเกษตรกรผู้ปลูกวัตถุดิบอาหารสัตว์ในประเทศด้วย ทำให้ภาระกลับไปตกอยู่กับผู้ผลิตอาหารสัตว์ที่ต้องซื้อวัตถุดิบในการผลิตราคาสูง จนทำให้ต้นทุนอาหารสัตว์ขยับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ปัจจัยสำคัญเป็นเพราะพฤติกรรมของกลุ่มคนบางกลุ่ม เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง ไม่ให้ปลูกพืชจีเอ็มโอในบ้านเรา สุดท้ายพอต้องนำเข้าไม่มีกระดิกอะไรสักแอะ ประหนึ่งว่า พูดไปก็มีแต่เรื่องเสียเข้าตัว
ทุกประเทศที่เขาส่งออกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ล้วนใช้ข้าวโพดจีเอ็มโอ แทบทั้งสิ้น เหตุเพราะผลผลิตสูงกว่า ทนต่อสภาพภูมิอากาศดีกว่า ทนโรคแมลงกว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั่วไป
ในเมื่อของบ้านเราไม่พอ ต้องนำเข้ามา
"ถึงคราวดับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไทย" - หน้ามองฟ้า เท้าหยั่งดิน - สะ-เล-เต
กว่า 30 ปี บนเส้นทางคัดค้าน ตัดแข้งตัดขา พืชดัดแปลงพันธุกรรม หรือจีเอ็มโอ วันนี้วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม ชี้ชัดว่า ที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่ ถูกทำให้เข้าใจผิดมาตลอดด้วยมโนศาสตร์
เวลานี้สามารถพูดได้เต็มปากว่า “ไม่มีความเสี่ยงที่เกิดจากพืชดัดแปลงพันธุกรรมใด จะสูงไปกว่าการปรับปรุงพันธุ์แบบปกติ” อุปสรรคของพันธุวิศวกรรม คือ ความเห็นแย้งกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์
"ข้าวโพดจีเอ็มโอ..ปลอดภัย?" - หน้ามองฟ้า เท้าหยั่งดิน - สะ-เล-เต
ระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) จึงกลายเป็นทางออกของการแก้ไขวิกฤตฝุ่นควัน และฝุ่น PM 2.5 ที่มาจากการเผาวัตถุดิบในไร่ พืชสวน ไร่นา ที่เหลือใช้จากการผลิตพืชผลทางการเกษตรทั้งหลายแล้ว ด้วยความง่ายของการเผา ไม่ว่าจะเป็น อ้อย ข้าว มันสำปะหลัง หรือแม้แต่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
ข้อมูลจาก
สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย - Thai Feed Mill Association (TFMA) เปิดเผยข้อมูลสมาชิกว่ามี 54 บริษัท แต่พบชื่อเพียง 51 บริษัท แบ่งเป็นกลุ่มๆ ได้ดังนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- กลุ่ม บ.ซีพี (มีระบบตรวจสอบย้อนกลับในการรับซื้อข้าวโพด)
1.บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) CPF FOOD PRODUCTS CO.,LTD.
2.บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) CHAROEN POKPHAND FOOD PUBLIC CO.,LTD.
3.บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส์ จำกัด(มหาชน)
จนทำให้เครือเจริญโภคภัณฑ์และบริษัทในเครือ ใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (corn traceability) ตั้งแต่ปี 2560 ยืนยันได้ว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่จัดหา 100% ในกิจการประเทศไทยสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงแหล่งปลูกมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย ปราศจากการบุกรุกพื้นที่ป่า ไม่ตัดไม้ทำลายป่า และไม่เผา พร้อมทั้งจัดทำแอปพลิเคชั่น ฟ.ฟาร์ม (For Farm) ขึ้นช่วยอำนวยความสะดวกให้เกษตรกรไทยในการลงทะเบียนยืนยันตัวตนและพื้นที่ปลูก
ซีพียันจัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ผ่านระบบตรวจสอบย้อนกลับ 100% ไม่รับและไม่นำเข้าผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากพื้นที่รุกป่า และพื้นที่ที่มาจากการเผา
- กลุ่ม บ.เบทาโกร (มีระบบตรวจสอบย้อนกลับสินค้า แต่ไม่ถึงในการรับซื้อข้าวโพด)
1.บริษัท เบทาโกร โฮลดิ้ง จำกัด BETAGRO HOLDING CO.,LTD.
2.บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) BETAGRO PUBLIC CO.,LTD.
ในขณะที่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) บริษัทเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย รายได้ใกล้แตะแสนล้าน มีระบบตรวจสอบย้อนกลับอิเล็กทรอนิกส์เบทาโกร (betagro-e-traceability) แอปพลิเคชันความปลอดภัยทางด้านอาหาร สำหรับตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหารย้อนกลับไปยังแหล่งที่มา ในขณะเดียวกันเบทาโกรได้พัฒนาเว็บไซต์ (www.clickspyonme.com) เพื่อให้ลูกค้าระหว่างประเทศสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหารย้อนกลับไปยังแหล่งที่มาได้ (แต่จากที่ทดสอบเบื้องต้น ไม่สามารถสมัครไอดีได้) และ QR Code สำหรับผลิตภัณฑ์แบรนด์ “S-Pure” และแบรนด์ “Betagro” ให้ลูกค้าเข้าถึงระบบ e-Traceability ได้เช่นกัน
ระบบตรวจสอบย้อนกลับอิเล็กทรอนิกส์เบทาโกร
ในขณะที่บริษัทอื่นๆ ไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องระบบตรวจสอบย้อนกลับในหน้าเว็บไซต์ หรือไม่มีเว็บไซต์ และไม่มีข่าวเรื่องระบบตรวจสอบย้อนกลับ
- กลุ่ม บ.แหลมทองสหการ
1.บริษัท แหลมทองสหการ จำกัด LAEMTHONG CORPORATION CO.,LTD.
2.บริษัท แหลมทองเกษตรภัณฑ์ จำกัด LAEMTHONG AGRI-PRODUCTS CO.,LTD.
1.บริษัท ป.เจริญพันธ์อาหารสัตว์ จำกัด P. CHAROENPHAN FEEDMILL CO.,LTD.
2.บริษัท กรุงไทยอาหาร จำกัด (มหาชน) KRUNGTHAI FOOD PUBLIC CO.,LTD.
1.บริษัท ลีพัฒนาผลิตภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) LEE FEED MILL PUBLIC CO.,LTD.
2.บริษัท ลีพัฒนาอาหารสัตว์ จำกัด LEE PATTANA FEED MILL CO.,LTD.
- กลุ่ม บ. คาร์กิลล์ (บริษัทระดับโลกที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ก็ไม่มีระบบตรวจสอบย้อนกลับ)
1.บริษัท คาร์กิลล์สยาม จำกัด CARGILL SIAM LIMITED
2.บริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด CARGILL MEATS (THAILAND) LIMITED
- กลุ่ม บ. ทีเอฟเอ็มเอส
1.บริษัท ทีเอฟเอ็มเอส จำกัด สระบุรี TFMS CO.,LTD.(SARABURI)
2.บริษัท ทีเอฟเอ็มเอส จำกัด TFMS CO.,LTD.
- บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารเซ็นทรัล จำกัด
- บริษัท โกรเบสท์คอร์โพเรชั่น จำกัด
- บริษัท เอเชี่ยน นิวทริชั่น จำกัด
- บริษัท ไทยลักซ์เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด
- บริษัท ท็อป ฟีด มิลล์ จำกัด
- บริษัท ยูไนเต็ดฟีดมิลล์ จำกัด
- บริษัท เหรียญทองฟีด (1992) จำกัด
- บริษัท เอส.พี.เอ็ม.อาหารสัตว์ จำกัด
- บริษัท อีสเทิร์น ฟีดมิลล์ จำกัด
- บริษัท ซันฟีด จำกัด
- บริษัท ยูนีโกร อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
- บริษัท พนัสโภคภัณฑ์ จำกัด
- บริษัท ยู่สูง จำกัด
- บริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท กาญจนาอาหารสัตว์ จำกัด
- บริษัท ก้าวหน้าอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ จำกัด
- บริษัท วี. ซี. เอฟ. กรุ๊ป จำกัด
- บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) Thai Union Feedmill CO.,LTD.(TFM)
- บริษัท อินเทคค์ โกลบอล จำกัด
- บริษัท บุญพิศาล จำกัด
- บริษัท เฮกซ่าแคลไซเนชั่น จำกัด
- บริษัท หนองบัว ฟีด มิลล์ จำกัด
- บริษัท ไทย ฟู้ดส์ อาหารสัตว์ จำกัด THAI FOODS FEED MILLS CO.,LTD.
- บริษัท โกลด์ คอยน์ สเปเชียลิตี้ส์ (ประเทศไทย) จำกัด
- บริษัท วีพีเอฟ กรุ๊ป (1973) จำกัด
- บริษัท อาร์ที อะกริเทค จำกัด
- บริษัท ฟาร์มจงเจริญ จำกัด
- บริษัท เจบีเอฟ จำกัด
- บริษัท อินเว (ประเทศไทย) จำกัด
- บริษัท ทีอาร์เอฟ อาหารสัตว์ จำกัด
- บริษัท ไทสันฟีด (ไทยแลนด์) จำกัด TYSON FEED (THAILAND) LTD.
- บริษัท เกษมชัยฟาร์มอาหารสัตว์ จำกัด
- บริษัท พนัส ฟีดมิลล์ จำกัด
- บริษัท เอพีเอ็ม อะโกร จำกัด
- บริษัท แสงทอง อาหารสัตว์ จำกัด
- บริษัท เจริญภัณฑ์สามชุกฟีดมิลล์ จำกัด
จาก 54 บริษัท มีบริษัทของเครือซีพี 3 บริษัท ที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ ที่มีนโยบายในการไม่รับซื้อข้าวโพดในพื้นที่เพาะปลูกที่บุกรุกพื้นที่ป่า ไม่ตัดไม้ทำลายป่า และไม่เผา แล้วบริษัทที่เหลือคือไม่มีข้อมูลใดใดในเรื่องของการรับซื้อข้าวโพดเลย ซึ่งหมายถึงว่า อาจจะรับซื้อมาจากไร่ที่อยู่ในพื้นที่บนภูเขา ที่รุกป่า หรือมีการเผาไร่ด้วยหรือไม่ แล้วทำไมบริษัทเหล่านี้รับซื้อได้ไม่มีใครพูดถึงเลย หรือ บริษัทเหล่านี้ลอยตัวเหนือปัญหาเรื่องฝุ่นควัน และฝุ่น PM 2.5 อย่างเนียนๆ เพราะทุกคนพุ่งเป้าไปที่บริษัทในเครือซีพีเพียงทีเดียว ?
และยังมีส่วนส่วนประกอบอื่นๆ ของพืช และสัตว์ที่สามารถนำมาผลิตเป็นอาหารสัตว์ได้อีกด้วย เช่น กระถิน กากเมล็ดในปาล์ม กากมะพร้าว ข้าวสาลี เมล็ดข้าวฟ่าง กากเมล็ดฝ้าย เศษสับปะรด เปลือกหอยและกระดูกสัตว์ กากน้ำตาล ยอดอ้อย
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯคุณลักษณะวัตถุดิบอาหารจะเน้นทั้งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ เพื่อให้สัตว์แข็งแรง เติบโตไว โดยเฉพาะของโปรตีน ที่มีส่วนในการเติบโตของสัตว์ ซึ่งวัตถุดิบโปรตีนจากสัตว์จะมีโปรตีนคุณภาพสูงกว่าวัตถุดิบโปรตีนจากพืช อีกทั้งยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นปริมาณมาก ทำให้สัตว์สามารถได้รับสารอาหาร และเติบโตได้ไวกว่าการเลี้ยงด้วยวัตถุดิบโปรตีนจากพืชเพียงอย่างเดียว
ทำให้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สู้ปลาป่นไม่ได้ แต่เนื่องจากราคาถูกกว่า และสามารถทดแทนในเรื่องของโปรตีนได้พอสมควร จึงได้เป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตอาหาร
เลือกที่จะทำลำพัง หรือ เลือกที่จะทำร่วมกัน กับปัญหาเรื่องความยั่งยืนของไทย
ด้วยความง่ายนี้เอง และมีตลาดรองรับ ทำให้หลายๆ รัฐบาลพยายามส่งเสริมให้ชาวนาปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา หรือฤดูแล้งเพราะใช้น้ำน้อย และสามารถสร้างรายได้ระหว่างพักการทำนาได้ด้วย
ถึงแม้จะมีการส่งเสริม และรณรงค์ให้ปลูกเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ยังเพียงพอสำหรับการผลิตอาหารสัตว์ภายในประเทศ ทำให้ในแต่ละปีต้องมีการนำเข้าวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์เพิ่มขึ้นปีละหลายล้านตัน ทั้งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กากถั่วเหลือง ข้าวสาลี และปลาป่น ถึงแม้ว่าจะมีการอนุญาตให้นำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์จากต่างประเทศได้ แต่ก็ถูกข้อกำหนดที่รัฐบาลตั้งเงื่อนไขในการนำเข้าข้าวสาลีไว้ในอัตรา 3 :1 คือ นำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน ต้องซื้อข้าวโพดในประเทศ 3 ส่วน ถึงแม้ว่าข้าวโพดในประเทศจะมีราคาซื้อ-ขายที่สูงกว่าการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ก็เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับเกษตรกรผู้ปลูกวัตถุดิบอาหารสัตว์ในประเทศด้วย ทำให้ภาระกลับไปตกอยู่กับผู้ผลิตอาหารสัตว์ที่ต้องซื้อวัตถุดิบในการผลิตราคาสูง จนทำให้ต้นทุนอาหารสัตว์ขยับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) จึงกลายเป็นทางออกของการแก้ไขวิกฤตฝุ่นควัน และฝุ่น PM 2.5 ที่มาจากการเผาวัตถุดิบในไร่ พืชสวน ไร่นา ที่เหลือใช้จากการผลิตพืชผลทางการเกษตรทั้งหลายแล้ว ด้วยความง่ายของการเผา ไม่ว่าจะเป็น อ้อย ข้าว มันสำปะหลัง หรือแม้แต่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย - Thai Feed Mill Association (TFMA) เปิดเผยข้อมูลสมาชิกว่ามี 54 บริษัท แต่พบชื่อเพียง 51 บริษัท แบ่งเป็นกลุ่มๆ ได้ดังนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทำให้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สู้ปลาป่นไม่ได้ แต่เนื่องจากราคาถูกกว่า และสามารถทดแทนในเรื่องของโปรตีนได้พอสมควร จึงได้เป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตอาหาร