ก.เกษตรฯ เดินหน้าส่งเสริมปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนา ลงพื้นที่ส่งเสริมเพาะปลูก ผ่านกลไกสหกรณ์ พร้อมประสานบริษัทเอกชน รับซื้อผลผลิต
เมื่อเร็วๆ นี้ นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่มอบนโยบายการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชหลังนา ที่บ้านหม้อ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ พร้อม เปิดเผยว่า โครงการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูกาลทำนา ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ นำร่องพื้นที่ 5,000 ไร่ มีเกษตรกรเข้าร่วมจำนวน 430 ครัวเรือน คาดว่าจะได้รับผลผลิตประมาณ 7,500 ตัน กรมส่งเสริมสหกรณ์จะรับซื้อผลผลิต และประสาน บริษัท เบทาโกร จำกัด และ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มารับซื้อผลผลิตต่อจากสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ ส่วนราคาขั้นต่ำกำหนดรับซื้อ 5 บาท/กิโลกรัม(กก.) คาดว่าจะมีรายได้ 7,500บาท/ไร่ เมื่อหักต้นทุนเหลือกำไรประมาณ 4,000 บาท/ไร่ ขณะที่ผลกำไรจากการปลูกข้าวหลังหักต้นทุนแล้วเหลือเพียง 2,000 บาท/ไร่เท่านั้น
สำหรับพื้นที่บ้านหม้อ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เป็นพื้นที่นำร่องการสนับสนุนให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนอาชีพ กระทรวงเกษตรฯ จะใช้กลไกของสหกรณ์ฯ เข้าไปดูแลการเพาะปลูกอย่างครบวงจร ตั้งแต่ การเพาะปลูก การไถ การพรวนดิน การเก็บเกี่ยว กรณีสมาชิกหรือเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ไม่มีเครื่องจักร สหกรณ์ฯจะหาผู้รับจ้างมาทำงานร่วมในโครงการ เพื่อเป็นการลดต้นทุน ส่วนการเข้ามารับซื้อผลผลิตสหกรณ์ฯจะรับซื้อผลผลิตจากสมาชิก จากนั้นกระทรวงเกษตรฯจะช่วยหาคนซื้อต่อจากสหกรณ์ฯ
“โครงการจูงใจให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนอาชีพ เพื่อปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนา จะเริ่มดำเนินการ 2 พ.ย.นี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ จะเป็นพี่เลี้ยงดูแลหาผู้รับซื้อผลผลิต โดยกรมชลประทานจะดูแลเรื่องระบบน้ำ เจ้าหน้าที่เกษตรตำบล เกษตรอำเภอจะเข้ามาดูแลเรื่องการเพาะปลูกข้าวโพด นอกจากนี้จะสนับสนุน เงินทุนดอกเบี้ยต่ำเพื่อให้สมาชิกไปลงทุนรายละไม่เกิน 3,000 บาท/ไร่ โดยเป็นเงินก้อนให้สหกรณ์ฯกู้เพื่อไปปล่อยกู้ต่อให้กับสมาชิก อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี เงินกู้ที่สหกรณ์ฯจะได้รับจะมาจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์”
นายกฤษฎา กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายโครงการปลูกข้าวโพดหลังนา คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในวันที่ 2 พ.ย.2561 จำนวน 2 ล้านไร่ ในพื้นที่เป้าหมาย โดยรัฐบาลจะช่วยเหลือในเรื่อง เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ติดต่อผู้รับซื้อ เพื่อให้ผลผลิตขายได้ในราคาที่สมเหตุสมผล และ พื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดที่เข้าร่วมโครงการจะมีการประกันภัยพืชผล
ก.เกษตรฯ เดินหน้าส่งเสริมปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนา ลงพื้นที่ส่งเสริมเพาะปลูก ผ่านกลไกสหกรณ์
เมื่อเร็วๆ นี้ นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่มอบนโยบายการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชหลังนา ที่บ้านหม้อ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ พร้อม เปิดเผยว่า โครงการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูกาลทำนา ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ นำร่องพื้นที่ 5,000 ไร่ มีเกษตรกรเข้าร่วมจำนวน 430 ครัวเรือน คาดว่าจะได้รับผลผลิตประมาณ 7,500 ตัน กรมส่งเสริมสหกรณ์จะรับซื้อผลผลิต และประสาน บริษัท เบทาโกร จำกัด และ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มารับซื้อผลผลิตต่อจากสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ ส่วนราคาขั้นต่ำกำหนดรับซื้อ 5 บาท/กิโลกรัม(กก.) คาดว่าจะมีรายได้ 7,500บาท/ไร่ เมื่อหักต้นทุนเหลือกำไรประมาณ 4,000 บาท/ไร่ ขณะที่ผลกำไรจากการปลูกข้าวหลังหักต้นทุนแล้วเหลือเพียง 2,000 บาท/ไร่เท่านั้น
สำหรับพื้นที่บ้านหม้อ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เป็นพื้นที่นำร่องการสนับสนุนให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนอาชีพ กระทรวงเกษตรฯ จะใช้กลไกของสหกรณ์ฯ เข้าไปดูแลการเพาะปลูกอย่างครบวงจร ตั้งแต่ การเพาะปลูก การไถ การพรวนดิน การเก็บเกี่ยว กรณีสมาชิกหรือเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ไม่มีเครื่องจักร สหกรณ์ฯจะหาผู้รับจ้างมาทำงานร่วมในโครงการ เพื่อเป็นการลดต้นทุน ส่วนการเข้ามารับซื้อผลผลิตสหกรณ์ฯจะรับซื้อผลผลิตจากสมาชิก จากนั้นกระทรวงเกษตรฯจะช่วยหาคนซื้อต่อจากสหกรณ์ฯ
“โครงการจูงใจให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนอาชีพ เพื่อปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนา จะเริ่มดำเนินการ 2 พ.ย.นี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ จะเป็นพี่เลี้ยงดูแลหาผู้รับซื้อผลผลิต โดยกรมชลประทานจะดูแลเรื่องระบบน้ำ เจ้าหน้าที่เกษตรตำบล เกษตรอำเภอจะเข้ามาดูแลเรื่องการเพาะปลูกข้าวโพด นอกจากนี้จะสนับสนุน เงินทุนดอกเบี้ยต่ำเพื่อให้สมาชิกไปลงทุนรายละไม่เกิน 3,000 บาท/ไร่ โดยเป็นเงินก้อนให้สหกรณ์ฯกู้เพื่อไปปล่อยกู้ต่อให้กับสมาชิก อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี เงินกู้ที่สหกรณ์ฯจะได้รับจะมาจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์”
นายกฤษฎา กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายโครงการปลูกข้าวโพดหลังนา คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในวันที่ 2 พ.ย.2561 จำนวน 2 ล้านไร่ ในพื้นที่เป้าหมาย โดยรัฐบาลจะช่วยเหลือในเรื่อง เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ติดต่อผู้รับซื้อ เพื่อให้ผลผลิตขายได้ในราคาที่สมเหตุสมผล และ พื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดที่เข้าร่วมโครงการจะมีการประกันภัยพืชผล