รู้สึกตกเป็นเครื่องมือสำเร็จความใคร่ทางปัญญาของเพื่อนคนนึงเหมือนได้เอดูเขตเรา ได้ทำเป็นสอนเราก็รุ้สึกดีกับตัวเองแล้ว หลายเหตุการณ์มากๆ เราไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่าอันนี้ทำยังไง เรากำลังจะทำ ใส่ถุงมือละ(ซ้อมตรวจร่างกาย) เพื่อนคนอื่นๆก็ต่อแถวต่อคิวรอซ้อมต่ออยู่ ตอนเรากำลังเริ่มไม่มีใครพูดแทรกเราสักคน มองเราเฉยๆ เพื่อนคนอื่นจะพูดก็ต่อเมื่อเราทำแล้วเราเลยลืมขั้นตอนไหนไป แต่เพื่อนที่ชอบมาสเตอเบดคนเนี้ย เรากำลังขยับปากพูด กำลังจะเริ่มเลย "ขั้นแรกเราก็ดูลักษณะภายนอกก่อ-"ยังไม่ได้พูดรายละเอียดเลย ชีเค้ามาประกบข้างแล้วพูดแทนเราทั้งหมด เป็นฉากๆ คือเรายังไม่ได้ทำท่าว่าลืมพูดอะไรไปเลยนะ กำลังจะเริ่มอะ ก็คิวเราคนแรก คนอื่นคือยืนรอต่อแถวไม่ก็ยืนดู นี่มาถึงก็ทำเหมือนสอนพูดแทนเราทั้งหมด คือเป็นอะไร ตาเราก่อนตามคิวรึป่าว ไม่รอพูดตอนเราลืมจริงๆอะ นี่เรายังไม่ทันพูดเลย เพื่อนคนอื่นเค้าให้เกียรติเรานะ เค้าไม่มีพูดแทรกขึ้นมาก่อน จนเราลืมเลยตรงไหนจริงๆคนอื่นก็เลยช่วยเตือนให้ เตือนก็เตือนนิดๆหน่อยๆเป็นkeyword ไม่ใช่พูดมาทั้งแผง คือเป็นไร๊ เราก็ดูวีดีโอตรวจมาก่อน มีสคริปมีขั้นตอน1234ในหัว ไม่รอให้เราพูดก่อนแต่นี่เล่นเสนอหน้ามาพูดเหมือนเราไม่รู้อะไรเลย แล้วเป็นกับเราคนเดียว เพราะเราดูติ๋มๆมั้ง เก่งกับเราคนเดียวไม่ไปเก่งกับคนอื่น จนรู้สึกเหมือนถูก intellectual masterbation แล้วก็มีอีกหบายเหตุการณ์มาก เช่น มีเพื่อนถามคำถามมา(เพื่อนมีเฉลยอยู่แล้ว) เราก็ตอบไป ยัยมาสเตอเบดก็แทบจะพูดต่อจากเราทันทีเลยว่า ไม่ใช่(หมายถึงคำตอบเราผิด) แล้วก็ตอบอีกแบบนึงไป สุดท้ายเพื่อนคนถามเฉลยว่าตอบแบบที่เราตอบ เราเลยนึกได้ว่า คำถามที่เราต่างก็ไม่ได้มีคำตอบชัดๆในหัว เราก็ลองตอบไปใช่ไหม แสดงว่ามีอยู่สองอย่างคือ รู้จริงๆกับไม่แน่ใจ ถ้ารู้จริงๆก็จะพูดได้ว่าเราผิด แต่ปรากฏว่าเราถูก มาสเตอเบดอะผิด ก็คือมาสเตอเบดไม่ได้รู้จริงแล้วทำไมถึงกล้าบอกว่าคำตอบเราผิด? พูดเต็มปากเต็มคำได้ไงความรู้ก็ไม่เห็นมี หรือแค่เห็นหน้าเราแล้วก็มั่นใจได้ว่าผิดแน่เพราะอินี่(จขกท) ดูโง่ ตอบมาก็ไม่ถูกหรอก หรอ มีอีกครั้งก็แบบนี้ แต่เรามั่นใจในคำตอบ เพราะไม่ใช่คำถามพลิกแพลงแต่เป็นคำถามตัวเลขในไครทีเรีย เราก็ตอบมาเพราะดูมาแล้วจำตัวเลขได้ ชีก็สวนมาทันทีว่าไม่ใช่ สุดท้ายเปิดไครทีเรียดูกันอีกที เราถูก คืออยากถามมากว่าเป็นโรคอะไร ชั้นตอบต้องผิดไว้ก่อนหรอ อีกครั้งนึงก็แบบนี้ อาจารย์ถาม แล้วเราตอบเบาๆคำตอบยังไม่ไปถึงหูอาจารย์ โดนมาสเตอเบดดักก่อนว่าไม่ใช่(พูดกับเรานี่แหละว่าคำตอบไม่ใช่) ดีที่เรายืนกรานพูดเสียงให้ดังขึ้นให้คำตอบไปถึงหูอาจารย| ซึ่งก็ไม่ผิด ไม่ได้เป็นแบบที่ยัยมาสเตอเบดพูด เราเลยเรียกเหตุการณ์นี้ว่า คนจะเกิดไม่ได้เกิด โดนคุมกำเนิดซะก่อน แล้วก็มีอีกหลายครั้งมากๆๆๆหลากหลายเหตุการณ์
อยากรู้ว่าคนอื่นๆถ้าเจอเหตุการณ์ถูกใช้เป้นเครื่องมือสำเร็จความใคร่ทางปัญญาแบบนี้จะจัดการยังไงคะ