ในโพสต์ก่อนหน้านี้ผมได้พูดถึงปฏิบัติการปั้นเงา (Operation Fortitude) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการลวงโลกที่ใหญ่มาก ครั้งนี้ผมจะเจาะลึกไปยังปฏิบัติการเด็คเซน (Operation Decessen) ซึ่งเป็นการลวงโลกด้านเวลาที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน
.
1. ปัญหาเริ่มต้น: โซเวียตต้องการการช่วยเหลือเร่งด่วน
ในช่วงปี 1943-1944 โจเซฟ สตาลิน (ผู้นำโซเวียต) กดดันฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตกอย่างหนักให้เปิดแนวรบที่สองในยุโรปตะวันตกให้เร็วที่สุด เพื่อดึงกองทัพเยอรมันออกไปจากแนวรบด้านตะวันออก (ที่โซเวียตกำลังสู้อย่างดุเดือด)
ฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตกตัดสินใจว่าการยกพลขึ้นบก (D-Day) จะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน 1944
.
2. แผนการหลอกลวง "เวลา"
ปฏิบัติการเด็คเซน (Decessen) ถูกวางแผนขึ้นเพื่อหลอกลวงหน่วยข่าวกรองของเยอรมนีว่า D-Day จะไม่เกิดขึ้นในปี 1944 แต่จะถูกเลื่อนออกไปจนถึงปลายปี 1944 หรือต้นปี 1945 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เยอรมนีรู้สึกสบายใจและไม่ระดมกำลังป้องกันชายฝั่งจนเกินไป และเพื่อรักษาความลับของการเตรียมการไว้
วิธีการ
🕒การประชุมปลอม: จัดประชุมวางแผนปลอมหลายครั้งในอังกฤษและแอฟริกาเหนือ โดยมีหัวข้อการประชุมที่เน้นไปที่การเตรียมการในระยะยาว และการขาดแคลนกำลังคนและยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการบุกครั้งใหญ่ในปี 1944
🕒เอกสารรั่วไหลปลอม: สร้างเอกสารลับทางการทหารปลอมจำนวนมากที่ระบุว่า "เนื่องจากปัจจัย X, Y, Z การบุกข้ามช่องแคบจึงถูกเลื่อนออกไป" และปล่อยให้เอกสารเหล่านี้ "รั่วไหล" ไปถึงสายลับของเยอรมนี (ผ่านสายลับสองหน้าเช่น Garbo)
🕒การสื่อสารทางวิทยุปลอม: ออกอากาศวิทยุปลอมอย่างเป็นระบบ โดยใช้รหัสที่สื่อถึงการจัดเก็บเสบียงและยุทโธปกรณ์ในระยะยาว มากกว่าการเคลื่อนย้ายเตรียมการโจมตีในทันที
.
3. การใช้ "คิวบา" เป็นเครื่องมือลวงโลก
ส่วนที่น่าทึ่งคือ การลวงโลกนี้ยังมีการโยงไปถึง คิวบา เพื่อสร้างความเชื่อว่าฝ่ายสัมพันธมิตรยังต้องเตรียมการอีกนาน
🕒การปลอมตัว: มีการสร้าง "หลักฐาน" ปลอมว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ และอังกฤษ กำลังวางแผนที่จะใช้คิวบาเป็น ฐานทัพการจัดเก็บเสบียงและโรงพยาบาลสนาม ขนาดใหญ่ เพื่อสนับสนุนการบุกยุโรป
🕒ความหมายที่ซ่อนอยู่: การสร้างฐานทัพขนาดใหญ่ในคิวบาที่ห่างไกลจากยุโรปนั้น สื่อความหมายถึง ความล่าช้าอย่างมาก ในการดำเนินการบุกจริง ทำให้เยอรมนีเชื่อว่าฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตกยังไม่พร้อมรบในทันที
.
4. ผลลัพธ์ที่วัดค่าไม่ได้
🕒ความสำเร็จด้านเวลา: การลวงด้านเวลานี้ช่วยให้เยอรมนี ลดระดับการเตือนภัย (Alert Level) ลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงต้นปี 1944
🕒การรักษาความลับ: ปฏิบัติการเด็คเซนช่วยเสริมให้ปฏิบัติการปั้นเงา (Fortitude) แข็งแกร่งขึ้น และช่วยรักษาความลับของวัน D-Day (6 มิถุนายน 1944) ไว้ได้จนถึงนาทีสุดท้าย ทำให้ฝ่ายสัมพันธมิตรสามารถโจมตีได้สำเร็จด้วยการป้องกันที่เบาบางกว่าที่ควรจะเป็น
.
เรื่องราวเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสงครามข่าวกรองและการหลอกลวงนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ฝ่ายสัมพันธมิตรพลิกสถานการณ์และได้รับชัยชนะครับ
ขอขอบคุณเพจตู้หนังสือเก่าเล่าเรื่องจากเฟซบุ๊คที่อนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลนะครับ
ตู้หนังสือเก่าเล่าเรื่อง
⏳ การหยุดเวลาที่แทบเป็นไปไม่ได้: ปฏิบัติการเด็คเซน (Operation Decessen)
.
1. ปัญหาเริ่มต้น: โซเวียตต้องการการช่วยเหลือเร่งด่วน
ในช่วงปี 1943-1944 โจเซฟ สตาลิน (ผู้นำโซเวียต) กดดันฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตกอย่างหนักให้เปิดแนวรบที่สองในยุโรปตะวันตกให้เร็วที่สุด เพื่อดึงกองทัพเยอรมันออกไปจากแนวรบด้านตะวันออก (ที่โซเวียตกำลังสู้อย่างดุเดือด)
ฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตกตัดสินใจว่าการยกพลขึ้นบก (D-Day) จะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน 1944
.
2. แผนการหลอกลวง "เวลา"
ปฏิบัติการเด็คเซน (Decessen) ถูกวางแผนขึ้นเพื่อหลอกลวงหน่วยข่าวกรองของเยอรมนีว่า D-Day จะไม่เกิดขึ้นในปี 1944 แต่จะถูกเลื่อนออกไปจนถึงปลายปี 1944 หรือต้นปี 1945 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เยอรมนีรู้สึกสบายใจและไม่ระดมกำลังป้องกันชายฝั่งจนเกินไป และเพื่อรักษาความลับของการเตรียมการไว้
วิธีการ
🕒การประชุมปลอม: จัดประชุมวางแผนปลอมหลายครั้งในอังกฤษและแอฟริกาเหนือ โดยมีหัวข้อการประชุมที่เน้นไปที่การเตรียมการในระยะยาว และการขาดแคลนกำลังคนและยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการบุกครั้งใหญ่ในปี 1944
🕒เอกสารรั่วไหลปลอม: สร้างเอกสารลับทางการทหารปลอมจำนวนมากที่ระบุว่า "เนื่องจากปัจจัย X, Y, Z การบุกข้ามช่องแคบจึงถูกเลื่อนออกไป" และปล่อยให้เอกสารเหล่านี้ "รั่วไหล" ไปถึงสายลับของเยอรมนี (ผ่านสายลับสองหน้าเช่น Garbo)
🕒การสื่อสารทางวิทยุปลอม: ออกอากาศวิทยุปลอมอย่างเป็นระบบ โดยใช้รหัสที่สื่อถึงการจัดเก็บเสบียงและยุทโธปกรณ์ในระยะยาว มากกว่าการเคลื่อนย้ายเตรียมการโจมตีในทันที
.
3. การใช้ "คิวบา" เป็นเครื่องมือลวงโลก
ส่วนที่น่าทึ่งคือ การลวงโลกนี้ยังมีการโยงไปถึง คิวบา เพื่อสร้างความเชื่อว่าฝ่ายสัมพันธมิตรยังต้องเตรียมการอีกนาน
🕒การปลอมตัว: มีการสร้าง "หลักฐาน" ปลอมว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ และอังกฤษ กำลังวางแผนที่จะใช้คิวบาเป็น ฐานทัพการจัดเก็บเสบียงและโรงพยาบาลสนาม ขนาดใหญ่ เพื่อสนับสนุนการบุกยุโรป
🕒ความหมายที่ซ่อนอยู่: การสร้างฐานทัพขนาดใหญ่ในคิวบาที่ห่างไกลจากยุโรปนั้น สื่อความหมายถึง ความล่าช้าอย่างมาก ในการดำเนินการบุกจริง ทำให้เยอรมนีเชื่อว่าฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตกยังไม่พร้อมรบในทันที
.
4. ผลลัพธ์ที่วัดค่าไม่ได้
🕒ความสำเร็จด้านเวลา: การลวงด้านเวลานี้ช่วยให้เยอรมนี ลดระดับการเตือนภัย (Alert Level) ลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงต้นปี 1944
🕒การรักษาความลับ: ปฏิบัติการเด็คเซนช่วยเสริมให้ปฏิบัติการปั้นเงา (Fortitude) แข็งแกร่งขึ้น และช่วยรักษาความลับของวัน D-Day (6 มิถุนายน 1944) ไว้ได้จนถึงนาทีสุดท้าย ทำให้ฝ่ายสัมพันธมิตรสามารถโจมตีได้สำเร็จด้วยการป้องกันที่เบาบางกว่าที่ควรจะเป็น
.
เรื่องราวเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสงครามข่าวกรองและการหลอกลวงนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ฝ่ายสัมพันธมิตรพลิกสถานการณ์และได้รับชัยชนะครับ
ขอขอบคุณเพจตู้หนังสือเก่าเล่าเรื่องจากเฟซบุ๊คที่อนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลนะครับ
ตู้หนังสือเก่าเล่าเรื่อง