สวัสดีครับผมอยากมาเเชร์ประสบการณ์ ผมเคยปวดหัวจากการเล่นมือถือนี่เเหล่ะครับ เห็นพี่ๆในพันทิปก็มีหลายคนที่ปวดหัว เเล้วตรวจเเล้วไม่มีอะไรผิดปกติ ทนปวดหัวกันมา หลายปี กระทู้นี้ขอมาอธิบายหลักการของหน้าจอมือถือที่กระตุ้นอาการปวดหัวไมเกรนครับ
ปัญหานี่มรชื่อเรียกว่าpwn eye strain หรือ oled flickering ครับ ต่างประเทศถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก เเต่คนไทยกลับไม่พูดถึงเลย เอาไปค้น เวปไทยไม่มีข้อมูลนี้เลย คิดว่าน่าจะเป็นเพราะต่างประเทศเป็นผู้ผลิตมือถือผู้ใช้ในประเทศเลยเรียกร้องให้เเก้ปัญหานี้ เเต่คนไทยเป็นเหมือนผู้บริโภค ไม่สามารถทำอะไรได้
ก่อนอื่นน่ะครับ หน้าจอมือถือเเบ่งออกหลักๆเป็น2ประเภทครับ lcd เช่น ips tft เเละled(oled)เช่น amoled super amoled
ปัญหาอยู่ที่ว่า ตัวจอoledเนี่ยครับมันใช้ระบบเปล่งเเสงออกจากตัวของมันเองเเต่ละพิกเซล ซึ่งถ้าคุณลด เเสงลง จอตัวนี้มันไม่สามารถลดเเสงตัวเองได้ครับ เลยใช้วิธีการกระพริบถี่ๆเพื่อให้คุณเห็นเป็นภาพที่มืดลงครับ
การกระพริบนี้หลายร้อยพันครั้ง ในระยะเวลาสั้นๆ เเต่ดวงตาเรามองไม่เห็นหรอกครับ เเต่กล้ามเนื้อเเละสมองของเรารับรู้ครับ
อาการก็จะมี ปวดหัวไมเกรน ขมับ คิ้ว หน้าผาก หัวด้านข้าง ท้ายทอย ลามไปถึงคอ ปวดคอ คอตึง คอกระตุก
อาการนี้ไม่ได้เป็นทุกคนหรอกครับ เป็นเฉพาะ คนที่ค่อนข้างไวต่อสิ่งเร้าพวกนี้อ่อนไหวง่าย
วิธีการป้องกันที่ผมศึกษามาน่ะครับ เเนะนำให้เปลี่ยนไปใช้จอมือถือ ips lcdเเทน ถึงจอพวกนี้จะดีกว่า เเต่ถ้าเล่นนานติดต่อหลายช.มก็ทีผลกระทบเหมือนกันครับ เช่น ตาเเห้ง กล้ามเนื้อตาตก ปวดหัวนิดหน่อย เเละถ้าเล่นมากๆก็อาจมีอาจปวดคอ คอกระตุกได้เหมือนกัน
เเต่เเต่อาจจะยากกว่าตัวจอoledที่เเค่มองเเป๊ปๆก็ปวดหัว เเต่ถ้าใครไม่อยากเปลี่ยนมือถือ คำเเนะนำก็คือ เล่นให้น้อยๆ พักผ่อนพียงพอ ไม่หลี่เเสงเยอะ เปิดเเสง50%+ครับ ยิ่งหลี่เเสงต่ำ อัตรากระกระพริบของภาพยิ่งสูง
เเละไม่เล่นในที่มืดๆครับ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ครับ เเค่มาอธิบายเป็นเเนวทางให้กับคนที่ปวดหัวเหมือนผมเเละไม่สามรถรักษาได้
อาการของผมหลังจากลองใช้จอamoledตัวเเรก คือรุ่นredmi note13ครับ
ปวดหัวไมเกรน ยิ่งเล่นยิ่งปวดรุนเเรงปวดคอ คอจะตึงๆ เเละมีอาการเเบบกระตุกด้วย จริงๆ เลิกเล่นมือถือ เเล้ว กินยาเเก้ปวดไมเกรน กับอีกตัวนึงเเก้ปวดไมเกรนเเละเเก้ปวดคอ อาการทั้งหมดก็จะหายไป เเต่ถ้ากลับมาเล่นมือถืออีกซักระยะอาการก็จะกลับมาอีก
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ค่อนข้างไวต่ออาการพวกนี้น่ะครับ
อาการปวดหัวไมเกรน ที่รักษาไม่หาย คอกระตุกเอง เเก้ได้ที่ต้นเหตุ
ปัญหานี่มรชื่อเรียกว่าpwn eye strain หรือ oled flickering ครับ ต่างประเทศถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก เเต่คนไทยกลับไม่พูดถึงเลย เอาไปค้น เวปไทยไม่มีข้อมูลนี้เลย คิดว่าน่าจะเป็นเพราะต่างประเทศเป็นผู้ผลิตมือถือผู้ใช้ในประเทศเลยเรียกร้องให้เเก้ปัญหานี้ เเต่คนไทยเป็นเหมือนผู้บริโภค ไม่สามารถทำอะไรได้
ก่อนอื่นน่ะครับ หน้าจอมือถือเเบ่งออกหลักๆเป็น2ประเภทครับ lcd เช่น ips tft เเละled(oled)เช่น amoled super amoled
ปัญหาอยู่ที่ว่า ตัวจอoledเนี่ยครับมันใช้ระบบเปล่งเเสงออกจากตัวของมันเองเเต่ละพิกเซล ซึ่งถ้าคุณลด เเสงลง จอตัวนี้มันไม่สามารถลดเเสงตัวเองได้ครับ เลยใช้วิธีการกระพริบถี่ๆเพื่อให้คุณเห็นเป็นภาพที่มืดลงครับ
การกระพริบนี้หลายร้อยพันครั้ง ในระยะเวลาสั้นๆ เเต่ดวงตาเรามองไม่เห็นหรอกครับ เเต่กล้ามเนื้อเเละสมองของเรารับรู้ครับ
อาการก็จะมี ปวดหัวไมเกรน ขมับ คิ้ว หน้าผาก หัวด้านข้าง ท้ายทอย ลามไปถึงคอ ปวดคอ คอตึง คอกระตุก
อาการนี้ไม่ได้เป็นทุกคนหรอกครับ เป็นเฉพาะ คนที่ค่อนข้างไวต่อสิ่งเร้าพวกนี้อ่อนไหวง่าย
วิธีการป้องกันที่ผมศึกษามาน่ะครับ เเนะนำให้เปลี่ยนไปใช้จอมือถือ ips lcdเเทน ถึงจอพวกนี้จะดีกว่า เเต่ถ้าเล่นนานติดต่อหลายช.มก็ทีผลกระทบเหมือนกันครับ เช่น ตาเเห้ง กล้ามเนื้อตาตก ปวดหัวนิดหน่อย เเละถ้าเล่นมากๆก็อาจมีอาจปวดคอ คอกระตุกได้เหมือนกัน
เเต่เเต่อาจจะยากกว่าตัวจอoledที่เเค่มองเเป๊ปๆก็ปวดหัว เเต่ถ้าใครไม่อยากเปลี่ยนมือถือ คำเเนะนำก็คือ เล่นให้น้อยๆ พักผ่อนพียงพอ ไม่หลี่เเสงเยอะ เปิดเเสง50%+ครับ ยิ่งหลี่เเสงต่ำ อัตรากระกระพริบของภาพยิ่งสูง
เเละไม่เล่นในที่มืดๆครับ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ครับ เเค่มาอธิบายเป็นเเนวทางให้กับคนที่ปวดหัวเหมือนผมเเละไม่สามรถรักษาได้
อาการของผมหลังจากลองใช้จอamoledตัวเเรก คือรุ่นredmi note13ครับ
ปวดหัวไมเกรน ยิ่งเล่นยิ่งปวดรุนเเรงปวดคอ คอจะตึงๆ เเละมีอาการเเบบกระตุกด้วย จริงๆ เลิกเล่นมือถือ เเล้ว กินยาเเก้ปวดไมเกรน กับอีกตัวนึงเเก้ปวดไมเกรนเเละเเก้ปวดคอ อาการทั้งหมดก็จะหายไป เเต่ถ้ากลับมาเล่นมือถืออีกซักระยะอาการก็จะกลับมาอีก
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ค่อนข้างไวต่ออาการพวกนี้น่ะครับ