JJNY : “นิด้าโพล” ขรก.-จนท.รัฐ 39.47% เบื่อขั้นตอน│"โรม"ปูด“อู่ตะเภา”│คิวสายสีชมพู!│ฝรั่งเศสเตรียมส่งรถหุ้มเกราะ-จรวด

“นิด้าโพล” ขรก.-จนท.รัฐ39.47%เบื่อขั้นตอน-63.04% ไม่อยากลาออก
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_697534/
 
 
“นิด้าโพล” ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ เบื่อขั้นตอนการปฏิบัติราชการยุ่งยากซับซ้อน 39.47% แต่ 49.47% ยังศรัทธาต่อระบบราชการไทย  และ 63.04% ไม่อยากลาออกและไม่อยากย้ายหน่วยงาน
 
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ เบื่ออะไร?” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 14-18 มีนาคม 2567 จากข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานรัฐวิสาหกิจทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความรู้สึกเบื่อของข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐต่อระบบราชการไทย
 
โดยการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ พบว่า ร้อยละ 39.47 ระบุ ขั้นตอนการปฏิบัติราชการที่มากมายและยุ่งยากซับซ้อน,ร้อยละ 31.53 ระบุ ระบบอุปถัมภ์ในระบบราชการ, ร้อยละ 28.24 ระบุ เงินเดือนน้อย, ร้อยละ 22.44 ระบุ ตัวชี้วัดทั้งหลาย, ร้อยละ 20.38 ระบุ โครงสร้างการปกครองหรือสั่งการตามลำดับชั้น ,ร้อยละ 18.93 ระบุ การประสานงานที่ไม่เป็นระบบ, ร้อยละ 17.02 ระบุ การแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงความดีความชอบและตำแหน่งที่สำคัญ, ร้อยละ 16.49 ระบุ การคอร์รัปชันในระบบราชการ,
 
ขณะความศรัทธาต่อระบบราชการไทย พบว่า ร้อยละ 49.47 ระบุว่า ค่อนข้างศรัทธา,ร้อยละ 22.52 ระบุ ศรัทธามาก, ร้อยละ 21.53 ระบุ ไม่ค่อยศรัทธา,ร้อยละ 6.34 ระบุ ไม่ศรัทธาเลย และร้อยละ 0.14 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
 
ท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการลาออก หรือการย้ายไปอยู่หน่วยงานอื่นของรัฐ พบว่า ร้อยละ 63.04 ระบุ ไม่อยากลาออกและไม่อยากย้ายหน่วยงาน,ร้อยละ 14.89 ระบุว่า อยากลาออกจากหน่วยงานของรัฐ, ร้อยละ 13.44 ระบุ อยากย้ายไปอยู่หน่วยงานอื่นของรัฐ, ร้อยละ 8.32 ระบุ ลาออกหรือย้ายหน่วยงานก็ได้ และร้อยละ 0.31 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ 


 
"โรม" ปูด “อู่ตะเภา” อาจเป็นที่แรกสร้าง "เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์"
https://www.thairath.co.th/news/politic/2774781

“รังสิมันต์ โรม” สส.ก้าวไกล ปูด “อู่ตะเภา” อาจเป็นที่แรก สร้าง "เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์" ลั่น ข้อมูลเพียบ แต่อุบไต๋ จับไปขึ้นเขียง อภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ขอให้รอดู ยัน ทำเต็มที่แน่ 
 
วันที่ 30 มี.ค. 67 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ได้ยกโมเดลความสำเร็จของสิงคโปร์ มาเป็นหนึ่งในเหตุผลการผลักดัน "เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์" ว่า การที่จะทำให้เหมือนประเทศสิงคโปร์ นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มีหลายประเทศเพื่อนบ้าน เคยทำแล้วแต่ ผลลัพธ์ไม่ได้ใกล้เคียงกับสิงคโปร์ สุดท้ายบางที่ กลายเป็นแหล่งอาชญากรรมสำคัญระดับโลก และประเทศไทยเราจะเห็นว่า มันมีเครือข่ายการเมืองระดับชาติที่เกี่ยวข้องกับจีนเทา เป็นต้น พอดู จากการพิจารณา ของกมธ.ฯ รอบนี้ ในแง่คุณภาพระยะเวลา จำนวนครั้งการประชุม มีความกังวล และตนไม่อยากจะบอกว่า มันเหมือนมีความพยายามที่จะเร่งรัด ทำให้เสร็จเร็ว ไม่พยายามแก้ไขเรื่องบ่อนพนันผิดกฎหมาย รวมถึงพนันออนไลน์ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน อีกทั้งตนก็ทราบมาว่า มีการตกลงกันว่า หนึ่งในพื้นที่ที่จะถูกทำให้เป็นพื้นที่เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ที่แรกก็คือ "อู่ตะเภา" เนื่องจากมีการพัฒนาอู่ตะเภาไปเยอะพอสมควร มีการเซ็นสัญญาได้บริษัทเอกชนมาพัฒนาเรียบร้อยแล้ว หรือไม่ ตนก็มีความเป็นห่วงในสองเรื่อง คือ ประเด็นแรกการเซ็นสัญญาที่จะเป็นธรรมหรือไม่ รวมไปถึงผลประโยชน์จะตกเป็นของคนไทยหรือไม่ ประการที่สอง ไม่มีรายงานมาตรการป้องกันที่ชัดเจนทางมาตรการปราบปรามการฟอกเงิน ตนเป็นห่วงมากว่าโมเดลแบบสิงคโปร์อาจจะไม่เกิดขึ้น เพราะเราไม่ได้ใช้วิธีแบบสิงคโปร์มาบริหารจัดการ
 
เมื่อถามว่า ความพยายามเร่งรีบ เป็นเพราะรัฐบาลไปรับใบสั่งจากใครมาหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนว่าเรื่องรายงานฯ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะเราไม่ได้มีบ่อนกาสิโนในประเทศไทยมานานแล้ว ฉะนั้นต้องทำอย่างระมัดระวังและต้องศึกษาเป็นระบบมากๆ และคิดว่า ถ้ารีบทำ จะเป็นผลอันตรายจะไม่ได้ผลแบบสิงคโปร์ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องคุยกันเยอะๆ และยังมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง ที่ต้องทำความเข้าใจ ส่วนที่ถามว่า มีข้อมูลมากขนาดนี้ จะนำไประบายในศึกอภิปราย ม.152 หรือไม่ นั้น ตนขอให้รอดูจะดีกว่า สำหรับข้อมูลเราก็เตรียมไว้ และจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เเน่นอน


 
คิวสายสีชมพู! ‘สุริยะ’ สั่งสอบเหตุเศษคอนกรีตเหลวตกใส่รถยนต์จนกระจกแตก สั่งหยุดงาน 7 วัน ผู้รับสัมปทานถูกตัดแต้ม
https://www.matichon.co.th/economy/news_4501935

“สุริยะ” สั่งเร่งสอบเหตุศษคอนกรีตเหลวร่วงตกใส่รถยนต์จนกระจกแตก บริเวณสถานีอิมแพ็คเมืองทองธานี ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายฯ สั่งหยุดงาน 7 วัน พร้อมวางแนวทางป้องกัน แจ้ง รฟม. จัดทำสมุดพกตัดคะแนนผู้รับสัมปทาน หากเกิดเหตุซ้ำซาก จ่อติดแบล็คลิสต์-ห้ามประมูลงาน เน้นย้ำด้านความปลอดภัยสูงสุด
 
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลการดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช – สถานีเมืองทองธานี ระบุว่า ได้รับรายงานจากผู้รับสัมปทาน (บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM)) ว่า เมื่อวานนี้ (30 มีนาคม 2567) เวลาประมาณ 20.00 น. ที่ผ่านมา ได้เกิดอุบัติเหตุในระหว่างที่มีงานเทคอนกรีตพื้นสถานีชั้น Concourse ของสถานีอิมแพ็คเมืองทองธานี (MT01)
 
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในขณะเทคอนกรีต แบบด้านข้างได้เคลื่อนตัว ทำให้เศษคอนกรีตเหลวร่วงหล่นตกใส่รถยนต์บุคคลที่ 3 จำนวน 1 คัน ได้รับความเสียหาย บริเวณกระจกรถยนต์ด้านหลังแตก เป็นเหตุให้มีผู้โดยสารที่นั่งบริเวณเบาะหลังได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย จากนั้นอาสากู้ภัยได้นำส่งผู้บาดเจ็บไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเวิลด์ เมดิคอล และได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว โดยในช่วงเวลาเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่โครงการฯ ได้หยุดงานและแก้ไขเหตุในทันที ทั้งนี้ บริษัท NBM ได้เข้ารับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดต่อรถยนต์คันดังกล่าว จนได้ข้อยุติแล้ว และจะมีการติดตามผู้เสียหายในเรื่องแนวทางการเยียวยาต่อไป
 
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ล่าสุดกรมการขนส่งทางราง (ขร.) และ รฟม. ได้สั่งการให้หยุดงานในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเวลา 7 วัน และให้บริษัทที่ปรึกษาโครงการ ตรวจสอบขั้นตอนการทำงาน และผู้รับผิดชอบในพื้นที่ รวมทั้งแนวทางการป้องกันการเกิดเหตุ การแก้ไข และรายงาน รฟม. โดยด่วน เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ รฟม. จัดทำสมุดพกสำหรับตัดคะแนนผู้รับสัมปทาน หากเกิดอุบัติเหตุจะถูกตัดคะแนน และหากถูกตัดคะแนนจำนวนมากอาจมีผลในการประมูลงานต่อไป เพื่อกระตุ้นให้ผู้รับเหมามีความรับผิดชอบมากขึ้น และไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ซ้ำขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมต้องขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้เน้นย้ำให้ผู้รับสัมปทานดำเนินงานให้มีความปลอดภัยสูงสุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่