JJNY : 5in1 ‘ก้าวไกล’ชูช่องทางร้องเรียน│เหยื่อแก๊งคอลร้องกมธ.│“สุดารัตน์”ปลุกปชช.│'เชลล์'ขยับดีเซล│ฟิลิปปินส์ปิดโรงเรียน

‘ก้าวไกล’ เกาะติดเกณฑ์ทหาร ชูช่องทางร้องเรียน พลทหารปลอดภัย พิจารณ์ดันร่างกม.ยกเลิกบังคับเกณฑ์
https://www.matichon.co.th/politics/news_4505470
 
 
‘ก้าวไกล’ เกาะติดเกณฑ์ทหาร ชูช่องทางร้องเรียน พลทหารปลอดภัย พิจารณ์ เรียกร้อง รบ.-นายกฯ ผลักดันร่าง กม.ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร
 
เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่วัดลาดปลาเค้า พรรคก้าวไกล นำโดย นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค, นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ร.ท.ธนเดช เพ็งสุข ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ในฐานะรองกรรมาธิการการทหาร ร่วมประชาสัมพันธ์โครงการ “พลทหารปลอดภัย” แก่ประชาชนผู้เข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกินหรือการเกณฑ์ทหาร ที่วัดลาดปลาเค้า เขตลาดพร้าว กทม.
 
นายพิจารณ์กล่าวว่า พรรคก้าวไกลได้เสนอกฎหมายยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนจากการเกณฑ์ทหารภาคบังคับ เป็นการสมัครใจรับราชการทหาร แต่กฎหมายฉบับดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการเงิน ซึ่งต้องได้รับการรับรองจากนายกฯ พรรคจึงแก้ไขเนื้อหาในร่างอีกฉบับ ไม่ให้ถูกตีความว่าเป็นกฎหมายเกี่ยวด้วยการเงิน และได้ยื่นต่อสภาไปแล้ว จึงต้องการส่งสัญญาณไปยังรัฐบาลและนายกฯ เศรษฐา ให้ร่วมผลักดันร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวด้วย
 
นายพิจารณ์กล่าวด้วยว่า ในช่วงการจัดตั้งรัฐบาลก่อนหน้านี้ ตนและพรรคก้าวไกลมีความเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า นโยบายยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ จะได้รับการสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทยเหมือนกับกฎหมายสมรสเท่าเทียม เช่น ตอนจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ที่จะเสนอต่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานรัฐสภา พรรคก้าวไกลก็เสนอว่าต้องมีการให้ความเห็นชอบกฎหมายสำคัญเพื่อประชาชน ที่รวมถึงกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ แต่เราไม่ได้ระบุเรื่องกฎหมายยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร เพราะเชื่อว่าอย่างไรก็ต้องมีการผลักดันและผ่านกฎหมายได้ในที่สุด
 
แต่เมื่อถึงวันนี้ ตนต้องย้ำเตือนไปยังนายกฯ เศรษฐา ว่าร่างกฎหมายที่พรรคก้าวไกลเสนอไป อย่างน้อยควรรีบเซ็น อย่าปัดตกเพียงเพราะเงื่อนไขว่าเป็นร่างการเงิน ไม่เช่นนั้นเยาวชนที่เติบโตขึ้นมาจะต้องคอยลุ้นระทึกอีกไม่รู้กี่ปี เสียโอกาสในชีวิตที่จะเลือกประกอบอาชีพ และต้องย้ำอีกว่า แนวทางที่รัฐบาลพยายามสร้างแรงจูงใจให้คนสมัครเป็นทหาร เช่น เพิ่มเงินเดือน เพิ่มอัตรานายสิบ หางานให้กำลังพลทำในบริษัทเอกชนหลังปลดประจำการ ตนคิดว่าทำเท่านี้ยังไม่เพียงพอ
 
“สิ่งที่รัฐบาลนี้ควรทำ คือต้องสามารถอธิบายให้ได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ว่า จำนวนทหารกองประจำการที่ต้องการ ถูกคิดมาจากการประเมินภัยคุกคามของประเทศอย่างไร โครงสร้างของกองทัพอุ้ยอ้ายไปไหม จะปรับเปลี่ยนอย่างไรเพื่อให้ได้จำนวนทหารเกณฑ์ที่เหมาะสม ไม่อย่างนั้นต้องเกณฑ์กันอยู่แบบนี้ไปอีกกี่ปี คำถามคือวันนี้ จำนวนความต้องการกำลังพลของกองทัพที่เหมาะสม ภายใต้ภัยคุกคามในบริบทโลกปัจจุบัน ในแต่ละปี ตัวเลขควรเป็นเท่าไรกันแน่” นายพิจารณ์กล่าว
 
ด้าน ร.ท.ธนเดชกล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกของพี่น้องชาวลาดพร้าวที่มาจับใบดำใบแดง ในฐานะ ส.ส.เขต และในฐานะ กมธ.การทหาร ตนผลักดันโครงการพลทหารปลอดภัยเพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชน ในช่วงเวลาที่การยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหารยังไม่เกิดขึ้น หากพลทหารหรือครอบครัวของพลทหารได้รับความไม่เป็นธรรม ขอให้แจ้งเข้ามา ทาง กมธ.ทหาร พร้อมให้การช่วยเหลือเต็มที่เพื่อให้กำลังพลมีความปลอดภัย ทั้งนี้ ขอให้กองทัพดูแลกำลังพลด้วยความจริงใจและอยู่ในบรรทัดฐานกรอบกฎหมาย อะไรที่เคยทำแล้วไม่ถูกต้อง หยุดเอาความเคยชินในอดีตมาทำในปัจจุบัน โดยเฉพาะการใช้ความรุนแรงต่างๆ
 
ร.ท.ธนเดชกล่าวด้วยว่า ใครที่จับได้ใบแดง ขอให้แอด LINE OA ของ กมธ.ทหาร ซึ่งจะเป็นช่องทางร้องเรียนของโครงการพลทหารปลอดภัย กมธ.ทหารได้เตรียมทีมงานคอยมอนิเตอร์ข้อมูลและร่วมทำงานกับทุกฝ่าย ประสานงานกับกองทัพอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ไขสถานการณ์ ตั้งเป้าหมายว่าการตายในค่ายทหารต้องเป็นศูนย์



เหยื่อแก๊งคอล ร้องกมธ.มั่นคง ถูกหลอกทำงานกัมพูชา ตั้งยอดหลอกคนละ 3 แสน ขู่ทำร้ายร่างกาย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4505544

เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เข้าสภา ร้อง กมธ.มั่นคง หลังถูกหลอกข้ามแดนใช้แรงงาน-ข่มขู่ ด้าน ปิยรัฐ ชี้ เป็นวาระแห่งชาติ จ่อเข้าที่ประชุมอย่างเร่งด่วน
  
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 เมษายน ที่รัฐสภา ประชาชนที่ถูกหลอกจากกระบวนการค้ามนุษย์ไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เข้ายื่นหนังสือ ต่อ นายปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษก คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร
 
ด้านตัวแทนกล่าวว่า ได้หางานจากในเพจเฟซบุ๊ก จากนั้นมีผู้ติดต่อเข้ามาเสนองานเป็นแอดมิน คอยตอบลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยมีการตกลงค่าจ้าง ที่พัก รวมถึงค่าอาหาร จึงได้ตกลง จากนั้นตนจึงได้เดินทางไปยัง จ.สระแก้ว จากนั้นมีรถยนต์มารับหน้า รพ.อรัญประเทศ จากนั้นได้ขึ้นเรือข้ามคลองผ่านด่านไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งมีรถมารอรับ โดยสถานที่ทำงานเป็นตึก และมีการกักขังไม่ให้ออกไปไหน ลักษณะการทำงานคือการสร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอม สร้างความเคลื่อนไหวจากนั้นก็นำบัญชีดังกล่าวไปหลอกประชาชน โดยมีการตั้งยอดที่จะต้องหลอกประชาชนไว้คนละไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท
หากไม่ทำตามจะถูกข่มขู่ รวมถึงทำร้ายร่างกาย เปิดรูปภาพผู้ที่ถูกทำร้ายให้ดู เมื่อตนทราบแล้วว่าถูกหลอกจึงได้มีการประสานงานกับทีมงานของนายสุภกร ตันติไพบูลย์ธนะ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล เมื่อนายจ้างทราบจึงนำตนขึ้นรถตู้โดยไม่ทราบว่าจะพาไปไหน ตนจึงได้หนีมาโดยได้รับการช่วยเหลือจากประชาชนชาวกัมพูชา รวมถึงได้ติดต่อกับ ส.ส.พรรคก้าวไกล ให้ประสานขอความช่วยเหลือผ่านทางสถานทูตไทยถึงได้กลับมาได้ การที่ตนมาร้องเรียนในครั้งนี้หวังให้ช่วยเหลือคนไทยอีกหลายคนที่ยังติดอยู่ในประเทศกัมพูชา รวมถึงหามาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้คนไทยถูกหลอกอีก
 
ด้านนายปิยรัฐกล่าวว่า ผู้ที่กลับมาได้ถือเป็นผู้โชคดีในอีกหลายๆ รายที่ยังถูกหลอกไปทำงาน ทาง กมธ.จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมอย่างเร่งด่วน ถือเป็นวาระแห่งชาติ จึงอยากผลักดันแก้ปัญหาให้กับประชาชน


 
“สุดารัตน์” ปลุกปชช.ขวางพรรคใหญ่ จับมือนายทุนใหญ่ ปั้นสว.ของตัวเอง
https://www.dailynews.co.th/news/3311147/

"สุดารัตน์" ปลุกปชช.ขวางพรรคใหญ่ จับมือนายทุนใหญ่ ปั้นสว.ของตัวเอง ประกาศผุดแคมเปญ "1 ครอบครัว 1 ผู้สมัครสว." ชี้ สว.เลือกกันเอง

เมื่อวันที่ 2 เม.ย. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า 11 พ.ค. นี้ จะเป็นวันสุดท้ายของการทำงานของ 250 สมาชิกวุฒิสภาชุดที่ 12 ซึ่งมีรากเหง้าและพื้นฐานมาจากคณะรัฐประหาร จากนั้นจะเปิดให้มีการ “คัดเลือก” สว.ชุดที่ 13 ซึ่งเป็นสว.ชุดใหม่ จำนวน 200 คน ที่มาจากวิธีการคัดเลือกแบบใหม่ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์การเมืองไทยมาก่อนนั่นคือการ “เลือกกันเอง
 
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ระบบนี้คือระบบที่ออกแบบมาข้ามหัวประชาชน ไม่ได้มองเห็นความสำคัญของประชาชน เปิดช่องให้ผู้ที่มีกำลังคน กำลังทรัพย์ เข้ามาอยู่ในระบบที่เลือกกันเองได้ง่าย และตนมองว่าการได้มาซึ่ง สว. ในระบบปิดเช่นนี้ ผู้มีอำนาจ มีกำลังคนกำลังทรัพย์ในมือสามารถทำได้ง่ายกว่ากระบวนการได้มาซึ่ง สส.1 คน โดยเฉพาะการใช้เงินต่อหัวจะน้อยกว่ามาก และจะทำให้ผู้สมัคร สว.ที่ไร้อุดมการณ์ แต่หวังผลประโยชน์จากการรับเงินรับทองจะเข้าไปสมัครมากขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดการได้มาซึ่ง สว.ชุดที่เลือกกันเองนี้ จะเป็น สว. ของพรรคการเมืองพรรคใหญ่ และทุนใหญ่ผูกขาดอย่างแท้จริง ในอนาคตเราจะได้เห็นทุนใหญ่ร่วมมือกับพรรคการเมืองขนาดใหญ่ คุมเสียง สว.และมาควบคุมองค์กรอิสระ ปัญหาเหล่านี้จะกลายเป็นมะเร็งร้ายกัดกินประเทศ โดยเฉพาะในแง่ของการปราบปรามทุจริต และระบบยุติธรรมไทย
 
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ใช้กำลังใจ กำลังคน รวบรวมทรัพยากร 2,500 บาท ไปสมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภาให้มากที่สุด เพื่อสามารถไปใช้สิทธิในการโหวต สว.ของประชาชน ไปสู้กับนักการเมืองผูกขาด ทุนใหญ่ผูกขาด โดยแคมเปญ “1 ครอบครัว 1 ผู้สมัคร สว.” ส่งคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วน อายุ 40 ปี เข้าไปเป็นผู้สมัคร เพื่อให้มีเสียงของประชาชนเยอะที่สุด และเมื่อเข้าสู่กระบวนการคัดสรรแล้ว เสียงของประชาชนจะมองเห็นว่าสมควรเลือกใครมากที่สุด และใครคือตัวแทนของพรรคการเมืองหรือทุนใหญ่ผูกขาด ดังนั้น หากเราไม่ต้องการเห็น สว.เป็นเบี้ยล่างของพรรคการเมืองใหญ่ และนายทุนผูกขาด เพื่อหวังกินรวบประเทศ วิงวอนทุกคนช่วยกันรณรงค์ ลงสมัคร สว.ให้มากที่สุด


 
อั้นไม่ไหว! 'เชลล์' ขยับราคาดีเซลเจ้าแรก 30.49 บาท/ลิตร
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/394066
 
อั้นต่อไม่ไหว เชลล์ประกาศขยับราคาดีเซลเจ้าแรก ขึ้นทันที 50 สต./ลิตร ส่งผลราคาดีเซล พุ่งทะลุ 30 บาท/ลิตรแล้ว

โดยหลังสิ้นสุดมาตรการดูแลราคาดีเซล 30 บาท/ลิตร ไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างช่วงสูญญากาศในการพิจารณามาตรการดูแลดีเซล ล่าสุด วันนี้ (2 เม.ย.) ปั้มเชลล์สุดอั้น ประกาศปรับราคาขึ้นเจ้าแรก 50 สต./ลิตร ส่งผลราคาน้ำมันดีเซลของปั้มเชลล์ ขึ้นไปอยู่ที่ลิตรละ 30.49 สต./ลิตร ขณะที่ปั๊มอื่น ทั้ง ปตท. และบางจาก ยังตรึงไว้ที่ 29.99 บาทต่อลิตร

ขณะที่บ่ายวันนี้ กระทรวงพลังงาน มีการประชุมเพื่อหามาตรการรองรับ กรณีราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลจะปรับราคาขึ้น โดยจะมีหลายมาตรการออกมา ที่ต้องใช้เป็นมาตรการร่วมกัน ทั้งประสานกระทรวงการคลังต่ออายุภาษีดีเซล 1 บาทต่อลิตร ที่จะครบกำหนดวันที่ 19 เมษายนนี้ และของบกลางเข้ามาดูแลกองทุนน้ำมันฯ ที่ล่าสุดติดลบหนักถึง 99,821 ล้านบาท เฉพาะบัญชีน้ำมันติดลบถึง 52,729 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามระหว่างนี้ หากทั้ง 2 แนวทางยังไม่ได้ข้อสรุป มีโอกาสที่จะขึ้นราคาดีเซลบางส่วน เพื่อรักษาสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุด ดีเซลตลาดโลก อยู่ที่ 104 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.43 ดอลล่าร์ ขณะที่โครงสร้างราคาขายปลีกดีเซลในไทย ผู้ค้าได้ค่าการตลาด 1.83 บาทต่อลิตร และกองทุนน้ำมันอุดหนุน 4.17 บาทต่อลิตร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่