ปมครอบครัวที่ทำให้เราไม่ค่อยชอบผู้ชาย *ตอนที่2 * ต่อจากตอนที่1ค่ะ พิมพ์เป็นหมื่นเลย มันไม่พอออ

ตามหัวข้อเลยค่ะ ต่อจากตอนที่1 *ตอนที่ทุกท่านกำลังอ่านอยู่คือตอนที่2ค่ะ*  เพราะตอนมันไม่พออ พิมพ์เยอะมากกก มาถึงตอนนี้ใครที่ยังไมอ่านตอนที่1กดโปรไฟล์แล้วกลับไปอ่านได้นะคะ ถ้าอยากรู้เรื่องราวทั้งหมดของเรา

*กระทู้นี้อยากจะมาเล่าเรื่องเพื่อระบายความในใจตลอดระยะเวลาที่เราเจอมาแล้วเหนื่อยมากๆค่ะ *

เราขอแนะนำตัวก่อนเลยนะคะ สวัสดีค่ะ เราขอชื่อแฝงว่า ก แล้วกันนะคะ ตอนนี้เราอายุ15ปีแล้วค่ะ 

*ย้ำตอนที่ทุกท่านกำลังอ่านอยู่คือตอนที่2ที่เราเล่า หากยังไม่ได้อ่านตอนที่1กลับไปอ่านก่อนได้นะคะ กดโปรไฟล์แล้วหาหัวข้อ " ปมครอบครัวที่ทำให้เราไม่ค่อยชอบผู้ชาย ตอนที่1 *

ต่อจากเรื่อง ที่เราเริ่มอคติกับแฟนปัจจุบันของแม่ค่ะ

หลังจากเรื่องที่ทำให้เราไม่ได้เรียนเราก็เริ่มอคติกับเขาค่ะ 

เราคุยได้ หัวเราะได้ ยิ้มได้ แต่ในใจกัดฟันอดทนเอาไว้ค่ะ 

เคยแอบด่าเขาลับหลังด้วยค่ะ อคติทุกอย่างแต่ไม่แสดงออกมาค่ะ

  ตอนนี้เราก็มีงานทำนะคะ

(ถึงจะอายุ15แต่หัวใจเข้มแข็งมากค่ะ 💪🏼💪🏼) เรามีงานทำเป็นล้างจาน ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง งานถือว่าหนักอยู่ค่ะ  เริ่มงานตั้งแต่11โมงถึง4ทุ่มเลยค่ะ ทุกครั้งที่ไปทำก็งานแต่งตลอดเลย༎ຶ⁠‿⁠༎ຶ จานเยอะมากก แต่ก็พอทนได้เพราะไม่ได้ทำทุกวัน ส่วนมากจะมีงานทุกเสาร์อาทิตย์ค่ะ ไปทำกับแม่แล้วก็แฟนปัจจุบันของแม่ค่ะ

ได้คนละ500บาท ตอนแรกที่ทำงานนี้แม่ขอให้เราไปช่วยเฉยๆค่ะ(ตอนแรกที่ทำงานนี้ทำกับแม่แค่2คนค่ะ)

ตอนแรกที่ไปช่วยเฉยๆเราก็ได้ค่าจ้างด้วยค่ะ300บาท ส่วนแม่ได้500บาทค่ะ แต่พอครั้งต่อไปเราก็ได้500บาท คือค่าแรงสำหรับพนักงานคนนึงเลย เราก็ดีใจค่ะ ที่หาเงินได้บ้างค่ะ ตอนแรกที่ทำงานนี้เงินที่เราได้มาก็ยื่นให้แม่หมดเลยค่ะ แต่พอหลังๆมานี้เราก็เข้าช่วงวัยรุ่นแล้ว ก็มีของที่อยากได้อยากซื้อค่ะ ตอนแรกเราขอแม่แค่100บาทเป็นค่าแรงได้มั้ย แม่ก็บอก

" จริงๆทำงานแล้วไม่ต้องให้แม่หรอก เก็บไว้ใช้เองเถอะ " 

เราก็โอโห้ เลิกทำงานเสร็จ เข้าเซเว่น 500 หมดหายใน10นาทีเลยค่ะ (ทำงานตั้งแต่11โมงถึง4ทุ่ม ทำงาน10กว่าชั่วโมง หมดภายใน10นาที🥲) แต่ตอนนี้เริ่มจับทางได้แล้วค่ะ ตอนนี้มีเป้าหมายอยากเก็บเงินซื้อนิยายเอง แล้วก็สะสมไว้ ว่า เออ เราเคยตั้งใจทำงานมาก เพื่อซื้อมันมา (เราชอบอ่านค่ะ ได้ฉายาหนอนหนังสือตอนเรียนด้วย แต่อ่านการ์ตูนนะ ไม่ใช่หนังสือเรียน乁⁠[⁠ᓀ⁠˵⁠▾⁠˵⁠ᓂ⁠]⁠ㄏ แหะๆ ไม่ช่ายย หนังสือเรียนเราก็อ่านบ้างง)

*งานกลางคืนของแม่ ณ ตอนนี้แม่ไม่ไปแล้วค่ะ เพราะงานล้างจานตอนนี้ ก็คงจะมั่นคงกว่า ถึงจะไม่ได้มาก แต่ก็ไม่ถึงขั้นอดๆอยากๆค่ะ*

มาถึงเรื่องการทำร้ายร่างกายแม่ครั้งแรกของแฟนปัจจุบันของแม่ค่ะ วันนั้นเป็นวันเกิดของแม่เลยค่ะ วันเกิดแม่เป๊ะๆเลยค่ะ วันนั้นแฟนปัจจุบันของแม่ไปกินเหล้ามาค่ะ เมาเลยค่ะ อยู่ดีๆก็ขุดคุ้ยเรื่องเก่าหรือเรื่องที่จบไปแล้วมาคุยค่ะ (สไตล์คนเมาแล้วพูดไปเรื่อยค่ะ)  แล้วอยู่ดีๆก็โมโหค่ะ เข้ามาจับหัวแม่แล้วโขลกกับกำแพงค่ะ เลือดไม่ไหลแต่ก็คงเจ็บอยู่ค่ะ เข้ามาบีบโทรศัพท์ในมือแม่จนพังคามือแม่เลยค่ะ ตอนนั้นเองค่ะ เหมือนจะเป็นอาการที่เราไม่เคยเป็นมาก่อน ตอนนั้นเราใจเต้นรัว ทำอะไรไม่ถูก ขาสั้นไม่กล้าขยับ ร้องไห้สะอึกสะอื้น มือไม้สั่นไปหมด  (ไม่รู้ว่าเรียกแพนิคได้มั้ย) วินาทีนั้นเราไม่กล้าทำอะไรเลยค่ะ ได้แต่บอกว่าพอได้แล้ว พยายามเอาเรี่ยวแรงอันเล็กน้อยของตัวเองแกะตัวเขาออกมา  (พอมาคิดย้อนตอนนั้นเสียใจมากที่ช่วยอะไรแม่ไม่ได้เลย) จริงๆในเหตุตอนนั้นมีลุงคนนึงอยู่ด้วยค่ะ อายุก็40ต้นๆมั้งคะ ณ เหตุการณ์นั้น ลุงคนนั้นเอาแต่ยืนเฉยๆค่ะ ห้ามสักคำก็ไม่มี 

 

*ก็เคยได้ยินนะคะเรื่องผัวเมียไม่ควรเข้าไปยุ่ง แต่ถ้าเขาจะฆ่ากันตายคุณก็ไม่คิดจะห้ามเลยเหรอ ไม่อยากให้สังคมไทยยึดคติผิดๆแบบนี้ค่ะ*

ต่อจากเหตุการณ์ในวันเกิดของแม่เราค่ะ พอเขาพังโทรศัพท์ไปแล้วเขาก็ออกไปกินเหล้าต่อค่ะ ลุงคนนั้นก็ออกไปด้วย วินาทีนั้นแม่ก็รีบลุกแล้ว แม่ก็รีบหยิบกุญแจรถ แล้วเก็บของที่จำเป็นมาค่ะ ตอนนั้นทุลักทุเลมาก กลัวว่าแฟนคนปัจจุบันของแม่จะกลับมาค่ะ จนกระทั่งเราได้ขี่รถออกไปตอนนั้นก็โล่งใจมากค่ะ แต่ก็สงสารแม่จับใจเลย ตอนนั้นไม่ค่อยมีเงินค่ะ(งานล้างจานตอนนั้นไม่ค่อยมีค่ะ) จะไปเปิดศูนย์ก็ไม่ได้  ก็เลยต้องไปขอพักกับเพื่อนแม่ค่ะ ต้องแอบๆด้วยนะคะ เพราะหอนั้น คือหอที่ยายเราเป็นเจ้าของเองค่ะ

ยายก็นอนในหอนั้นนั่นแหละ (จะบอกว่าวันที่ทะเลาะกับยายแม่ก็ออกมาจากหอนี้นี่แหละค่ะแต่ไม่ได้กลับเข้ามาหลายปีแล้ว) 

หลังจากที่แม่ทะเลาะกับแฟนคนปัจจุบันมาแล้วมาขออยู่กับเพื่อนชั่วคราวแม่ก็เกรงใจค่ะ ก็ว่าจะออกไปแล้ว ฝากน้องเราไว้กับเพื่อนแม่ แล้วก็ไปทำงานล้างจานค่ะ

วินาทีนั้นเราก็ได้ยินเสียงน้องพูดค่ะว่า " เห้ย นั่น ม หนิ " ขอแทนเป็น ม นะคะ ม ก็คือพี่สาวเราเองค่ะ พี่สาวคนที่2 (ลูกคนที่3ค่ะ) ตอนนั้นเราไม่ได้ปิดประตูห้องเลย เปิดอ้าซ่าเลย เราหันไปก็เห็นแค่หลังของพี่สาวเราเองค่ะ(มองข้างหลังยังเห็นเลยว่าสวยมาก(⁠•⁠ө⁠•⁠)⁠♡ )  พี่สาวเราแค่เดินผ่านไป ไม่ได้สนใจหรือทักทายอะไรค่ะ หรืออาจจะไม่เห็น (เรา4พี่น้อง คนละพ่อกันทั้งหมดเลยนะคะ พ่อพี่สาวคนที่2ของเราเป็นคนเหนือค่ะ เพราะงั้นพี่สาวเราก็เลยขาวมากกก แถมสวยมากด้วย ต่างจากเรามาก แต่วันนั้นเราไม่เห็นหน้าพี่สาวค่ะ༎ຶ⁠‿⁠༎ຶ)

เรากับพี่สาวคนที่2ตอนเด็ก สนิทกันมาก ไปไหนไปกัน ขี้แกล้งด้วยค่ะ เคยหลอกให้เอาหน้าจุ่มกับคอม ตอนเปิดผีเก้าอี้ด้วยย(⁠。⁠ノ⁠ω⁠\⁠。⁠)เล่นสลับชื่อกันด้วย เล่นอะไรซนๆแล้วก็โดนยายด่า หุหุ😖✨ จำได้ว่าตอนนั้นสนุกมากเลยค่ะ

ตอนเด็กพี่สาวคนที่2ของเราอยู่กับ พี่สาวหรือน้องสาวของยายนี่แหละ  ตอนนั้นยายเขาก็จะมาส่งพี่สาวเราให้มาเล่นกับเรา พอถึงเวลาก็จะมารับค่ะ พอไม่ได้เจอกันตั้งนาน ก็เลยตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ(ตั้งแต่แม่ทะเลาะกับยาย)   แต่เสียดายวันนั้นไม่เห็นหน้า ไม่กล้าทักด้วยค่ะะ

//ต่อ// ตอนที่แม่จะฝากน้องเราไว้กับเพื่อนแม่ค่ะ เพราะจะไปทำงานล้างจานค่ะ วันนั้นก็ทำงานล้างจานตามปกติแหละค่ะ อยู่ดีๆก็เห็นคนๆนึงค่ะหงอยมาเลย ใช่ค่ะ แฟนปัจจุบันของแม่เราเอง ตอนนั้นเราก็โมโหค่ะ ฟึดฟัดเข้าห้องน้ำไปสงบสติอารมณ์ค่ะ แอบตาก็แอบไหลค่ะ พอคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นของแม่ พอออกมาก็ไม่เจอแล้วค่ะ วันนั้นก็แอบนึกในใจค่ะแม่จะใจอ่อนเหรอ  หลังจากทำงานค่ะ แม่ก็ไปรับน้องแล้วก็ไปเปิดศูนย์นอนค่ะ วันต่อมาแม่ก็ไปโรงบาลเพื่อฟอกไตค่ะ (เป็นแบบนี้ทุกวันเว้นวันค่ะ) ไปโรงบาลก็ยังตามมาง้ออีก (ตายยากจริงಠ⁠∀⁠ಠ) ตอนนั้นเราก็คิดแล้วค่ะ ว่าแม่ก็คงจะยอมแล้วก็กลับบ้าน ก็จริงค่ะ แม่ยอมกลับบ้านค่ะ ตอนนั้นเราก็ไม่ได้อะไร (แค่อคติกับแฟนปัจจุบันของแม่เพิ่มเท่านั้นเอง) 

ต่อมาค่ะ ทะเลาะกันอีแล้วค่ะ ครั้งนี้ก็ทะเลาะกันเรื่องเงินค่ะ 

แต่เขาไม่ได้ทำอะไร (มีทำท่าจะทำบ้างค่ะ ) เราก็ห้ามบอกว่าพอได้แล้ว (เพราะตั้งแต่มีปมเรื่องทำร้ายร่างกายต่อหน้าต่อตาเรามาตั้งแต่เด็ก เราก็ฝังใจเรื่องการทำร้ายร่างกายมาตลอดเลยค่ะ) พอทะเลาะก็ไล่กันอย่างกับหมูอย่างกับหมา 

เป็นแม่เรากับ เรา และน้องสาวเราเองค่ะ ที่ต้องไป เราก็เดินไปเรื่อยค่ะ ไปถึงหน้าซอย ทางเข้าหมู่บ้าน ตอนทะเลาะกัน เพื่อนของแม่หรืออาแท้ๆของน้องเรา ยืมรถไปค่ะ ข้างนอกค่ะ ตอนนั้นก็คุยโทรศัพท์กันแล้วแล้วก็ตกลงว่าจะไปส่งอาของน้องที่บ้านแล้วแม่จะเอารถไปค่ะ

ระหว่างรอ อยู่ดีๆก็มีหนูวิ่งมากลางถนนในซอย พยายามจะข้ามมาอีกฝั่งนึงของถนน แล้วโดนรถเหยียบค่ะ ไส้ทะลักเลย แต่เราไม่เห็นตอนน้องโดนเหยียบค่ะ แต่น้องเรียกเราให้ดู พอเราเห็นหนูที่มาตายตรงหน้าก็นิ่งเฉยค่ะ  ไม่รู้สิคะ เรารู้สึกเหนื่อย รู้สึกไม่อยากพูดอะไร ไม่รู้สึกสงสารหรืออะไรเลย รู้สึกอยากขำแทนที่จะสงสาร ไม่รู้ทำไมค่ะ พอมาคิดย้อนก็ถามกับตัวเองว่าทำไมถึงขำแทนที่ควรจะสงสารมัน เหมือนสมองไม่อยากตอบค่ะ นึกอะไรไม่ออกเลย

พอรถมาแม่ก็ขี่ไปค่ะ ตอนนั้นไปศูนย์ค่ะ จากนั้นไม่นานค่ะ ก็มีข่าวว่า แฟนของอาแท้ๆของน้องเราหรือเพื่อนแม่อ่ะค่ะ เสียแล้ว (เป็นโรคอะไรไม่รู้ค่ะ แต่ผอมถึงกระดูกเลย ) วันนั้นเราตกใจมาก คนที่ตั้งชื่อเล่นให้เรา คนที่เคยซื้อขนมมาให้เรากิน เขาก็เสียซะแล้ว  วันนั้นหลายเหตุการณ์มากค่ะ เรางงไปหมด 

งานศพของเขา แม่เราก็ไปด้วยค่ะ เพราะเป็นเพื่อนกัน ตอนนั้นเรากลัวมาก กลัวว่าแฟนคนปัจจุบันของแม่จะลากกลับบ้านไปทะเลาะกันอีก แต่ไม่ค่ะ ทั้งคู่ไม่ได้คุยกันเลยในงานนั้น (แต่คงไม่มีใครอยากทะเลาะในงานศพหรอกค่ะ) จนกระทั่งวันเผา ก็ไม่ได้คุยกันอยู่ดีค่ะ เสร็จงานก็ต่างคนต่างกลับบ้านของตัวเอง  แต่กลับของเราไม่ได้กลับศูนย์นะคะ กลับบ้านที่เราโดนไล่ออกมาอ่ะค่ะ ไม่ใช่ห้องที่เราเคยอยู่

แต่เป็นห้องข้างๆอีกห้องนึงค่ะ ใช่ค่ะ แม่จะเช่าห้องใหม่ค่ะ

ข้างๆห้องเก่าที่เราเคยอยู่ (ล่อแหลมมากตอนนั้นตกใจมากค่ะ กลัวว่าเขาจะทะเลาะกัน ตอนนั้นเราระแวงไปหมดเลย)

ค่าห้องตอนนั้นเราติดไว้ก่อนค่ะ มีเงินค่อยจ่าย มีโอกาสก็แอบไอหยิบผ้าห่มในห้องนั้นค่ะ ห้องที่เราเคยอยู่ เพราะหลังจากงานศพ แฟนคนปัจจุบันของแม่ก็ไม่ได้อยู่ห้องค่ะ แต่ไปอยู่ห้องอาแท้ๆของน้องสาวเราค่ะ มีโอกาสไปหยิบผ้ากับของใช้มาบ้างค่ะ  เพราะห้องที่เราพึ่งเขามาอยู่แค่กวาดฝุ่นแล้วก็นอนเฉยๆเลยค่ะ แค่นั้นเลย

2-3วันต่อมาเขาก็คุยกันปกติค่ะ เหมือนไม่ได้โกรธอะไรกันมา แต่จะให้ย้ายกลับไปอยู่ห้องเดิมก็คงไม่ไหวอ่ะ ด้วยความที่แฟนคนปัจจุบันของแม่ค่ะ ไม่ค่อยเก็บบ้าน(ไม่เก็บเลยดีกว่า) ของที่เก็บมาจากที่ทำงานก็รกเต็มห้องไปหมด (ทำงานเป็นรถเก็บขยะ) เคยพยายามเก็บแล้วนะคะ แต่ไม่ไหวอ่ะเก็บแล้วก็รกใหม่ เก็บแล้วก็ทำสกปรก ก็เลยขี้เกียจแล้วค่ะ แม่ก็เคยจะอยู่ห้องที่พึ่งยายเข้ามานั่นแหละ ค่าห้องก็ของใครของมันค่ะ เรากับแม่ถ้ามีงานล้างจานช่วงๆสิ้นเดือนก็ช่วยแม่ออกค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ บ้างค่ะ คนละครึ่ง แบบนี้วนไปจนหลายเดือนค่ะ 

ค่ากินทั้งคู่ก็แบ่งๆกันค่ะ หมายถึงแม่กับแฟนคนปัจจุบันนะคะ เรื่องเงินเดือนของแฟนคนปัจจุบันของแม่ แม่ก็ไม่ได้ไปยุ่งเลยค่ะ 

แต่ก็ยังมีทะเลาะกันเรื่องเงินอีกค่ะ ทะเลาะกันเรื่องเงินอีกแล้วค่ะ ว่า แฟนปัจจุบันของแม่อ่ะค่ะ ตอนนั้นไม่ค่อยออกค่ากินเลยค่าอะไรเลย ช่วงนั้นเรื่องเงินก็หนักไปทางแม่ค่ะ

ก็ทะเลาะกันอีก แต่เราก็ห้ามไว้ตลอดค่ะ เหมือนเดิมค่ะ อาการหัวใจเต้นรัว แขนขาสั่น ร้องไห้สะอึกสะอื้น ไม่กล้าขยับ ทุกครั้งที่พวกเขาทะเลาะหรือตะโกนใส่กัน อยู่ดีๆเราก็เจ็บจากข้างในแล้วก็อยากร้องไห้ออกมาค่ะ จำได้ว่าล่าสุด เราก็เข้าห้องแล้วแอบร้องไห้เงียบๆคนเดียวค่ะ

รู้สึกทรมานค่ะ ไม่รู้ว่าเราไปทำอะไรไว้ ถึงได้เอาแต่เจอเรื่องแบบนี้ซ้ำๆ ตอนแรกก็สงสารแม่ค่ะ ว่าทำไมถึงเจอแต่คนแบบนี้ หลังๆมาก็สงสารตัวเองค่ะว่าทำไม เจอแต่เรื่องแบบนี้กันนะ เราจะหลุดพ้นได้เมื่อไหร่ เด็ก15แบบเราเคยเจอเรื่องแบบนี้แบบเรามั้ย? ความที่เราเจอเรื่องทำร้ายร่างกายมาตั้งแต่เด็กๆ เสียงตะหวาดเสียงตะโกน แค่ฟังก็รู้สึกเจ็บจากข้างใน แล้วก็อยากร้องไห้แล้วค่ะ เป็นคนอื่นไม่เป็นไร แต่คนในครอบครัวนี่สิ เรื่องแบบนี้แหละค่ะ เป็นปมครอบครัวของของเราที่ไม่ค่อยชอบผู้ชายเพราะแบบนี้แหละค่ะ เพราะกลัวค่ะ 

เรื่องที่เราเล่ามาทั้งหมด คือเรื่องจริงค่ะ ไม่มีการสร้างเรื่องใดๆทั้งสิ้น เราเป็นคนไม่มีเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนแล้วค่ะ ก็เลยอยากมาระบายความในใจเฉยๆ พอระบายแล้วก็รู้สึกโล่งนิดหน่อยค่ะ 

เราขอไม่ดราม่านะคะ เพราะเรื่องที่เราเจอมาก็เหนื่อยและปวดหัวจะแย่แล้ว แค่มาระบายความในใจเฉยๆค่ะ💪🏼

ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตอนนี้นะคะ เหมือนเพื่อนนั่งฟังเราระบายความใจเลยค่ะ 😖💕

ใครที่กำลังเจอเรื่องที่ทุกข์ใจอยู่นะคะ เราขอให้ทุกคนผ่านมันไปให้ได้นะคะ สู้ๆกับทุกเรื่องที่เจอค่ะ ฝนมันก็ไม่ได้ตกทุกวันใช่ไหมล่ะคะ ยังไงมันก็ต้องมีวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสค่ะ
วันที่เราได้มีความสุข ได้ออกไปโลดแล่นนน  อย่างน้อยทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ก็ดีใจแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ🙏🏻🙏🏻💕💕(โอ้วว พิมพ์เพลินไปหน่อยค่ะ พิมพ์ตั้งแต่ตอนเย็น ตอนนี้ตี2แล้วค่ะ โอ้วว เพลินมากกกヽ⁠(⁠。⁠◕⁠o⁠◕⁠。⁠)⁠ノ⁠.)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่