ภัยทำบัตรเครดิต “หนี้” ที่ไม่ควรมองข้าม ทำไมเราไม่ควรผ่อนขั้นต่ำ? ทางออกของคนชอบรูดปรื๊ด!
การใช้ “บัตรเครดิต” แทน “เงินสด” หากเลือกใช้อย่างถูกวิธี เราจะได้ประโยชน์ที่คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็น โปรโมชันแบ่งจ่าย 0% หรือสิทธิประโยชน์ส่วนลดต่างๆ ที่ติดมากับบัตรเครดิต
ทั้งนี้บัตรเครดิตหรือบัตรสินเชื่อต่างๆ มักมีรูปแบบการชำระยอดค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไปตามแต่ละสถาบันการเงินจะกำหนด แต่ 2 รูปแบบที่เรามักเห็นกันบ่อยๆ คือ การชำระแบบเต็มจำนวน และการชำระแบบขั้นต่ำ ซึ่งการจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงจ่ายขั้นต่ำเท่าที่เราจ่ายได้นะ แต่เป็นขั้นต่ำที่ทางสถาบันการเงินผู้ออกบัตรกำหนดเอาไว้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้เต็มจำนวน เพื่อรักษาสถานะทางการเงินให้เป็น “ปกติ”
แต่กระนั้นคนส่วนใหญ่มักจะเลือกที่จะ “ผ่อนขั้นต่ำ” เพื่อช่วยแบ่งเบายอดเงินก้อนใหญ่ที่ต้องชำระเมื่อรอบบิลบัตรเครดิตรายเดือนมาถึง หากเดือนนั้นมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นเยอะ อาทิ ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ จองตั๋วคอนเสิร์ต เหล่านี้ล้วนเป็นเหตุผลให้หลายคนลังเล
ดังนั้นแม้ยอดเงินขั้นต่ำจะทำให้ดูเหมือนจ่ายได้น้อยลง แต่การจ่ายขั้นต่ำก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเสมอไป เพราะเมื่อไหร่ที่จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตต่อไปเรื่อยๆ จะทำให้เกิด “ดอกเบี้ยสะสม” คือ ดอกเบี้ยจากยอดที่ใช้ไป และดอกเบี้ยจากยอดที่ยังค้างอยู่จะสะสมเพิ่มพูน
ในที่สุดก็จะเกินความสามารถในการชำระหนี้ ก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็น เสียประวัติ ติดเครดิตบูโร ติดแบล็กลิสต์ อาจส่งผลให้ กู้สินเชื่ออื่นๆ ไม่ผ่านอีกด้วย ส่วนกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือ เสี่ยงถูกฟ้องร้อง และยึดทรัพย์
รวมทั้งหลังจากงวดเดือนมกราคม ปี 2567 นี้ แต่ละธนาคารจะเปลี่ยนเงื่อนไข การชำระขั้นต่ำของบัตรเครดิต เป็น 8% จากใบแจ้งยอดค่าใช้จ่าย ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากเดิม ที่อยู่ 5% ก่อนจะกลับไปสู่เกณฑ์ปกติที่ 10% ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป นั่นจึงทำให้ผู้ใช้บัตรเครดิตต้องรับมือการจ่ายค่างวดที่เพิ่มขึ้น และท้ายที่สุดแล้วจะทำให้ “การจ่ายบัตรขั้นต่ำ” ปูทางไปสู่จุดเริ่มต้นของการเป็น “หนี้”
[ เคล็ดลับการใช้บัตรเครดิตให้ไม่ต้องจ่ายขั้นต่ำ ]
1.ตั้งงบการใช้ จัดสรรงบให้ชัดเจน
แบ่งแยกว่าในแต่ละเดือนจะใช้บัตรเครดิตจ่ายค่าอะไรบ้าง เช่น ใช้บัตรเครดิตจ่ายค่าเบี้ยประกัน หรือ ค่ารักษาพยาบาล เพื่อให้แน่ใจว่าใช้บัตรเครดิตในเรื่องจำเป็นจริงๆ การมีงบตั้งไว้จึงถือเป็นสิ่งช่วยเตือนให้ยับยั้งชั่งใจไม่ให้รูดใช้เกินกว่าที่จะจ่ายบิลไหว
2.หมั่นสังเกตยอดบิล
เมื่อรายการสรุปยอดบิลบัตรเครดิตมาถึงหลายคนอาจเลือกดูเฉพาะยอดรวมเท่านั้น และมองข้ามรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไป ทำให้ไม่ทันได้สังเกตรายการรูดจ่ายแต่ละรายการที่เกิดขึ้นตลอดทั้งเดือน จึงต้องอ่านใบแจ้งยอดบัตรเครดิตอย่างละเอียดทุกครั้ง
3.มีเงินสำรองสำหรับจ่ายค่าบัตรเครดิต
ควรมีเงินสำรองสำหรับรองรับยอดจ่ายบัตรเครดิตส่วนนี้เผื่อไว้เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายขั้นต่ำในทีหลัง แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย แม้จะใช้บัตรเครดิตเกินกว่างบที่ตั้งไว้ก็ยังเบาใจว่าสามารถชำระคืนค่าบัตรเครดิตได้เต็มจำนวนและตรงเวลา
cr.thairathMoney
เคล็ดลับการใช้บัตรเครดิตให้ไม่ต้องจ่ายขั้นต่ำ
การใช้ “บัตรเครดิต” แทน “เงินสด” หากเลือกใช้อย่างถูกวิธี เราจะได้ประโยชน์ที่คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็น โปรโมชันแบ่งจ่าย 0% หรือสิทธิประโยชน์ส่วนลดต่างๆ ที่ติดมากับบัตรเครดิต
ทั้งนี้บัตรเครดิตหรือบัตรสินเชื่อต่างๆ มักมีรูปแบบการชำระยอดค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไปตามแต่ละสถาบันการเงินจะกำหนด แต่ 2 รูปแบบที่เรามักเห็นกันบ่อยๆ คือ การชำระแบบเต็มจำนวน และการชำระแบบขั้นต่ำ ซึ่งการจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงจ่ายขั้นต่ำเท่าที่เราจ่ายได้นะ แต่เป็นขั้นต่ำที่ทางสถาบันการเงินผู้ออกบัตรกำหนดเอาไว้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้เต็มจำนวน เพื่อรักษาสถานะทางการเงินให้เป็น “ปกติ”
แต่กระนั้นคนส่วนใหญ่มักจะเลือกที่จะ “ผ่อนขั้นต่ำ” เพื่อช่วยแบ่งเบายอดเงินก้อนใหญ่ที่ต้องชำระเมื่อรอบบิลบัตรเครดิตรายเดือนมาถึง หากเดือนนั้นมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นเยอะ อาทิ ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ จองตั๋วคอนเสิร์ต เหล่านี้ล้วนเป็นเหตุผลให้หลายคนลังเล
ดังนั้นแม้ยอดเงินขั้นต่ำจะทำให้ดูเหมือนจ่ายได้น้อยลง แต่การจ่ายขั้นต่ำก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเสมอไป เพราะเมื่อไหร่ที่จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตต่อไปเรื่อยๆ จะทำให้เกิด “ดอกเบี้ยสะสม” คือ ดอกเบี้ยจากยอดที่ใช้ไป และดอกเบี้ยจากยอดที่ยังค้างอยู่จะสะสมเพิ่มพูน
ในที่สุดก็จะเกินความสามารถในการชำระหนี้ ก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็น เสียประวัติ ติดเครดิตบูโร ติดแบล็กลิสต์ อาจส่งผลให้ กู้สินเชื่ออื่นๆ ไม่ผ่านอีกด้วย ส่วนกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือ เสี่ยงถูกฟ้องร้อง และยึดทรัพย์
รวมทั้งหลังจากงวดเดือนมกราคม ปี 2567 นี้ แต่ละธนาคารจะเปลี่ยนเงื่อนไข การชำระขั้นต่ำของบัตรเครดิต เป็น 8% จากใบแจ้งยอดค่าใช้จ่าย ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากเดิม ที่อยู่ 5% ก่อนจะกลับไปสู่เกณฑ์ปกติที่ 10% ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป นั่นจึงทำให้ผู้ใช้บัตรเครดิตต้องรับมือการจ่ายค่างวดที่เพิ่มขึ้น และท้ายที่สุดแล้วจะทำให้ “การจ่ายบัตรขั้นต่ำ” ปูทางไปสู่จุดเริ่มต้นของการเป็น “หนี้”
[ เคล็ดลับการใช้บัตรเครดิตให้ไม่ต้องจ่ายขั้นต่ำ ]
1.ตั้งงบการใช้ จัดสรรงบให้ชัดเจน
แบ่งแยกว่าในแต่ละเดือนจะใช้บัตรเครดิตจ่ายค่าอะไรบ้าง เช่น ใช้บัตรเครดิตจ่ายค่าเบี้ยประกัน หรือ ค่ารักษาพยาบาล เพื่อให้แน่ใจว่าใช้บัตรเครดิตในเรื่องจำเป็นจริงๆ การมีงบตั้งไว้จึงถือเป็นสิ่งช่วยเตือนให้ยับยั้งชั่งใจไม่ให้รูดใช้เกินกว่าที่จะจ่ายบิลไหว
2.หมั่นสังเกตยอดบิล
เมื่อรายการสรุปยอดบิลบัตรเครดิตมาถึงหลายคนอาจเลือกดูเฉพาะยอดรวมเท่านั้น และมองข้ามรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไป ทำให้ไม่ทันได้สังเกตรายการรูดจ่ายแต่ละรายการที่เกิดขึ้นตลอดทั้งเดือน จึงต้องอ่านใบแจ้งยอดบัตรเครดิตอย่างละเอียดทุกครั้ง
3.มีเงินสำรองสำหรับจ่ายค่าบัตรเครดิต
ควรมีเงินสำรองสำหรับรองรับยอดจ่ายบัตรเครดิตส่วนนี้เผื่อไว้เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายขั้นต่ำในทีหลัง แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย แม้จะใช้บัตรเครดิตเกินกว่างบที่ตั้งไว้ก็ยังเบาใจว่าสามารถชำระคืนค่าบัตรเครดิตได้เต็มจำนวนและตรงเวลา
cr.thairathMoney