เราเครียดมากเลยค่ะเราป่วยเป็นโรคไตแต่ตอนนี้เราได้เปลี่ยนไตแล้วเราเริ่มป่วยเป็นโรคนี้ตั้งแต่อายุ 13 ปีตอนนั้นจำได้ว่าตอนที่เราเรียนจบป 6 เราก็ไม่ได้ต่อม 1 เพราะว่าต้องออกมาดูแลย่าที่ป่วยหลังย่าเสียชีวิตได้ 1 ปีเราก็สมัครเข้าโรงเรียนและเรียนม 1แต่เหมือนมีเวรกรรมพอเราเข้าเรียนได้ไม่ถึงครึ่งเทอมเราก็ป่วยเป็นการป่วยที่หนักมากเราโรงพยาบาลนอน6 เดือนตอนนั้นเราคิดว่าเราอาจจะตายแต่ก็ไม่ตายเราได้ล้างไตอยู่ประมาณ 2 ปีไม่นานเราก็ได้เปลี่ยนไปจำได้ว่าตอนป่วยทรมานมากนอนไม่หลับและหลังจากที่เราได้เปลี่ยนไปจำได้ว่าเฆี่ยนมากคนที่เปลี่ยนไตแล้วจะต้องกินยากดภูมิและการกินยาก็ต้องกินยาให้ตรงเวลาระดับยาต้องเป็นไปตามที่หมอเขาต้องการตอนนั้นเราก็กินยาเรากินยาตรงเวลามากถึงขั้นตั้งนาฬิกาปลุกไว้กินยาเลยแต่ว่าระดับยาก็ไม่ดีขึ้นจนหมอว่าเราครอบครัวเราก็ว่าเราว่าเปลี่ยนไตแล้วทำไมไม่รู้จักดูแลตัวเองทั้งๆที่เราพยายามที่สุดแต่มันไม่ดีเองตอนนั้นจำได้ว่าหมอคุยกับอาเราลับหลังว่าเราเป็นเด็กขี้โกหกโกหกหมอว่ากินยาตรงตอนนั้นเราเครียดมากเครียดถึงขั้นถ้าเปลี่ยนไปไม่ได้สำเร็จครั้งนี้เรายอมให้หมอฉีดยาตายเลยอ่ะจำได้ว่าหลังกลับมาจากโรงพยาบาลเราโดนครอบครัวด่าว่าสารพัดเพราะว่าเราไม่ดีขึ้นทั้งๆที่เราพยายามแล้วไงเราพยายามบอกทุกคนว่าเราพยายามแล้วแต่ไม่มีใครเชื่อสักคนจนมาจุดพลิกผันหมอให้ยาเรากินเกินมันเลยไม่ได้ปริมาณที่หมอเขาต้องการตอนนั้นหมอเขาถามเราว่ายาที่เรากินอยู่ชื่ออะไรปริมาณเท่าไหร่เราก็ตอบได้หมดเลยจนหมอเขาก็รู้แหละว่าเขาให้ยาเราผิดแต่หมอก็ไม่ขอโทษเราสักคำแล้วก็ไม่บอกครอบครัวเราด้วยว่าหมอเป็นคนให้ยาเราผิดเองจากนั้นเราก็ได้เปลี่ยนไปตรวจกับหมอคนใหม่เราได้เปลี่ยนตัวยาปรับยาจนดีขึ้นตอนนี้ระดับยาคงที่แต่แล้วก็ยังต้องไปโรงพยาบาลทุก 2 เดือนอยู่เพราะต้องไปเช็คระดับยาแล้วก็ไปรับยาพอเราเล่าเรื่องที่หมอให้ยาเราผิดให้ยาเราเกินขนาดให้ครอบครัวฟังครอบครัวไม่เชื่อเรานะจนเราอธิบายเรื่องยาให้ฟังแล้วบอกเขาว่าเราอย่าได้ได้ยาตัวใหม่มาครอบครัวเราก็ไม่ได้เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์แต่เราก็ไม่ได้โกรธอะไรครอบครัวแต่เรารู้สึกขอบคุณครอบครัวมากกว่าที่ยอมเสียเงินมากมายเพื่อรักษาเราแต่เราก็ยังไม่อยากเป็นภาระของครอบครัวบ่อยครั้งที่ทูลเอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่นบ่อยๆแล้วก็รู้สึกน้อยใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เราไม่สามารถพูดเรื่องส่วนตัวกับครอบครัวได้เพราะสิ่งที่ได้กลับมาก็คือการด่าท้อไม่ก็ไม่สนับสนุนเอาเรื่องที่เราป่วยมาอ้างบอกเราว่าคนแบบเราทำไม่ได้หรอกแต่ก็มีพ่อแล้วขอบคุณพ่อมากที่ดูแลเรามาตลอดตอนป่วยก็เป็นคนเดียวที่เช็ดตัวให้เราเฝ้าเราอยู่โรงพยาบาล 6 เดือนถึงพ่อจะไม่เคยให้กำลังใจตอนที่เราป่วยอยู่แต่เราก็รู้ว่าพ่อเป็นห่วงเรามากถ้างั้นก็คงไม่มานั่งเฝ้าเราหรอกที่จริงเรื่องนี้มันยังไม่จบแค่นี้มันยาวเกินที่จะเขียนออกมาเป็นตัวหนังสือครอบครัวที่ผ่านมาไม่เคยมีใครให้กำลังใจเราให้กำลังใจตัวเองถึงแม้บางครั้งจะรู้สึกท้อแต่เราก็นึกถึงค่าใช้จ่ายที่ครอบครัวเสียไปถ้าเรายอมแพ้ทุกอย่างที่ครอบครัวเราเสียไปมันจะสูญเปล่าเพราะฉะนั้นเราคิดเสมอว่าเราควรสู้กับโลกที่เราเป็นอยู่ก็แค่นี้แหละขอบคุณมากที่เข้ามาอ่านเขามาคอมเม้นนะคะ
ครอบครัว