10 ร้านอาหารแนะนำของดี ใน 5 เมือง Kyushu

ถ้าพูดถึงอาหารในคิวชู ฟุกุโอกะ หลายๆ คนคงนึกถึงราเมง โดยเฉพาะร้านอิชิรัน หรือร้านชินชิน ที่เวลาใครมาก็ต้องมายืนเข้าคิวต่อแถว แบบมาถึงแล้วก็ต้องกิน แต่ว่าในคิวชู 5 เมืองที่เราจะมาแนะนำครั้งนี้ คือเมือง Fukuoka Kitakyushu Kumamoto Sasebo Hita ยังมีอาหารท้องถิ่นอีกตั้งหลายอย่าง แต่ละเมืองก็มีเมนูดัง (ถามว่าทำไม5เมืองนี้ เพราะเราไปมาไง555) จะมีร้านใดบ้างดูเลย
เริ่มกันที่
เมือง Fukuoka ใครๆต่างก็ต้องมาตั้งหลักปักฐานในเมืองเพื่อเที่ยวรอบเกาะ เรียกได้ว่าทุกคนคงกำลังตามหาร้านอาหารในเมืองกันอยู่แน่ๆ คราวนี้เรามี 2 ร้านมาแนะนำ
1. GAOGAO ガオガオ



ร้านอิซากายะญี่ปุ่น ที่ปรุงอาหารจากวัตถุดิบตามฤดูกาลของคิวชู ในร้านมีที่นั่งแบบโต๊ะและที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ รวมถึงห้องส่วนตัว อาหารยอดนิยมที่ทุกคนต้องสั่งคือข้าวอบหม้อดินเผาที่มีข้าวหุงปรุงอย่างพิถีพิถัน หลากหลายเมนูให้เลือกไม่ว่าจะเป็นหม้อดินอาหารทะเล หรือเนื้อวัว หรือโฟวกรา ซึ่งให้ทั้งความอร่อย ความสวยงาม แถมยังทำเป็นโอนิกิริ หรือข้าวปั้นเอากลับบ้านไปได้ด้วยหากกินไม่หมด ร้านนี้จะอยู่ด้านหน้าสวนสาธารณะอิมาอิซูมิ ใช้เวลาเดินจากสถานีเทนจินประมาณ 10 นาที
พิกัด
2. 010 building

เปิดประสบการณ์การกินดื่มรูปแบบใหม่สไตล์ "immersive entertainment restaurant" ที่ตึก 010 building คุณจะว้าวทั้งดีไซน์และรูปแบบการนำเสนอที่มอบทั้งความบันเทิง ภายในตึกที่ชั้น 1 มีร้านอาหารรสชาติหรูเลิศจากร้าน "GohGan" ที่ได้สองเชฟชื่อดัง สึโยชิ ฟุคุยามะ และ กักกัน อานันท์ ที่ต่างเคยติดอันดับ "50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย" ร่วมกันสร้างสรรค์เมนูต่างๆ ที่ไม่เพียงมุ่งเน้นไปที่รสชาติเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับกลิ่นหอมและการนำเสนอ

นอกจากนี้ที่ชั้น 2 ยังมี "BAR 010" ให้มาจิบเครื่องดื่มจากบาร์เทนเดอร์ชื่อดังระดับโลกกับสูตรเครื่องดื่มอันเป็นเอกลักษณ์ จะนั่งหันออกริมน้ำชมวิวของฟุกุโอกะ หรือแอบส่องโชว์ที่ "Theater 010" จากทีมนักแสดงระดับโลกไปด้วยก็ได้ อิอิ
ที่ "Theater 010" อยู่ชั้น 2 และ 3 สามารถสั่งเครื่องดื่มและอาหารจากGohGan บางส่วนมา แล้วนั่งชมโชว์ที่มีขึ้นแสดงสับเปลี่ยนกันไปทุกๆ30นาทีไปด้วยก็ได้
ใครสนใจก็เข้าไปดูตารางการแสดง อีเวนท์ต่างๆ หรือจะจองตั๋ว ก็สามารถเข้าไปดูในเว็บไซต์
https://010bld.com/en/theater-e/
ที่ตั้งอยู่ตรง คาแนลซิตี้เลย
พิกัด



ต่อมาไปกันที่
เมือง Sasebo
หลายๆคนคงเคยได้ไปเพราะเป็นที่ตั้งของ Huis Ten Bosch ธีมพาร์ตที่มีแสงไฟกลางคืนสุดอลังการ และวิวของ Kujukujima หรือ 99 island ที่มีเอกลักษญ์ ซาเซโบะมีอาหารท้องถิ่นอะไรน่าสนใจ นี่เลย
3. Marumo Suisan Kujukushima Oyster Hut マルモ水産 海上かき小屋

ที่นี่คุณจะเพลิดเพลินไปกับเมนู “หอยนางรมคุจูคุชิมะ” ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของซาเซโบะ หอยของที่นี่แม้จะมีขนาดเล็กแต่แต่ก็เต็มไปด้วยเนื้อ รสสัมผัสนุ่มนวลและรสชาติเข้มข้นอัดแน่นไปด้วยอูมามิและไม่มีกลิ่น แต่มันจะยิ่งอร่อยเมื่อคุณได้ย่างมันบนเตาถ่านเอง แถมยังได้กินไปชมวิวทะแลที่อยู่ล้อมรอบไปด้วย เพราะที่นี่พิเศษตรงที่มันเป็นร้านที่ลอยอยู่ในทะเลนี่ล่ะ หอยนางรมที่นี่สามารถกินได้ทั้งปีด้วยนะ
สามารถนั่งรถไฟจากฮากาตะไปที่ซาเซโบะแล้วต่อรถบัสลงป้าย Funakoshi ฟุนาโกชิ เดินต่ออีก 6 นาที
พิกัด


4. ซาเซโบะเบอร์เกอร์ต้องที่นี่ Sasebo Burger Museum バーガーミュージアム

ซาเซโบะที่เคยรุ่งเรืองในฐานะที่เป็นฐานทัพของกองทหารเรือญี่ปุ่นในอดีต หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้กลายเป็นฐานทัพเรือสหรัฐฯ ทำให้ได้รับวัฒนธรรมต่างๆ ของอเมริกาเข้ามา ซาเซโบะเบอร์เกอร์ก็ถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมนี้ โดยจุดเริ่มต้นของเมนู “Sasebo Burger” ถูกทำในขึ้นช่วงปี 1950 จากสูตรของฐานทัพทหารเรืออเมริกาโดยตรง และส่งต่อมาจนถึงปัจจุบันในฐานะที่เป็น Soul Food เป็นเมนูยอดนิยมของผู้คนทั้งในเมืองและนอกเมืองซาเซโบะ ทำให้ซาเซโบะกลายเป็น "แหล่งกำเนิดของแฮมเบอร์เกอร์" ในญี่ปุ่น จนเคยได้รับรางวัลที่สองจากงาน Kyushu Gourmet Grand Prix ซึ่งทั้งขนมปัง ไส้ มายองเนส และซอสมะเขือเทศทั้งหมดเป็นแบบโฮมเมด ลองมาลิ้มรสพร้อมกับชมทิวทัศน์ของคุจูคุชิมะ ใครสนใจลองตามขับรถ
พิกัด แผนที่ไปได้เลย


ต่อไปเมือง Kumamoto ที่มีแลนมาร์คสำคัญอย่าง ปราสาทคุมาโมโตะ นอกจากนี้ยังมีสวน Suizenji Jojuen ที่ส่วนตัวเราชอบมาก
เมื่อมาเที่ยวคุมาโมโตะแล้วต้องไม่พลาด
5. Kumamoto Ramen Tengaiten (Kumamoto Station) 天外天 熊本駅店

ราเมงสไตล์คุมาโมโตะที่ใช้ซุปทงคตสึกระดูกหมูที่ไม่หนักหรือเข้มข้นเท่ากับฮากะตะราเมง เนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำสต๊อกไก่ หมูชาชู บะหมี่ ต้นหอม เห็ดคิคุราเกะ และที่พิเศษสุด ถูกปากคนไทยอย่างมากคือ โรยหน้าด้วยกระเทียมทอด ผงกระเทียม และน้ำมันกระเทียมดำมายุ/เผา แถมยังเปิดถึงกลางคืนดึกดื่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชอบเที่ยวกลางคืนได้เป็นอย่างดี เดินทางไปก็ง่ายเพราะอยู่ในสถานี Kumamoto เลย
พิกัด


6. Kumamoto Food Stall Village 熊本屋台村

“หมู่บ้านคุมาโมโตะยะไต” ตั้งอยู่ตรงข้ามศาลาว่าการฯ ในตรอกเล็กๆ บนระยะทางกว่า 50 เมตรนี้ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันคึกคักที่รวบรวมแผงขายอาหารยะไตไว้ถึง 18 ร้าน ไม่ว่าจะเป็น เนื้อวากิว "อาคาอุชิ"ย่าง "โอเด้ง" ที่เสิร์ฟคู่กับไฮบอลที่ทำจากผลไม้รสเปรี้ยว "เดโคปง" ของคุมาโมโตะ เทมปุระทอดใหม่ๆ ร้อนๆ ในหม้อทองแดง พิซซ่าเตาฟืน เทปันยากิ คุชิยากิ ไปจนถึงยากินิคุ ใครเป็นขาดื่มก็มีสาเกท้องถิ่นและโชจูจากโรงเบียร์ 27 แห่งของคุมาโมโตะให้ได้ลอง แก้วละ100 เยนเท่านั้น หลังจากเที่ยวจนหิวแล้วก็อย่าลืมแวะมากินมาดื่มที่แลนด์มาร์คแห่งนี้กัน
พิกัด




ต่อมา เราแวะกันไปเมืองHita ฮิตะ เมืองเก่าย่านการค้าเงียบๆ ที่สามารถแวะไปเดินเล่นที่ถนนMamedamachi หรือหากใครเป็นอนิเมะ "Attack on Titan" ก็ต้องไม่พลาดมาเยี่ยมเมืองฮิตะ ร้านอาหารในเมืองที่จะมาแนะนำมีดังนี้
7. ข้าวอบหน้าปลาไหลย่าง Hita Mabushi Senya日田まぶし 千屋

หากใครชอบทานปลาไหลย่าง ไม่ควรพลาด Hita Mabushi ร้านข้าวหน้าปลาไหลเก่าแก่ เนื่องจากฮิตะเป็นเมืองแห่งน้ำจับปลาไหลได้มากจึงเป็นอาหารท้องถิ่นที่สำคัญ โดยที่นี่จะใช้ปลาไหลธรรมชาติเท่านั้น ใช้วิธีย่างแบบคาบายะกิ คือผ่าแล้วย่างบนถ่านด้วยไฟแรงสูงไม่ต้องผ่านการนึ่งก่อน เวลากินทางร้านจะนำปลาไหลย่างไปอบกับข้าวแล้วมาเสิร์ฟแบบร้อนๆ โดยเราสามารถเลือกทานได้กับเครื่องเคียงหลายแบบ ไม่มีเบื่อ เช่น ทานกับวาซาบิ หรือทานกับ Yuzu Kosho ซี่งเป็นพริกเขียวผสมยูสุของฮิตะ ร้านตั้งอยู่ในเขตถนน Mamedamachi เดินทางไปได้ง่ายจากสถานี
พิกัด



8. ฮิตะยากิโซบะ Sankyū ラーメン やきそば 三久

อาหารท้องถิ่นของเมืองฮิตะ "ฮิตะยากิโซบะ" มีจุดเด่นอยู่ที่เส้นไม่ผัดเหมือนยากิโซบะทั่วไป แต่จะผัดบนเตาจนบางส่วนไหม้เกรียมเล็กน้อย ปรุงรสด้วยซอส แล้วใส่เครื่องทั้ง ถั่วงอก ต้นหอมและ เนื้อหมูลงไปคลุกเคล้า แม้จะดูเป็นเมนูธรรมดาแต่ความอร่อยไม่ธรรมดาเลย ส่วนภายในร้านเป็นแบบบ้านๆเจ้าเก่าเลย จะมีที่นั่งทั้งแบบปูเสื่อทาทามิและที่นั่งเคาน์เตอร์ ถ้าเป็นกลุ่มหรือครอบครัวก็มีแบบโต๊ะให้นั่ง แต่ถ้าชอบดูเวลาพ่อครัวแม่ครัวตอนผัดยากิโซบะแล้วละก็ แนะนำให้นั่งที่เคาน์เตอร์เลย ร้านอยู่ห่างจากสถานีฮิตะใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที
พิกัด


เดี๋ยวมาต่อเมืองสุดท้ายค่ะ
-----
แล้วพบกันใหม่ กับเส้นทางการท่องเที่ยวในคิวชู
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เพิ่มเป็นเพื่อนทาง Line ที่ bit.ly/JDpantip นะคะ
【กิน กิน กิน】แนะนำร้านอาหารใน5เมือง, คิวชู
ถ้าพูดถึงอาหารในคิวชู ฟุกุโอกะ หลายๆ คนคงนึกถึงราเมง โดยเฉพาะร้านอิชิรัน หรือร้านชินชิน ที่เวลาใครมาก็ต้องมายืนเข้าคิวต่อแถว แบบมาถึงแล้วก็ต้องกิน แต่ว่าในคิวชู 5 เมืองที่เราจะมาแนะนำครั้งนี้ คือเมือง Fukuoka Kitakyushu Kumamoto Sasebo Hita ยังมีอาหารท้องถิ่นอีกตั้งหลายอย่าง แต่ละเมืองก็มีเมนูดัง (ถามว่าทำไม5เมืองนี้ เพราะเราไปมาไง555) จะมีร้านใดบ้างดูเลย
เริ่มกันที่เมือง Fukuoka ใครๆต่างก็ต้องมาตั้งหลักปักฐานในเมืองเพื่อเที่ยวรอบเกาะ เรียกได้ว่าทุกคนคงกำลังตามหาร้านอาหารในเมืองกันอยู่แน่ๆ คราวนี้เรามี 2 ร้านมาแนะนำ
1. GAOGAO ガオガオ
ร้านอิซากายะญี่ปุ่น ที่ปรุงอาหารจากวัตถุดิบตามฤดูกาลของคิวชู ในร้านมีที่นั่งแบบโต๊ะและที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ รวมถึงห้องส่วนตัว อาหารยอดนิยมที่ทุกคนต้องสั่งคือข้าวอบหม้อดินเผาที่มีข้าวหุงปรุงอย่างพิถีพิถัน หลากหลายเมนูให้เลือกไม่ว่าจะเป็นหม้อดินอาหารทะเล หรือเนื้อวัว หรือโฟวกรา ซึ่งให้ทั้งความอร่อย ความสวยงาม แถมยังทำเป็นโอนิกิริ หรือข้าวปั้นเอากลับบ้านไปได้ด้วยหากกินไม่หมด ร้านนี้จะอยู่ด้านหน้าสวนสาธารณะอิมาอิซูมิ ใช้เวลาเดินจากสถานีเทนจินประมาณ 10 นาที พิกัด
2. 010 building
เปิดประสบการณ์การกินดื่มรูปแบบใหม่สไตล์ "immersive entertainment restaurant" ที่ตึก 010 building คุณจะว้าวทั้งดีไซน์และรูปแบบการนำเสนอที่มอบทั้งความบันเทิง ภายในตึกที่ชั้น 1 มีร้านอาหารรสชาติหรูเลิศจากร้าน "GohGan" ที่ได้สองเชฟชื่อดัง สึโยชิ ฟุคุยามะ และ กักกัน อานันท์ ที่ต่างเคยติดอันดับ "50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย" ร่วมกันสร้างสรรค์เมนูต่างๆ ที่ไม่เพียงมุ่งเน้นไปที่รสชาติเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับกลิ่นหอมและการนำเสนอ
นอกจากนี้ที่ชั้น 2 ยังมี "BAR 010" ให้มาจิบเครื่องดื่มจากบาร์เทนเดอร์ชื่อดังระดับโลกกับสูตรเครื่องดื่มอันเป็นเอกลักษณ์ จะนั่งหันออกริมน้ำชมวิวของฟุกุโอกะ หรือแอบส่องโชว์ที่ "Theater 010" จากทีมนักแสดงระดับโลกไปด้วยก็ได้ อิอิ
ที่ "Theater 010" อยู่ชั้น 2 และ 3 สามารถสั่งเครื่องดื่มและอาหารจากGohGan บางส่วนมา แล้วนั่งชมโชว์ที่มีขึ้นแสดงสับเปลี่ยนกันไปทุกๆ30นาทีไปด้วยก็ได้
ใครสนใจก็เข้าไปดูตารางการแสดง อีเวนท์ต่างๆ หรือจะจองตั๋ว ก็สามารถเข้าไปดูในเว็บไซต์ https://010bld.com/en/theater-e/
ที่ตั้งอยู่ตรง คาแนลซิตี้เลย พิกัด
ต่อมาไปกันที่เมือง Sasebo
หลายๆคนคงเคยได้ไปเพราะเป็นที่ตั้งของ Huis Ten Bosch ธีมพาร์ตที่มีแสงไฟกลางคืนสุดอลังการ และวิวของ Kujukujima หรือ 99 island ที่มีเอกลักษญ์ ซาเซโบะมีอาหารท้องถิ่นอะไรน่าสนใจ นี่เลย
3. Marumo Suisan Kujukushima Oyster Hut マルモ水産 海上かき小屋
ที่นี่คุณจะเพลิดเพลินไปกับเมนู “หอยนางรมคุจูคุชิมะ” ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของซาเซโบะ หอยของที่นี่แม้จะมีขนาดเล็กแต่แต่ก็เต็มไปด้วยเนื้อ รสสัมผัสนุ่มนวลและรสชาติเข้มข้นอัดแน่นไปด้วยอูมามิและไม่มีกลิ่น แต่มันจะยิ่งอร่อยเมื่อคุณได้ย่างมันบนเตาถ่านเอง แถมยังได้กินไปชมวิวทะแลที่อยู่ล้อมรอบไปด้วย เพราะที่นี่พิเศษตรงที่มันเป็นร้านที่ลอยอยู่ในทะเลนี่ล่ะ หอยนางรมที่นี่สามารถกินได้ทั้งปีด้วยนะ
สามารถนั่งรถไฟจากฮากาตะไปที่ซาเซโบะแล้วต่อรถบัสลงป้าย Funakoshi ฟุนาโกชิ เดินต่ออีก 6 นาที พิกัด
4. ซาเซโบะเบอร์เกอร์ต้องที่นี่ Sasebo Burger Museum バーガーミュージアム
ซาเซโบะที่เคยรุ่งเรืองในฐานะที่เป็นฐานทัพของกองทหารเรือญี่ปุ่นในอดีต หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้กลายเป็นฐานทัพเรือสหรัฐฯ ทำให้ได้รับวัฒนธรรมต่างๆ ของอเมริกาเข้ามา ซาเซโบะเบอร์เกอร์ก็ถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมนี้ โดยจุดเริ่มต้นของเมนู “Sasebo Burger” ถูกทำในขึ้นช่วงปี 1950 จากสูตรของฐานทัพทหารเรืออเมริกาโดยตรง และส่งต่อมาจนถึงปัจจุบันในฐานะที่เป็น Soul Food เป็นเมนูยอดนิยมของผู้คนทั้งในเมืองและนอกเมืองซาเซโบะ ทำให้ซาเซโบะกลายเป็น "แหล่งกำเนิดของแฮมเบอร์เกอร์" ในญี่ปุ่น จนเคยได้รับรางวัลที่สองจากงาน Kyushu Gourmet Grand Prix ซึ่งทั้งขนมปัง ไส้ มายองเนส และซอสมะเขือเทศทั้งหมดเป็นแบบโฮมเมด ลองมาลิ้มรสพร้อมกับชมทิวทัศน์ของคุจูคุชิมะ ใครสนใจลองตามขับรถ พิกัด แผนที่ไปได้เลย
ต่อไปเมือง Kumamoto ที่มีแลนมาร์คสำคัญอย่าง ปราสาทคุมาโมโตะ นอกจากนี้ยังมีสวน Suizenji Jojuen ที่ส่วนตัวเราชอบมาก
เมื่อมาเที่ยวคุมาโมโตะแล้วต้องไม่พลาด
5. Kumamoto Ramen Tengaiten (Kumamoto Station) 天外天 熊本駅店
ราเมงสไตล์คุมาโมโตะที่ใช้ซุปทงคตสึกระดูกหมูที่ไม่หนักหรือเข้มข้นเท่ากับฮากะตะราเมง เนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำสต๊อกไก่ หมูชาชู บะหมี่ ต้นหอม เห็ดคิคุราเกะ และที่พิเศษสุด ถูกปากคนไทยอย่างมากคือ โรยหน้าด้วยกระเทียมทอด ผงกระเทียม และน้ำมันกระเทียมดำมายุ/เผา แถมยังเปิดถึงกลางคืนดึกดื่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชอบเที่ยวกลางคืนได้เป็นอย่างดี เดินทางไปก็ง่ายเพราะอยู่ในสถานี Kumamoto เลย พิกัด
6. Kumamoto Food Stall Village 熊本屋台村
“หมู่บ้านคุมาโมโตะยะไต” ตั้งอยู่ตรงข้ามศาลาว่าการฯ ในตรอกเล็กๆ บนระยะทางกว่า 50 เมตรนี้ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันคึกคักที่รวบรวมแผงขายอาหารยะไตไว้ถึง 18 ร้าน ไม่ว่าจะเป็น เนื้อวากิว "อาคาอุชิ"ย่าง "โอเด้ง" ที่เสิร์ฟคู่กับไฮบอลที่ทำจากผลไม้รสเปรี้ยว "เดโคปง" ของคุมาโมโตะ เทมปุระทอดใหม่ๆ ร้อนๆ ในหม้อทองแดง พิซซ่าเตาฟืน เทปันยากิ คุชิยากิ ไปจนถึงยากินิคุ ใครเป็นขาดื่มก็มีสาเกท้องถิ่นและโชจูจากโรงเบียร์ 27 แห่งของคุมาโมโตะให้ได้ลอง แก้วละ100 เยนเท่านั้น หลังจากเที่ยวจนหิวแล้วก็อย่าลืมแวะมากินมาดื่มที่แลนด์มาร์คแห่งนี้กัน พิกัด
ต่อมา เราแวะกันไปเมืองHita ฮิตะ เมืองเก่าย่านการค้าเงียบๆ ที่สามารถแวะไปเดินเล่นที่ถนนMamedamachi หรือหากใครเป็นอนิเมะ "Attack on Titan" ก็ต้องไม่พลาดมาเยี่ยมเมืองฮิตะ ร้านอาหารในเมืองที่จะมาแนะนำมีดังนี้
7. ข้าวอบหน้าปลาไหลย่าง Hita Mabushi Senya日田まぶし 千屋
หากใครชอบทานปลาไหลย่าง ไม่ควรพลาด Hita Mabushi ร้านข้าวหน้าปลาไหลเก่าแก่ เนื่องจากฮิตะเป็นเมืองแห่งน้ำจับปลาไหลได้มากจึงเป็นอาหารท้องถิ่นที่สำคัญ โดยที่นี่จะใช้ปลาไหลธรรมชาติเท่านั้น ใช้วิธีย่างแบบคาบายะกิ คือผ่าแล้วย่างบนถ่านด้วยไฟแรงสูงไม่ต้องผ่านการนึ่งก่อน เวลากินทางร้านจะนำปลาไหลย่างไปอบกับข้าวแล้วมาเสิร์ฟแบบร้อนๆ โดยเราสามารถเลือกทานได้กับเครื่องเคียงหลายแบบ ไม่มีเบื่อ เช่น ทานกับวาซาบิ หรือทานกับ Yuzu Kosho ซี่งเป็นพริกเขียวผสมยูสุของฮิตะ ร้านตั้งอยู่ในเขตถนน Mamedamachi เดินทางไปได้ง่ายจากสถานี พิกัด
8. ฮิตะยากิโซบะ Sankyū ラーメン やきそば 三久
อาหารท้องถิ่นของเมืองฮิตะ "ฮิตะยากิโซบะ" มีจุดเด่นอยู่ที่เส้นไม่ผัดเหมือนยากิโซบะทั่วไป แต่จะผัดบนเตาจนบางส่วนไหม้เกรียมเล็กน้อย ปรุงรสด้วยซอส แล้วใส่เครื่องทั้ง ถั่วงอก ต้นหอมและ เนื้อหมูลงไปคลุกเคล้า แม้จะดูเป็นเมนูธรรมดาแต่ความอร่อยไม่ธรรมดาเลย ส่วนภายในร้านเป็นแบบบ้านๆเจ้าเก่าเลย จะมีที่นั่งทั้งแบบปูเสื่อทาทามิและที่นั่งเคาน์เตอร์ ถ้าเป็นกลุ่มหรือครอบครัวก็มีแบบโต๊ะให้นั่ง แต่ถ้าชอบดูเวลาพ่อครัวแม่ครัวตอนผัดยากิโซบะแล้วละก็ แนะนำให้นั่งที่เคาน์เตอร์เลย ร้านอยู่ห่างจากสถานีฮิตะใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที พิกัด
เดี๋ยวมาต่อเมืองสุดท้ายค่ะ