[CR] จุดชมวิว "ห้วยคอกหมู" วิวสวย บรรยากาศดีและอากาศเย็นสบาย

      สวัสดีค่ะ  อยากรีวิว  จุดชมวิว   ที่ขึ้นไปแล้วประทับใจค่ะ  จริงๆแล้ว  วันอาทิตย์ที่ผ่านมา เรามีภารกิจ   งาน " คู่รักนักปั่นV7 "  ซึ่งเป็นงาน ปั่นจักรยาน   ของ กลุ่ม " ปั่นให้มีความสุข"  ที่จัดกันเป็นประจำทุกปี  ปีละครั้ง ในช่วงวันวาเลนไทม์ ค่ะ ( อาจจะก่อน  หรือ หลังนิดหน่อย เพราะต้องจัดช่วงวันหยุด เสาร์- อาทิตย์) ไหนๆก็มาที่สวนผึ้งแล้ว  และได้ยินชื่อมานาน  ว่าที่นี่ มีจุดชมวิว ที่สวยงามหลายที่ โดยเฉพาะ  " เขากระโจม " และ "ห้วยคอกหมู" ซึ่งที่ เขากระโจม  เราเคยขึ้นไปมาแล้ว  เมื่อหลายปี่ก่อน  ส่วนห้วยคอกหมู  ยังไม่เคยขึ้นไปค่ะ 

     จุดชมวิวห้วยคอกหมู ตั้งอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติการของ กองร้อยตำรวจตะเวนชายแดนที่ 137 ที่ อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี  บนความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 867 เมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีวิวสวยๆ ของภูเขาตรงเขตชายแดนระหว่างไทย  กับจังหวัดมะริด  ของสหภาพเมียนมา ด้านบนห้วยคอกหมูจะมีโซนไว้ให้กางเต็นท์สำหรับนักเดินทาง 

      หลายปีก่อน  ลุงกับป้า ( ขออนุญาตเรียกตัวเอง ว่าป้าเพราะป้า อายุ 60 แล้วค่ะ  ส่วนลุงแก่กว่าป้า 1 ปี) เคยมาทำกิจกรรม  ปั่นจักรยาน และ มอบสิ่งของให้น้องๆ  ที่โรงเรียนบ้านบ่อหวีครั้งหนึ่ง  ครั้งนั้น  ว่าจะลองขึ้นไป  ด้วยถนนหนทาง  ที่เป็นอุปสรรค  ปรากฏว่า  รถเราขึ้นไป ห้วยคอกหมู ไม่ได้ค่ะ  ผิดหวัง  แต่ไม่หมดหวัง  เพราะความตั้งใจยังมีอยู่

      มาครั้งนี้   พอเสร็จภารกิจ  และแยกย้ายกันกลับบ้านแล้ว  ลุงกับป้า  ก็พากัน ไปเที่ยวต่อ แค่สองคนค่ะ  พร้อมทั้ง นำน้ำ ที่ได้รับจาก  หัวหน้ากลุ่ม ปั่นให้มีความสุข ผู้จัดงานมาสองแพ็คกับสบู่สมุนไพร   ลุงแวะซื้อข้าวสารเพิ่มเติม  ตั้งใจ ว่าจะนำไปมอบให้เจ้าหน้าที่ ตชด.  ที่อยู่บนนั้นค่ะ

      ทางขึ้นไปเป็นทางลูกรังก็จริง  แต่ได้รับการเกลี่ยและบดอัด ขึ้นไปได้ไม่ยากค่ะ   ระหว่างทาง  เราเจอไก่ป่าด้วยนะคะ

ภาพอาจจะเบลอๆ  เพราะป้านั่งถ่ายเป็นวีดีโอ อยู่บนรถ  แล้วก็แคปมาอีกทีจ้า

ขึ้นไป ก็เจอเนินตามภาพ

 

   มีร้านค้าอยู่ใกล้ๆ ด้วยจ้า (ด้านซ้ายมือของภาพ)  เจอน้องนักท่องเที่ยวสองคน  บอกว่ากางเต็นท์อยู่ข้างล่าง  น้องบอก  ไม่รู้ว่าข้างบนนี้  สามารถกางเต็นท์นอนได้   เห็นถ่ายรูปกันแล้วก็พากันกลับลงไป 

เราเก็บภาพกัน นิดหน่อย  พอโม้ได้ว่า  มาถึงแล้วนะ ฮา...

จากนั้น  ก็พากันนำน้ำ  และของที่เตรียมมา  ไปมอบให้จนท.ตชด.  พร้อมทั้งสอบถามว่า  จะกางเต็นท์ได้   ตรงไหนบ้าง  เค้าบอกว่า  ตรงลาน   รวมถึงลานฮ.กางได้หมดถามไถ่  เพื่อควาชัวร์แน่นอน  เรียบร้อยแล้ว  ก็มาดูลาดเลา  สถานที่  เตรียมกางเต็นท์  ปรากฏว่า  ฝนตกจ้า  ก็เลยพากันไปนั่งหลบฝนอยู่ที่  ร้านค้า  พร้อมทั้งสั่งข้าวผัดหมู+ไข่  กับข้าวกะเพรา+ไข่ดาว    มากินกันคนละจาน  ควมจริงลุงกับป้า  เตรียมของกินไปหลายอย่าง  แต่  เห็นมีร้านค้า  ก็เลยอยากอุดหนุนเค้าหน่อยน่ะค่ะ   อร่อย  และราคาไม่แพงค่ะ สองจาน 100 บาท  ตกจานละ 50 บาทเท่านั้น

นั่งรอสักพัก  ฝนตกแรงขึ้น แล้วก็ ไม่มีวี่แววว่า  จะหยุด  น้องที่ร้านค้าบอกว่า   ฝนไม่ตกนานแล้ว  ตั้งแต่ก่อนปีใหม่  แต่.....แต่   ดันมาตกตอนที่  ป้าขึ้นมาเที่ยวพอดี   โชคดีแท้ แหม่ๆ  กะจะเหมาลานซะหน่อย   เราแอบกังวล   แล้วน้องก็พูดขึ้นมาว่า   "ถ้าเป็นแบบนี้  พรุ่งนี้เช้า  อาจจะมีหมอกให้เห็น..." อันนั้นก็ลุ้นกันไปเนาะ  เพราะ   เป็นเรื่องของอนาคตอิๆ   เราเอาเรื่องปัจจุบันก่อน  ว่า ทำยังไง  คืนนี้ถึงจะมีที่นอน  ถ้ากางเรียบร้อย  แล้วตกก็ยังพอทน  เพราะเราเคยเจอมาแล้ว 2 ครั้ง  ตอนที่ไปกางที่อช.ภูหินร่องกล้า  กับ  ตอนที่ไปกางที่ อช.น้ำหนาว

ตั้งสตินิด  ก็พอคิดได้ว่า   ตอนเอาของไปให้เจ้าหน้าที่   เห็นมีศาลาอยู่  ก็เลยเลียบๆเคียงๆ คุยกับเจ้าของร้านว่า   เราไปขออนุญาต  เค้าไปกางตรงนั้นจะได้มั๊ยอ่ะ?  น้องบอกน่าจะได้  เพราะหมวดเค้าใจดี  เอาล่ะวะ  ลุงกับป้า เริ่มมีความหวัง  พอดีเหลือบไปเห็น จนท.  เดินลงมาเข้าห้องน้ำพอดี  ( ห้องน้ำอยู่เลยศาลาไปนิดหน่อย)   ลุงก็เลยเดินไปหา  แล้วก็ขออนุญาต   ตกลง เค้าอนุญาตให้เรากางตรงศาลาได้  เย้ๆ! ขอบคุณมากมายเลยนะคะ

   สรุป  คืนนั้น  มีคนพักกางเต็นท์ข้างคนหลังเดียว  คือสองลุงป้า555  ดีที่ตัดสินใจกางในศาลา  เพราะตอนกลางคืน   ฝนก็เทกระหน่ำลงมาอีก  ต้องลากผ้าปู  เพื่อขยับเต็นท์เข้าไปข้างในอีก  เนื่องจากโดนฝนสาด

บนนั้น   มีไฟจากแผงโซล่าเซลล์  แต่เรื่องไฟ  ไม่มีปัญหา  สำหรับเราค่ะ  เพราะว่าเราเตรียมมาพร้อมแล้ว  เป็นคนมีไฟจ้า 555   แต่พัดลม( แบบชาร์ตไฟได้)  ไม่ได้เอาออกทาใช้ค่ะ  เพราะอากาศดีมากๆ  เช้ามืด อุณหภูมิ 15-16 องศา  เท่านั้น  อาจจะเป็นเพราะมีฝนตกด้วย  

มีที่นอนแล้ว  ก็มีความกังวลอย่างอื่นมาเพิ่ม  นั่นคือ   ขากลับลงไป  ว่าเราจะเจอทางลื่น  มากหรือเปล่า?  เนื่องจากเจอฝน  ไม่ได้กลัวเลอะ  หรือ กลัวเปื้อน  แต่กลัวเป็นอันตรายมากกว่าค่ะ 

สะดุ้งตื่นมาตอนดึก  ฝนหยุดแล้ว  ท้องฟ้าโปร่ง  ออกไปดู เห็นดาวเต็มผ้า  สวยงามมาก   แต่โทรศัพท์   อันอ่อนด๋อยของป้า  ไม่สามารถเก็บความสวยงาม   ออกมาเป็นภาพมาได้ค่ะ   นึกถึงเขากระโจมเลย   รู้สึกเหมือนดวงดาว  อยู่ใกล้เรามากกว่าปกติ  เหมือนกันเลย

เช้ามืด  โผล่หน้าออกไป  เห็นมีหมอกเเหมือนกัน  แต่ไม่ได้ออกไปดูค่ะ  เพราะว่าอากาศเย็น  และขี้เกียจด้วย  รอจนสว่างหน่อย  ถึงคลานออกจากเต็นท์  ไปดูขอบฟ้า  ตรงด้านที่  จะมีพระอาทิตย์ขึ้น   สวยงามตามภาพเลยค่ะ  แต่ภาพอาจจะไม่ชัดนะคะ  คุณภาพของโทรศัพท์ บวกกับความ สว.ของป้า  ได้มาเท่านี้จริงๆจ้า    อันนี้เป็นภาพที่ถ่าย  ตรงจุดชมวิว  บริเวณที่จอดรถ  ใกล้ๆกับบริเวณลานฮ.และ  ลานกางเต็นท์ ค่ะ

   หลังจากนั้น  ก็พากันเดินไป  ที่จุดชมวิวด้านใน  ซึ่ง จะต้องเดินเท้าเข้าไปจากจุดกางเต็นท์อีกประมาณ 300 เมตร   ระทางเดินเป็นทางคอนกรีต  เดินได้สบายๆค่ะ  สองข้างทาง  เต็มไปด้วยกอไผ่  ร่มรื่นสวยงามค่ะ 

วิว  สวยงาม  ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ  แม้เราจะไม่ได้สัมผัส   หรือเจอหมอกใกล้ๆ    แต่ก็มองเห็นได้  ในฝั่งพม่า

จากนั้น  ก็กลับออกมา  เก็บเต็นท์  เคลียร์ของเรียบร้อยแล้ว  ก็กลับขึ้นไปใหม่ค่ะ   ไปชมวิวรอบสอง?   ป่าวค่ะ!!!   ไปถ่ายรูปอีกรอบ  เพราะว่าตอนนั้นยังอยู่ในชุดนอนจ้า 555  อ้อ!   ข้างบน  มีห้องน้ำนะคะ   ส่วนค่าบริการ    มีตู้ให้หยอด   แล้วแต่น้ำใจค่ะ  ส่วนขยะ  เรามองไม่เห็นถังขยะ   แต่เราเตรียมถุงขยะสีดำไปด้วย  เลยรวบรวมเก็บ    ใส่รถลงมาด้วย   ไม่ยุ่งยากใดๆค่ะ

   ถ่ายรูปกันจนหนำใจ   ในท่าเดิมๆ   จะเอาอะไรกับวัย สว.อ่ะนะ  ทำใจแล้วค่ะ 555   หลังจากนั้น ก็เตรียมตัวลงจากเขา   แวะร้านค้าหน่อยหนึ่ง

  ว่าจะสั่งข้าวเช้า  แต่น้องแม่ค้าบอก  " วันนี้ ไม่ได้ขายแล้วค่ะ   กำลังเตรียมตัวลงไปข้างล่างเหมือนกัน"  ก็เลยถามน้องว่า  ขาลงจะมีปัญหาหรือเปล่า  เพราะกลางคืน ฝนตกเยอะอยู่    น้องบอกไม่มีปัญหา  ส่วนลุงบอก   ดีซะอีก เพราะไม่มีฝุ่น! 

แล้วสองลุงป้า  ก็กลับลงมาอย่างปลอดภัย  พร้อมความประทับใจหลายอย่าง   ใครอยากเจอบรรยากาศดีๆ  อากาศเย็นสบาย  ชมวิวสวยๆ  ถ่ายรูปกันฟินๆ ขอแนะนำ  ห้วยคอกหมู  เป็นอีกางเลือกหนึ่งคะ  ว่างๆวันหยุด  ไปเที่ยวกันได้นะคะ  ไม่ไกลจากกทม.เกินไป  แถมมีที่เที่ยวอื่นๆอีกเยอะแยะเลยค่ะ