อ
ย่าคิดว่า “ ต้อกระจก ” เป็นโรคของผู้สูงวัยเท่านั้น
“ต้อกระจก” มักถูกมองว่าเป็นโรคของผู้สูงอายุ แต่รู้หรือไม่ว่า วัยทำงานก็มีความเสี่ยงเป็นต้อกระจกได้เช่นกัน จริงอยู่ว่า “อายุ” เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดต้อกระจก (80% ของผู้ป่วยเป็นผู้สูงอายุ) แต่พฤติกรรมในชีวิตประจำวันของวัยทำงานก็ส่งผลต่อความเสี่ยงนี้ได้เช่นกัน โดยเฉพาะการใช้สายตาในการทำงานอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือนานเกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน ที่เพิ่มความเสี่ยงให้เป็นต้อกระจกก่อนวัย ถึง 2 เท่า!
ทำไม?...การจ้องจอถึงส่งผลต่อดวงตา
แสงสีฟ้าจากหน้าจอ : ส่งผลต่อจอประสาทตา ทำให้เกิดอาการตาแห้ง ตาพร่ามัว
การจ้องจอ : ทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก เกิดอาการปวดตา มองภาพซ้อน
การกระพริบตา : ลดลง 60% ทำให้น้ำตาไม่กระจายทั่ว เกิดอาการตาแห้ง
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่ทำให้เพิ่มความเสี่ยง “ต้อกระจก” ก่อนวัย เช่น
* โรคประจำตัว : เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไทรอยด์
* อุบัติเหตุ : เชื่อมโลหะไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน หรือเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ แล้วเศษกระจกทิ่มตา
* พฤติกรรม : สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นประจำ
* แสงแดด : ได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตเป็นเวลานานๆ หรือดวงตาถูกแสงแดดจ้าเป็นประจำ
* ยาบางชนิด : ยากลุ่มสเตียรอยด์ ที่มักใช้ในการรักษาโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคข้อ โรคไต
* ความผิดปกติของตา : ตาติดเชื้อ ม่านตาอักเสบ
ไม่อยากเป็นต้อกระจกก่อนวัย? ดูแลดวงตาง่ายๆ ด้วย 5 วิธีนี้
1. พักสายตาเป็นประจำ
* ทุกๆ 1 ชั่วโมง พักสายตา 5-10 นาที
* เปลี่ยนจุดโฟกัส มองออกไปไกลๆ เพื่อละสายตาจากหน้าจอ
2. ปรับแสงสว่างให้เหมาะสม
* ปรับแสงหน้าจอให้พอเหมาะ ไม่สว่างหรือมืดจนเกินไป
* หลีกเลี่ยงแสงสว่างจ้าสะท้อนเข้าตา
3. ปรับท่าทางการนั่ง
* ศีรษะควรอยู่สูงกว่าจอคอมพิวเตอร์เล็กน้อย
* หลีกเลี่ยงการเงยหน้ามองจอ
4. บรรเทาอาการตาแห้ง
* กะพริบตาบ่อยขึ้น
* ใช้น้ำตาเทียมหยอดตา
5. ใส่แว่นตาที่เหมาะสม
* ตรวจวัดค่าสายตาและเลือกแว่นตาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ดวงตาทำงานหนักเพิ่มขึ้น
“ดวงตา” ช่วยให้เราสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัวได้ การใช้ดวงตาอย่างหนักในชีวิตประจำวัน ส่งผลต่อสุขภาพตาของเราโดยตรง เราจึงควรให้ความสำคัญในการดูแล และหมั่นตรวจเช็คสุขภาพดวงตาเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1ครั้ง เพราะดวงตาที่เสื่อมสภาพอาจนำไปสู่โรคทางตาต่างๆ และบางโรคอาจรุนแรงถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นแบบถาวร
ทำงานหน้าจอนานๆ ระวัง!..เป็น “ต้อกระจก” ก่อนวัย
อย่าคิดว่า “ ต้อกระจก ” เป็นโรคของผู้สูงวัยเท่านั้น
“ต้อกระจก” มักถูกมองว่าเป็นโรคของผู้สูงอายุ แต่รู้หรือไม่ว่า วัยทำงานก็มีความเสี่ยงเป็นต้อกระจกได้เช่นกัน จริงอยู่ว่า “อายุ” เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดต้อกระจก (80% ของผู้ป่วยเป็นผู้สูงอายุ) แต่พฤติกรรมในชีวิตประจำวันของวัยทำงานก็ส่งผลต่อความเสี่ยงนี้ได้เช่นกัน โดยเฉพาะการใช้สายตาในการทำงานอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือนานเกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน ที่เพิ่มความเสี่ยงให้เป็นต้อกระจกก่อนวัย ถึง 2 เท่า!
ทำไม?...การจ้องจอถึงส่งผลต่อดวงตา
แสงสีฟ้าจากหน้าจอ : ส่งผลต่อจอประสาทตา ทำให้เกิดอาการตาแห้ง ตาพร่ามัว
การจ้องจอ : ทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก เกิดอาการปวดตา มองภาพซ้อน
การกระพริบตา : ลดลง 60% ทำให้น้ำตาไม่กระจายทั่ว เกิดอาการตาแห้ง
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่ทำให้เพิ่มความเสี่ยง “ต้อกระจก” ก่อนวัย เช่น
* โรคประจำตัว : เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไทรอยด์
* อุบัติเหตุ : เชื่อมโลหะไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน หรือเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ แล้วเศษกระจกทิ่มตา
* พฤติกรรม : สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นประจำ
* แสงแดด : ได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตเป็นเวลานานๆ หรือดวงตาถูกแสงแดดจ้าเป็นประจำ
* ยาบางชนิด : ยากลุ่มสเตียรอยด์ ที่มักใช้ในการรักษาโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคข้อ โรคไต
* ความผิดปกติของตา : ตาติดเชื้อ ม่านตาอักเสบ
ไม่อยากเป็นต้อกระจกก่อนวัย? ดูแลดวงตาง่ายๆ ด้วย 5 วิธีนี้
1. พักสายตาเป็นประจำ
* ทุกๆ 1 ชั่วโมง พักสายตา 5-10 นาที
* เปลี่ยนจุดโฟกัส มองออกไปไกลๆ เพื่อละสายตาจากหน้าจอ
2. ปรับแสงสว่างให้เหมาะสม
* ปรับแสงหน้าจอให้พอเหมาะ ไม่สว่างหรือมืดจนเกินไป
* หลีกเลี่ยงแสงสว่างจ้าสะท้อนเข้าตา
3. ปรับท่าทางการนั่ง
* ศีรษะควรอยู่สูงกว่าจอคอมพิวเตอร์เล็กน้อย
* หลีกเลี่ยงการเงยหน้ามองจอ
4. บรรเทาอาการตาแห้ง
* กะพริบตาบ่อยขึ้น
* ใช้น้ำตาเทียมหยอดตา
5. ใส่แว่นตาที่เหมาะสม
* ตรวจวัดค่าสายตาและเลือกแว่นตาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ดวงตาทำงานหนักเพิ่มขึ้น
“ดวงตา” ช่วยให้เราสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัวได้ การใช้ดวงตาอย่างหนักในชีวิตประจำวัน ส่งผลต่อสุขภาพตาของเราโดยตรง เราจึงควรให้ความสำคัญในการดูแล และหมั่นตรวจเช็คสุขภาพดวงตาเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1ครั้ง เพราะดวงตาที่เสื่อมสภาพอาจนำไปสู่โรคทางตาต่างๆ และบางโรคอาจรุนแรงถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นแบบถาวร