จิรัฏฐ์ แจงยิบ สด.43 ของจริง 100% มีลายเซ็นทหารครบ ด้านวิโรจน์ แนะแจ้งความกลับ กองทัพ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4400165
จิรัฏฐ์ แจงยิบ สด.43 ของจริง 100 % มีลายเซ็นทหารครบ ด้าน วิโรจน์ แนะแจ้งความกลับ กองทัพ
เมื่อวันที่ 29 มกราคม จากกรณีหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) ตั้งโต๊ะแถลง กรณีใบ สด.43 ของ นาย
จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่า ของจริงต้องครบองค์ประกอบ และเตรียมรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีนั้น
ล่าสุด นาย
จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ในรายการ The Politics ในเครือมติชน กรณีดังกล่าวว่า เกิดขึ้น 14-15 ปีแล้ว จำได้ว่าไปที่อำเภอ เขาให้ขึ้นรถไปก็ไปกับเขา ไปศาล และกลับมาที่อำเภอ ก็จับใบดำใบแดงที่อำเภอ แล้วก็กลับบ้าน ที่สงสัยว่าปลอมหรือเปล่า ยืนยันว่าของจริง 100% ได้รับจากมือเจ้าหน้าที่ในสถานที่ราชการ สมมุติว่าหนีทหารจริงก็หมดอายุความไปแล้ว จะปลอมเอกสารเพื่อหนีคดีที่หมดอายุความไปแล้วทำไม
นาย
จิรัฏฐ์กล่าวว่า ใบดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ มีลายเซ็น 5-6 คน มี พ.อ. 3 คน แต่ไม่รู้คนไหนยื่นให้กับมือ เขาก็เซ็นรับรองว่าถูกต้อง ก็สงสัยว่าทำไมไม่ตรวจสอบ มีเลขที่เอกสาร ก็ย้อนไปปี’54 ว่าเจ้าหน้าที่คนไหนมาประจำเขตนี้ ที่อ่านข่าว ก็บอกว่าไม่เจอต้นขั้วนวรินทร์ แต่ถ้าไม่เจอของจิรัฏฐ์ ทำต้นขั้วตนหายหรือไม่ ตนเปลี่ยนชื่อก่อนไปทำเรื่อง 4-5 ปี หลายปี ก่อนไปจับใบดำ-ใบแดง โรงพักก็ไม่ได้ไกลจากบ้านครับ ถ้าหนีทหาร เขาต้องมาจับแล้ว
ถามว่า เรื่องลายนิ้วมือมีการพิมพ์ไหม นาย
จิรัฏฐ์กล่าวว่า ไม่มี ก็เช็กกับเพื่อนหลายคน ไม่มี ใบที่เพื่อนส่งให้ดูหลายๆ ที่ส่งให้ บางคนก็มี บางคนก็ไม่มี ถ้าจะโกหก จะปลอมแปลง ก็แค่ไปปั๊มนิ้วมือใส่ไปก็ได้
เมื่อถามว่า มีชื่อ พ.อ. ชื่อชัดเจนใช่ไหม ส.ส.ก้าวไกลตอบว่า เป็นลายเซ็น บางคนอ่านออก เซ็นชื่อในช่องประธาน จะบอกว่าโดน 5-6 คนนี้ปลอมเอกสารให้ตนหรือ
นาย
จิรัฏฐ์กล่าวเมื่อถูกถามว่ารู้สึกอย่างไรกับกรณีดังกล่าว ว่า อย่างแรกรู้สึกว่ากองทัพให้ Privilege ผม รู้สึกได้รับการดูแลอย่างดี ใครไม่รู้มายื่นว่า ส.ส.คนหนึ่งหนีทหารหรือไม่ ตรวจสอบอย่างไว 2 วันก็มาแถลงเป็นฉากๆ สิ่งที่ตรวจสอบในฐานะฝ่ายค้าน ไม่รู้กี่ครั้ง ถามไม่ตอบ ไม่มีแถลงบ้าง ที่ถามว่ามีนายพลกี่คน ธุรกิจสนามกอล์ฟ ไม่เห็นแถลงชี้แจงเลย เงียบกริบ ถ้ามีคนไปร้อง ส.ส.คนอื่นจะไล่เช็กให้ทั้งสภาเลยไหม
“
นายพลมีกี่คนไม่แถลงเหรอครับ สนามกอล์ฟ โฆษกก็ยืนยันเองว่าเปิดบริการให้ประชาชนใช้ เป็นธุรกิจชัดเจน แต่ไม่เคยส่งให้คลังสักบาท ไม่แถลงล่ะ คนสงสัยทั้งประเทศ เรื่องนี้ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ 2 วันติด ไม่เห็นแถลง สนามมวยมีรายได้เท่าไหร่ เงินไม่เข้าประเทศสักบาทเดียว ไม่แถลงล่ะ ปั๊มน้ำมัน 150 ปั๊ม มีไปทำไม เอาเงินไปเข้ากระเป๋าใคร ไม่แถลง เงียบกริบ รายได้ปีละเป็นหมื่นล้านเข้ากระเป๋าใคร แถลงซิ” นายจิรัฏฐ์กล่าว
และยืนยันว่า วันนั้นไปคนเดียว ขับรถไปเอง ตอนนั้นเรียนจบแล้ว อายุ 21-22 เรียนจบแล้ว
ถามว่า เป็นไปได้ไหมที่อาจตกเป็นเหยื่อของเจ้าหน้าที่ในการปลอมแปลงเอกสาร นาย
จิรัฏฐ์กล่าวว่า พยายามนึกว่าจ่ายค่าปรับไปเท่าไหร่ ค่าปรับไปอยู่ที่ใคร จำได้ว่านั่งรถเขาไป มันตื่นเต้น หน้าตาอะไรจำไม่ได้ ยืนยันว่าเอกสารไม่ปลอมแน่ๆ
เมื่อถามว่า กลัวจะส่งผลให้หลุด ส.ส.ไหม นาย
จิรัฏฐ์กล่าวว่า ยืนยันว่าบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้โกหก เจอมาก็ดีใจแล้ว เฮกันใหญ่ ถ้าจะหลุดจริงๆ ก็ยืนยันว่าคำถามที่ตั้งกับกองทัพไว้จะมีคนพูดต่อ แต่กังวลว่าคนรอบข้าง ครอบครัวเครียด ด่าพ่อแม่ผมหยาบคาย ด่าไปถึงโคตรเหง้า แล้วไม่ได้พิสูจน์เลย ไม่ได้ทำอะไรผิดก็โดนด่า ตนยินดีให้ตรวจสอบ ไปร้อง กมธ.หรือสอบจริยธรรม ยินดีเข้ารับการตรวจสอบ แต่ใครคือผู้เสียหาย คนที่มาร้อง บางคนใส่เสื้อพรรค 2 พรรค เฟซบุ๊กเพจหนึ่ง อยากดูใบมอบอำนาจ อยากเห็นลายเซ็นเพจ ก้าวไกลโกหกอะไรเช่นกัน ไม่รู้ใครเสียหาย ไม่มีผู้เสียหาย
“
ไม่ใช่หน้าที่ผมในการพิสูจน์ตัวเอง เป็นหน้าที่หน่วยงานราชการ ยินดีให้พิสูจน์ ไม่กังวล เพราะยืนยันได้รับจากหน่วยราชการ ไม่มีทางปลอม ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ก็เตรียมใจไว้แต่แรกอยู่แล้ว เวลามาพูดเรื่องกองทัพ คำถามที่ตั้ง ธุรกิจกองทัพเป็นหมื่นล้าน ผลประโยชน์ขนาดนั้น ก็เตรียมใจไว้ระดับหนึ่ง”
นาย
จิรัฏฐ์กล่าวว่า ตนเคยบอกพรรคแต่แรกว่ามีเรื่องไม่ได้ไปรายงานตัว พรรคก็รับรู้ เอกสารก็ไม่ได้ปลอม ของจริง ก็ไม่อยากให้พรรคมามีส่วน เป็นเรื่องของตนคนเดียว
และยังกล่าวอีกว่า เรื่องนี้กระทบกับการทำงาน เป็นผลเสีย เรื่องที่ตนสื่อสารกลายเป็นเรื่องนี้ เบี่ยงประเด็นไปหมด น่าเสียดาย จะพูดเรื่องทหารมากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องทหารเกณฑ์ ถ้าเล่นผมเรื่องนี้ผมจะเล่นเรื่องนี้ให้หนักขึ้น การดิสเครดิต ส.ส.ฝ่ายค้านไม่เมกเซนส์อย่างแรง เขาไม่มีอำนาจบริหาร
เมื่อถามว่า มีคนติดต่อมาว่าให้เบาเรื่องนั้นนี้ เพื่อหยุดแตะต้องเรื่องนี้ นาย
จิรัฏฐ์กล่าวว่า เมื่อไหร่ที่ตนพูดเรื่องภาพรวม ก็ไม่มี แต่พูดคนใดคนหนึ่ง คนนั้นจะโทรมาทันที ถ้าเป็นกองทัพ หลายครั้งแล้ว ถ้าภาพรวมก็ไม่มี เคสนี้ยังไม่มีใครติดต่อมา รอบตัวก็มีคนเตือนบ้างว่าอย่าเพิ่งพูดช่วงนี้ แต่ก็ต้องพูด
ถามว่า หากกองทัพดำเนินคดีแล้วและสรุปว่าตนไม่ผิด จะดำเนินคดีคืนไหม นาย
จิรัฏฐ์กล่าวว่า เราแอนตี้เรื่องฟ้องปิดปากอยู่แล้ว เราบุคคลสาธารณะ ถ้าเป็นเรื่องนี้ก็ไม่เสียเวลาไปฟ้อง เพราะต้องเสียเวลา เงิน และไม่ได้อะไรขึ้นมา
นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธานคณะกรรมาธิการการทหารฯ กล่าวต่อว่า นาย
จิรัฏฐ์อาจจะต้องเรียกฉบับนั้นมาให้หมด จะต้องมีผู้เสียหายจำนวนมาก และคือการฉ้อโกงประชาชนครั้งใหญ่ มันตรวจได้ แสดงว่าต้องมีเคสฉ้อโกงครั้งใหญ่หรือไม่
ถามว่า ในฐานะ กมธ.จะทำอย่างไรต่อไป เดี๋ยวนาย
จิรัฏฐ์จะเอามาแสดง ก็ถามเลย จริงหรือไม่ ขอเล่มหลังๆ มาดู ถ้าเกิดทั้งลังปลอมหมด คิดว่าคนเหล่านี้ปลอมเอกสารเองได้เหรอ แล้วใครทำให้ปลอม ประชาชนไม่รู้ว่าปลอม แสดงว่าเจ้าหน้าที่กองทัพทำของปลอม ก็เป็นอีกเคส เรื่องใหญ่ แสดงว่ามีการฉ้อโกง เรียกรับผลประโยชน์ ว่ามีเคสแบบนี้ไหม ว่าประชาชนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ เคสนั้นต้องฟ้องกลับ ถึงบอกว่าต้องพิสูจน์ ถ้าแจ้งความมา ก็แจ้งความไป ถ้านาย
จิรัฏฐ์ไม่ได้โกหก ก็ไม่ได้เข้าข้างอะ เขาก็ทำผมโดนด่าเยอะ
ขยายผล! เจออีกเคส "แก๊งศรีสุวรรณ" ตบทรัพย์เรียกเงิน 100 ล้าน?
https://www.pptvhd36.com/news/สังคม/215860
ตำรวจขยายผล! เจออีกเคส "แก๊งศรีสุวรรณ"ตบทรัพย์รีดไถ เรียกเงินกว่า 100 ล้าน บาท เผยมีปลาใหญ่ร่วมแก๊ง “บิ๊กเต่า” ไม่กังวลทำคดีชี้ใครขวางเสี่ยงม.157
ความคืบหน้ากรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก และ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส. พรรครวมไทยสร้างชาติ ถูกกล่าวหาว่าตบทรัพย์นั้น
ล่าสุด พล.ต.ต.
จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมชุดสืบสวน นานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนจะบอกว่า คดีนี้ยังต้องสืบอีกยาว และมั่นใจว่าไม่จบแค่คดีของอธิบดีกรมการข้าว เพราะดูจากพฤติกรรม ยังมีอีกหลายหน่วยงานเข้าข่ายเจอแบบเดียวกัน
ทั้งนี้เป็นข้อมูลล่าสุด จาก พล.ต.ต.
จรูญเกียรติ ที่บอกว่าไม่ได้มีแค่ 1.5 ล้าน ของอธิบดีกรมการข้าว แต่ชุดสืบสวน พบข้อมูลว่า กลุ่มของนาย
ศรีสุวรรณ จรรยา เรียกรับเงินหลักร้อยล้านบาท (100 โล) ก่อนจะมีการต่อรองเหลือ 80 ล้านบาท (8 โล) เพียงแต่ยังไม่ได้มีการจ่ายเงินตามที่เรียก ตอนนี้ชุดสืบสวนกำลังขยายผลอยู่
นอกจากนี้ยังเชื่อว่า แก๊งตบทรัพย์แก๊งนี้ไม่ได้มีแค่ 3 คน ที่ถูกจับ แต่มีปลาใหญ่ร่วมด้วย ตอนนี้ตำรวจกำลังรอดูว่า ปลาใหญ่จะเอายังไง ยืนยันว่า เมื่อ ปปป. ร่วมกับ ปปท. ปปง. และ ป.ป.ช. เอาจริงแน่นอน
ส่วนแนวทางการสอบสวน ตอนนี้ พบว่า น่าจะมีอีกอย่างน้อย 1 คน ทำหน้าที่ เสิร์ฟข้อมูลข้าราชการหรือเอกชนที่น่าสนใจให้แก๊งนี้ ก่อนจะวางแผนเป็นขบวนการแบ่งหน้าที่ชัดเจน มีคนร้องเรียน คนประสาน คนไปเคลียร์ และ คนรับเงิน เมื่อถามว่า คนที่ชี้เป้าเสิร์ฟข้อมูลที่ตำรวจคาดว่าเกี่ยวข้องเป็นใคร เป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือเป็นบุคคลธรรมดา พล.ต.ต.จรูญเกียรติขอยังไม่บอก เพราะ ยังอยู่ในแนวทางสอบสวน แต่ยืนยันได้เบื้องต้นว่า ไม่ใช่คนแรกที่พาภรรยาอธิบดีไปหานาย ศ.
พล.ต.ต.
จรูญเกียรติ บอกว่า ตอนนี้กำลังไล่ดูข้อมูล เพราะ คิดแล้วว่า 3 คนที่ถูกตั้งข้อหา ไม่น่าจะเป็นตัวตั้งตัวตี ด้วยตัวเอง แต่ยังไม่ขอลงรายละเอียดว่า มีใครเกี่ยวข้องบ้าง เรื่องนี้อยู่ในสำนวน
ส่วนประเด็นที่อธิบดีและภรรยากังวลว่าโทษอาจจะน้อย หาก ผู้ถูกกล่าวหา ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หลังนาย
พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีออกมาบอกว่า ปลดออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาไปแล้ว พล.ต.ต.
จรูญเกียรติ บอกว่า ใครจะพูดอย่างไรก็ได้ ตำรวจมีหน้าที่ในการตรวจสอบ หากมีข้อมูลเอกสารการปลดก็สามารถส่งมาให้ตำรวจได้
ส่วนประเด็นว่า ถ้าอธิบดีกรมการข้าวไม่ได้ทำผิด ทำไมต้องจ่ายเงิน พล.ต.ต.
จรูญเกียรติ ย้ำว่า จากพฤติกรรมการจ่ายเงิน สะท้อนว่าไม่ได้อยากจ่ายจริง แต่ต้องจ่ายเพื่อจับขบวนการนี้ โดยการเรียกเงินสรุปตัวเลขกันที่ 1.5 ล้านบาท
ก่อนที่จะเรียกเงินรอบแรก 300,000 บาท ซึ่งทางอธิบดีฯ จ่าย 50,000 บาท หลังจากนั้นเรียกอีก 100,000 บาท จ่ายเพียง 10,000 บาท รอบที่สามเรียกเงินส่วนที่ยังค้างทางอธิบดีฯจ่ายให้ไป 100,000 บาท และรอบสุดท้าย เรียกเงินส่วนที่เหลือ 1,340,000 บาท จากนั้น ตลบหลังซ้อนแผน เอาเงินไปแขวนหน้าบ้านนาย
ศรีสุวรรณ 500,000บาท ก่อนเจ้าหน้าที่จะแสดงตัวจับกุม
ทั้งนี้มีเมื่อถามว่า มีนักการเมืองหรือใครมาขอให้หยุดทำคดีนี้หรือไม่ พล.ต.ต.
จรูญเกียรติ ย้ำว่า ตอนนี้ยังไม่มีใครประสานมาห้าม หรือ แทรกแซงคดีนี้ ยืนยันตำรวจทำหน้าที่เต็มที่ หากใครเข้ามาขอคดี ก็ให้รู้ไว้เลยว่า จะโดนคดี ม.157 แน่นอน เพราะ ชุดสืบสวนเอาจริง
JJNY : จิรัฏฐ์แจงยิบ วิโรจน์แนะแจ้งความกลับกองทัพ│เจออีกเคส"แก๊งศรีสุวรรณ"│ปี 66 ผลิตรถลดลง│ม็อบเกษตรกรฝรั่งเศสปิดถนน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4400165
จิรัฏฐ์ แจงยิบ สด.43 ของจริง 100 % มีลายเซ็นทหารครบ ด้าน วิโรจน์ แนะแจ้งความกลับ กองทัพ
เมื่อวันที่ 29 มกราคม จากกรณีหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) ตั้งโต๊ะแถลง กรณีใบ สด.43 ของ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่า ของจริงต้องครบองค์ประกอบ และเตรียมรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีนั้น
ล่าสุด นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ในรายการ The Politics ในเครือมติชน กรณีดังกล่าวว่า เกิดขึ้น 14-15 ปีแล้ว จำได้ว่าไปที่อำเภอ เขาให้ขึ้นรถไปก็ไปกับเขา ไปศาล และกลับมาที่อำเภอ ก็จับใบดำใบแดงที่อำเภอ แล้วก็กลับบ้าน ที่สงสัยว่าปลอมหรือเปล่า ยืนยันว่าของจริง 100% ได้รับจากมือเจ้าหน้าที่ในสถานที่ราชการ สมมุติว่าหนีทหารจริงก็หมดอายุความไปแล้ว จะปลอมเอกสารเพื่อหนีคดีที่หมดอายุความไปแล้วทำไม
นายจิรัฏฐ์กล่าวว่า ใบดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ มีลายเซ็น 5-6 คน มี พ.อ. 3 คน แต่ไม่รู้คนไหนยื่นให้กับมือ เขาก็เซ็นรับรองว่าถูกต้อง ก็สงสัยว่าทำไมไม่ตรวจสอบ มีเลขที่เอกสาร ก็ย้อนไปปี’54 ว่าเจ้าหน้าที่คนไหนมาประจำเขตนี้ ที่อ่านข่าว ก็บอกว่าไม่เจอต้นขั้วนวรินทร์ แต่ถ้าไม่เจอของจิรัฏฐ์ ทำต้นขั้วตนหายหรือไม่ ตนเปลี่ยนชื่อก่อนไปทำเรื่อง 4-5 ปี หลายปี ก่อนไปจับใบดำ-ใบแดง โรงพักก็ไม่ได้ไกลจากบ้านครับ ถ้าหนีทหาร เขาต้องมาจับแล้ว
ถามว่า เรื่องลายนิ้วมือมีการพิมพ์ไหม นายจิรัฏฐ์กล่าวว่า ไม่มี ก็เช็กกับเพื่อนหลายคน ไม่มี ใบที่เพื่อนส่งให้ดูหลายๆ ที่ส่งให้ บางคนก็มี บางคนก็ไม่มี ถ้าจะโกหก จะปลอมแปลง ก็แค่ไปปั๊มนิ้วมือใส่ไปก็ได้
เมื่อถามว่า มีชื่อ พ.อ. ชื่อชัดเจนใช่ไหม ส.ส.ก้าวไกลตอบว่า เป็นลายเซ็น บางคนอ่านออก เซ็นชื่อในช่องประธาน จะบอกว่าโดน 5-6 คนนี้ปลอมเอกสารให้ตนหรือ
นายจิรัฏฐ์กล่าวเมื่อถูกถามว่ารู้สึกอย่างไรกับกรณีดังกล่าว ว่า อย่างแรกรู้สึกว่ากองทัพให้ Privilege ผม รู้สึกได้รับการดูแลอย่างดี ใครไม่รู้มายื่นว่า ส.ส.คนหนึ่งหนีทหารหรือไม่ ตรวจสอบอย่างไว 2 วันก็มาแถลงเป็นฉากๆ สิ่งที่ตรวจสอบในฐานะฝ่ายค้าน ไม่รู้กี่ครั้ง ถามไม่ตอบ ไม่มีแถลงบ้าง ที่ถามว่ามีนายพลกี่คน ธุรกิจสนามกอล์ฟ ไม่เห็นแถลงชี้แจงเลย เงียบกริบ ถ้ามีคนไปร้อง ส.ส.คนอื่นจะไล่เช็กให้ทั้งสภาเลยไหม
“นายพลมีกี่คนไม่แถลงเหรอครับ สนามกอล์ฟ โฆษกก็ยืนยันเองว่าเปิดบริการให้ประชาชนใช้ เป็นธุรกิจชัดเจน แต่ไม่เคยส่งให้คลังสักบาท ไม่แถลงล่ะ คนสงสัยทั้งประเทศ เรื่องนี้ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ 2 วันติด ไม่เห็นแถลง สนามมวยมีรายได้เท่าไหร่ เงินไม่เข้าประเทศสักบาทเดียว ไม่แถลงล่ะ ปั๊มน้ำมัน 150 ปั๊ม มีไปทำไม เอาเงินไปเข้ากระเป๋าใคร ไม่แถลง เงียบกริบ รายได้ปีละเป็นหมื่นล้านเข้ากระเป๋าใคร แถลงซิ” นายจิรัฏฐ์กล่าว
และยืนยันว่า วันนั้นไปคนเดียว ขับรถไปเอง ตอนนั้นเรียนจบแล้ว อายุ 21-22 เรียนจบแล้ว
ถามว่า เป็นไปได้ไหมที่อาจตกเป็นเหยื่อของเจ้าหน้าที่ในการปลอมแปลงเอกสาร นายจิรัฏฐ์กล่าวว่า พยายามนึกว่าจ่ายค่าปรับไปเท่าไหร่ ค่าปรับไปอยู่ที่ใคร จำได้ว่านั่งรถเขาไป มันตื่นเต้น หน้าตาอะไรจำไม่ได้ ยืนยันว่าเอกสารไม่ปลอมแน่ๆ
เมื่อถามว่า กลัวจะส่งผลให้หลุด ส.ส.ไหม นายจิรัฏฐ์กล่าวว่า ยืนยันว่าบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้โกหก เจอมาก็ดีใจแล้ว เฮกันใหญ่ ถ้าจะหลุดจริงๆ ก็ยืนยันว่าคำถามที่ตั้งกับกองทัพไว้จะมีคนพูดต่อ แต่กังวลว่าคนรอบข้าง ครอบครัวเครียด ด่าพ่อแม่ผมหยาบคาย ด่าไปถึงโคตรเหง้า แล้วไม่ได้พิสูจน์เลย ไม่ได้ทำอะไรผิดก็โดนด่า ตนยินดีให้ตรวจสอบ ไปร้อง กมธ.หรือสอบจริยธรรม ยินดีเข้ารับการตรวจสอบ แต่ใครคือผู้เสียหาย คนที่มาร้อง บางคนใส่เสื้อพรรค 2 พรรค เฟซบุ๊กเพจหนึ่ง อยากดูใบมอบอำนาจ อยากเห็นลายเซ็นเพจ ก้าวไกลโกหกอะไรเช่นกัน ไม่รู้ใครเสียหาย ไม่มีผู้เสียหาย
“ไม่ใช่หน้าที่ผมในการพิสูจน์ตัวเอง เป็นหน้าที่หน่วยงานราชการ ยินดีให้พิสูจน์ ไม่กังวล เพราะยืนยันได้รับจากหน่วยราชการ ไม่มีทางปลอม ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ก็เตรียมใจไว้แต่แรกอยู่แล้ว เวลามาพูดเรื่องกองทัพ คำถามที่ตั้ง ธุรกิจกองทัพเป็นหมื่นล้าน ผลประโยชน์ขนาดนั้น ก็เตรียมใจไว้ระดับหนึ่ง”
นายจิรัฏฐ์กล่าวว่า ตนเคยบอกพรรคแต่แรกว่ามีเรื่องไม่ได้ไปรายงานตัว พรรคก็รับรู้ เอกสารก็ไม่ได้ปลอม ของจริง ก็ไม่อยากให้พรรคมามีส่วน เป็นเรื่องของตนคนเดียว
และยังกล่าวอีกว่า เรื่องนี้กระทบกับการทำงาน เป็นผลเสีย เรื่องที่ตนสื่อสารกลายเป็นเรื่องนี้ เบี่ยงประเด็นไปหมด น่าเสียดาย จะพูดเรื่องทหารมากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องทหารเกณฑ์ ถ้าเล่นผมเรื่องนี้ผมจะเล่นเรื่องนี้ให้หนักขึ้น การดิสเครดิต ส.ส.ฝ่ายค้านไม่เมกเซนส์อย่างแรง เขาไม่มีอำนาจบริหาร
เมื่อถามว่า มีคนติดต่อมาว่าให้เบาเรื่องนั้นนี้ เพื่อหยุดแตะต้องเรื่องนี้ นายจิรัฏฐ์กล่าวว่า เมื่อไหร่ที่ตนพูดเรื่องภาพรวม ก็ไม่มี แต่พูดคนใดคนหนึ่ง คนนั้นจะโทรมาทันที ถ้าเป็นกองทัพ หลายครั้งแล้ว ถ้าภาพรวมก็ไม่มี เคสนี้ยังไม่มีใครติดต่อมา รอบตัวก็มีคนเตือนบ้างว่าอย่าเพิ่งพูดช่วงนี้ แต่ก็ต้องพูด
ถามว่า หากกองทัพดำเนินคดีแล้วและสรุปว่าตนไม่ผิด จะดำเนินคดีคืนไหม นายจิรัฏฐ์กล่าวว่า เราแอนตี้เรื่องฟ้องปิดปากอยู่แล้ว เราบุคคลสาธารณะ ถ้าเป็นเรื่องนี้ก็ไม่เสียเวลาไปฟ้อง เพราะต้องเสียเวลา เงิน และไม่ได้อะไรขึ้นมา
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธานคณะกรรมาธิการการทหารฯ กล่าวต่อว่า นายจิรัฏฐ์อาจจะต้องเรียกฉบับนั้นมาให้หมด จะต้องมีผู้เสียหายจำนวนมาก และคือการฉ้อโกงประชาชนครั้งใหญ่ มันตรวจได้ แสดงว่าต้องมีเคสฉ้อโกงครั้งใหญ่หรือไม่
ถามว่า ในฐานะ กมธ.จะทำอย่างไรต่อไป เดี๋ยวนายจิรัฏฐ์จะเอามาแสดง ก็ถามเลย จริงหรือไม่ ขอเล่มหลังๆ มาดู ถ้าเกิดทั้งลังปลอมหมด คิดว่าคนเหล่านี้ปลอมเอกสารเองได้เหรอ แล้วใครทำให้ปลอม ประชาชนไม่รู้ว่าปลอม แสดงว่าเจ้าหน้าที่กองทัพทำของปลอม ก็เป็นอีกเคส เรื่องใหญ่ แสดงว่ามีการฉ้อโกง เรียกรับผลประโยชน์ ว่ามีเคสแบบนี้ไหม ว่าประชาชนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ เคสนั้นต้องฟ้องกลับ ถึงบอกว่าต้องพิสูจน์ ถ้าแจ้งความมา ก็แจ้งความไป ถ้านายจิรัฏฐ์ไม่ได้โกหก ก็ไม่ได้เข้าข้างอะ เขาก็ทำผมโดนด่าเยอะ
ขยายผล! เจออีกเคส "แก๊งศรีสุวรรณ" ตบทรัพย์เรียกเงิน 100 ล้าน?
https://www.pptvhd36.com/news/สังคม/215860
ตำรวจขยายผล! เจออีกเคส "แก๊งศรีสุวรรณ"ตบทรัพย์รีดไถ เรียกเงินกว่า 100 ล้าน บาท เผยมีปลาใหญ่ร่วมแก๊ง “บิ๊กเต่า” ไม่กังวลทำคดีชี้ใครขวางเสี่ยงม.157
ความคืบหน้ากรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก และ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส. พรรครวมไทยสร้างชาติ ถูกกล่าวหาว่าตบทรัพย์นั้น
ล่าสุด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมชุดสืบสวน นานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนจะบอกว่า คดีนี้ยังต้องสืบอีกยาว และมั่นใจว่าไม่จบแค่คดีของอธิบดีกรมการข้าว เพราะดูจากพฤติกรรม ยังมีอีกหลายหน่วยงานเข้าข่ายเจอแบบเดียวกัน
ทั้งนี้เป็นข้อมูลล่าสุด จาก พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ที่บอกว่าไม่ได้มีแค่ 1.5 ล้าน ของอธิบดีกรมการข้าว แต่ชุดสืบสวน พบข้อมูลว่า กลุ่มของนายศรีสุวรรณ จรรยา เรียกรับเงินหลักร้อยล้านบาท (100 โล) ก่อนจะมีการต่อรองเหลือ 80 ล้านบาท (8 โล) เพียงแต่ยังไม่ได้มีการจ่ายเงินตามที่เรียก ตอนนี้ชุดสืบสวนกำลังขยายผลอยู่
นอกจากนี้ยังเชื่อว่า แก๊งตบทรัพย์แก๊งนี้ไม่ได้มีแค่ 3 คน ที่ถูกจับ แต่มีปลาใหญ่ร่วมด้วย ตอนนี้ตำรวจกำลังรอดูว่า ปลาใหญ่จะเอายังไง ยืนยันว่า เมื่อ ปปป. ร่วมกับ ปปท. ปปง. และ ป.ป.ช. เอาจริงแน่นอน
ส่วนแนวทางการสอบสวน ตอนนี้ พบว่า น่าจะมีอีกอย่างน้อย 1 คน ทำหน้าที่ เสิร์ฟข้อมูลข้าราชการหรือเอกชนที่น่าสนใจให้แก๊งนี้ ก่อนจะวางแผนเป็นขบวนการแบ่งหน้าที่ชัดเจน มีคนร้องเรียน คนประสาน คนไปเคลียร์ และ คนรับเงิน เมื่อถามว่า คนที่ชี้เป้าเสิร์ฟข้อมูลที่ตำรวจคาดว่าเกี่ยวข้องเป็นใคร เป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือเป็นบุคคลธรรมดา พล.ต.ต.จรูญเกียรติขอยังไม่บอก เพราะ ยังอยู่ในแนวทางสอบสวน แต่ยืนยันได้เบื้องต้นว่า ไม่ใช่คนแรกที่พาภรรยาอธิบดีไปหานาย ศ.
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า ตอนนี้กำลังไล่ดูข้อมูล เพราะ คิดแล้วว่า 3 คนที่ถูกตั้งข้อหา ไม่น่าจะเป็นตัวตั้งตัวตี ด้วยตัวเอง แต่ยังไม่ขอลงรายละเอียดว่า มีใครเกี่ยวข้องบ้าง เรื่องนี้อยู่ในสำนวน
ส่วนประเด็นที่อธิบดีและภรรยากังวลว่าโทษอาจจะน้อย หาก ผู้ถูกกล่าวหา ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หลังนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีออกมาบอกว่า ปลดออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาไปแล้ว พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า ใครจะพูดอย่างไรก็ได้ ตำรวจมีหน้าที่ในการตรวจสอบ หากมีข้อมูลเอกสารการปลดก็สามารถส่งมาให้ตำรวจได้
ส่วนประเด็นว่า ถ้าอธิบดีกรมการข้าวไม่ได้ทำผิด ทำไมต้องจ่ายเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ย้ำว่า จากพฤติกรรมการจ่ายเงิน สะท้อนว่าไม่ได้อยากจ่ายจริง แต่ต้องจ่ายเพื่อจับขบวนการนี้ โดยการเรียกเงินสรุปตัวเลขกันที่ 1.5 ล้านบาท
ก่อนที่จะเรียกเงินรอบแรก 300,000 บาท ซึ่งทางอธิบดีฯ จ่าย 50,000 บาท หลังจากนั้นเรียกอีก 100,000 บาท จ่ายเพียง 10,000 บาท รอบที่สามเรียกเงินส่วนที่ยังค้างทางอธิบดีฯจ่ายให้ไป 100,000 บาท และรอบสุดท้าย เรียกเงินส่วนที่เหลือ 1,340,000 บาท จากนั้น ตลบหลังซ้อนแผน เอาเงินไปแขวนหน้าบ้านนายศรีสุวรรณ 500,000บาท ก่อนเจ้าหน้าที่จะแสดงตัวจับกุม
ทั้งนี้มีเมื่อถามว่า มีนักการเมืองหรือใครมาขอให้หยุดทำคดีนี้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ย้ำว่า ตอนนี้ยังไม่มีใครประสานมาห้าม หรือ แทรกแซงคดีนี้ ยืนยันตำรวจทำหน้าที่เต็มที่ หากใครเข้ามาขอคดี ก็ให้รู้ไว้เลยว่า จะโดนคดี ม.157 แน่นอน เพราะ ชุดสืบสวนเอาจริง