Power Nap คือการงีบระหว่างวันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ปัจจุบันมีหลายๆประเทศเล็งเห็นความสำคัญ จัดสถานที่งีบหลับไว้ในที่ทำงาน อย่างที่เคยเห็นกัน แล้วจะงีบอย่างไรให้ได้ผลดีที่สุด
🥱Power Nap เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทำให้รู้สึกตื่นตัว มีสมาธิมากขึ้น เมื่อสมองเริ่มตื้อจากการที่ทำงานติดต่อกันการงีบสักพักจะช่วยให้จดจำได้ดีขึ้นทำงานลื่นไหล ช่วยลดความเครียดอีกด้วย
ดั้งนั้นเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าสมองตื้อ ทำงานไม่ไหว อย่าฝืนทำงานต่อ ลองงีบดูสักพัก อาจทำงานได้รวดเร็วมากขึ้นหลังตื่นขึ้นมา(แต่อย่าทำในแบบนั้น ถ้าที่ทำงานไม่อนุญาติ)
แต่ถ้างีบหลับนานเกินไปก็อาจส่งผลเสียได้ หากหลับตอนกลางวันนานเกิน 50 นาที อาจเป็นสัญญาณของโรคหลอดเลือดหัวใจ เบาหวาน และภาวะเมตาบอลิกซินโดรม ควรสังเกตตัวเองด้วย
และไม่ใช่ว่าการนอนกลางวันนั้นเกิดจากการ นอนไม่หลับ หรือ นอนน้อย ในเวลานอนปกติ
ในเวลานอนปกติก็ควรนอนให้เพียงพอในช่วงค่ำคืน จะดีกว่ามางีบชดเชยช่วงกลางวัน
⏰ควรงีบนานแค่ไหน
Power Nap ควรจะอยู่ที่ 10-30 นาที จะเหมาะสมที่สุด ถ้านอนนานกว่านั้นอาจทำให้ตื่นยาก รู้สึกงัวเงียขณะตื่นขึ้นมา
เวลาที่เหมาะสมคือช่วง 13.00-15.00 น. เป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่มักผ่อนคลายตามจังหวะการเต้นของหัวใจ และไม่มีผลกระทบกับช่วงเวลานอนหลับตอนกลางคืน แต่ถ้านอนตอนเย็นกว่านี้ มักจะไม่หลับในตอนกลางคืน
ปัจจุบัน ที่ทำงานหลายแห่งไม่ได้มองการ Power Nap เป็นเรื่องดี จึงไม่ได้มีการจัดที่ให้งีบหลับไว้ให้
การฟุบกับโต๊ะทำงาน มีหมอนรองคอสบายๆ เป็นทางเลือกหนึ่ง หรือถ้าขับรถก็ลองจอดในที่ร่ม แล้วเอนหลังงีบสักระยะ ก็พอให้สดชื่น
☕️มีอีกความเห็นว่าให้ดื่มกาแฟก่อนที่จะงีบหลับในทันที (Caffeine Nap) คาเฟอีนในกาแฟถูกดูดซึมเข้าร่างกายขณะหลับและจะเริ่มทำงานเมื่อตื่น ช่วยทำให้ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นมากขึ้น
แต่คาเฟอีนในกาแฟมีผลต่อร่างกายของแต่ละคนแตกต่างกัน บางคนอาจไม่สามารถงีบหลับได้เลย และการดื่มกาแฟหลัง 15.00 น.อาจมีผลกับการนอนตอนกลางคืน
🎉การงีบหลับให้ได้ผลดีสุด
นอนในที่แสงส่องน้อยที่สุด หรือใช้ผ้าปิดตาไว้ระหว่างการงีบ
ใช้หูฟังแบบตัดเสียงรบกวน (Noise Cancelling Headphone)
ควรตั้งนาฬิกาปลุก จะได้ไม่หลับเพลิน
ลองทำดูว่าเกิดผลอย่างไรกับตัวเอง แต่คำเตือนคือ ทดลองทำในสถานที่และเวลาที่เหมาะสม มิฉะนั้นอาจตกงานได้
Power Nap 💤😴
🥱Power Nap เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทำให้รู้สึกตื่นตัว มีสมาธิมากขึ้น เมื่อสมองเริ่มตื้อจากการที่ทำงานติดต่อกันการงีบสักพักจะช่วยให้จดจำได้ดีขึ้นทำงานลื่นไหล ช่วยลดความเครียดอีกด้วย
ดั้งนั้นเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าสมองตื้อ ทำงานไม่ไหว อย่าฝืนทำงานต่อ ลองงีบดูสักพัก อาจทำงานได้รวดเร็วมากขึ้นหลังตื่นขึ้นมา(แต่อย่าทำในแบบนั้น ถ้าที่ทำงานไม่อนุญาติ)
แต่ถ้างีบหลับนานเกินไปก็อาจส่งผลเสียได้ หากหลับตอนกลางวันนานเกิน 50 นาที อาจเป็นสัญญาณของโรคหลอดเลือดหัวใจ เบาหวาน และภาวะเมตาบอลิกซินโดรม ควรสังเกตตัวเองด้วย
และไม่ใช่ว่าการนอนกลางวันนั้นเกิดจากการ นอนไม่หลับ หรือ นอนน้อย ในเวลานอนปกติ
ในเวลานอนปกติก็ควรนอนให้เพียงพอในช่วงค่ำคืน จะดีกว่ามางีบชดเชยช่วงกลางวัน
⏰ควรงีบนานแค่ไหน
Power Nap ควรจะอยู่ที่ 10-30 นาที จะเหมาะสมที่สุด ถ้านอนนานกว่านั้นอาจทำให้ตื่นยาก รู้สึกงัวเงียขณะตื่นขึ้นมา
เวลาที่เหมาะสมคือช่วง 13.00-15.00 น. เป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่มักผ่อนคลายตามจังหวะการเต้นของหัวใจ และไม่มีผลกระทบกับช่วงเวลานอนหลับตอนกลางคืน แต่ถ้านอนตอนเย็นกว่านี้ มักจะไม่หลับในตอนกลางคืน
ปัจจุบัน ที่ทำงานหลายแห่งไม่ได้มองการ Power Nap เป็นเรื่องดี จึงไม่ได้มีการจัดที่ให้งีบหลับไว้ให้
การฟุบกับโต๊ะทำงาน มีหมอนรองคอสบายๆ เป็นทางเลือกหนึ่ง หรือถ้าขับรถก็ลองจอดในที่ร่ม แล้วเอนหลังงีบสักระยะ ก็พอให้สดชื่น
☕️มีอีกความเห็นว่าให้ดื่มกาแฟก่อนที่จะงีบหลับในทันที (Caffeine Nap) คาเฟอีนในกาแฟถูกดูดซึมเข้าร่างกายขณะหลับและจะเริ่มทำงานเมื่อตื่น ช่วยทำให้ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นมากขึ้น
แต่คาเฟอีนในกาแฟมีผลต่อร่างกายของแต่ละคนแตกต่างกัน บางคนอาจไม่สามารถงีบหลับได้เลย และการดื่มกาแฟหลัง 15.00 น.อาจมีผลกับการนอนตอนกลางคืน
🎉การงีบหลับให้ได้ผลดีสุด
นอนในที่แสงส่องน้อยที่สุด หรือใช้ผ้าปิดตาไว้ระหว่างการงีบ
ใช้หูฟังแบบตัดเสียงรบกวน (Noise Cancelling Headphone)
ควรตั้งนาฬิกาปลุก จะได้ไม่หลับเพลิน
ลองทำดูว่าเกิดผลอย่างไรกับตัวเอง แต่คำเตือนคือ ทดลองทำในสถานที่และเวลาที่เหมาะสม มิฉะนั้นอาจตกงานได้