
อาหารเป็นพิษ เป็นภาวะที่ร่างกายได้รับเชื้อโรคหรือสารพิษจากอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อน ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสียตามมา โดยส่วนใหญ่สามารถเป็นและหายได้เองใน 1-2 วัน แต่ในบางกรณีอาจรุนแรงถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว
5 อาการอาหารเป็นพิษรุนแรง
อย่างที่พูดไปข้างต้น ว่าแม้อาหารเป็นพิษจะสามารถหายเองได้ แต่บางกรณีอาจรุนแรงและอันตรายกว่านั้น เนื่องจากอาจเกิดภาวะช็อก และขาดน้ำได้ ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาดู อาการรุนแรงของอาหารเป็นพิษ ที่ควรพบแพทย์ให้เร็วที่สุด มีอะไรบ้าง ดังนี้
1. อาเจียนรุนแรง หรือถ่ายมากผิดปกติ (มากกว่า 8-10 ครั้งต่อวัน)
2. มีไข้ ร่วมด้วย
3. ซึม ไม่มีแรง อ่อนเพลีย มือเท้าเย็น
4. ปัสสาวะสีเข้ม ปัสสาวะน้อย หรือไม่ปัสสาวะเกิน 6 ชั่วโมง
5. หากเป็นเด็กเล็ก อาจมีอาการปากแห้ง ตาโหล ร้องให้แบบไม่มีน้ำตา
หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจเกิดภาวะขาดน้ำและเกลือแร่รุนแรง ซึ่งอาจนำไปสู่อันตรายถึงชีวิตได้
วิธีป้องกันอาหารเป็นพิษสามารถทำได้โดยยึดหลัก "สุก ร้อน สะอาด" ดังนี้
1. รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หลีกเลี่ยงรับประทานอาหารที่สุกๆ ดิบๆ
2. ปรุงอาหารให้สุกด้วยความร้อนที่เพียงพอ อุณหภูมิภายในอาหารควรสูงกว่า 70 องศาเซลเซียส
3. เก็บรักษาอาหารในอุณหภูมิที่เหมาะสม อาหารควรเก็บไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส หรือแช่แข็งที่อุณหภูมิต่ำกว่า -18 องศาเซลเซียส
4. ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารและหลังสัมผัสอาหารดิบ
5. แยกอาหารสดและอาหารสุกออกจากกัน
6. ทำความสะอาดอุปกรณ์ทำครัวและภาชนะที่ใช้ประกอบอาหารให้สะอาด
ช่วงนี้ในไทยเริ่มกลับมามีอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดอีกครั้ง ดังนั้นควรระมัดระวังเรื่องอาหารการกินให้มากเป็นพิเศษ เพราะในสภาวะอากาศที่ร้อนและชื้นเช่นนี้ เชื้อโรคสามารถเจริญเติบโตได้ดีและไวกว่าปกติ
อ่านเพื่มเติมได้ที่
https://www.tnnthailand.com/news/health/160707/
เปิด 5 อาการ "อาหารเป็นพิษ" รุนแรงถึงชีวิต แบบไหนควรรีบพบแพทย์ เช็คด่วน!
อาหารเป็นพิษ เป็นภาวะที่ร่างกายได้รับเชื้อโรคหรือสารพิษจากอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อน ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสียตามมา โดยส่วนใหญ่สามารถเป็นและหายได้เองใน 1-2 วัน แต่ในบางกรณีอาจรุนแรงถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว
5 อาการอาหารเป็นพิษรุนแรง
อย่างที่พูดไปข้างต้น ว่าแม้อาหารเป็นพิษจะสามารถหายเองได้ แต่บางกรณีอาจรุนแรงและอันตรายกว่านั้น เนื่องจากอาจเกิดภาวะช็อก และขาดน้ำได้ ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนมาดู อาการรุนแรงของอาหารเป็นพิษ ที่ควรพบแพทย์ให้เร็วที่สุด มีอะไรบ้าง ดังนี้
1. อาเจียนรุนแรง หรือถ่ายมากผิดปกติ (มากกว่า 8-10 ครั้งต่อวัน)
2. มีไข้ ร่วมด้วย
3. ซึม ไม่มีแรง อ่อนเพลีย มือเท้าเย็น
4. ปัสสาวะสีเข้ม ปัสสาวะน้อย หรือไม่ปัสสาวะเกิน 6 ชั่วโมง
5. หากเป็นเด็กเล็ก อาจมีอาการปากแห้ง ตาโหล ร้องให้แบบไม่มีน้ำตา
หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจเกิดภาวะขาดน้ำและเกลือแร่รุนแรง ซึ่งอาจนำไปสู่อันตรายถึงชีวิตได้
วิธีป้องกันอาหารเป็นพิษสามารถทำได้โดยยึดหลัก "สุก ร้อน สะอาด" ดังนี้
1. รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หลีกเลี่ยงรับประทานอาหารที่สุกๆ ดิบๆ
2. ปรุงอาหารให้สุกด้วยความร้อนที่เพียงพอ อุณหภูมิภายในอาหารควรสูงกว่า 70 องศาเซลเซียส
3. เก็บรักษาอาหารในอุณหภูมิที่เหมาะสม อาหารควรเก็บไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส หรือแช่แข็งที่อุณหภูมิต่ำกว่า -18 องศาเซลเซียส
4. ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารและหลังสัมผัสอาหารดิบ
5. แยกอาหารสดและอาหารสุกออกจากกัน
6. ทำความสะอาดอุปกรณ์ทำครัวและภาชนะที่ใช้ประกอบอาหารให้สะอาด
ช่วงนี้ในไทยเริ่มกลับมามีอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดอีกครั้ง ดังนั้นควรระมัดระวังเรื่องอาหารการกินให้มากเป็นพิเศษ เพราะในสภาวะอากาศที่ร้อนและชื้นเช่นนี้ เชื้อโรคสามารถเจริญเติบโตได้ดีและไวกว่าปกติ
อ่านเพื่มเติมได้ที่ https://www.tnnthailand.com/news/health/160707/