เหมาะสมไหม? เซเลปลูกสาวทหาร เดินถ่ายคลิปกลางถนน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8061543
ชาวเน็ตจวกเละ เหมาะสมไหม ? เซเลป ลูกสาวทหารยศใหญ่ เดินเซลฟี่ถ่ายคลิปกลางถนนขณะมีรถวิ่ง ลั่น “เดิน ๆ ไป เดี๋ยวรถเค้าหยุดให้เราเอง”
คลิปวิดีโอของสาวคนหนึ่งกลายเป็นไวรัล หลังเพจ Red Skul โพสต์ลง เป็นคลิปขณะเธอกำลังเดินถือไม้เซลฟี่อยู่บนถนนที่มีรถขับผ่านไปมา โดยเจ้าตัวไม่มีทีท่าว่าจะกลัวโดนชนแต่อย่างใด ซึ่งคลิปนี้เป็นคลิปของแบรนด์เสื้อผ้าหนึ่ง
ก่อนชาวเน็ตจะทำการขุดจนพบว่า หญิงสาวรายนี้เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่ง มียอดฟอลอินสตาแกรมเกือบแสน ที่สำคัญเป็นลูกสาวคนเล็กของอดีตทหารยศใหญ่ คลิปวิดีโอที่เป็นดราม่าเจ้าตัวก็เป็นคนลงเอง แถมตอบคอมเมนต์คนอื่นว่า “
เดิน ๆ ไป เดี๋ยวรถเค้าหยุดให้เราเอง”
หลังจากคลิปวิดีโอกลายเป็นไวรัลก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ส่วนใหญ่เป็นในทางตำหนิ เพราะการกระทำแบบนี้เสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
บางคนยังแอบแซะอีกว่าพ่อยศใหญ่ขนาดนั้น ถ้าโดนชน คนขับรถคงซวยมาก ทั้ง ๆ ที่คนผิดคือเจ้าตัวที่ลงไปเดินบนถนนที่รถกำลังวิ่ง
แถมมีคนมาคอมเมนต์ เล่าวีรกรรมเพิ่มเติมว่า “
อันฟอลไปตอนที่เค้าทำคอนเทนต์ metro girl เพลง greedy บน mrt ที่คนเยอะ ๆ แล้วเดินยื่นแขนหมุนแขนไปมาสะบัดหัวฟาดคนอื่นถ่ายติดคนอื่น ซึ่งส่วนตัวไม่ชอบทำคอนเทนต์ที่ติดหรือเกะกะคนอื่น”
https://twitter.com/RedSkullxxx/status/1748996308445372632
ทัศนัย ชวนลุ้น พรุ่งนี้อัยการเตรียมสั่งฟ้อง ‘อาจารย์-น.ศ.’ คดีทวงคืนหอศิลป์ มช. ปี’64
https://www.matichon.co.th/politics/news_4387666
ทัศนัย พร้อมอาจารย์-น.ศ. ฟังคำสั่งฟ้องพรุ่งนี้ คดีทวงคืนหอศิลป์ มช. จัดแสดงผลงาน ปี’64 ชี้สะท้อนท่าทีเสรีภาพการศึกษา
เมื่อวันที่ 22 มกราคม ผศ.ดร.
ทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์ภาควิชาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ระบุทางเฟซบุ๊ก
Thasnai Sethaseree ถึงกรณีที่วันพรุ่งนี้ (23 มกราคม) ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่นัดหมายสั่งฟ้องคดีของ 3 อาจารย์และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จากกรณีเหตุที่อาจารย์และนักศึกษาสาขาวิชา Media Art and Design ร่วมกันตัดโซ่และเข้าไปใช้พื้นที่ของหอศิลปวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อจัดแสดงงานศิลปะประจำปีตามรายวิชาเรียน เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2564
ผศ.ดร.ทัศนัยระบุว่า
“
พรุ่งนี้ เวลา 10.00 น. ผม อาจารย์จุ้ย (อาจารย์ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ อาจารย์) และ นักศึกษาอีกคนหนึ่ง จะไปศาลจังหวัดเชียงใหม่ ในคดียึดหอศิลป์ ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน
คดีนี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นผู้ฟ้อง โดยมอบอำนาจให้ อัศวิณีย์ หวานจริง เป็นผู้ดำเนินการ
ศาลปกครองเชียงใหม่และคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้วินิจฉัยคดีนี้เสร็จสิ้นไปแล้วว่า นักศึกษาได้เข้าไปใช้สิทธิในการใช้พื้นที่หอศิลป์ตามรัฐธรรมนูญเพื่อปกป้องความเสียหาย และผู้บริหารมหาวิทยาลัยมิได้ออกคำสั่งอนุญาต หรือไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด
สำนักอัยการเชียงใหม่มีดุลพินิจไม่สั่งฟ้องไปแล้ว แต่เรื่องถูกส่งต่อไปให้สำนักงานตำรวจภาค 5 ซึ่งมีความเห็นแย้งกับอัยการให้ดำเนินการฟ้องต่อ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ควรจะต้องไปถอนฟ้องตั้งแต่รับทราบคำวินิจฉัยของศาลปกครองและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แต่ก็ไม่ทำ
คดีนี้มีเรื่องสนุกเยอะครับ ที่สะท้อนท่าทีของมหาวิทยาลัยต่อเสรีภาพในการศึกษา
ใครว่าง ไปเจอพวกเราได้ที่ศาลอาญาเชียงใหม่
10 โมงเช้า”
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 16 -24 ต.ค.2564 ต่อเนื่องกัน ทั้งสามคน กับพวก ร่วมกันตัดโซ่ที่คล้องประตูรั้วทางเข้า-ออกหอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบริเวณหอศิลป์ และอาคารสํานักงาน เป็นเหตุให้ทรัพย์สินภายในได้รับความเสียหาย ได้แก่ โซ่และแม่กุญแจในบริเวณประตูรั้วทางเข้า กุญแจประตูหอศิลป์ (ทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง) ประตูห้องควบคุมไฟฟ้า (ด้านหลังหอศิลป์) ผนังห้องภายในห้องนิทรรศการ กล้องวงจรปิด พื้นอิฐบล็อกที่จอดรถ โดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งสามให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และให้การต่อสู้คดีแล้ว ต่อมาตำรวจได้นัดส่งสำนวนคดีให้กับอัยการจังหวัดเชียงใหม่ไปเมื่อวันที่ 18 เม.ย.2566 โดยอัยการนัดฟังคำสั่งในแต่ละเดือนตลอดปีที่ผ่านมา จนการนัดฟังคำสั่งครั้งที่ 8 ในวันที่ 23 ม.ค.2567 นี้ อัยการแจ้งว่าจะมีคำสั่งฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ ระหว่างความขัดแย้งเรื่องการขอใช้หอศิลป์ มช. นักศึกษาของสาขาวิชา Media Art and Design ยังมีการฟ้องร้องความล่าช้าของผู้ดูแลและผู้บริหารของหอศิลป์ที่ไม่มีคำสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ จนอาจเกิดความเสียหายต่อนักศึกษา โดยได้มีการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่ว่าการไม่ออกคำสั่งของผู้ดูและผู้บริหารของหอศิลป์นั้นเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
แต่การพิจารณาคดีของศาลปกครองเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มนักศึกษาได้เข้าใช้งานพื้นที่หอศิลป์จนเสร็จสิ้นกิจกรรมแล้ว ศาลปกครองจึงได้มีคำสั่งจำหน่ายคดี เนื่องจากเห็นว่าล่วงพ้นเวลาที่ศาลจะมีคำสั่งใดๆ เพื่อเยียวยาความเดือดร้อนหรือความเสียหายของนักศึกษาได้แล้ว
อีกทั้งเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2566 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ยังได้มีการหยิบยกกรณีนี้ขึ้นตรวจสอบประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และพิจารณามีความเห็นว่าการที่คณะวิจิตรศิลป์ โดยคณะกรรมการฯ ไม่แจ้งผลการพิจารณาขอใช้พื้นที่หอศิลป์ มช. ให้นักศึกษาทราบในเวลาอันสมควร และขัดขวางไม่ให้อาจารย์และนักศึกษาเข้าไปใช้พื้นที่หอศิลปวัฒนธรรมในการจัดแสดงผลงานศิลปะ จึงกระทบต่อเสรีภาพทางวิชาการอันเป็นการกระทำหรือละเลยการกระทำที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
กสม.ระบุว่า ยังได้จัดทำข้อเสนอแนะไปยังผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้ใช้ความระมัดระวัง ในการใช้ดุลพินิจที่อาจกระทบต่อเสรีภาพทางวิชาการ และให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยคณะวิจิตรศิลป์ปรับแก้ระเบียบ ข้อบังคับ หรือประกาศเกี่ยวกับขั้นตอนในการขอใช้พื้นที่หอศิลปวัฒนธรรมเพื่อจัดแสดงผลงานของนักศึกษา และกำหนดกรอบระยะเวลาในการยื่นคำขอและระยะเวลาในการพิจารณาคำขออนุญาตให้ชัดเจน
รวมทั้งให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กำหนดหลักเกณฑ์เพื่อเปิดโอกาสให้อาจารย์ประจำสาขาวิชาและ/หรือนักศึกษาที่ขอใช้พื้นที่หอศิลปวัฒนธรรมได้เข้าชี้แจงหรือแสดงความเห็นต่อคณะกรรมการดำเนินงานหอศิลปวัฒนธรรมเพื่อประกอบการพิจารณาคำขอโดยให้คำนึงถึงเสรีภาพทางวิชาการด้วย
https://www.facebook.com/thasnai.sethaseree.5/posts/pfbid0Y53N7YX2ks7qD4e7o45xcyxMbPSnj4txe5wkzRqHp4VfTnYPEDdCS8XCnTfoo51ml
ศก.ไทยฟื้นตัวบนความท้าทาย คนไทยเป็นหนี้นาน นโยบายช่วยเฉพาะกลุ่มระยะสั้น-สร้างรายได้ระยะยาวคือทางออก
https://siamrath.co.th/n/508619
เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวบนความท้าทาย เมื่อคนไทยเป็นหนี้นาน-พึ่งงานนอกระบบ นโยบายช่วยเฉพาะกลุ่มระยะสั้นและสร้างรายได้ระยะยาวคือทางออก
เศรษฐกิจโลกปี 2024
เศรษฐกิจโลกในปี 2024 มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง จากผลของนโยบายการเงินตึงตัวต่อเนื่องและตลาดแรงงานอ่อนแอลง อีกทั้ง ยังต้องเผชิญความไม่แน่นอนรอบด้าน โดยในปีนี้จะมีการเลือกตั้งใหญ่กว่า 60 ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจรวมสูงกว่า 60% ของโลก นอกจากนี้ การค้าและห่วงโซ่อุปทานโลกเผชิญความเสี่ยงใหม่จากการโจมตีเรือขนส่งสินค้าในบริเวณทะเลแดงและปัญหาน้ำแล้งในคลองปานามา ก่อให้เกิดความแออัดในการขนส่งทางเรือหรือต้องปรับเส้นทางเดินเรือ ทำให้ระยะเวลาการเดินทางและต้นทุนขนส่งสูงขึ้น ธนาคารกลางในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักมีแนวโน้มจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงไตรมาส 2 จากเงินเฟ้อที่มีทิศทางชะลอลง สำหรับจีนมีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่องผ่านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและอัตราเงินสดสำรองตามกฎหมาย (Required Reserve Ratio : RRR) ขณะที่ญี่ปุ่นมีแนวโน้มยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบปีนี้
เศรษฐกิจไทยปี 2024
เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในไตรมาสแรกของปี 2024 แรงส่งหลักมาจากการบริโภคภาคเอกชนตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับดีขึ้น มาตรการลดค่าครองชีพและโครงการ Easy e-receipt กระตุ้นการใช้จ่าย ทั้งนี้ ผลบวกของโครงการนี้อาจไม่มากเท่าในอดีต เนื่องจากเงื่อนไขจำกัดเฉพาะร้านที่ออก e-Tax Invoice ได้ นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยยังมีแรงหนุนจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นต่อเนื่องและการส่งออกที่กลับมาขยายตัวได้ สอดคล้องกับการผลิตบางอุตสาหกรรมที่เริ่มฟื้น เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ปัจจัยกดดันเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปมาจากการประกาศใช้ พ.ร.บ. งบประมาณฯ ปี 2024 ล่าช้ากดดันการลงทุนภาครัฐในช่วงครึ่งปีแรก ตลอดจนความไม่แน่นอนจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะความเสี่ยงใหม่ในตะวันออกกลางที่อาจกระทบการขนส่งทางทะเล และทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกชะงักขึ้นได้อีก สำหรับเงินเฟ้อไทย แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะติดลบต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีก่อน แต่ส่วนใหญ่เป็นผลจากมาตรการช่วยค่าครองชีพประชาชน โดย SCB EIC ประเมินว่า ประเทศไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด เงินเฟ้อติดลบยังไม่กระจายตัวรายสินค้าเป็นวงกว้าง และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังเป็นบวก มองไปข้างหน้าเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปทานเป็นหลัก กดดันปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยที่ยังอยู่ในระดับสูงและรายได้กลุ่มเปราะบางฟื้นช้า
แนวโน้มหนี้ครัวเรือนไทย
สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยยังน่ากังวลสอดคล้องกับผลสำรวจ SCB EIC Consumer survey 2023 พบว่า กลุ่มคนรายได้น้อยเผชิญปัญหาหนี้สินเพิ่มขึ้นหลังวิกฤตโควิดและยังมีปัญหารายได้ไม่พอรายจ่ายอยู่มาก โดยผู้มีรายได้น้อยกว่า 1 ใน 3 ประกอบอาชีพอิสระ/รับจ้างทั่วไป ซึ่งมีแนวโน้มเป็นแรงงานนอกระบบที่รายได้ไม่มากและเข้าไม่ถึงระบบประกันสังคม ประกอบกับกลุ่มนี้มีวิธีบริหารจัดการหนี้ที่ยังไม่ดีนัก จึงพึ่งพาหนี้นอกระบบสูง และมีแนวโน้มติดอยู่ในวงจรหนี้อีกนาน จึงต้องอาศัยนโยบายระยะสั้น เพิ่มสภาพคล่องและแก้หนี้ให้กลุ่มครัวเรือนเปราะบาง ควบคู่กับนโยบายระยะยาว เพิ่มภูมิคุ้มกันคนไทย เช่น ปรับทักษะช่วยยกระดับรายได้ยั่งยืน เพิ่มสัดส่วนแรงงานทำงานในระบบให้เข้าถึงสวัสดิการประกันสังคม และเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินส่วนบุคคล
แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายปี 2024
SCB EIC คาดว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะคงอยู่ที่ระดับ 2.5% ตลอดปีนี้ เนื่องจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มองว่าเป็นระดับที่เหมาะสมกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจสู่ศักยภาพและเอื้อให้เงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมาย อีกทั้ง ยังสื่อสารสนับสนุนให้ใช้มาตรการเฉพาะจุดและแนวทางแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืนในการดูแลกลุ่มเปราะบางที่ฟื้นตัวช้า ค่าเงินบาทอ่อนค่าเร็วในช่วงต้นปี เป็นผลจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าตามมุมมอง Fed ลดดอกเบี้ยช้าลงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ และความเชื่อมั่นนักลงทุนในตลาดทุนที่ยังไม่ค่อยดีนัก มุมมองเงินบาทในระยะต่อไปคาดว่าจะแข็งค่าต่อเนื่องได้สู่ระดับ 32-33 ณ สิ้นปีนี้
#SCBEIC #หนี้นอกระบบ #กนง
JJNY : เหมาะสมไหม? เซเลปลูกสาวทหาร│ทัศนัยชวนลุ้น อัยการเตรียมสั่งฟ้อง│คนไทยเป็นหนี้นาน│สหรัฐหนาวรุนแรง “ดับพุ่ง 90 ศพ”
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8061543
ชาวเน็ตจวกเละ เหมาะสมไหม ? เซเลป ลูกสาวทหารยศใหญ่ เดินเซลฟี่ถ่ายคลิปกลางถนนขณะมีรถวิ่ง ลั่น “เดิน ๆ ไป เดี๋ยวรถเค้าหยุดให้เราเอง”
คลิปวิดีโอของสาวคนหนึ่งกลายเป็นไวรัล หลังเพจ Red Skul โพสต์ลง เป็นคลิปขณะเธอกำลังเดินถือไม้เซลฟี่อยู่บนถนนที่มีรถขับผ่านไปมา โดยเจ้าตัวไม่มีทีท่าว่าจะกลัวโดนชนแต่อย่างใด ซึ่งคลิปนี้เป็นคลิปของแบรนด์เสื้อผ้าหนึ่ง
ก่อนชาวเน็ตจะทำการขุดจนพบว่า หญิงสาวรายนี้เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่ง มียอดฟอลอินสตาแกรมเกือบแสน ที่สำคัญเป็นลูกสาวคนเล็กของอดีตทหารยศใหญ่ คลิปวิดีโอที่เป็นดราม่าเจ้าตัวก็เป็นคนลงเอง แถมตอบคอมเมนต์คนอื่นว่า “เดิน ๆ ไป เดี๋ยวรถเค้าหยุดให้เราเอง”
หลังจากคลิปวิดีโอกลายเป็นไวรัลก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ส่วนใหญ่เป็นในทางตำหนิ เพราะการกระทำแบบนี้เสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
บางคนยังแอบแซะอีกว่าพ่อยศใหญ่ขนาดนั้น ถ้าโดนชน คนขับรถคงซวยมาก ทั้ง ๆ ที่คนผิดคือเจ้าตัวที่ลงไปเดินบนถนนที่รถกำลังวิ่ง
แถมมีคนมาคอมเมนต์ เล่าวีรกรรมเพิ่มเติมว่า “อันฟอลไปตอนที่เค้าทำคอนเทนต์ metro girl เพลง greedy บน mrt ที่คนเยอะ ๆ แล้วเดินยื่นแขนหมุนแขนไปมาสะบัดหัวฟาดคนอื่นถ่ายติดคนอื่น ซึ่งส่วนตัวไม่ชอบทำคอนเทนต์ที่ติดหรือเกะกะคนอื่น”
https://twitter.com/RedSkullxxx/status/1748996308445372632
ทัศนัย ชวนลุ้น พรุ่งนี้อัยการเตรียมสั่งฟ้อง ‘อาจารย์-น.ศ.’ คดีทวงคืนหอศิลป์ มช. ปี’64
https://www.matichon.co.th/politics/news_4387666
ทัศนัย พร้อมอาจารย์-น.ศ. ฟังคำสั่งฟ้องพรุ่งนี้ คดีทวงคืนหอศิลป์ มช. จัดแสดงผลงาน ปี’64 ชี้สะท้อนท่าทีเสรีภาพการศึกษา
เมื่อวันที่ 22 มกราคม ผศ.ดร.ทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์ภาควิชาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ระบุทางเฟซบุ๊ก Thasnai Sethaseree ถึงกรณีที่วันพรุ่งนี้ (23 มกราคม) ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่นัดหมายสั่งฟ้องคดีของ 3 อาจารย์และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จากกรณีเหตุที่อาจารย์และนักศึกษาสาขาวิชา Media Art and Design ร่วมกันตัดโซ่และเข้าไปใช้พื้นที่ของหอศิลปวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อจัดแสดงงานศิลปะประจำปีตามรายวิชาเรียน เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2564
ผศ.ดร.ทัศนัยระบุว่า
“พรุ่งนี้ เวลา 10.00 น. ผม อาจารย์จุ้ย (อาจารย์ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ อาจารย์) และ นักศึกษาอีกคนหนึ่ง จะไปศาลจังหวัดเชียงใหม่ ในคดียึดหอศิลป์ ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน
คดีนี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นผู้ฟ้อง โดยมอบอำนาจให้ อัศวิณีย์ หวานจริง เป็นผู้ดำเนินการ
ศาลปกครองเชียงใหม่และคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้วินิจฉัยคดีนี้เสร็จสิ้นไปแล้วว่า นักศึกษาได้เข้าไปใช้สิทธิในการใช้พื้นที่หอศิลป์ตามรัฐธรรมนูญเพื่อปกป้องความเสียหาย และผู้บริหารมหาวิทยาลัยมิได้ออกคำสั่งอนุญาต หรือไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด
สำนักอัยการเชียงใหม่มีดุลพินิจไม่สั่งฟ้องไปแล้ว แต่เรื่องถูกส่งต่อไปให้สำนักงานตำรวจภาค 5 ซึ่งมีความเห็นแย้งกับอัยการให้ดำเนินการฟ้องต่อ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ควรจะต้องไปถอนฟ้องตั้งแต่รับทราบคำวินิจฉัยของศาลปกครองและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แต่ก็ไม่ทำ
คดีนี้มีเรื่องสนุกเยอะครับ ที่สะท้อนท่าทีของมหาวิทยาลัยต่อเสรีภาพในการศึกษา
ใครว่าง ไปเจอพวกเราได้ที่ศาลอาญาเชียงใหม่
10 โมงเช้า”
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 16 -24 ต.ค.2564 ต่อเนื่องกัน ทั้งสามคน กับพวก ร่วมกันตัดโซ่ที่คล้องประตูรั้วทางเข้า-ออกหอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบริเวณหอศิลป์ และอาคารสํานักงาน เป็นเหตุให้ทรัพย์สินภายในได้รับความเสียหาย ได้แก่ โซ่และแม่กุญแจในบริเวณประตูรั้วทางเข้า กุญแจประตูหอศิลป์ (ทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง) ประตูห้องควบคุมไฟฟ้า (ด้านหลังหอศิลป์) ผนังห้องภายในห้องนิทรรศการ กล้องวงจรปิด พื้นอิฐบล็อกที่จอดรถ โดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งสามให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และให้การต่อสู้คดีแล้ว ต่อมาตำรวจได้นัดส่งสำนวนคดีให้กับอัยการจังหวัดเชียงใหม่ไปเมื่อวันที่ 18 เม.ย.2566 โดยอัยการนัดฟังคำสั่งในแต่ละเดือนตลอดปีที่ผ่านมา จนการนัดฟังคำสั่งครั้งที่ 8 ในวันที่ 23 ม.ค.2567 นี้ อัยการแจ้งว่าจะมีคำสั่งฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ ระหว่างความขัดแย้งเรื่องการขอใช้หอศิลป์ มช. นักศึกษาของสาขาวิชา Media Art and Design ยังมีการฟ้องร้องความล่าช้าของผู้ดูแลและผู้บริหารของหอศิลป์ที่ไม่มีคำสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ จนอาจเกิดความเสียหายต่อนักศึกษา โดยได้มีการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่ว่าการไม่ออกคำสั่งของผู้ดูและผู้บริหารของหอศิลป์นั้นเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
แต่การพิจารณาคดีของศาลปกครองเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มนักศึกษาได้เข้าใช้งานพื้นที่หอศิลป์จนเสร็จสิ้นกิจกรรมแล้ว ศาลปกครองจึงได้มีคำสั่งจำหน่ายคดี เนื่องจากเห็นว่าล่วงพ้นเวลาที่ศาลจะมีคำสั่งใดๆ เพื่อเยียวยาความเดือดร้อนหรือความเสียหายของนักศึกษาได้แล้ว
อีกทั้งเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2566 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ยังได้มีการหยิบยกกรณีนี้ขึ้นตรวจสอบประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และพิจารณามีความเห็นว่าการที่คณะวิจิตรศิลป์ โดยคณะกรรมการฯ ไม่แจ้งผลการพิจารณาขอใช้พื้นที่หอศิลป์ มช. ให้นักศึกษาทราบในเวลาอันสมควร และขัดขวางไม่ให้อาจารย์และนักศึกษาเข้าไปใช้พื้นที่หอศิลปวัฒนธรรมในการจัดแสดงผลงานศิลปะ จึงกระทบต่อเสรีภาพทางวิชาการอันเป็นการกระทำหรือละเลยการกระทำที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
กสม.ระบุว่า ยังได้จัดทำข้อเสนอแนะไปยังผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้ใช้ความระมัดระวัง ในการใช้ดุลพินิจที่อาจกระทบต่อเสรีภาพทางวิชาการ และให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยคณะวิจิตรศิลป์ปรับแก้ระเบียบ ข้อบังคับ หรือประกาศเกี่ยวกับขั้นตอนในการขอใช้พื้นที่หอศิลปวัฒนธรรมเพื่อจัดแสดงผลงานของนักศึกษา และกำหนดกรอบระยะเวลาในการยื่นคำขอและระยะเวลาในการพิจารณาคำขออนุญาตให้ชัดเจน
รวมทั้งให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กำหนดหลักเกณฑ์เพื่อเปิดโอกาสให้อาจารย์ประจำสาขาวิชาและ/หรือนักศึกษาที่ขอใช้พื้นที่หอศิลปวัฒนธรรมได้เข้าชี้แจงหรือแสดงความเห็นต่อคณะกรรมการดำเนินงานหอศิลปวัฒนธรรมเพื่อประกอบการพิจารณาคำขอโดยให้คำนึงถึงเสรีภาพทางวิชาการด้วย
https://www.facebook.com/thasnai.sethaseree.5/posts/pfbid0Y53N7YX2ks7qD4e7o45xcyxMbPSnj4txe5wkzRqHp4VfTnYPEDdCS8XCnTfoo51ml
ศก.ไทยฟื้นตัวบนความท้าทาย คนไทยเป็นหนี้นาน นโยบายช่วยเฉพาะกลุ่มระยะสั้น-สร้างรายได้ระยะยาวคือทางออก
https://siamrath.co.th/n/508619
เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวบนความท้าทาย เมื่อคนไทยเป็นหนี้นาน-พึ่งงานนอกระบบ นโยบายช่วยเฉพาะกลุ่มระยะสั้นและสร้างรายได้ระยะยาวคือทางออก
เศรษฐกิจโลกปี 2024
เศรษฐกิจโลกในปี 2024 มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง จากผลของนโยบายการเงินตึงตัวต่อเนื่องและตลาดแรงงานอ่อนแอลง อีกทั้ง ยังต้องเผชิญความไม่แน่นอนรอบด้าน โดยในปีนี้จะมีการเลือกตั้งใหญ่กว่า 60 ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจรวมสูงกว่า 60% ของโลก นอกจากนี้ การค้าและห่วงโซ่อุปทานโลกเผชิญความเสี่ยงใหม่จากการโจมตีเรือขนส่งสินค้าในบริเวณทะเลแดงและปัญหาน้ำแล้งในคลองปานามา ก่อให้เกิดความแออัดในการขนส่งทางเรือหรือต้องปรับเส้นทางเดินเรือ ทำให้ระยะเวลาการเดินทางและต้นทุนขนส่งสูงขึ้น ธนาคารกลางในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักมีแนวโน้มจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงไตรมาส 2 จากเงินเฟ้อที่มีทิศทางชะลอลง สำหรับจีนมีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่องผ่านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและอัตราเงินสดสำรองตามกฎหมาย (Required Reserve Ratio : RRR) ขณะที่ญี่ปุ่นมีแนวโน้มยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบปีนี้
เศรษฐกิจไทยปี 2024
เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในไตรมาสแรกของปี 2024 แรงส่งหลักมาจากการบริโภคภาคเอกชนตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับดีขึ้น มาตรการลดค่าครองชีพและโครงการ Easy e-receipt กระตุ้นการใช้จ่าย ทั้งนี้ ผลบวกของโครงการนี้อาจไม่มากเท่าในอดีต เนื่องจากเงื่อนไขจำกัดเฉพาะร้านที่ออก e-Tax Invoice ได้ นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยยังมีแรงหนุนจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นต่อเนื่องและการส่งออกที่กลับมาขยายตัวได้ สอดคล้องกับการผลิตบางอุตสาหกรรมที่เริ่มฟื้น เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ปัจจัยกดดันเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปมาจากการประกาศใช้ พ.ร.บ. งบประมาณฯ ปี 2024 ล่าช้ากดดันการลงทุนภาครัฐในช่วงครึ่งปีแรก ตลอดจนความไม่แน่นอนจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะความเสี่ยงใหม่ในตะวันออกกลางที่อาจกระทบการขนส่งทางทะเล และทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกชะงักขึ้นได้อีก สำหรับเงินเฟ้อไทย แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะติดลบต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีก่อน แต่ส่วนใหญ่เป็นผลจากมาตรการช่วยค่าครองชีพประชาชน โดย SCB EIC ประเมินว่า ประเทศไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด เงินเฟ้อติดลบยังไม่กระจายตัวรายสินค้าเป็นวงกว้าง และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังเป็นบวก มองไปข้างหน้าเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปทานเป็นหลัก กดดันปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยที่ยังอยู่ในระดับสูงและรายได้กลุ่มเปราะบางฟื้นช้า
แนวโน้มหนี้ครัวเรือนไทย
สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยยังน่ากังวลสอดคล้องกับผลสำรวจ SCB EIC Consumer survey 2023 พบว่า กลุ่มคนรายได้น้อยเผชิญปัญหาหนี้สินเพิ่มขึ้นหลังวิกฤตโควิดและยังมีปัญหารายได้ไม่พอรายจ่ายอยู่มาก โดยผู้มีรายได้น้อยกว่า 1 ใน 3 ประกอบอาชีพอิสระ/รับจ้างทั่วไป ซึ่งมีแนวโน้มเป็นแรงงานนอกระบบที่รายได้ไม่มากและเข้าไม่ถึงระบบประกันสังคม ประกอบกับกลุ่มนี้มีวิธีบริหารจัดการหนี้ที่ยังไม่ดีนัก จึงพึ่งพาหนี้นอกระบบสูง และมีแนวโน้มติดอยู่ในวงจรหนี้อีกนาน จึงต้องอาศัยนโยบายระยะสั้น เพิ่มสภาพคล่องและแก้หนี้ให้กลุ่มครัวเรือนเปราะบาง ควบคู่กับนโยบายระยะยาว เพิ่มภูมิคุ้มกันคนไทย เช่น ปรับทักษะช่วยยกระดับรายได้ยั่งยืน เพิ่มสัดส่วนแรงงานทำงานในระบบให้เข้าถึงสวัสดิการประกันสังคม และเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินส่วนบุคคล
แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายปี 2024
SCB EIC คาดว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะคงอยู่ที่ระดับ 2.5% ตลอดปีนี้ เนื่องจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มองว่าเป็นระดับที่เหมาะสมกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจสู่ศักยภาพและเอื้อให้เงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมาย อีกทั้ง ยังสื่อสารสนับสนุนให้ใช้มาตรการเฉพาะจุดและแนวทางแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืนในการดูแลกลุ่มเปราะบางที่ฟื้นตัวช้า ค่าเงินบาทอ่อนค่าเร็วในช่วงต้นปี เป็นผลจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าตามมุมมอง Fed ลดดอกเบี้ยช้าลงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ และความเชื่อมั่นนักลงทุนในตลาดทุนที่ยังไม่ค่อยดีนัก มุมมองเงินบาทในระยะต่อไปคาดว่าจะแข็งค่าต่อเนื่องได้สู่ระดับ 32-33 ณ สิ้นปีนี้
#SCBEIC #หนี้นอกระบบ #กนง