ไม่อยากเส้นเลือดสมองแตกต้องคุม 9 สิ่งนี้

กระทู้คำถาม
1. คุมความดันโลหิต ไม่ให้ความดันโลหิตสูง 
    เทคนิคการกินคุมความดันโลหิต
   1) จำกัดปริมาณโซเดียมในอาหาร
   2) รับประทานข้าว ธัญพืชไม่ขัดสี
   3) เพิ่มผักในอาหารทุกมื้อ
   4) รับประทานผลไม้
   5) รับประทานเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ
   6) รับประทานถั่วเปลือกแข็งและถั่วเมล็ดแห้ง
   7) จำกัดไขมันในอาหาร
    เลือกเมนูอาหารที่ปรุงด้วยวิธีที่ไม่ใช้น้ำมัน เช่น การต้ม นึ่ง อบ เป็นต้น เลี่ยงอาหารทอด อาหารใส่กะทิ และเลือกใช้น้ำมันที่มีไขมันไม่อิ่มตัวสูง เช่น น้ำมัน  รำข้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันถั่วลิสง น้ำมันดอกทานตะวัน เป็นต้น
    8) ดื่มนมไขมันต่ำ
นมเป็นอาหารที่มีแคลเซียมสูง ช่วยในการควบคุมความดันโลหิตได้ นอกจากนี้แคลเซียมจากนมยังสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดี ปริมาณแนะนำคือ 2 – 3 ส่วน/วัน (เช่น นม 2 – 3 แก้ว/วัน) ควรเลือกนมรสจืดเพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับปริมาณน้ำตาลมากเกินไป

2. ออกกำลังกาย เพื่อไม่ให้หลอดเหลือดเสื่อม
3.  เลิก สูบบุหรี่  เพราะสูบบุหรี่ทำให้หลอดเลือดเสื่อม
4. ลดการอักเสบเรื้อรัง 
   - ลดการทานน้ำตาล
   - ลดการทานน้ำมัน
น้ำมันพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันคาโนลา คาดว่าจะทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังเนื่องจากมีปริมาณไขมันโอเมก้า 6 สูง 
ไขมันโอเมก้า 6 เมื่อรับประทานไม่สมดุลกับไขมันโอเมก้า 3 และโอเมก้า 9 
จะทำให้เกิดการอักเสบที่เป็นอันตรายซึ่งเชื่อมโยงกับโรคหัวใจ
5. คุมน้ำหนัก  ไม่ให้อ้วน
  คุมน้ำหนัก ไม่เกินค่า BMI
6. คุมน้ำตาลสะสม ต่ำกว่า 5.5 ลงมา
7. คุมค่าไขมัน
   คุมค่าไขมันดี HDL สูงกว่า 40 
   คุมค่าไขมันเลว ไม่เกิน LDL-C ไม่สูงกว่า 100
    ระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ ต้องน้อยกว่า 150
8. คุมกรด ยูริก ให้ต่ำกว่า 6
9. คุมค่า ฮอร์โมนซินซิน
Homocysteine ที่สูงมากไป (Hyperhomocysteinemia) ที่มีค่าตั้งแต่ 10 micromole/L มีการศึกษาพบว่า 
เป็นปัจจัยเสี่ยงอิสระต่อการเกิดโรคเส้นเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ที่จะนำไปสู่โรคความดันสูง 
โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต และโรคเรื้อรังอื่น ๆ ได้อีกมากมายและความเสี่ยงยิ่งเพิ่มมากขึ้นในแบบเส้นตรงหากระดับสารนี้สูงขึ้นอีกด้วย
สำหรับกลไกของสารชนิดนี้ต่อร่างกาย ก็คือ โฮโมซีสเตอีนจะเพิ่มระดับอนุมูลอิสระและการอักเสบบริเวณผนังเส้นเลือดแดง โดยเฉพาะหลอดเลือดขนาดเล็กได้มากขึ้น เมื่อเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานก็จะทำให้เกิดภาวะเส้นเลือดแข็งและอุดตันได้

สาเหตุที่มักทำให้มี Homocysteine ที่สูงมากไป (Hyperhomocysteinemia) ที่พบบ่อย ๆ ได้แก่
- ขาดโฟเลท (Folate) ที่พบมากในผัก ผลไม้สีเขียวทั้งหลาย
- ขาดวิตามิน บี 2 บี 6 และบี 12
- ขาดแร่ธาตุตัวสำคัญอย่างสังกะสี
- มีความผิดปกติของกรรมพันธุ์บางชนิด คือ มีการกลายพันธุ์ของยีน MTHFR (MethyleneTetrahydrofolate reductase gene) ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างเอนไซม์ในการเปลี่ยนโฟเลทให้อยู่ในรูปที่ออกฤทธิ์ในการลด Homocysteine นั่นเอง
- สาเหตุอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ความเครียด ภาวะฮอร์โมนตกหรือไม่สมดุล วัยทอง สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เบียร์จัด สารพิษสารเคมีที่ได้รับเข้ามาในร่างกาย มีโรคประจำตัวหลายอย่าง เช่น เบาหวาน ไทรอยด์ กินยาหลายตัว หรือแม้แต่อายุที่มากขึ้น หรือ แก่ขึ้น เป็นต้น
------------------
ที่มา
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่