จองทะเบียนไปราวๆกลางธันวา
ดูใน web ขนส่ง เริ่มจดได้ 2 มกรา
กรอกข้อมูลลงทะเบียนรถเพื่อต่อภาษี 5 มกรา ศูนย์จดทะเบียนให้เรียบร้อย
จากนั้น ก็นัด sale ขอเข้าไปรับป้าย 13 มกราคม ครับ แต่ไหนๆจะเข้า กทม. ทั้งที มันต้องได้หลายๆงานสิ
.....................
ตั้งศูนย์ล้อ
- "แตงโม" มันกินซ้ายตั้งแต่ออกจากศูนย์ครับ (คันขาว ของน้องสาว ไม่เป็น) ซึ่งจะว่าไป ผมก็ว่า "มันปกติ สำหรับ HONDA" คือ ออก HONDA มากี่คัน กินซ้ายมันทุกคัน ต้องตั้งเองทุกที จนชินไม่คิดอะไรละ
- ที่ประจำผม ก็ บางพลัด ศูนย์ล้อ แหละ .. ซึ่งก่อนจะตั้ง ก็ทำการบ้าน หาสเปคศูนย์ล้อมาเรียบร้อยครับ (เดี๋ยวนี้ ไม่ยอมใส่สเปคศูนย์ล้อมาในคู่มือเลย ต้องไปหาจาก service manual เอา)
ก่อนตั้ง .. ก็เห็นช่าง ขับไปลอง วิ่งแค่ในซอย แล้วก็เลี้ยวกลับ กลับมา บอกอาการได้เป๊ะเลย
ล้อหน้า .. ค่ายังอยู่ในสเปคที่กำหนด ทั้ง Toe และ แคมเบอร์
- แต่ปกติ ถ้ารถกินซ้าย เค้าจะคลายน้อตยึดแพล่าง แล้ว ตั้งแคสเตอร์ช่วยครับ ซึ่งคันนี้ก็เช่นกัน
- ส่วน แคมเบอร์ ช่างบอกว่า มันเหมือน Accord / BMW รุ่นใหม่ ขยับที่คอม้าแบบ G3 ไม่ได้ละ ต้องไปขยับที่เบ้าโช้คแทน (แต่ของผม ยังไม่ได้ขยับ)
ล้อหลัง .. อันนี้ ก่อนตั้ง ช่างก็บอกว่า มุมล้อหลังน่าจะเพี้ยน
- แล้วก็ตามนั้น .. สเปค Toe +3.5 (รวม) ขึ้นเครื่องวัดมา ดันเป็น 0 .. แปลว่า ลูกเพ่ HONDA ไม่ได้ตั้งมาเลยนะเนี่ย (ถ้าตกหลุมแล้วเพี้ยน มันคงไม่ 0 ทั้งซ้ายขวา)
- ก็ปรับใหม่ .. ซ้าย 1.8 / ขวา 1.8
ใช้เวลาราว 1.30 ช.ม. (รวมลองรถ) ก็เสร็จครับ
หลังตั้ง
- พวงมาลัย ตรงเป๊ะ
- ถนนเรียบ หรือ ทางด่วนเลนกลาง เอียงซ้ายเล็กน้อย ปล่อยมือ ที่ความเร็ว 100 นับ 1 ถึง 10 ได้ รถไม่วิ่งออกซ้าย
- ถนนเรียบ ทางด่วนเลนซ้าย มีคลื่นบ้าง เอียงเยอะหน่อย อันนี้ ที่ความเร็ว 100 นับ 1 ได้ถึง 5 ก็จะค่อยๆไหลออกซ้าย
ที่เปลี่ยนแบบเห็นผลก็คือ
- เข้าโค้ง .. จากเดิมที่บ่นว่า เข้าโค้งแคบๆสู้ City ที่ใส่โช้ค Mugen ไม่ได้เลย รอบนี้ ทำได้ดีกว่าเดิมเยอะ เข้าได้เกือบเท่าละ ท้ายไม่บาน ไม่ดิ้น เข้าได้แรงกว่าเดิมเยอะ
- หักหลบ / เปลี่ยนเลน .. ลองเบาๆที่ 100 แน่นอน มันไม่นิ่งแบบ โอโม่ หรือ พัลซ่า ที่ทำช่วงล่างมา แต่มันไม่วูบวาบ โยนไปโยนมา (ยังเอียง แต่เอาอยู่ ท้ายนิ่ง)
สรุปว่า .. พอใจแหละ ผมให้สัก 90% ละ เดี๋ยวไว้ ครบหมื่น เช็คศูนย์ล้อรอบหน้า ค่อยให้เค้าแก้ แคมเบอร์ช่วยอีกนิด จะได้ปล่อยมือได้ยาวๆแบบ โอโม่
ปล. .. ค่าวิชา ก็ตามฝีมือช่างนะครับ ไม่มีหลักร้อยนะครับ
..................
เคลือบแก้ว
- ปกติ ไม่เคยสนเคลือบแก้วเลย เพราะมองว่า ลง wax เองก็ได้ ผลลัพธ์สูสี แต่ .. ประเด็นหลัก คือ เจ้าคันนี้แหละ รถสูงกว่าเดิม กว้างกว่าเดิม เอื้อมมือก็ไม่ค่อยจะถึง แค่ล้างยังเหนื่อย พอต้องเคลือบแทบตาย รวมถึง ไม่เคยใช้รถสีเข้มมานาน รถเกิดรอยง่ายมาก (หรือสีมันบางหว่า) แค่ลูบดินน้ำมัน (เบอร์ medium) รอยก็ขึ้นละ .. ดังนั้น ลองสักหน่อยก็ได้ สีแดงด้วย จะได้ เงาๆสวยๆ
สรุปคือ ขี้เกียจ ลง wax นั่นแหละ 55+
- เคลือบกับ คุณเจษ / คุณยะ ที่ ศาลยา นะครับ เป็น Car Detailing ครับ
เริ่มจาก การล้าง

ต่อด้วยการติดเทปกันรอย แล้ว ก็ขัด

ผลของการขัด


- หัวใจหลัก ของการเคลือบแก้ว คือ การเตรียมผิวครับ ขัดทำความสะอาดผิวเดิม ให้สะอาด ไร้ริ้วรอย ขั้นตอนนี้นานสุด ยากสุด ถ้าผิวสวยเนี๊ยบแล้ว ค่อยเอาเคลือบแก้วลง เป็นการปิดทับครับ
- คันนี้จะง่ายหน่อย เพราะรถใหม่ ริ้วรอยยังแทบไม่มี (ยกเว้น เมื่อวาน จอดรถคอนโด โดนนกทิ้งระเบิด ชุดใหญ่ แต่ผมไม่เห็น เพราะจอดติดกำแพง .. กินเนื้อแลคเกอร์ด้วยแฮะ ขนาดเคลือบ CG Hydro Slick มาแล้วนะ)
เริ่มลงน้ำยากัน ช่วงบ่าย ครับ
- ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นมันใหญ่ เลยใช้การลงทีละครึ่งบาน คนนึงลง / คนนึงตามเช็ด ทันที ไม่งั้น ถ้าแห้ง เช็ดไม่ทัน งานเข้าทันทีครับ
- ลืมบอก น้ำยาที่ใช้ เป็นของ GTECHNIQ จากอังกฤษ ครับ

- ลงไป 2 ตัวครับ ยี่ห้อนี้ curing ค่อนข้างเร็ว ราวๆ 60 นาที ครับ
เสร็จแล้ว มาอวดโฉม ข้างนอก ดีกว่า
- สีฉ่ำขึ้น, เม็ดบรอนซ์ลอยเด่นขึ้นมา .. ของจริง สวยกว่า ภาพที่ถ่ายอีกครับ






เบ็ดเสร็จ .. ใช้เวลาตั้งแต่ 8.30 น. ถึง 16.00 น. ครับ ช่วยกัน 2 คนครับ
เมื่อคืน ขับกลับ ปราจีน .. ปกติ ถึงปราจีนแล้ว จะเต็มไปด้วยซากแมลง แต่รอบนี้ ซากแมลงน้อยมาก มีแค่แถวๆแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่ง เอาผ้าชามัวร์ลูบเบาๆก็หลุดหมดครับ (ปกติ ถ้าก่อนหน้านี้ เคลือบสีธรรมดา ผ้าชุบน้ำลูบ จะไม่ออก ต้องใช้แชมพูล้างรถ)
ส่วนค่าใช้จ่าย .. ว่ากันตามขนาดรถครับ คันนี้ 1.6 หมื่นครับ เป็นแบบครั้งเดียว นะครับ

ปล. ไปรับป้ายมา แล้วก็เพิ่งนึกออก ป้ายคันนี้ กับ ป้ายแรก ของโอโม่ เลขมันไล่กันเลยนี่นา (ตอนจอง ไม่ได้คิด)

ขอบคุณครับ
[CR] * * * จับ "แตงโม" เคลือบแก้ว กันหน่อย * * *
ดูใน web ขนส่ง เริ่มจดได้ 2 มกรา
กรอกข้อมูลลงทะเบียนรถเพื่อต่อภาษี 5 มกรา ศูนย์จดทะเบียนให้เรียบร้อย
จากนั้น ก็นัด sale ขอเข้าไปรับป้าย 13 มกราคม ครับ แต่ไหนๆจะเข้า กทม. ทั้งที มันต้องได้หลายๆงานสิ
.....................
ตั้งศูนย์ล้อ
- "แตงโม" มันกินซ้ายตั้งแต่ออกจากศูนย์ครับ (คันขาว ของน้องสาว ไม่เป็น) ซึ่งจะว่าไป ผมก็ว่า "มันปกติ สำหรับ HONDA" คือ ออก HONDA มากี่คัน กินซ้ายมันทุกคัน ต้องตั้งเองทุกที จนชินไม่คิดอะไรละ
- ที่ประจำผม ก็ บางพลัด ศูนย์ล้อ แหละ .. ซึ่งก่อนจะตั้ง ก็ทำการบ้าน หาสเปคศูนย์ล้อมาเรียบร้อยครับ (เดี๋ยวนี้ ไม่ยอมใส่สเปคศูนย์ล้อมาในคู่มือเลย ต้องไปหาจาก service manual เอา)
ก่อนตั้ง .. ก็เห็นช่าง ขับไปลอง วิ่งแค่ในซอย แล้วก็เลี้ยวกลับ กลับมา บอกอาการได้เป๊ะเลย
ล้อหน้า .. ค่ายังอยู่ในสเปคที่กำหนด ทั้ง Toe และ แคมเบอร์
- แต่ปกติ ถ้ารถกินซ้าย เค้าจะคลายน้อตยึดแพล่าง แล้ว ตั้งแคสเตอร์ช่วยครับ ซึ่งคันนี้ก็เช่นกัน
- ส่วน แคมเบอร์ ช่างบอกว่า มันเหมือน Accord / BMW รุ่นใหม่ ขยับที่คอม้าแบบ G3 ไม่ได้ละ ต้องไปขยับที่เบ้าโช้คแทน (แต่ของผม ยังไม่ได้ขยับ)
ล้อหลัง .. อันนี้ ก่อนตั้ง ช่างก็บอกว่า มุมล้อหลังน่าจะเพี้ยน
- แล้วก็ตามนั้น .. สเปค Toe +3.5 (รวม) ขึ้นเครื่องวัดมา ดันเป็น 0 .. แปลว่า ลูกเพ่ HONDA ไม่ได้ตั้งมาเลยนะเนี่ย (ถ้าตกหลุมแล้วเพี้ยน มันคงไม่ 0 ทั้งซ้ายขวา)
- ก็ปรับใหม่ .. ซ้าย 1.8 / ขวา 1.8
ใช้เวลาราว 1.30 ช.ม. (รวมลองรถ) ก็เสร็จครับ
หลังตั้ง
- พวงมาลัย ตรงเป๊ะ
- ถนนเรียบ หรือ ทางด่วนเลนกลาง เอียงซ้ายเล็กน้อย ปล่อยมือ ที่ความเร็ว 100 นับ 1 ถึง 10 ได้ รถไม่วิ่งออกซ้าย
- ถนนเรียบ ทางด่วนเลนซ้าย มีคลื่นบ้าง เอียงเยอะหน่อย อันนี้ ที่ความเร็ว 100 นับ 1 ได้ถึง 5 ก็จะค่อยๆไหลออกซ้าย
ที่เปลี่ยนแบบเห็นผลก็คือ
- เข้าโค้ง .. จากเดิมที่บ่นว่า เข้าโค้งแคบๆสู้ City ที่ใส่โช้ค Mugen ไม่ได้เลย รอบนี้ ทำได้ดีกว่าเดิมเยอะ เข้าได้เกือบเท่าละ ท้ายไม่บาน ไม่ดิ้น เข้าได้แรงกว่าเดิมเยอะ
- หักหลบ / เปลี่ยนเลน .. ลองเบาๆที่ 100 แน่นอน มันไม่นิ่งแบบ โอโม่ หรือ พัลซ่า ที่ทำช่วงล่างมา แต่มันไม่วูบวาบ โยนไปโยนมา (ยังเอียง แต่เอาอยู่ ท้ายนิ่ง)
สรุปว่า .. พอใจแหละ ผมให้สัก 90% ละ เดี๋ยวไว้ ครบหมื่น เช็คศูนย์ล้อรอบหน้า ค่อยให้เค้าแก้ แคมเบอร์ช่วยอีกนิด จะได้ปล่อยมือได้ยาวๆแบบ โอโม่
ปล. .. ค่าวิชา ก็ตามฝีมือช่างนะครับ ไม่มีหลักร้อยนะครับ
..................
เคลือบแก้ว
- ปกติ ไม่เคยสนเคลือบแก้วเลย เพราะมองว่า ลง wax เองก็ได้ ผลลัพธ์สูสี แต่ .. ประเด็นหลัก คือ เจ้าคันนี้แหละ รถสูงกว่าเดิม กว้างกว่าเดิม เอื้อมมือก็ไม่ค่อยจะถึง แค่ล้างยังเหนื่อย พอต้องเคลือบแทบตาย รวมถึง ไม่เคยใช้รถสีเข้มมานาน รถเกิดรอยง่ายมาก (หรือสีมันบางหว่า) แค่ลูบดินน้ำมัน (เบอร์ medium) รอยก็ขึ้นละ .. ดังนั้น ลองสักหน่อยก็ได้ สีแดงด้วย จะได้ เงาๆสวยๆ
สรุปคือ ขี้เกียจ ลง wax นั่นแหละ 55+
- เคลือบกับ คุณเจษ / คุณยะ ที่ ศาลยา นะครับ เป็น Car Detailing ครับ
เริ่มจาก การล้าง
ต่อด้วยการติดเทปกันรอย แล้ว ก็ขัด
ผลของการขัด
- หัวใจหลัก ของการเคลือบแก้ว คือ การเตรียมผิวครับ ขัดทำความสะอาดผิวเดิม ให้สะอาด ไร้ริ้วรอย ขั้นตอนนี้นานสุด ยากสุด ถ้าผิวสวยเนี๊ยบแล้ว ค่อยเอาเคลือบแก้วลง เป็นการปิดทับครับ
- คันนี้จะง่ายหน่อย เพราะรถใหม่ ริ้วรอยยังแทบไม่มี (ยกเว้น เมื่อวาน จอดรถคอนโด โดนนกทิ้งระเบิด ชุดใหญ่ แต่ผมไม่เห็น เพราะจอดติดกำแพง .. กินเนื้อแลคเกอร์ด้วยแฮะ ขนาดเคลือบ CG Hydro Slick มาแล้วนะ)
เริ่มลงน้ำยากัน ช่วงบ่าย ครับ
- ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นมันใหญ่ เลยใช้การลงทีละครึ่งบาน คนนึงลง / คนนึงตามเช็ด ทันที ไม่งั้น ถ้าแห้ง เช็ดไม่ทัน งานเข้าทันทีครับ
- ลืมบอก น้ำยาที่ใช้ เป็นของ GTECHNIQ จากอังกฤษ ครับ
- ลงไป 2 ตัวครับ ยี่ห้อนี้ curing ค่อนข้างเร็ว ราวๆ 60 นาที ครับ
เสร็จแล้ว มาอวดโฉม ข้างนอก ดีกว่า
- สีฉ่ำขึ้น, เม็ดบรอนซ์ลอยเด่นขึ้นมา .. ของจริง สวยกว่า ภาพที่ถ่ายอีกครับ
เบ็ดเสร็จ .. ใช้เวลาตั้งแต่ 8.30 น. ถึง 16.00 น. ครับ ช่วยกัน 2 คนครับ
เมื่อคืน ขับกลับ ปราจีน .. ปกติ ถึงปราจีนแล้ว จะเต็มไปด้วยซากแมลง แต่รอบนี้ ซากแมลงน้อยมาก มีแค่แถวๆแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่ง เอาผ้าชามัวร์ลูบเบาๆก็หลุดหมดครับ (ปกติ ถ้าก่อนหน้านี้ เคลือบสีธรรมดา ผ้าชุบน้ำลูบ จะไม่ออก ต้องใช้แชมพูล้างรถ)
ส่วนค่าใช้จ่าย .. ว่ากันตามขนาดรถครับ คันนี้ 1.6 หมื่นครับ เป็นแบบครั้งเดียว นะครับ
ปล. ไปรับป้ายมา แล้วก็เพิ่งนึกออก ป้ายคันนี้ กับ ป้ายแรก ของโอโม่ เลขมันไล่กันเลยนี่นา (ตอนจอง ไม่ได้คิด)
ขอบคุณครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้