ประสบการณ์ทุกครั้งที่มีประจำเดือน จะมีอาการปวดท้องแทบไปทำงานไม่ไหว หรือทำงานไม่ได้เลย มาสองปีเต็ม วันที่ปวดท้องน้อยถึงจุดสูงสุด ตรวจพบว่ามีถุงน้ำในรังไข่เต็มไปหมดทั้งสองข้าง และที่ปวดท้องมากคือ มีสองก้อนที่ใหญ่ จึงต้องเอาออก คุยกับคุณหมอ เตรียมเพื่อการผ่าตัด ถึง สองเดือน วันนี้ก็มาถึง 17 มกราคม 2565 เป็นวันที่ต้องผ่าตัด
- เตรียมตัวเข้า รพ.ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2565 จิตใจคนที่ห่างจากการผ่าตัดใหญ่มาเป็นสิบกว่าปี ก็ตื่นเต้นแถมอยากกลับบ้านแต่ความเจ็บปวดที่มีมาสองปี ทำให้คิดว่าความอดทนเราคงทนได้
- วันที่สอง การผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดี สามชั่วโมงกว่า เจ็บไหมทนได้
- วันที่สาม หลังจากการผ่าตัด คุณมาหมอที่ผ่าตัด เข้ามาบอกว่าผ่าตัดยาก เนื่องจากพังผีดเยอะมาก อีกอย่างพบเนื่องอกในมดลูกชนาดเท่าลูกกล๊อฟ เลยผ่าตัดยกเลย (สรุปผ่าตัดครั้งนี้ ทั้งรังไข่ซ้าย และ มดลูก) บ่าย ๆ ก็เอาสายปัสสาวะออก ก็ออกเดินไปมาในห้อง
- วันที่สี่ ออกกำลังกายไปเรื่อย ๆ เดินไปมาเท่าที่ไหว เจ็บไหมก็ยังทนไหว พยาบาล คุณหมอน้อย ดูแลเป็นอย่างดีมาก
- วันที่ห้า ช่วงบ่ายก็เตรียมออกจากโรงพยาบาล แต่ด้วยความที่ท้องอีดตลอดเวลา ก็คิดว่าท้องอืดปกติของคนผ่าตัดช่องท้อง ขนาดใหญ่ ก็รักษาตามอาการไป
กลับมาพักฟื้นที่บ้าน ก็เป็นไปได้ดีด้วยดี มีเจ็บแปลบ ๆ แต่ยังทนได้ ท้องก็ยังอีดตลอดเวลา
*** และแล้ววันที่เจ็ด ปวดท้องน้อยหนักมาก และมีน้ำไหลเหมือนเป็นประจำเดือนแตกออกมา ดูแล้วเป็นลิ่มเลือดมาพร้อมกับน้ำ (ตอนนั้นไม่รู้ว่าปัสสาวะ) ไหลออกมาก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ปวดท้อง และปัสสาวะไหลออกมาไม่รู้ตัวทุกวัน คุณพระเกิดอะไรขึ้น ปวดปัสสาวะก็เข้าห้องน้ำปกติ แต่แล้วปัสสาวะก็ไหลมาเรื่อย จนต้องใส่แพมเพิส ตกใจเกิดอะไรขึ้น ไปพบหมอที่ผ่าตัด คุณหมอรีบส่งตัวด่วนไปตรวจ CT Scan ท่อไตด้านซ้ายพบปัญหา ต่อภาค 2
*** หมายเหตุ ในชีวิตคนเรา อะไรก็เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ คุณหมอท่านก็ทำเต็มความสามารถที่สุดแล้ว แต่ร่างกายของเรามีปัญหาเองจนทำให้มีอาการต่อไปนี้ ต่อภาคสอง
**** การผ่าตัดครั้งนี้ ผ่าตัดในโรงพยาบาลรัฐ ประกันสังคม โดยส่วนตัว คุณหมอ โรงพยาบาล และสถานที่คิดว่าดีที่สุดในชีวิต แต่โชคชะตาทำให้มาประสบเหตุ จึงขอแบ่งบันเผื่อมีใครเป็นอย่างเรา
ผ่าตัดมดลูก รังไข่ด้านซ้าย ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด (ภาค 1) สิ่งทีไม่ขาดคิดผลคือทำให้ท่อไตขาดได้ (ภาค 2)
- เตรียมตัวเข้า รพ.ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2565 จิตใจคนที่ห่างจากการผ่าตัดใหญ่มาเป็นสิบกว่าปี ก็ตื่นเต้นแถมอยากกลับบ้านแต่ความเจ็บปวดที่มีมาสองปี ทำให้คิดว่าความอดทนเราคงทนได้
- วันที่สอง การผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดี สามชั่วโมงกว่า เจ็บไหมทนได้
- วันที่สาม หลังจากการผ่าตัด คุณมาหมอที่ผ่าตัด เข้ามาบอกว่าผ่าตัดยาก เนื่องจากพังผีดเยอะมาก อีกอย่างพบเนื่องอกในมดลูกชนาดเท่าลูกกล๊อฟ เลยผ่าตัดยกเลย (สรุปผ่าตัดครั้งนี้ ทั้งรังไข่ซ้าย และ มดลูก) บ่าย ๆ ก็เอาสายปัสสาวะออก ก็ออกเดินไปมาในห้อง
- วันที่สี่ ออกกำลังกายไปเรื่อย ๆ เดินไปมาเท่าที่ไหว เจ็บไหมก็ยังทนไหว พยาบาล คุณหมอน้อย ดูแลเป็นอย่างดีมาก
- วันที่ห้า ช่วงบ่ายก็เตรียมออกจากโรงพยาบาล แต่ด้วยความที่ท้องอีดตลอดเวลา ก็คิดว่าท้องอืดปกติของคนผ่าตัดช่องท้อง ขนาดใหญ่ ก็รักษาตามอาการไป
กลับมาพักฟื้นที่บ้าน ก็เป็นไปได้ดีด้วยดี มีเจ็บแปลบ ๆ แต่ยังทนได้ ท้องก็ยังอีดตลอดเวลา
*** และแล้ววันที่เจ็ด ปวดท้องน้อยหนักมาก และมีน้ำไหลเหมือนเป็นประจำเดือนแตกออกมา ดูแล้วเป็นลิ่มเลือดมาพร้อมกับน้ำ (ตอนนั้นไม่รู้ว่าปัสสาวะ) ไหลออกมาก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ปวดท้อง และปัสสาวะไหลออกมาไม่รู้ตัวทุกวัน คุณพระเกิดอะไรขึ้น ปวดปัสสาวะก็เข้าห้องน้ำปกติ แต่แล้วปัสสาวะก็ไหลมาเรื่อย จนต้องใส่แพมเพิส ตกใจเกิดอะไรขึ้น ไปพบหมอที่ผ่าตัด คุณหมอรีบส่งตัวด่วนไปตรวจ CT Scan ท่อไตด้านซ้ายพบปัญหา ต่อภาค 2
*** หมายเหตุ ในชีวิตคนเรา อะไรก็เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ คุณหมอท่านก็ทำเต็มความสามารถที่สุดแล้ว แต่ร่างกายของเรามีปัญหาเองจนทำให้มีอาการต่อไปนี้ ต่อภาคสอง
**** การผ่าตัดครั้งนี้ ผ่าตัดในโรงพยาบาลรัฐ ประกันสังคม โดยส่วนตัว คุณหมอ โรงพยาบาล และสถานที่คิดว่าดีที่สุดในชีวิต แต่โชคชะตาทำให้มาประสบเหตุ จึงขอแบ่งบันเผื่อมีใครเป็นอย่างเรา