JJNY : เหยื่อดินไหวญี่ปุ่นพุ่ง 20ศพ│'น้ำมันดิบโลก’(2 ม.ค. 67)พุ่งเฉียด2%│“วันนอร์” ไม่กังวล│"ส.อ.ท."โต้เดือด"พีระพันธุ์"

เหยื่อดินไหวญี่ปุ่นพุ่ง 20 ศพ พบแรงสะเทือนกว่า 140 ครั้ง-เตือนอาฟเตอร์ช็อกซ้ำ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8035114
 
 
เหยื่อดินไหวญี่ปุ่นพุ่ง – รอยเตอร์ รายงานวันที่ 2 ม.ค. ถึงความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหว 7.6 แม็กนิจูดในพื้นที่ตอนกลางของ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า
 
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและสำนักข่าวเกียวโดระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 20 ราย ในจำนวนนี้ 15 รายเป็นเหยื่อในเมืองวาจิมะ ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว และว่าตัวเลขอาขเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีรายงานว่าประชาชนจำนวนหนึ่งติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของบ้านเรือน
 
ขณะที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายพันนายจากทั่วประเทศเร่งเดินทางไปยังพื้นที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดในคาบสมุทรโนโตะ จังหวัดอิชิกาวะ เพื่อให้ความช่วยเหลือและเยียวยาแก่ประชาชนผู้ประสบภัย แต่เจ้าหน้าที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคเพราะถนนหลายสายพังเสียหายอย่างหนักและทำให้การเข้าถึงพื้นที่ดังกล่าวเป็นไปอย่างยากลำบาก
 
นอกจากนี้การให้บริการรถไฟ เรือข้ามฟาก และเที่ยวบินก็ถูกระงับด้วย รวมถึงสนามบินแห่งหนึ่งในภูมิภาคที่พบรอยแตกบนรันเวย์และเป็นเหตุให้ต้องปิดใช้งานชั่วคราว
 
นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ผู้นำญี่ปุ่น กล่าวระหว่างการประชุมภัยพิบัติฉุกเฉินว่า “การค้นหาและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นการต่อสู้กับเวลา”
 
เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะไปถึงจุดหมายทางตอนเหนือของคาบสมุทรโนโตะ เนื่องจากถนนพังยับเยิน ขณะที่การสำรวจด้วยเฮลิคอปเตอร์พบว่ามีไฟไหม้หลายแห่งและสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างต่ออาคารและโครงสร้างพื้นฐาน
 
ด้านสำนักงานจัดการภัยพิบัติของญี่ปุ่นเปิดเผยว่าได้รับรายงานที่ไม่ได้รับการยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิต 19 ราย ขณะที่นักสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นระบุว่าตรวจพบแรงสั่นสะเทือนมากกว่า 140 ครั้งนับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ม.ค. และเตือนว่าจะเกิดอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า



'น้ำมันดิบโลก’ วันนี้ (2 ม.ค. 67) พุ่งเฉียด 2% หลังอิหร่านส่งเรือรบเข้าทะเลแดง
https://www.bangkokbiznews.com/finance/investment/1106439

น้ำมันดิบโลกปรับตัวสูงขึ้น โดยวันนี้ (2 ม.ค. 2567) ณ เวลา 10.10 น. ตามเวลาประเศไทย น้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้น 1.80% สู่ระดับ 78.43 ดอลลาร์ ขณะที่ West Texas Intermediate ขึ้น 1.61% อยู่ที่ 72.80 ดอลลาร์ หลังอิหร่านส่งเรือรบไปยังทะเลแดงเพื่อตอบโต้การที่กองทัพเรือสหรัฐจมเรือฮูตี 3 ลําในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
 
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ (2 ม.ค. ) ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นกว่า 2% หลังจากอิหร่านส่งเรือรบไปยังทะเลแดงเพื่อตอบโต้การที่กองทัพเรือสหรัฐจมเรือฮูตี 3 ลําในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาค เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางการขนส่งหลัก
โดยน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหลังจากลดลง 5% ในช่วงสามช่วงก่อนหน้า โดย West Texas Intermediate อยู่เหนือ 72 ดอลลาร์

ขณะที่กองทัพเรือสหรัฐกล่าวว่า เรือลํานี้ถูกยิงเมื่อตอบสนองต่อเสียงสัญญาณแจ้งเหตุร้าย (Distress Call) ในทะเลแดง ซึ่งส่งผลให้เรือทั้งสามลําจมในการตอบโต้เรือพิฆาตอัลบอร์ซ (Alborz Destroyer) ของอิหร่านเข้าสู่บริเวณทะเลเเดง สื่อของรัฐรายงาน 
 
การปรับตัวขึ้นของน้ำมันดิบเป็นได้รับแรงกดดันจากการปรับลดกำลังการผลิตประจําปีครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563  และการเติบโตของอุปสงค์ที่ชะลอตัว ซึ่งถูกชดเชยด้วยปัจจัยขาขึ้นรวมถึงสงครามในฉนวนกาซาและยูเครน รวมทั้งสัญญาณดอกเบี้ยขาลงจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed)

ที่ผ่านมา คณะผู้แทนฮูตี (Houthi Delegation) ได้พบกับเจ้าหน้าที่ในกรุงเตหะรานหลังจากสหรัฐตอบโต้การโจมตีเรือคอนเทนเนอร์ของเดนมาร์ก โดยเรือ AP Moller-Maersk A/S ได้ระงับการขนส่งทางทะเลแดงทั้งหมดอีกครั้งเพื่อประเมินสถานการณ์ในทางน้ําที่สําคัญ

ส่วนบทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก เผยว่า การปรับลดล่าสุดจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันชั้นนำของโลกและพันธมิตรจะมีผลบังคับใช้ในไตรมาสแรกของปี 2567 ซึ่งอาจขยายออกไปอีก ก่อนหน้านี้นักลงทุนไม่ค่อยสนใจคํามั่นสัญญาล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พ.ย. จาก OPEC+ ที่จะลดการผลิตลงอีก เพราะยังตั้งคำถามกับความเป็นไปได้ในการดำเนินงาน
 
อ้างอิง
 
Bloomberg


 
“วันนอร์” ไม่กังวลฝ่ายค้านใช้เวทีงบฯอภิปรายไม่ไว้วางใจย่อยๆ
https://www.innnews.co.th/news/news_660405/

“วันนอร์” ไม่กังวลใช้เวทีงบฯเป็นอภิปรายไม่ไว้วางใจย่อยๆ เชื่ออภิปรายงบประมาณตามสาระ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน
 
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ที่เริ่มในวันพรุ่งนี้ (3 ม.ค.) ว่า ได้มีการแบ่งเวลากันลงตัวแล้วโดยนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ได้เชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาหารือ และจะเริ่มประชุมในวันพรุ่งนี้ ตั้งแต่เวลา 09:30 น เป็นต้นไป ทั้งนี้ ไม่รู้สึกกังวลว่าจะมีการใช้เวทีนี้เป็นเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจย่อยๆ เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป สมาชิกทุกคนพัฒนาแล้ว
 
เชื่อมั่นว่า จะอภิปรายงบประมาณตามสาระสำคัญ และเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่งการอภิปรายในสภามีการพัฒนาไปมาก อยากให้ประชาชนได้ฟังการชี้แจงถึงการใช้จ่ายงบประมาณจากทางรัฐบาล ว่าจะใช้งบประมาณอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขณะที่ฝ่ายค้านมีอะไรที่ตำหนิจริงๆ เพื่อให้รัฐบาลแก้ไข ก็เป็นเรื่องธรรมดาของสภา
 
โดยจะใช้เวลา 3 วันที่กำหนดไว้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็จะได้เห็นการพัฒนาในรูปแบบใหม่ที่ฝ่ายค้านและรัฐบาลตั้งใจจะทำให้เกิดประโยชน์ และในส่วนของสภาก็จะเปิดโอกาสให้อภิปรายอย่างเต็มที่ตามข้อบังคับการประชุมในเรื่องของงบประมาณ
 
ส่วนกรณีที่หากมีการอภิปรายงบประมาณของกรมราชทัณฑ์และมีการพาดพิงถึงนายทักษิณ ชินวัตร จะเปิดโอกาสให้พูดหรือไม่นั้นประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่าครั้งนี้เป็นการอภิปรายเรื่องของงบประมาณ หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวโยงกับงบประมาณก็สามารถที่จะอภิปรายได้แต่หากไม่เกี่ยวงบประมาณก็ต้องไว้ไปอภิปรายตอนที่มีการเสนอญัตติ กระทู้หรืออภิปรายไม่ไว้วางใจ
 
เพราะในช่วง 3 วันนี้เป็นเรื่องของงบประมาณ 2567 จึงเชื่อว่าทุกคนคงทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าน่าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ได้มีการกำชับอะไรกับสมาชิกเป็นพิเศษ เพราะสภาในยุคนี้มีการพัฒนาไปเยอะ และคงไม่จำเป็นเหมือนสมัยก่อนที่จะต้องมีองครักษ์พิทักษ์รัฐบาล คอยประท้วงเรื่องโน้นเรื่องนี้ ตอนนี้ไม่ค่อยมีการประท้วงอะไรมากมาย ทุกอย่างเป็นไปตามข้อบังคับซึ่งตนคิดว่าเข้ายุคของสภาที่มีการปฏิรูปพัฒนา เราก็ต้องทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ประชาชนไม่ต้องผิดหวัง
 
ประธานสภาผู้แทนราษฎร ย้ำว่ากรอบเวลาในการอภิปรายงบ 67 แบ่งค่อนข้างชัดเจน ซึ่งประธานไม่ต้องคอยดูว่าแต่ละคนใช้เวลาเท่าไหร่ เพราะจะมีการควบคุมกันเอง โดยรัฐบาล สส. และคณะรัฐมนตรีจะใช้เวลา 20 ชั่วโมง ขณะที่ฝ่ายค้าน ตั้งแต่ผู้นำฝ่ายค้านฯ หัวหน้าพรรค ฝ่ายค้านและสมาชิก ก็จะได้เวลา 20 ชั่วโมง ส่วนการอำนวยการประชุมของประธานสภาฯ และรองประธานฯ
 
ก็ไม่น่าจะเกิน 3 ชั่วโมง คาดว่า ในวันสุดท้าย คือ วันที่ 5 ม.ค. น่าจะลงมติรับหลักการได้ในเวลา 22:00 น. เพราะจะต้องมีการตั้งคณะกรรมาธิการฯ ขึ้นมาเพื่อที่จะนัดหมายการทำงานกันต่อไป จะได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณเสร็จภายในกรอบเวลา105 วัน เพราะถือว่าช้ามาพอสมควร ซึ่งคิดว่าน่าจะเสร็จก่อน 105 วัน
 
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านท้วงติงว่า รัฐบาลรวบรัดเวลาในการพิจารณา ทำให้มีเวลาศึกษารายละเอียดร่างพ.ร.บ.งบฯน้อยนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตนเข้าใจ แต่เรื่องของเวลาเป็นเรื่องที่ตกลงกันเองของสมาชิก ซึ่งสภาพร้อมที่จะกำหนดเวลา เพราะสภาเป็นของสมาชิกทุกคน ไม่ใช่ของรัฐบาลและฝ่ายค้าน ดังนั้นต้องตกลงกัน โดยเมื่อรัฐบาลส่งร่างพระราชบัญญัติงบประมาณมาแล้วก็มีการปรึกษาหารือกัน และตกลงว่าจะประชุมพิจารณาในวันที่ 3-5 มกราคม ก็ปฏิบัติตามนี้ได้เพราะสัปดาห์ถัดไปสมสชิกก็มีภาระในเรื่องของวันเด็ก
 
ซึ่ง สส. ไม่อยากประชุมใกล้วันเด็ก เนื่องจากต้องเตรียมไปร่วมงาน และทุกอย่างก็เป็นไปตามกรอบเวลา เพราะช่วง 3 วันที่มีอยู่ ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะอภิปรายพร้อมกัน แต่คนที่อภิปรายวันแรกอาจจะมีเวลากระชั้นหน่อย ส่วนคนที่อภิปรายวันถัดไป ก็มีเวลาในการศึกษาและแต่ละคนก็ไม่ใช่อภิปรายงบประมาณทั้งหมด แต่ละคนก็แบ่งกัน จึงเชื่อว่าทั้งหมดน่าจะเป็นไปด้วยดี
 
ทั้งนี้ จะมีการกำชับ สส. อย่างไรเพื่อป้องกัน ข้อครหาการเรียกรับเงิน ในการพิจารณางบประมาณฯ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า “ยุคนี้ไม่มีแล้ว” เพราะเป็นยุคของคนรุ่นใหม่และประชาชนก็ตรวจสอบอยู่ และ เห็นหรือไม่ว่า ใครที่ทำอะไรไม่ดี ไม่ว่าจะเรียกทรัพย์ ตบทรัพย์ หรือทำอะไรไม่ดีก็จะไม่ได้รับเลือกเข้ามาเป็น สส. อีก ในรอบต่อไป เห็นว่าคนเหล่านี้จะไม่ได้เป็น สส. ดังนั้นทุกคนต้องระมัดระวัง และตอนนี้ประชาชนสามารถตรวจสอบสส.จากสื่อได้ จึงเชื่อว่า คงไม่มีแล้ว เพราะบทเรียนในอดีตจะไม่ทำซ้ำในปัจจุบัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่