Spec :
(Credit 1:
Spec ของ Formula E Porsche 99X Electric - Stuttcars)
(Credit 2 :
ข้อมูลทีม Porsche Formula E Team - Wikipedia)
Acceleration (1-100 km/h) : 208 sec
Top Speed : 280 km/h (174 mph)
Battery Capacity : 54 kW/h
Voltage : 800V
Battery Weight : 385 kg (849 lb)
Dimention :
- Length : 5,160mm
- Width : 1,770 mm
- Height : 1,050 mm
Wheelbase : 3,100 mm
Brakes : Brembo Carbon Disc 278 mm (Front), 260 mm (Rear)
Team : Porsche Formula E Team (TAG Heuer Porsche Formula E Team)
Driver 1 : Neel Jani
Driver 2 : André Lotterer
เอาล่ะ เริ่มจะใกล้สิ้นปีเข้าไปทุกทีแล้ว บวกกับช่วงนี้เน้นเกมมิ่มไปเยอะมากจนไม่ได้เขียนกระทู้ นับตั้งแต่กระทู้ที่เพิ่งเสร็จไปเมื่อ
ต้นเดือน กลับมาเล่น Lego Technic อีกครั้ง ตั้งแต่ McLaren Senna GTR ที่เคยรีวิวไปแล้ว และ Porsche 99X Electric ก็จะเป็นรถแข่งสำหรับรายการ Formula E โดยเริ่มเปิดตัวในฤดูกาล 2019 - 2020 โดยใช้แพลตฟอร์มของ Spark SRT05e ภายใต้ทีม Porsche Formula E Team (ชื่อเต็ม คือ TAG Heuer Formula Porsche Formula E Team โดยมีคนขับประจำทีม ดังนี้
1. Neel Jani
2. André Lotterer
พล่ามเรื่องประวัติกันมาเยอะแล้ว ถึงเวลาการประกอบกันแล้ว


Box Art ก็ที่เคยพูดถึงไปก่อน คือเหมือนเอารถประกอบ Lego ไปวิ่งในสนามจริง
สนนราคาก็อยู่ที่ 49.99 USD (เท่ากับว่าได้ Gunpla รุ่น MG ไปเล่นได้ชุดนึง - ไม่รวม VAT 10%)
คิดเป็นเงินไทยแล้วก็ประมาณ 1,734 บาท (ไม่รวมค่าหิ้ว)
ถ้ารวมค่าหิ้วและภาษี ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1,900 - 2,100 บาท
วันที่ออกจำหน่าย : - (ไม่ทราบวันที่ออกจำหน่าย)

Box Art หลังกล่องก็จะโชว์ Art อีกแบบ พ่วงกับกิมมิคที่ให้มา ซึ่งก็คือกิมมิคแบบ Pull Back หรือกลไกแบบถอยรถเพื่อเพิ่มกำลังการออกตัว พร้อมคานล็อค (สังเกตโลโก้ตรงหัวมุมบนขวา) และกิมมิคการเล่นผ่านแอพ AR Technic ที่เป็นแอพที่ใช้เล่นกับ Lego Technic บางรุ่นโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถไปหาดาวน์โหลดผ่าน Play Store (iPad/iPhone) หรือ Google Play (Andriod)

ข้างกล่อง ก็ระดับ MG แบบกล่องกว้างนี่แหละ

ถุงชิ้นส่วน จะให้มา 4 ถุง มี 2 กลุ่ม กลุ่มละ 2 ถุง ดับเบิ้ลถุง

และนี่ก็คือหัวใจหลักของ Lego ชุดนี้ คือมอเตอร์ไขลานแบบ Pull Back ซึ่งให้มา 2 ชิ้น ดับเบิ้ลชิ้น

คู่มือใบประกอบ ให้มาเป็นเล่มหนายังกับคัมภีร์

สติกเกอร์ที่ให้มา เป็นสติกเกอร์แบบมัน 1 แผ่น

เริ่มจากส่วน Chassis กับเพลาและมอเตอร์จากกลุ่มชิ้นส่วนกลุ่มที่ 1 ถ้าใครเทรวมระหว่างกลุ่ม 1 กับกลุ่ม 2 มีมึนแน่นอน เพราะจะหาชิ้นส่วนไม่ถูก และก็เป็นส่วนที่ใช้สติกเกอร์ค่อนข้างเยอะ อีกอย่าง คือ ไม่มีกลไกบังคับเลี้ยวล้อ และก็จะเป็นส่วนที่ถูกตัดคะแนนเรื่องความสมจริง
ด้านหน้า

ด้านซ้าย

ด้านขวา

ด้านหลัง ที่ยื่นออกมา ก็คือ คานล็อคกลไก Pull Back ซึ่งสามารถล็อคไม่ให้รถไหล และวิธีปลดล็อค คือให้ทุบคานด้านหลัง และรถก็จะไหลไปเอง




มุมต่างๆ

มาดูซูมกลไกสำคัญแบบชัดๆ

และจบกลุ่มที่ 1 ด้วยชิ้นส่วนที่เหลือหลังการประกอบ

ตามมาด้วยกลุ่มที่ 2 ซึ่งเป็นชิ้นส่วนบอดี้ภายนอกกับล้อ พร้อมกับติดสติกเกอร์เพิ่มเติม และก็จะได้ Porsche 99X Electric โดยสมบูรณ์แล้ว และรูปร่างก็มีลักษณะคล้ายกับของจริงมาก
ด้านหน้า

ด้านซ้าย

ด้านขวา

ด้านหลัง




มุมต่างๆ

ด้านบน

คานล็อคกลไล Pull Back แบบชัดๆ ซึ่งวิธีเล่น คือ ให้เราดึงรถไปข้างหลังโดยที่คานยังยกขึ้น และรถก็จะหยุดเคลื่อนไหว
จากนั้นก็ทุบคานเพื่อปล่อยตัว

ตอนนี้ยังไม่จบแค่นี้ เพราะยังเอาไปเล่นกับแอพ AR Technic ของ Legoได้ด้วย


และนี่คือหน้าตาของแอพ AR Technic ซึ่งสามารถเล่นได้กับ Lego Technic บางรุ่นที่รองรับเท่านั้น
เอาล่ะ จบกระทู้ก่อนปีใหม่พอดี ก็ได้เวลาสรุปข้อดี-ข้อเสียกันบ้าง
ข้อดี
1. ประกอบง่าย
2. แบ่งสีมาดีมาก สติกเกอร์ ลอกแบบมาจาก Porsche 99x Electric ของจริง
3. ยางที่ใช้กับล้อ ก็เป็นชิ้นส่วนยางจริงๆ ไม่ใช่ชิ้นส่วนพลาสติกแข็งๆ
4. สามารถเล่นแบบ Pull Back ได้จริงๆ และก็สามารถล็อคกลไก และปลดเมื่อพร้อมออกตัวได้
5. ในใบประกอบ ก็มี QR Code เอาไว้สแกนเป็นแบบ E-Book
6. สามารถเอาไปเล่นกับแอพ AR Technic ที่หาได้ตาม App Store (iPad/iPhone) หรือ Google Play (Android) ได้
ข้อเสีย
1. ถ้าฉีกและเทชิ้นส่วนแบบปนกัน ก็จะทำให้หาชิ้นส่วนยาก
2. ส่วนใหญ่ต้องใช้สติกเกอร์ ไม่มีชิ้นส่วนสกรีนลายแบบสำเร็จรูป
3. เรื่อง QR Code ต้องดูรุ่นมือถือที่รองรับด้วย
4. ไม่มีกลไกการเลี้ยว
5. ราคาค่อนข้างสูง เท่ากับ MG บางรายก็แพงกว่า MG บางชุดซะอีก
5. เหลือชิ้นส่วนบางชิ้นที่ไม่ได้ใช้ (น่าจะเป็นข้อดี เวลาชิ้นส่วนหลักหาย จะได้มีชิ้นส่วนสำรองใช้แทน)
บทสรุปโดยรวม
ดีเทล คือรู้สึกว่าจะใช้สติกเกอร์มากกว่า 42123 Lego Technic McLaren Senna GTR และไม่มีชิ้นส่วนสกรีนลายสำเร็จรูป ฉะนั้น เอระดับเกรด D ก็พอนะ
ความยากในการประกอบ คือถ้าเทชิ้นส่วนแบบเทกระจาดนี่ยากแน่ เพราะชิ้นส่วนจะปนกันจนกินเวลาหาแน่ ส่วนการประกอบก็ไม่ได้ยากหรอก เอาระดับ B
จุดขยับโดยรวม เนื่องจากขยับได้อิสระจริงได้แค่ 2 ล้อหน้า บวกกับ 2 ล้อหลังต้องใช้กลไก Pull Back ถึงจะขยับได้ และไม่มีกลไกการบังคับเลี้ยว จึงได้ระดับ D
สรุปคะแนนทั้งหมด เต็ม ⭐⭐⭐⭐⭐⭐ 10 ก็พอ คือค่อนข้างสอบตกในเรื่องของกลไกการบังคับล้อ บวกกับต้องใช้สติกเกอร์ทั้งหมด แต่ก็มีกิมมิคที่ใช้เล่นกับแอพ AR Technic ได้ด้วย
และแล้วก็จบกระทู้ซะทีนะ ถ้าใครขอ Link ก็เชิญเข้าไปดูได้เลย

Link ช่องทางเข้า Webpage :
https://web.facebook.com/GunplaReview/
Link ช่องทางเข้า Blogger :
https://draft.blogger.com/blog/posts/3557295041291061356
Link ช่องทางเข้า Twitter :
https://twitter.com/atsanee_gunpla
[CR] (รีวิวเฉพาะกิจ 3) 42137 Lego Technic Formula E Porsche 99X Electric
(Credit 1: Spec ของ Formula E Porsche 99X Electric - Stuttcars)
(Credit 2 : ข้อมูลทีม Porsche Formula E Team - Wikipedia)
Acceleration (1-100 km/h) : 208 sec
Top Speed : 280 km/h (174 mph)
Battery Capacity : 54 kW/h
Voltage : 800V
Battery Weight : 385 kg (849 lb)
Dimention :
- Length : 5,160mm
- Width : 1,770 mm
- Height : 1,050 mm
Wheelbase : 3,100 mm
Brakes : Brembo Carbon Disc 278 mm (Front), 260 mm (Rear)
Team : Porsche Formula E Team (TAG Heuer Porsche Formula E Team)
Driver 1 : Neel Jani
Driver 2 : André Lotterer
เอาล่ะ เริ่มจะใกล้สิ้นปีเข้าไปทุกทีแล้ว บวกกับช่วงนี้เน้นเกมมิ่มไปเยอะมากจนไม่ได้เขียนกระทู้ นับตั้งแต่กระทู้ที่เพิ่งเสร็จไปเมื่อ
ต้นเดือน กลับมาเล่น Lego Technic อีกครั้ง ตั้งแต่ McLaren Senna GTR ที่เคยรีวิวไปแล้ว และ Porsche 99X Electric ก็จะเป็นรถแข่งสำหรับรายการ Formula E โดยเริ่มเปิดตัวในฤดูกาล 2019 - 2020 โดยใช้แพลตฟอร์มของ Spark SRT05e ภายใต้ทีม Porsche Formula E Team (ชื่อเต็ม คือ TAG Heuer Formula Porsche Formula E Team โดยมีคนขับประจำทีม ดังนี้
1. Neel Jani
2. André Lotterer
พล่ามเรื่องประวัติกันมาเยอะแล้ว ถึงเวลาการประกอบกันแล้ว
Box Art ก็ที่เคยพูดถึงไปก่อน คือเหมือนเอารถประกอบ Lego ไปวิ่งในสนามจริง
สนนราคาก็อยู่ที่ 49.99 USD (เท่ากับว่าได้ Gunpla รุ่น MG ไปเล่นได้ชุดนึง - ไม่รวม VAT 10%)
คิดเป็นเงินไทยแล้วก็ประมาณ 1,734 บาท (ไม่รวมค่าหิ้ว)
ถ้ารวมค่าหิ้วและภาษี ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1,900 - 2,100 บาท
วันที่ออกจำหน่าย : - (ไม่ทราบวันที่ออกจำหน่าย)
Box Art หลังกล่องก็จะโชว์ Art อีกแบบ พ่วงกับกิมมิคที่ให้มา ซึ่งก็คือกิมมิคแบบ Pull Back หรือกลไกแบบถอยรถเพื่อเพิ่มกำลังการออกตัว พร้อมคานล็อค (สังเกตโลโก้ตรงหัวมุมบนขวา) และกิมมิคการเล่นผ่านแอพ AR Technic ที่เป็นแอพที่ใช้เล่นกับ Lego Technic บางรุ่นโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถไปหาดาวน์โหลดผ่าน Play Store (iPad/iPhone) หรือ Google Play (Andriod)
ข้างกล่อง ก็ระดับ MG แบบกล่องกว้างนี่แหละ
ถุงชิ้นส่วน จะให้มา 4 ถุง มี 2 กลุ่ม กลุ่มละ 2 ถุง ดับเบิ้ลถุง
และนี่ก็คือหัวใจหลักของ Lego ชุดนี้ คือมอเตอร์ไขลานแบบ Pull Back ซึ่งให้มา 2 ชิ้น ดับเบิ้ลชิ้น
คู่มือใบประกอบ ให้มาเป็นเล่มหนายังกับคัมภีร์
สติกเกอร์ที่ให้มา เป็นสติกเกอร์แบบมัน 1 แผ่น
เริ่มจากส่วน Chassis กับเพลาและมอเตอร์จากกลุ่มชิ้นส่วนกลุ่มที่ 1 ถ้าใครเทรวมระหว่างกลุ่ม 1 กับกลุ่ม 2 มีมึนแน่นอน เพราะจะหาชิ้นส่วนไม่ถูก และก็เป็นส่วนที่ใช้สติกเกอร์ค่อนข้างเยอะ อีกอย่าง คือ ไม่มีกลไกบังคับเลี้ยวล้อ และก็จะเป็นส่วนที่ถูกตัดคะแนนเรื่องความสมจริง
ด้านหน้า
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหลัง ที่ยื่นออกมา ก็คือ คานล็อคกลไก Pull Back ซึ่งสามารถล็อคไม่ให้รถไหล และวิธีปลดล็อค คือให้ทุบคานด้านหลัง และรถก็จะไหลไปเอง
มุมต่างๆ
มาดูซูมกลไกสำคัญแบบชัดๆ
และจบกลุ่มที่ 1 ด้วยชิ้นส่วนที่เหลือหลังการประกอบ
ตามมาด้วยกลุ่มที่ 2 ซึ่งเป็นชิ้นส่วนบอดี้ภายนอกกับล้อ พร้อมกับติดสติกเกอร์เพิ่มเติม และก็จะได้ Porsche 99X Electric โดยสมบูรณ์แล้ว และรูปร่างก็มีลักษณะคล้ายกับของจริงมาก
ด้านหน้า
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหลัง
มุมต่างๆ
ด้านบน
คานล็อคกลไล Pull Back แบบชัดๆ ซึ่งวิธีเล่น คือ ให้เราดึงรถไปข้างหลังโดยที่คานยังยกขึ้น และรถก็จะหยุดเคลื่อนไหว
จากนั้นก็ทุบคานเพื่อปล่อยตัว
ตอนนี้ยังไม่จบแค่นี้ เพราะยังเอาไปเล่นกับแอพ AR Technic ของ Legoได้ด้วย
และนี่คือหน้าตาของแอพ AR Technic ซึ่งสามารถเล่นได้กับ Lego Technic บางรุ่นที่รองรับเท่านั้น
เอาล่ะ จบกระทู้ก่อนปีใหม่พอดี ก็ได้เวลาสรุปข้อดี-ข้อเสียกันบ้าง
ข้อดี
1. ประกอบง่าย
2. แบ่งสีมาดีมาก สติกเกอร์ ลอกแบบมาจาก Porsche 99x Electric ของจริง
3. ยางที่ใช้กับล้อ ก็เป็นชิ้นส่วนยางจริงๆ ไม่ใช่ชิ้นส่วนพลาสติกแข็งๆ
4. สามารถเล่นแบบ Pull Back ได้จริงๆ และก็สามารถล็อคกลไก และปลดเมื่อพร้อมออกตัวได้
5. ในใบประกอบ ก็มี QR Code เอาไว้สแกนเป็นแบบ E-Book
6. สามารถเอาไปเล่นกับแอพ AR Technic ที่หาได้ตาม App Store (iPad/iPhone) หรือ Google Play (Android) ได้
ข้อเสีย
1. ถ้าฉีกและเทชิ้นส่วนแบบปนกัน ก็จะทำให้หาชิ้นส่วนยาก
2. ส่วนใหญ่ต้องใช้สติกเกอร์ ไม่มีชิ้นส่วนสกรีนลายแบบสำเร็จรูป
3. เรื่อง QR Code ต้องดูรุ่นมือถือที่รองรับด้วย
4. ไม่มีกลไกการเลี้ยว
5. ราคาค่อนข้างสูง เท่ากับ MG บางรายก็แพงกว่า MG บางชุดซะอีก
5. เหลือชิ้นส่วนบางชิ้นที่ไม่ได้ใช้ (น่าจะเป็นข้อดี เวลาชิ้นส่วนหลักหาย จะได้มีชิ้นส่วนสำรองใช้แทน)
บทสรุปโดยรวม
ดีเทล คือรู้สึกว่าจะใช้สติกเกอร์มากกว่า 42123 Lego Technic McLaren Senna GTR และไม่มีชิ้นส่วนสกรีนลายสำเร็จรูป ฉะนั้น เอระดับเกรด D ก็พอนะ
ความยากในการประกอบ คือถ้าเทชิ้นส่วนแบบเทกระจาดนี่ยากแน่ เพราะชิ้นส่วนจะปนกันจนกินเวลาหาแน่ ส่วนการประกอบก็ไม่ได้ยากหรอก เอาระดับ B
จุดขยับโดยรวม เนื่องจากขยับได้อิสระจริงได้แค่ 2 ล้อหน้า บวกกับ 2 ล้อหลังต้องใช้กลไก Pull Back ถึงจะขยับได้ และไม่มีกลไกการบังคับเลี้ยว จึงได้ระดับ D
สรุปคะแนนทั้งหมด เต็ม ⭐⭐⭐⭐⭐⭐ 10 ก็พอ คือค่อนข้างสอบตกในเรื่องของกลไกการบังคับล้อ บวกกับต้องใช้สติกเกอร์ทั้งหมด แต่ก็มีกิมมิคที่ใช้เล่นกับแอพ AR Technic ได้ด้วย
และแล้วก็จบกระทู้ซะทีนะ ถ้าใครขอ Link ก็เชิญเข้าไปดูได้เลย
Link ช่องทางเข้า Webpage : https://web.facebook.com/GunplaReview/
Link ช่องทางเข้า Blogger : https://draft.blogger.com/blog/posts/3557295041291061356
Link ช่องทางเข้า Twitter : https://twitter.com/atsanee_gunpla
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้