[CR] (รีวิวเฉพาะกิจ 5) 42170 Lego Technic Kawasaki Ninja H2R

กระทู้รีวิว

Kawasaki Ninja Kawasaki Ninja (Bigbike) Kawasaki ของเล่นเด็ก พัฒนาการเด็ก

Spec : (Credit : https://en.wikipedia.org/wiki/Kawasaki_Ninja_H2 - H2R Spec Only)
Manufacturer : Kawasaki
Engine : Inline-4 4-Stroke DOHC Supercharged Two-Speed Centrifugal 998 cc
Transmission : 6-Speed
Power : 326 hp (243 kW) @14,000 rpm
Torque : 156 N⋅m (115 lb⋅ft) @ @ 12,500 rpm
Wheelbase : 1,450 mm
Weight : 215.9 kg (Wet Weight)

ครั้งนี้ ก็ได้แต่ง่วนอยู่กับการใชีชีวิตจริง ก็เลยไม่มีเวลาจะมารีวิวซักเท่าไร (หรือว่าชักจะขี้เกียจเต็มที ก็เป็นไปได้ เพี้ยนเพลีย

) ก็ยังคงวนเวียนอยู่กับ Lego Technic แต่ครั้งนี้จะเป็นเวลาของมอเตอร์ไซค์กัน นับว่าเป็นครั้งแรกที่ประกอบโมเดลมอเตอร์ไซค์ที่เป็น Lego คือ... Kawasaki Ninja H2R ซึ่งเป็นมอเตอร์ไซค์ Big Bike ของ Kawasaki (ง่ายๆ คือคู่แข่งของ Suzuki Hayabusa หรือ Ducati Panigale V4 หรือไม่ก็ Honda CBR1000RR นี่แหละ สาธยายไปเรื่อง หรือว่าบ่นไปงั้นๆ แหละ

Box Art ก็เคยพล่ามไปแล้วว่าเหมือนเอารถประกอบจาก Lego ไปลงวิ่งในสนามจริง
สนนราคาก็อยู่ที่ 84.99 USD (แพงยิ่งกว่า MG จาก Gunpla ไปอีก - ไม่รวม VAT 10%)
คิดเป็นเงินไทยแล้วก็ประมาณ 1,669 บาท (ไม่รวมค่าหิ้ว)
ถ้ารวมค่าหิ้วและภาษี ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1,900 - 2,100 บาท
วันที่ออกจำหน่าย : - (ไม่ทราบวันที่ออกจำหน่าย)

Box Art หลังกล่องจะใช้ Box Art อีกแบบ และจะแสดงถึงกิมมิคที่ Lego ชุดนี้มี คือส่วน Kick Starter ที่สามารถขยับขึ้น-ลง และช่วงล่างที่ขยับได้จริงตามแรงกด

ข้างกล่อง ขนาดชิ้นส่วนจานเบรค ก็ยังจำลองจากของจริง

ข้างกล่องอีกฝั่ง แสดงถึงสมรรถนะของมอเตอร์ไซค์คันที่ว่า

ถุงชิ้นส่วนที่ให้มา มีอยู่ 5 ถุง รวมถุงสำน้ำตาลที่ห่อชิ้นส่วนเฉพาะตัวแยกไว้

ล้อและยางที่ให้มา ให้มาอย่างละ 1
ยางเส้นเล็ก ใช้กับล้อหน้า ส่วนยางเส้นใหญ่ ใช้กับล้อหลัง ส่วนล้อก็มีขนาดเดียวกันหมด

สติกเกอร์ ก็เป็นสติกเกอร์แบบมัน จำนวนแผ่นเดียว

ใบประกอบ มาเป็นแบบเล่มหนาตามสไตล์ Lego Technic

เริ่มจากชิ้นส่วนจากถุงที่ 1 ก่อนเลย ก็จะเป็นส่วนของเครื่องยนต์กับ Chassis และโช้คอัพด้านหลัง ซึ่งขยับได้จริงๆ
ด้านหลัง

ด้านซ้าย

ด้านขวา

ด้านหน้า จะแสดงเครื่องยนต์ ซึ่งขยับตามล้อหลัง

มุมต่างๆ

รวมกับชิ้นส่วนจากถุงที่ 2 รวมกับส่วนล้อหน้า รวมถึงการประกอบตัวถังเพิ่มเติมอีกขั้น
ด้านหน้า

ด้านซ้าย

ด้านขวา

ด้านหลัง

มุมต่างๆ

ชิ้นส่วนจากถุงที่ 3 มาแล้ว แน่นอนว่า มีล้อหลัง พ่วงกับตัวถังเพิ่มเติมเข้าไปอีก เริ่มเหมือนของจริงเข้าไปล่ะ และก็จะเริ่มใช้สติกเกอร์ด้วย
ด้านหน้า

ด้านซ้าย

ด้านขวา

ด้านหลัง

มุมต่างๆ

รวมชิ้นส่วนจากถุงสุดท้าย พร้อมกับจากถุงสีน้ำตาล ซึ่งเป็นถุงที่ใช้ห่อชิ้นส่วนกระจกหน้ามอเตอร์ไซค์ มีความใส่ใจแท้ กันชิ้นส่วนเกิดรอยขีดข่วนด้วย และก็มาเป็นมอเตอร์ไซค์สมบูรณ์แบบ
ด้านหน้า

ด้านซ้าย

ด้านขวา

ด้านหลัง

มุมต่างๆ

เรื่องช่วงล่าง ก็เหมือนอย่างที่เคยบอก คือสามารถขยับได้จริงตามแรงกด

และที่สมจริงอีกที่ คือ โซ่ที่เกียร์ ซึ่งใช้วิธีการประกอบแบบทีละชิ้นๆ ซึ่งแน่นอนว่า ประกอบกันเหนื่อย แต่ก็แลกด้วยความสมจริงอีกขั้น แค่ระวังชิ้นหล่นหายระหว่างประกอบก็พอ

จบการรีวิวผ่านการประกอบกันซะที หลังจากที่ปล่อยให้ยืดเยื้อมานานว่าจะทำ แต่ก็ไม่ได้โอกาสซะที มาทโฟกัสที่ข้อดี-ข้อเสียหลังการประกอบกันเถอะ

ข้อดี

1. ประกอบง่าย

2. แบ่งสีมาดีมาก สติกเกอร์ ลอกแบบมาจาก ของจริงและมีชิ้นส่วนสกรีนลายสำเร็จ พร้อมกันชิ้นส่วนหระจกหน้าที่ห่อถุงแยกกันรอยขีดข่วน

3. ยางที่ใช้กับล้อ ก็เป็นชิ้นส่วนยางจริงๆ ไม่ใช่ชิ้นส่วนพลาสติกแข็งๆ

4. ล้อหน้า มีกลไกการเลี้ยว ซึ่งเลี้ยวได้เหมือนรถจริงๆ

5. ในใบประกอบ ก็มี QR Code เอาไว้สแกนเป็นแบบ E-Book

6. เครื่องยนต์มีกลไกการขยับผ่านล้อหลัง

7. โซ่จะใช้วิธีการประกอบทีละชิ้น สามารถขยับได้จริง รวมทั้ง Kick Starter ที่ขยับได้จริง และขยับได้ 2 จังหวะ

ข้อเสีย

1. ถ้าฉีกและเทชิ้นส่วนแบบปนกัน ก็จะทำให้หาชิ้นส่วนยาก

2. ส่วนใหญ่ต้องใช้สติกเกอร์ ชิ้นส่วนสกรีนลายจะมีไม่กี่ชิ้น

3. ถ้าจะจอดเฉยๆ ก็ต้องใช้ขาตั้งตลอดเวลา

4. ราคาแพงกว่าชุดประกอบ Lego ที่เคยเล่าไปก่อน

5. เหลือชิ้นส่วนบางชิ้นที่ไม่ได้ใช้ (น่าจะเป็นข้อดี เวลาชิ้นส่วนหลักหาย จะได้มีชิ้นส่วนสำรองใช้แทน)

6. ชิ้นส่วนโซ่ ต้องคอยประกอบทีละชิ้น ซึ่งชิ้นส่วนที่ใช้ก็จะเล็กมาก หายทีงานเข้าอีก

บทสรุปโดยรวม

ดีเทล เหมือนว่าจะใช้สติกเกอร์น้อยกว่า แม้ว่ามีชิ้นส่วนสกรีนลายสำเร็จรูป แต่ว่าให้มาแค่ไม่กี่ชิ้น ส่วนที่เหลือ ก็ยังต้องใช้สติกเกอร์เหมือนเดิม ฉะนั้น เอาระดับเกรด C

ความยากในการประกอบ คือถ้าเทชิ้นส่วนแบบเทรวมล่ะก็ หาชิ้นส่วนกันตาแตก เพราะชิ้นส่วนจะปนเปไปมา บวกกับขั้นตอนการประกอบโซ่สำหรับส่วนเกียร์อีกด้วย ก็ระดับ A

จุดขยับโดยรวม ขยับได้อิสระได้ทุกล้อ หน้าบังคับเลี้ยวจากล้อหลัง และช่วงล่างสามารถขยับตามแรงกดได้จริงๆ และขาตั้งมอเตอร์ไซค์ จึงได้ระดับ s

สรุปคะแนนทั้งหมด 8 เต็ม 10 ตัดตรงชิ้นส่วนที่มีแค่ไม่กี่ชิ้นที่สกรีนลายสำเร็จรูป (ก็ตามมารตรฐานของ Lego นี่แหละ) แต่มาได้คะแนนกู้ชีพตรงส่วนของโซ่ที่ใช้วิธีการประกอบจากชิ้นส่วนเล็กทีละชิ้นพร้อมกับโช้คอัพที่ขยับได้จริง พวกกับชิ้นส่วนกระจกหน้าที่ใส่ถุงแยกไว้กันรอย

อีกครั้ง ขอฝากช่องทางการติดต่ออีกครั้ง พาพันขอบคุณ