7.5 ตอนที่ 12 เรื่อง Meeting point นิยายดีที่อยากแนะนำ

อาคารของสถาบันแห่งนี้ ด้านนอกอาคารถูกออกแบบให้มีสไลเดอร์ เพื่อให้ผู้คนออกจากตึกให้เร็วที่สุด

ทางลงที่คล้ายสไลเดอร์ถูกสร้างทั้งสองด้านของอาคารและเฉียงสลับไขว่กัน ดังนั้นหากมีคนลงจากทั้งสองด้านจะพบจุดตัดผ่านกัน บางคนถือโอกาสสัมผัสมือกัน ร่างกายที่มีความต่างศักดิ์ไฟฟ้าทำให้เกิดประกายไฟระหว่างสัมผัสกัน

มิสซูอยากใช้เสาที่ตั้งอยู่ในอาคาร เพื่อให้คนรูดเสาลงสู่ด้านล่างได้เร็ว แต่ติดที่ซาร่าไม่มั่นใจวิธีดังกล่าวว่าจะปลอดภัยสำหรับเธอ เพื่อนทั้งคู่จึงใช้วิธีวิ่งออกจากอาคารมากกว่าใช้อุปกรณ์อื่นช่วยเหลือ

ตอนนี้คนทั้งวิทยาลัยรวมถึงคนในหมู่บ้านต่างมารวมตัวกัน แม้แต่คนไร้สีก็หันลำโพงป่ามายังสนามกลางของคนเมือง เพื่อดักข้อมูลจากคนเมืองให้มากที่สุด 

“ทุกคนฟังคำสั่งลูกสาวผมให้ดี” พ่อจีน่ากล่าวแก่คนในสนามและลูบหัวพร้อมจูบผมลูกสาว เธอเป็นผู้ชนะการประกวดนำมาซึ่งความภาคภูมิใจแก่คนในตระกูล

จีน่ายืนที่จุดศูนย์กลางสนาม เธอถือเครื่องขยายเสียงในมือและพูดด้วยเสียงอันดัง “งานนี้ฉันไม่ให้คนแก่เข้าร่วม”

คนในสนามพูดพร้อมกัน “ไม่ให้คนแก่เข้าร่วม” เสมือนยืนยันคำสั่งจากผู้ชนะการประกวดภาพ

“ฮือๆๆๆๆๆ ผมอยากมีส่วนร่วม ให้ฉันช่วยด้วยคนนะ” ชายคนหนึ่งที่มีอายุมากกำลังแสดงความเสียใจด้วยการปล่อยหมอกสีดำระดับห้า
“ลุงอายุมากแล้ว อยู่เฉยดีกว่าค่ะ ฉันไม่ให้ใครทำลายภาพที่ฉันสร้างแน่”

“ให้ฉันเป็นสีดำมืดก็ได้ จะได้ไม่ต้องแสดงสีอื่น” ชายแก่ขออีกครั้ง

“ไม่ได้ค่ะ ลุงและอีกหลายคนเป็นต้นเหตุที่ให้ภาพสีเพื้ยน”

แม้แต่ซาร่าได้แต่มองและคิดว่าให้คนสูงอายุแสดงภาพสีดำอย่างเดียวก็ได้ แต่เธอไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ ทุกคนที่เข้าเกณฑ์ทั้งหมดจะอยู่ในสนามจนเต็ม ส่วนคนที่มากเกินสนามหรือไม่เข้าเกณฑ์ต่างรู้หน้าที่ด้วยการเป็นผู้นั่งชมที่อัฒจันทร์

นอกจากภาพที่จะแสดงแล้วผู้คนในสนามต่างรอชมการเปิดม่านฟ้า มันคล้ายการแสดงความสามารถอย่างหนึ่ง

บันไดไม้หลายอันเลื่อนขึ้นมาจากด้านนอกสนามกีฬา แล้วยาวขึ้นเรื่อยๆ มันสูงพอๆ กับตึกระฟ้า บันไดแต่ละอันวางพิงกันเหมือนปิระมิดโดยมีจุดยอดกึ่งกลางตรงกลางสนามพอดี

หลังจากนั้น ผู้คนในสนามเห็นคนปีนบันได้ดังกล่าวพร้อมนำบันไดอื่นขึ้นมาด้วย ทุกคนที่กำลังปีนขึ้นจะยืนเลยจุดกึ่งกลางของบันไดฐานแรกขึ้นมาไม่มาก แล้วเอาบันไดพาดต่ออีกทีเพื่อให้ยาวขึ้นมากกว่ายอดของบันไดฐานแรก เมื่อฐานสองสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงมีคนปีนขึ้นเพิ่มขึ้นอีกเหมือนช่วงแรก จากฐานสองขึ้นไปอีกเป็นฐานสาม แต่ครั้งนี้คนน้อยกว่าเดิม

ตอนนี้บันไดปิระมิดยอดสูงเลยตึกระฟ้าและสูงถึงเมฆเลยทีเดียว ผู้คนในสนามปรบมือกันเกรียว

ไม่นานชายร่างสูงโปร่งปรากฏขึ้นจากฐานแรก ผู้คนในสนามปรบมือและส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่มให้กับชายดังกล่าว ชายผอมกำลังปีนบันไดจากฐานแรก ไปฐานสองและฐานสามขึ้นมา ทั้งนี้ชายดังกล่าวยกบันไดที่ตนถือมา ได้นำมันมาต่อกับยอดสามเหลี่ยมที่ทำเป็นฐานไว้ โดยมีผู้ชายประมาณสามคนคอยจับบันไดไว้ที่ฐาน บันไดที่ยกมาถูกต่อขึ้นทำให้ยอดสูงเสียดฟ้าเป็นที่หวาดเสียวให้กับผู้คนที่พบเห็น

เมื่อบันไดที่ต่อกับฐานยอดสามเหลี่ยมดูมั่นคงเป็นที่เรียบร้อย ชายดังกล่าวปีนบันไดแล้วขึ้นยืนบนยอดบันไดพร้อมชูมือชูไม้เพื่อเรียกเสียงปรบมือจากผู้ชม เจ้าหนุ่มขี้เล่นผู้นี้ บางครั้งแกล้งตกบันไดและเอาขาพาดเกี่ยวบันไดไว้เพื่อไม่ให้หล่น เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมได้ทั้งสนาม

หลังจากแกล้งคนดูได้สักพัก ชายหนุ่มเริ่มเอาจริงด้วยการยืนยอดบันไดอีกครั้ง พร้อมส่ายมือไปมา จนดูไม่ออกว่าบันไดที่โยกเย้กซ้ายทีขวาที เหตุเพราะการส่ายมือหรือเพราะลมที่กำลังพัด ชายสูงโปร่งต้องคอยปรับสมดุลด้วยการกางแขนทั้งสองข้าง

ผู้ชมด้านล่างคอยลุ้นว่าชายผู้นี้จะทำภารกิจนี้ได้หรือไม่ เมื่อสมดุลเริ่มคงที ชายหนุ่มจึงถือโอกาสคว้าอะไรสักอย่างในอากาศ และทำท่าผิดหวังเหมือนคว้าน้ำเหลว

ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหน้าและบอกเป็นสัญญาณให้คนเบื้องล่างรู้ว่าตนอยู่ตำแหน่งต่ำกว่าที่ควร คราวนี้บันไดถูกยกขึ้นจากชายที่อยู่ฐานล่างเล็กน้อย คนบนยอดสัมผัสความเปลี่ยนแปลงที่ถูกยกขึ้นได้ ตนจึงลองคว้าอากาศดูอีกครั้ง

คราวนี้ได้ผล แผ่นฟ้าที่เคยถูกปูไว้อย่างเรียบสนิท ตอนนี้กลับมีรอยย่นเสมือนมู่ลี่ที่ถูกมือรูดลง เหมือนที่ใครสักคนแอบมองใครสักคนผ่านหน้าต่าง
ผู้คนในสนามต่างวิจารณ์กันว่าเธอเป็นใคร บางคนคิดว่าเป็นเนตรนารีหรือลูกเสือมาขายขนม บางคนคิดว่าน่าจะเป็นคนขายเครื่องกรองน้ำมากกว่า