ทางออกสำหรับกระเช้าภูกระดึงโดยไม่ต้องเสียงบประมาณมาก

จากประเด่นที่มีการถกเรื่องกระเช้าภูกระดึงในขนะนี้
ประเด่นที่อยากไห้สร้างกระเช้าคือ หลายๆคนอยากไปเที่ยวที่ภูกระดึงแต่ติดที่ว่าสุขภาพไม่ดีทำไห้ไม่สามรถเดินขึ้นไปได้บ้างก็บอกแค่อยากไปถ่ายรูปก็พอใจ บ้างก็บอกว่าเพิ่มโอกาศในการท่องเที่ยวจะสามารถทำเงินได้มหาสารจึงอยากไห้มีการสร้างกระเช้าเพื่อตอบสนองกับนักท่องเที่ยวและเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวสร้างแลนด์มาร์คใหม่ๆของไทย

ส่วนประเด่นที่หลายๆคนไม่อยากไห้สร้าง เพราะ การเดินขึ้นก็เป็นอีกซิกเนเจอร์ เป็นอีกสเน่ห์ของภูกระดึง ที่หลายๆคนพยายามมาเพื่อพิชิดที่แห่งนี้   
มนต์เสน่ห์ของการเดินขึ้นภูกระดึงคือธรรมชาติระหว่างทาง ที่ผสมผสานความบันเทิงจากเสียงเพลงที่ลูกหาบเปิดขับกล่อมไล่ความเหน็ดเหนื่อย , ร้านอาหารที่บริการอาหารอันสุดแสนจะอร่อย , 
บ้างก็ว่าการเดินทางด้วยเท้าขึ้นภูกระดึง มันทำให้เราเห็นธรรมชาติรอบๆข้างตัวเรา การเปลี่ยนแปลงของต้นไม้ใบหญ้าตั้งแต่ตีนภูจนถึงยอดเขา อุณหภูมิอากาศตั้งแต่เริ่มเดินมันร้อนแสนร้อนเหงื่อโทรมกายแต่พอถึงที่หมายไม่อยากอาบน้ำซะแล้ว ได้วัดพลังใจพลังกายว่าจะทนกับความยากลำบากไหวไหม ได้พบเจอคนแปลกหน้าตลอดเส้นทางขึ้นลงหน้าตาแต่ละคนล้วนเป็นมิตร ได้ยินเสียงสอบถามระยะทางกัน ใบหน้าคนตอบจะอมยิ้ม"อีกนิดเดียวครับ" ถึงมันเป็นโกหกที่ใครๆก็ไม่โกรธกัน และระยะทางก็ไม่ใกล้ไม่ไกลเกินไปที่จะเก็บเอามาเป็นความทรงจำดีๆว่า "ครั้งหนึ่งในชีวิตเราคือผู้พิชิตภูกระดึง"
บางคนก็บอก ถ้าแค่เดินขึ้นไม่ไหวก็เที่ยวไม่ไหวเพราะข้างบนเดินไกลดกว่าข้างตอนขึ้นอีกหลายเท่าสุดท้ายถ้ามีกระเช้าก็ต้องมีรถรับส่งตามมาอีกไม่จบไม่สิ้น
เดิมที่ภูกระดึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ก็ไม่ควรจะมีอะไรมารบกวนธรรมชาติมากไปกว่านี้แล้วอย่าเอาแค่เงินเป็นที่ตั้งควรนึกถึงสิ่งที่จะตามมา

หลายๆฝ่ายก็มีเหตุผลของตัวเอง
แต่สิ่งที่ผมคิดคืออะไรง่ายๆที่เรามีอยู่แล้วครับไม่ต้องบิกงบไปสำรวจถึง28ล้าน ไม่ต้องเบิกงบไปสร้างอีกน่าจะหลักหลายร้อยล้านรึอาจมากกว่านั้น
แต่แค่เพิ่มการขนสงด้วยคอปเตอร์ ซักวันละ 4 เที่ยวเป็นไงเก็บค่าบริการหัวละ650บาท ค่าขนของกิโลละ50บาท ใช้เครื่องMI17V5รับคนได้ครั้งละ36คนรอบ1น่าจะได้ไม่ต่ำกว่า25000บาทครับถ้าถามว่าถ้าคนขึ้นเต็มแล้วจะเหลือที่ไว้ขนของหรอ คนก็ขึ้นบนเครื่องสิ่งของก็ใช้ยกหิ้วภายนอก
นนคนกับของรวมกันMI17V5เอาอยู่ครับ ราคาน้ำมันอากาศยาน JP-8ตกอยู่ที่ลิตรละ 30 บาท  ความสิ้นเปลือง  830 ลิตร/ชม ชั้วโมงนึง25000บาทโดยประมาณ แต่แค่บินจากตีนภูขึ้นไปยอดภูหรือยอดภูลงมาตีนภู ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที่ครับ ก็เท่ากับว่าบินแค่รอบเดียวไม่กี่นาทีก็ได้ค่าน้ำมันทั้งวันแล้วรึอาจเหลืออีกด้วยซ้ำสามารถใช้งานได้ทันทีไม่ต้องรอเบิกงบไม่ต้องรอสร้างหลายปี และถ้าไม่มีนททก็ไม่ต้องขึ้นบิน ถ้าหากมีไฟป่ารึมีเหตุฉุกเฉินบริเวณแถวนั้นก็สามารถใช้งานได้อย่างทันท่วงที คนไหนเดินขึ้นไม่ไหวรึไม่ชอบเดินก็ขึ้นเครื่องสายเดินขึ้นก็เดินไม่ต้องสร้างอะไรเพิ่มแค่นี้ก็ประหยัดงบไปได้หลายล้านเพราะถึงสร้างมาลงทุนไปเป็นร้อยเแป็นพันล้าน ก็ไม่ชัวว่าจะได้กำไรรึขาดทุน ผู้หลักผู้ใหญ่และ นทท ลองพิจารณากันดูนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่