โครงการกระเช้าลอย ฟ้าขึ้นภูกระดึงที่ชักเข้าชักออก ชักออกชักเข้ามา 30 ปี กลับมาเป็นประเด็นฮอตฮิตอีกแล้วโยม
โผล่กลับมาคราวนี้ ยังมีกระแสคัดค้าน และกระแสสนับสนุน แยกเป็น 2 ขั้ว 2 กลุ่มเหมือนเดิม
แต่ครั้งนี้ กระแสเชียร์ให้สร้างกระเช้าเหาะขึ้นยอดภูกระดึงเริ่มดังกว่ากระแสค้านครึ่งช่วงตัว
ข้อสำคัญ...กลับมาครั้งนี้ รัฐบาล คสช.มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการตัดสินใจ
ถ้ารัฐบาลทุบโต๊ะให้สร้างกระเช้าโครมเดียว...เป็นอันจบเลย!!
“แม่ลูกจันทร์” ขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ไม่ทุบโต๊ะให้สร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นภูกระดึงทันที
เนื่องจากโครงการนี้ยังมีความเห็นต่างกันเป็น 2 มุม
พล.อ.ประยุทธ์ สั่งให้ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯฝ่ายท่องเที่ยว ไปหารายละเอียดเพิ่มเติม
โดยเฉพาะผลกระทบความ สมบูรณ์ทางธรรมชาติ และมาตรการควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวให้เหมาะสม กับสภาพพื้นที่จำกัดของภูกระดึง
รวมทั้งให้ดำเนินการสำรวจผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ “อีไอเอ” ให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนตามกติกา
สรุปว่าจะสร้าง? หรือจะไม่สร้าง? หวยยังออกได้ 2 ประตู
“แม่ลูกจันทร์” สรุปย่อๆว่าโครงการสร้างกระเช้าลอยฟ้าหรือเคเบิลคาร์ขึ้นภูกระดึงจะใช้งบลงทุน 633 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี
โดยใช้เทคนิคก่อสร้างแบบใหม่ที่เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ป่าไม้น้อยที่สุด เกิดมลพิษน้อยที่สุด และไม่ทำลายทัศนียภาพธรรมชาติเดิม
เทคนิคการก่อสร้างแบบใหม่จะใช้พื้นที่ก่อสร้างได้เพียง 1 ใน 4 และ ลดการตัดต้นไม้ได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์
หลังจากกระเช้าลอยฟ้าสร้างเสร็จจะรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก 6 หมื่นคนต่อปี
และจะทำให้การขึ้นยอดภูกระดึงมีทางเลือกเพิ่มขึ้นเป็น 4 ทาง
1, ใครอยากพิสูจน์กำลังขาตัวเอง ก็เดินขึ้นไป 5 กม. 6 ชั่วโมง
2, ใครเข่าเดี้ยงขาไม่ดีก็ขึ้นกระเช้าไป ไม่เกิน 30 นาที
3, ใครเดินขึ้นแล้วอยากจะนั่งกระเช้าลงก็ไม่ผิดกติกา
4, ใครขึ้นกระเช้าแล้วอยากเดินลงเองก็เชิญตามสบาย
“แม่ลูกจันทร์” ขออนุญาตย้ายจุดยืนจากฝ่ายค้านมาเป็นฝ่ายเชียร์ให้สร้างกระเช้าขึ้นยอดภูกระดึง
เหตุผล เนื่องจากเข้าสู่วัยชรา สังขารไม่อำนวยให้ปีนป่ายขึ้นภูกระดึงได้สะดวกโยธิน
ถ้าในอนาคตได้มีโอกาสนั่งเคเบิลคาร์ขึ้นไปยืนแอ่นชมวิวบนยอดภูกระดึง ก่อนตาย...ก็เป็นเรื่องน่ายินดี
อนึ่ง สังคมไทยกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัว โครงการกระเช้าภูกระดึงถือเป็นการคืนความสุข ให้ผู้สูงอายุ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของ คสช.
อย่างไรก็ดี “แม่ลูกจันทร์” ยังมีข้อกังวลใจ 2 ประการ
1, จะควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวอย่างไรให้เหมาะสมกับกายภาพของภูกระดึง??
2, จะรักษาดูแลภูกระดึงอย่างไรให้คงสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ต่อไปได้ตลอดกาล??
ปล.กลัวที่สุดคือ...ทัวร์จีน
ถ้าทัวร์จีนบุกขึ้นภูกระดึงเมื่อไหร่ บรรลัยแน่นอน.
http://www.thairath.co.th/content/584924
ไม่เคยคิดที่จะขึ้นภูกระดึงเลยนะแต่เห็นด้วยช่วยให้การท่องเทียวเติบโตชาวบ้านมีรายได้
เปลี่ยนจุดยืน
โผล่กลับมาคราวนี้ ยังมีกระแสคัดค้าน และกระแสสนับสนุน แยกเป็น 2 ขั้ว 2 กลุ่มเหมือนเดิม
แต่ครั้งนี้ กระแสเชียร์ให้สร้างกระเช้าเหาะขึ้นยอดภูกระดึงเริ่มดังกว่ากระแสค้านครึ่งช่วงตัว
ข้อสำคัญ...กลับมาครั้งนี้ รัฐบาล คสช.มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการตัดสินใจ
ถ้ารัฐบาลทุบโต๊ะให้สร้างกระเช้าโครมเดียว...เป็นอันจบเลย!!
“แม่ลูกจันทร์” ขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ไม่ทุบโต๊ะให้สร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นภูกระดึงทันที
เนื่องจากโครงการนี้ยังมีความเห็นต่างกันเป็น 2 มุม
พล.อ.ประยุทธ์ สั่งให้ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯฝ่ายท่องเที่ยว ไปหารายละเอียดเพิ่มเติม
โดยเฉพาะผลกระทบความ สมบูรณ์ทางธรรมชาติ และมาตรการควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวให้เหมาะสม กับสภาพพื้นที่จำกัดของภูกระดึง
รวมทั้งให้ดำเนินการสำรวจผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ “อีไอเอ” ให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนตามกติกา
สรุปว่าจะสร้าง? หรือจะไม่สร้าง? หวยยังออกได้ 2 ประตู
“แม่ลูกจันทร์” สรุปย่อๆว่าโครงการสร้างกระเช้าลอยฟ้าหรือเคเบิลคาร์ขึ้นภูกระดึงจะใช้งบลงทุน 633 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี
โดยใช้เทคนิคก่อสร้างแบบใหม่ที่เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ป่าไม้น้อยที่สุด เกิดมลพิษน้อยที่สุด และไม่ทำลายทัศนียภาพธรรมชาติเดิม
เทคนิคการก่อสร้างแบบใหม่จะใช้พื้นที่ก่อสร้างได้เพียง 1 ใน 4 และ ลดการตัดต้นไม้ได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์
หลังจากกระเช้าลอยฟ้าสร้างเสร็จจะรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก 6 หมื่นคนต่อปี
และจะทำให้การขึ้นยอดภูกระดึงมีทางเลือกเพิ่มขึ้นเป็น 4 ทาง
1, ใครอยากพิสูจน์กำลังขาตัวเอง ก็เดินขึ้นไป 5 กม. 6 ชั่วโมง
2, ใครเข่าเดี้ยงขาไม่ดีก็ขึ้นกระเช้าไป ไม่เกิน 30 นาที
3, ใครเดินขึ้นแล้วอยากจะนั่งกระเช้าลงก็ไม่ผิดกติกา
4, ใครขึ้นกระเช้าแล้วอยากเดินลงเองก็เชิญตามสบาย
“แม่ลูกจันทร์” ขออนุญาตย้ายจุดยืนจากฝ่ายค้านมาเป็นฝ่ายเชียร์ให้สร้างกระเช้าขึ้นยอดภูกระดึง
เหตุผล เนื่องจากเข้าสู่วัยชรา สังขารไม่อำนวยให้ปีนป่ายขึ้นภูกระดึงได้สะดวกโยธิน
ถ้าในอนาคตได้มีโอกาสนั่งเคเบิลคาร์ขึ้นไปยืนแอ่นชมวิวบนยอดภูกระดึง ก่อนตาย...ก็เป็นเรื่องน่ายินดี
อนึ่ง สังคมไทยกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัว โครงการกระเช้าภูกระดึงถือเป็นการคืนความสุข ให้ผู้สูงอายุ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของ คสช.
อย่างไรก็ดี “แม่ลูกจันทร์” ยังมีข้อกังวลใจ 2 ประการ
1, จะควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวอย่างไรให้เหมาะสมกับกายภาพของภูกระดึง??
2, จะรักษาดูแลภูกระดึงอย่างไรให้คงสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ต่อไปได้ตลอดกาล??
ปล.กลัวที่สุดคือ...ทัวร์จีน
ถ้าทัวร์จีนบุกขึ้นภูกระดึงเมื่อไหร่ บรรลัยแน่นอน.
http://www.thairath.co.th/content/584924
ไม่เคยคิดที่จะขึ้นภูกระดึงเลยนะแต่เห็นด้วยช่วยให้การท่องเทียวเติบโตชาวบ้านมีรายได้