เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเมื่อไหร่ดี
น้ำมันเครื่องเป็นสารหล่อลื่นที่สำคัญสำหรับเครื่องยนต์ มีหน้าที่ช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ และช่วยระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ โดยน้ำมันเครื่องควรได้รับการเปลี่ยนถ่ายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานยาวนาน
โดยทั่วไปแล้ว ระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องจะอยู่ที่ 5,000-10,000 กิโลเมตร หรือ 6 เดือน แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน โดยระยะการเปลี่ยนถ่ายจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
1. ประเภทเครื่องยนต์ เครื่องยนต์ดีเซลจะมีอัตราการสึกหรอสูงกว่าเครื่องยนต์เบนซิน ดังนั้น ระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลจึงควรสั้นกว่าเครื่องยนต์เบนซิน
2. สภาพอากาศ น้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดสูงจะเหมาะกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น ส่วนน้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดต่ำจะเหมาะกับสภาพอากาศที่ร้อน โดยน้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดสูงจะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าน้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดต่ำ
3. ไลฟ์สไตล์การขับขี่ ผู้ขับขี่ที่เดินทางระยะสั้นบ่อยครั้ง ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องให้ถี่ขึ้น เนื่องจากน้ำมันเครื่องจะเกิดการสะสมของสิ่งสกปรกได้ง่ายกว่าผู้ขับขี่ที่เดินทางระยะไกล
นอกจากระยะการเปลี่ยนถ่ายที่ระบุไว้ในคู่มือรถแล้ว ยังสามารถพิจารณาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องก่อนกำหนดได้ หากพบสัญญาณดังต่อไปนี้
1. เครื่องยนต์มีควันดำหรือควันขาว
2. เครื่องยนต์มีเสียงดังผิดปกติ
3. เครื่องยนต์มีความร้อนสูงผิดปกติ
4. ไฟเตือนน้ำมันเครื่องติดสว่าง
หากเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องไม่สม่ำเสมอ อาจส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ได้ เช่น
1. เครื่องยนต์สึกหรอเร็ว
2. เครื่องยนต์เกิดความร้อนสูง
3. เครื่องยนต์เกิดความเสียหาย
ดังนั้น จึงควรหมั่นตรวจสอบระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องให้ตรงตามระยะที่กำหนด เพื่อรักษาสภาพเครื่องยนต์ให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานยาวนาน
เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเมื่อไหร่ดี
น้ำมันเครื่องเป็นสารหล่อลื่นที่สำคัญสำหรับเครื่องยนต์ มีหน้าที่ช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ และช่วยระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ โดยน้ำมันเครื่องควรได้รับการเปลี่ยนถ่ายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานยาวนาน
โดยทั่วไปแล้ว ระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องจะอยู่ที่ 5,000-10,000 กิโลเมตร หรือ 6 เดือน แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน โดยระยะการเปลี่ยนถ่ายจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
1. ประเภทเครื่องยนต์ เครื่องยนต์ดีเซลจะมีอัตราการสึกหรอสูงกว่าเครื่องยนต์เบนซิน ดังนั้น ระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลจึงควรสั้นกว่าเครื่องยนต์เบนซิน
2. สภาพอากาศ น้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดสูงจะเหมาะกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น ส่วนน้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดต่ำจะเหมาะกับสภาพอากาศที่ร้อน โดยน้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดสูงจะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าน้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดต่ำ
3. ไลฟ์สไตล์การขับขี่ ผู้ขับขี่ที่เดินทางระยะสั้นบ่อยครั้ง ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องให้ถี่ขึ้น เนื่องจากน้ำมันเครื่องจะเกิดการสะสมของสิ่งสกปรกได้ง่ายกว่าผู้ขับขี่ที่เดินทางระยะไกล
นอกจากระยะการเปลี่ยนถ่ายที่ระบุไว้ในคู่มือรถแล้ว ยังสามารถพิจารณาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องก่อนกำหนดได้ หากพบสัญญาณดังต่อไปนี้
1. เครื่องยนต์มีควันดำหรือควันขาว
2. เครื่องยนต์มีเสียงดังผิดปกติ
3. เครื่องยนต์มีความร้อนสูงผิดปกติ
4. ไฟเตือนน้ำมันเครื่องติดสว่าง
หากเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องไม่สม่ำเสมอ อาจส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ได้ เช่น
1. เครื่องยนต์สึกหรอเร็ว
2. เครื่องยนต์เกิดความร้อนสูง
3. เครื่องยนต์เกิดความเสียหาย
ดังนั้น จึงควรหมั่นตรวจสอบระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องให้ตรงตามระยะที่กำหนด เพื่อรักษาสภาพเครื่องยนต์ให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานยาวนาน