ถูกประกันฟ้องทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ กรณีแบบนี้คิดว่าสมควรจ่ายไหมครับ
ผมได้ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น1 กับบริษัทประกันวินาศภัยเจ้านึง(คิดว่าน่าจะความนิยมอันดับต้นๆของไทยเลยนะ)
โดยเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ช่วงเทศกาลหยุดยาวผมได้วางแผนจะขับรถไปเที่ยวกับครอบครัวตามปกติ แต่เนื่องจากผมมีรถยนต์หลายคันจึงมีผู้ใหญ่ที่นับถือและเกรงใจ(ขอเรียกว่านายA)มาขอยืมรถอีกคันไปใช้ในช่วงหยุดยาว เพราะความเชื่อถือ+เกรงใจ จึงได้ให้ยืมรถไป(ตรงนี้ผิดพลาดใหญ่หลวง สำนึกแล้ว T-T ขออย่าเพิ่งโฟกัสตรงนี้กันนะครับ)
หลังจากนั้นผมก็ขับรถไปเที่ยวกับครอบครัวตามแผน จนวันนึงช่วงค่ำๆมีคนติดต่อมาว่านายA ประสบอุบัติเหตุ และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล(คิดว่าคนติดต่อน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รพ. น่าจะได้เบอร์โทรจากโทรศัพท์ที่นายAพก) ผมจึงได้รีบไปเยี่ยม โดยระหว่างนี้ประกันภัยก็ได้มาตรวจสอบเหตุตามที่ได้รับแจ้งเหตุ
ต่อมาภายหลัง(จำไม่แม่นว่ากี่วันเพราะนานหลายปีแล้ว อาจวันรุ่งขึ้นเลยก็ได้) ผลตรวจจากรพ.ปรากฎว่านายA มีแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ประกันจึงแจ้งว่าไม่สามารถเคลมรถให้ได้ ผมก็พอคุ้นๆกฎหมายเรื่องนี้อยู่บ้าง+ค้นๆในเน็ตก็ทำนองเดียวกัน+ประกันภัยก็ไม่ได้แจ้งผมว่ามีเรื่องอะไรอีก ผมจึงไม่ได้ตามเรื่องอะไรต่อมากนัก
ผ่านมาหลายปี ระหว่างนี้เนื่องจากผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จึงไม่มีใครเรียกไปในคดี+มีปัญหากับนายAเพราะเหตุการณ์นี้ นายAจึงไม่ได้บอกอะไรกันมากนัก ผมจึงทราบแค่คร่าวๆจากคนอื่นบอกอีกทีว่าศาลพิพากษาว่า นายA ผิดข้อหาราวๆขับรถโดยประมาท เมาแล้วขับอะไรทำนองนี้ โทษเหมือนจะค่อนข้างเบาเพราะไม่มีผู้บาดเจ็บอื่นนอกจากนายA แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
จนกระทั่งกลางๆปีนี้ผมได้รับหมายศาลคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายโดยบริษัทประกันฯเป็นโจทก์ฟ้องเรียกให้จ่ายค่าเสียหายที่บ.ประกันฯจ่ายไปก่อน (เข้าใจว่าน่าจะเป็นค่าซ่อมแซม+ค่าเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ ที่คนอื่นได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุรวมๆหลายล้านบาท)
โดยบ.ประกันเรียกให้จำเลยที่1 คือนายA ชดใช้ในฐานะผู้ขับขี่รถยนต์ขณะเกิดเหตุ ซึ่งตรงนี้ผมพอเข้าใจได้
***
ประเด็นที่ผมสงสัยอยู่ตรงที่ในคำฟ้อง บ.ประกันฯ ระบุว่าให้ผม(จำเลยที่2)
ร่วมชดใช้ในฐานะผู้เอาประกันภัย ซึ่งตรงนี้ผมค่อนข้างคาใจมาก
ตามความเข้าใจของผมคนที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายควรจะต้องเป็นผู้ก่อเหตุหรือผู้ทำละเมิด(หรือนายจ้างอะไรทำนองนี้)
ผมคิดว่ากรณีนี้ถ้าผมไม่ได้ทำประกัน นายA น่าจะต้องชดใช้ตรงส่วนนี้คนเดียวแน่ๆ เพราะผมไม่ได้มีส่วนร่วมก่อเหตุ แต่พอทำประกันกลับกลายเป็นว่าต้องถูกเรียกให้จ่ายเพราะเป็นผู้เอาประกันซะงั้น
ซึ่งผมมองว่าไม่สมเหตุสมผล เพราะเราทำประกันเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงที่เราจะต้องจ่ายไม่ใช่เหรอ ไหงกลายเป็นเพิ่มความเสี่ยงที่เราจะต้องจ่ายในสิ่งที่ตอนไม่ทำประกันเราไม่ต้องจ่ายซะอย่างนั้นไปได้
ถ้าเป็นกรณีที่ไม่พบตัวผู้ขับขี่เลยต้องตามเอากับเจ้าของรถยังพอเข้าใจได้ แต่นี่จนถึงขั้นผู้ขับขี่ถูกแจ้งข้อหาและพิพากษาไปแล้วด้วยซ้ำ
คิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ ตอนนี้ค่อนข้างสับสนเลย อุตส่าห์ทำใจเรื่องรถแล้วลืมๆไประดับนึงแล้ว ไม่คิดว่าจะเจออะไรแบบนี้อีก คือถ้าเป็นความผิดของผม ผมก็ไม่อยากสู้คดีอะไร
ปล. ศาลมีนัดไกล่เกลี่ยกันไปครั้งนึงแล้ว นายA ไม่มา ผมคุยกับทนายบ.ประกันฯ คุยกันแทบไม่ได้เรื่องเลย ไม่มีคำอธิบายว่าทำไมถึงต้องให้ผมจ่าย เอาแต่จะถามว่าจะจ่ายยังไง กับจะให้ทำสัญญายอมท่าเดียว ศาลมีนัดไกล่เกลี่ยอีกทีเพราะนายAไม่มา เลยแยกย้ายกัน
ตารางกรมธรรม์ ตามรูปนะครับ ขอปิดชื่อบ.ประกัน กับข้อมูลส่วนตัวออกนะครับ
ถูกประกันฟ้องทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ กรณีแบบนี้คิดว่าสมควรจ่ายไหมครับ
ผมได้ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น1 กับบริษัทประกันวินาศภัยเจ้านึง(คิดว่าน่าจะความนิยมอันดับต้นๆของไทยเลยนะ)
โดยเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ช่วงเทศกาลหยุดยาวผมได้วางแผนจะขับรถไปเที่ยวกับครอบครัวตามปกติ แต่เนื่องจากผมมีรถยนต์หลายคันจึงมีผู้ใหญ่ที่นับถือและเกรงใจ(ขอเรียกว่านายA)มาขอยืมรถอีกคันไปใช้ในช่วงหยุดยาว เพราะความเชื่อถือ+เกรงใจ จึงได้ให้ยืมรถไป(ตรงนี้ผิดพลาดใหญ่หลวง สำนึกแล้ว T-T ขออย่าเพิ่งโฟกัสตรงนี้กันนะครับ)
หลังจากนั้นผมก็ขับรถไปเที่ยวกับครอบครัวตามแผน จนวันนึงช่วงค่ำๆมีคนติดต่อมาว่านายA ประสบอุบัติเหตุ และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล(คิดว่าคนติดต่อน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รพ. น่าจะได้เบอร์โทรจากโทรศัพท์ที่นายAพก) ผมจึงได้รีบไปเยี่ยม โดยระหว่างนี้ประกันภัยก็ได้มาตรวจสอบเหตุตามที่ได้รับแจ้งเหตุ
ต่อมาภายหลัง(จำไม่แม่นว่ากี่วันเพราะนานหลายปีแล้ว อาจวันรุ่งขึ้นเลยก็ได้) ผลตรวจจากรพ.ปรากฎว่านายA มีแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ประกันจึงแจ้งว่าไม่สามารถเคลมรถให้ได้ ผมก็พอคุ้นๆกฎหมายเรื่องนี้อยู่บ้าง+ค้นๆในเน็ตก็ทำนองเดียวกัน+ประกันภัยก็ไม่ได้แจ้งผมว่ามีเรื่องอะไรอีก ผมจึงไม่ได้ตามเรื่องอะไรต่อมากนัก
ผ่านมาหลายปี ระหว่างนี้เนื่องจากผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จึงไม่มีใครเรียกไปในคดี+มีปัญหากับนายAเพราะเหตุการณ์นี้ นายAจึงไม่ได้บอกอะไรกันมากนัก ผมจึงทราบแค่คร่าวๆจากคนอื่นบอกอีกทีว่าศาลพิพากษาว่า นายA ผิดข้อหาราวๆขับรถโดยประมาท เมาแล้วขับอะไรทำนองนี้ โทษเหมือนจะค่อนข้างเบาเพราะไม่มีผู้บาดเจ็บอื่นนอกจากนายA แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
จนกระทั่งกลางๆปีนี้ผมได้รับหมายศาลคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายโดยบริษัทประกันฯเป็นโจทก์ฟ้องเรียกให้จ่ายค่าเสียหายที่บ.ประกันฯจ่ายไปก่อน (เข้าใจว่าน่าจะเป็นค่าซ่อมแซม+ค่าเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ ที่คนอื่นได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุรวมๆหลายล้านบาท)
โดยบ.ประกันเรียกให้จำเลยที่1 คือนายA ชดใช้ในฐานะผู้ขับขี่รถยนต์ขณะเกิดเหตุ ซึ่งตรงนี้ผมพอเข้าใจได้
*** ประเด็นที่ผมสงสัยอยู่ตรงที่ในคำฟ้อง บ.ประกันฯ ระบุว่าให้ผม(จำเลยที่2) ร่วมชดใช้ในฐานะผู้เอาประกันภัย ซึ่งตรงนี้ผมค่อนข้างคาใจมาก
ตามความเข้าใจของผมคนที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายควรจะต้องเป็นผู้ก่อเหตุหรือผู้ทำละเมิด(หรือนายจ้างอะไรทำนองนี้)
ผมคิดว่ากรณีนี้ถ้าผมไม่ได้ทำประกัน นายA น่าจะต้องชดใช้ตรงส่วนนี้คนเดียวแน่ๆ เพราะผมไม่ได้มีส่วนร่วมก่อเหตุ แต่พอทำประกันกลับกลายเป็นว่าต้องถูกเรียกให้จ่ายเพราะเป็นผู้เอาประกันซะงั้น
ซึ่งผมมองว่าไม่สมเหตุสมผล เพราะเราทำประกันเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงที่เราจะต้องจ่ายไม่ใช่เหรอ ไหงกลายเป็นเพิ่มความเสี่ยงที่เราจะต้องจ่ายในสิ่งที่ตอนไม่ทำประกันเราไม่ต้องจ่ายซะอย่างนั้นไปได้
ถ้าเป็นกรณีที่ไม่พบตัวผู้ขับขี่เลยต้องตามเอากับเจ้าของรถยังพอเข้าใจได้ แต่นี่จนถึงขั้นผู้ขับขี่ถูกแจ้งข้อหาและพิพากษาไปแล้วด้วยซ้ำ
คิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ ตอนนี้ค่อนข้างสับสนเลย อุตส่าห์ทำใจเรื่องรถแล้วลืมๆไประดับนึงแล้ว ไม่คิดว่าจะเจออะไรแบบนี้อีก คือถ้าเป็นความผิดของผม ผมก็ไม่อยากสู้คดีอะไร
ปล. ศาลมีนัดไกล่เกลี่ยกันไปครั้งนึงแล้ว นายA ไม่มา ผมคุยกับทนายบ.ประกันฯ คุยกันแทบไม่ได้เรื่องเลย ไม่มีคำอธิบายว่าทำไมถึงต้องให้ผมจ่าย เอาแต่จะถามว่าจะจ่ายยังไง กับจะให้ทำสัญญายอมท่าเดียว ศาลมีนัดไกล่เกลี่ยอีกทีเพราะนายAไม่มา เลยแยกย้ายกัน
ตารางกรมธรรม์ ตามรูปนะครับ ขอปิดชื่อบ.ประกัน กับข้อมูลส่วนตัวออกนะครับ