เรียน พี่ๆ น้องๆ ทุกท่าน
วันนี้ผมจะขอมาแชร์เรื่องราวดังนี้...ผมเป็นคนติดกาแฟพอสมควร ดื่มมาประมาณเกือบ 10 ปีแล้วครับ โดยจะดื่มเกือบทุกวัน วันละ 1-3 แก้ว แล้วแต่ความง่วงช่วงทำงาน ถ้าง่วงก็เติมกาแฟเข้าไปอีก โดยกาแฟที่ดื่มเป็นอเมกาโน่ไม่หวานเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้เมื่อประมาณ 2 เดือนเศษที่ผ่านมาผมรีบดื่มกาแฟก่อนข้าวเช้ามากเกินไป ทำให้มีอาการแฮงค์คาเฟอีนต้องเข้า รพ. มีอาการหวิวๆ จะเป็นลม 1 วันเต็ม ตื่นเช้ามาแล้วหาย จังหวะนั้นผมตัดสินใจเลิกกาแฟเลย หักดิบหยุดทันที ดื้อๆ (เคยอ่านในเน็ทว่าหักดิบได้) แรกๆ ก็โอเค แต่สัก 4 วันอาการเริ่มแย่ มันไม่มีอารมณ์ทำงานเลย ไม่สดชื่น อ่อนเพลีย มันย่ำแย่มาก เพราะปกติเป็นคนแข็งแรง เป็นนักกีฬา Active ตลอด ที่หนักสุดคือ มีอาการจิตตก หดหู่ใจมาโดยไม่มีเหตุผล ไม่ได้เครียด หรือมีเรื่องเสียใจเลยจริงๆ แต่สมองมันไปเอง ผมงงกับตัวเองมาก แต่มันจะเป็นๆ หายๆ พยายามอดทนมาเรื่อยๆ จนครบ 1 เดือน อาการอ่อนเพลียเริ่มดีขึ้น แต่อาการจิตตก หดหู่ยังคงมีอยู่ มักมาตอนเช้ากับเย็น ครั้งละประมาณ 1-2 ชั่วโมง คุยกับคนแม้แต่ในครอบครัวเหมือนจิตใจไม่อยากคุย การพูดคุยกับคนหรือหาสังคม ไม่ได้ทำให้อาการดีขึ้นเลย เหมือนมันเป็นเองหมดเลย เมื่อมีอาการดังนั้นสิ่งที่ผมทำคือ ลองปรึกษาจิตแพทย์เพราะมองอาการมันเหมือนภาวะซึมเศร้าแต่ขัดแย้งที่ไม่ได้เกิดจากความเครียด😄
👨⚕️พบจิตแพทย์ที่แรก : บอกว่าผมเป็นโรควิตกกังวล ย้ำคิดย้ำทำ และมีภาวะซึมเศร้า และจ่ายยาซึมเศร้ามาให้ 3 ถุง ซึ่งเขาไม่รับฟังเรื่องกาแฟที่ผมเลิกแบบหักดิบเลย หมอบอกไม่เกี่ยว และบอกว่าถ้ากินกาแฟอาการต้องแย่ขึ้นแน่ๆ ผมถามเรื่องกาแฟมากๆ แกยิ่งไม่พอใจ และโมโหใส่ผม ซึ่งผมไม่เชื่อคำวินิจฉัยของแกเลย เพราะผมรู้ตัวว่าเกิดหลังเลิกกาแฟแน่นอน มันควรจะมีความสัมพันธ์กัน และไม่กินยาที่หมอให้เลย ยอมรับว่าพบหมอครั้งแรกนี่เครียดขึ้นกว่าเดิมมาก เราก็ดีๆ แต่แรก จะเป็นคนจิตเวชได้ไง และคุณหมอโมโหใส่ยิ่งไม่สบายใจ แถมหมอบอกว่าผมอายุตั้งเท่านี้ มี ปสก.มาจนผมหงอก ถ้าคุณไม่เชื่อผมก็ตามใจ (เป็นใครจะไม่เครียดล่ะครับ)
👨⚕️พบจิตแพทย์และหมอกายที่ที่สอง : บอกว่าผมไม่น่าจะใช่ภาวะซึมเศร้า อาการเหมือนโรคทางกายมากกว่า ทำการตรวจละเอียดพบว่าร่างกายแข็งแรงดี หมอจึงสรุปว่า จากอาการทั้งหมดน่าจะเกิดจากการเสพติดคาเฟอีน และให้ผมกลับไปกินกาแฟเหมือนเดิม ถ้าดีขึ้นชัดเจน หรือหายภายใน 2 สัปดาห์แปลว่าเกิดจากการถอนคาเฟอีน วันนั้นออกจาก รพ.มา ผมซัดกาแฟเลย เชื่อไหมครับ อาการหายเป็นปกติภายใน 1 ชม.หลังดื่ม แต่อีกวันก็มีอาการอยู่บ้านแต่น้อยลง และผมหายเป็นปกติเลยใน 12 วันที่ดื่มกาแฟ และคุณหมอแนะนำให้ค่อยๆ ลดอย่าหักดิบครับ และผมไปอ่านงานวิจัยใน ตปท.อาการนี้อาจยาวนานถึง 6 เดือน ในคนที่เสพติดคาเฟอีนมากๆ นะครับ ภาวะซึมเศร้าเป็นอาการนึงที่เกิดได้
สรุปที่ผมเป็น คือภาวะถอนคาเฟอีน ผมยังไม่รู้เลยถ้าผมไปกินยาซึมเศร้า 3 ถุงนั้น ชีวิตผมจะเป็นอย่างไร (ใครมี ปสก.บอกผมทีครับ) ตอนนี้ผมแค่รู้สึกว่าตัวเองถูกคร่าทั้งเป็นจากคำวินิจฉัยของจิตแพทย์ท่านแรก เกือบทำให้รักษาผิดทาง และกลายเป็นคนไข้จิตเวชไปเลย มีผลต่อเรื่องงาน จึงขอแชร์เพื่อเป็นประโยชน์ของท่านที่เป็นคอกาแฟครับ ลองสังเกตุตัวเองดูนะครับ ว่าถ้ามีช่วงหยุดดื่ม ตัวเองมีอาการแบบผมหรือไม่ อย่าเพิ่งคิดว่าตัวเองเป็นจิตเวชครับ🙏
เลิกกาแฟมีภาวะถอนคาเฟอีน แต่จิตแพทย์จ่ายยาซึมเศร้ามาให้ทาน
วันนี้ผมจะขอมาแชร์เรื่องราวดังนี้...ผมเป็นคนติดกาแฟพอสมควร ดื่มมาประมาณเกือบ 10 ปีแล้วครับ โดยจะดื่มเกือบทุกวัน วันละ 1-3 แก้ว แล้วแต่ความง่วงช่วงทำงาน ถ้าง่วงก็เติมกาแฟเข้าไปอีก โดยกาแฟที่ดื่มเป็นอเมกาโน่ไม่หวานเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้เมื่อประมาณ 2 เดือนเศษที่ผ่านมาผมรีบดื่มกาแฟก่อนข้าวเช้ามากเกินไป ทำให้มีอาการแฮงค์คาเฟอีนต้องเข้า รพ. มีอาการหวิวๆ จะเป็นลม 1 วันเต็ม ตื่นเช้ามาแล้วหาย จังหวะนั้นผมตัดสินใจเลิกกาแฟเลย หักดิบหยุดทันที ดื้อๆ (เคยอ่านในเน็ทว่าหักดิบได้) แรกๆ ก็โอเค แต่สัก 4 วันอาการเริ่มแย่ มันไม่มีอารมณ์ทำงานเลย ไม่สดชื่น อ่อนเพลีย มันย่ำแย่มาก เพราะปกติเป็นคนแข็งแรง เป็นนักกีฬา Active ตลอด ที่หนักสุดคือ มีอาการจิตตก หดหู่ใจมาโดยไม่มีเหตุผล ไม่ได้เครียด หรือมีเรื่องเสียใจเลยจริงๆ แต่สมองมันไปเอง ผมงงกับตัวเองมาก แต่มันจะเป็นๆ หายๆ พยายามอดทนมาเรื่อยๆ จนครบ 1 เดือน อาการอ่อนเพลียเริ่มดีขึ้น แต่อาการจิตตก หดหู่ยังคงมีอยู่ มักมาตอนเช้ากับเย็น ครั้งละประมาณ 1-2 ชั่วโมง คุยกับคนแม้แต่ในครอบครัวเหมือนจิตใจไม่อยากคุย การพูดคุยกับคนหรือหาสังคม ไม่ได้ทำให้อาการดีขึ้นเลย เหมือนมันเป็นเองหมดเลย เมื่อมีอาการดังนั้นสิ่งที่ผมทำคือ ลองปรึกษาจิตแพทย์เพราะมองอาการมันเหมือนภาวะซึมเศร้าแต่ขัดแย้งที่ไม่ได้เกิดจากความเครียด😄
👨⚕️พบจิตแพทย์ที่แรก : บอกว่าผมเป็นโรควิตกกังวล ย้ำคิดย้ำทำ และมีภาวะซึมเศร้า และจ่ายยาซึมเศร้ามาให้ 3 ถุง ซึ่งเขาไม่รับฟังเรื่องกาแฟที่ผมเลิกแบบหักดิบเลย หมอบอกไม่เกี่ยว และบอกว่าถ้ากินกาแฟอาการต้องแย่ขึ้นแน่ๆ ผมถามเรื่องกาแฟมากๆ แกยิ่งไม่พอใจ และโมโหใส่ผม ซึ่งผมไม่เชื่อคำวินิจฉัยของแกเลย เพราะผมรู้ตัวว่าเกิดหลังเลิกกาแฟแน่นอน มันควรจะมีความสัมพันธ์กัน และไม่กินยาที่หมอให้เลย ยอมรับว่าพบหมอครั้งแรกนี่เครียดขึ้นกว่าเดิมมาก เราก็ดีๆ แต่แรก จะเป็นคนจิตเวชได้ไง และคุณหมอโมโหใส่ยิ่งไม่สบายใจ แถมหมอบอกว่าผมอายุตั้งเท่านี้ มี ปสก.มาจนผมหงอก ถ้าคุณไม่เชื่อผมก็ตามใจ (เป็นใครจะไม่เครียดล่ะครับ)
👨⚕️พบจิตแพทย์และหมอกายที่ที่สอง : บอกว่าผมไม่น่าจะใช่ภาวะซึมเศร้า อาการเหมือนโรคทางกายมากกว่า ทำการตรวจละเอียดพบว่าร่างกายแข็งแรงดี หมอจึงสรุปว่า จากอาการทั้งหมดน่าจะเกิดจากการเสพติดคาเฟอีน และให้ผมกลับไปกินกาแฟเหมือนเดิม ถ้าดีขึ้นชัดเจน หรือหายภายใน 2 สัปดาห์แปลว่าเกิดจากการถอนคาเฟอีน วันนั้นออกจาก รพ.มา ผมซัดกาแฟเลย เชื่อไหมครับ อาการหายเป็นปกติภายใน 1 ชม.หลังดื่ม แต่อีกวันก็มีอาการอยู่บ้านแต่น้อยลง และผมหายเป็นปกติเลยใน 12 วันที่ดื่มกาแฟ และคุณหมอแนะนำให้ค่อยๆ ลดอย่าหักดิบครับ และผมไปอ่านงานวิจัยใน ตปท.อาการนี้อาจยาวนานถึง 6 เดือน ในคนที่เสพติดคาเฟอีนมากๆ นะครับ ภาวะซึมเศร้าเป็นอาการนึงที่เกิดได้
สรุปที่ผมเป็น คือภาวะถอนคาเฟอีน ผมยังไม่รู้เลยถ้าผมไปกินยาซึมเศร้า 3 ถุงนั้น ชีวิตผมจะเป็นอย่างไร (ใครมี ปสก.บอกผมทีครับ) ตอนนี้ผมแค่รู้สึกว่าตัวเองถูกคร่าทั้งเป็นจากคำวินิจฉัยของจิตแพทย์ท่านแรก เกือบทำให้รักษาผิดทาง และกลายเป็นคนไข้จิตเวชไปเลย มีผลต่อเรื่องงาน จึงขอแชร์เพื่อเป็นประโยชน์ของท่านที่เป็นคอกาแฟครับ ลองสังเกตุตัวเองดูนะครับ ว่าถ้ามีช่วงหยุดดื่ม ตัวเองมีอาการแบบผมหรือไม่ อย่าเพิ่งคิดว่าตัวเองเป็นจิตเวชครับ🙏