กลรักสาวมีนกร ตอนที่ 2 ร้านสามเกลอ ( ต่อ )

กระทู้คำถาม
กิจการร้านก๋วยเตี๋ยวไปได้ด้วยดีเริ่มเป็นที่รู้จักทำให่แต่ละวันมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาอุดหนุน  มัจฉาใช้เวลาวาดภาพหลังจากเก็บจากจากเก็บร้านเสร็จ 
โรงเพาะฟักสัตว์น้ำกร่อยมัจฉาและเพื่อน ๆ กำลังช่วยกันล้างบ่อปูนเพื่อเตรียมอนุบาลลูกปลา  มัจฉาแกล้งสาดน้ำใส่น้ำหวานจนเปียกไปทั้งตัว ทุกคนหัวเราะ น้ำหวานสาดน้ำกลับแต่มัจฉาหลบได้ทันจนตัวเองลื่นล้มไปนอนกองกับพื้น น้ำหวานพยามลุกขึ้นเดินแต่ขาแผลงเดินไม่ไหว มัจฉาช่วยพยุงตัวน้ำหวานให้น้ำหวานขี่หลังไปห้องพยาบาล
“ เป็นไงบ้าง ฉันขอโทษ  ”  
“ อือ !   ไม่เป็นไร   ”  
“  เดินไหวไหมเนี่ยให้ฉันช่วยพยุงไหม   ”
“  ไม่ต้องฉันเดินเองได้ ”  มัจฉาถอนหายใจ
“ เดี๋ยวฉันพาแกไปพักที่ห้อง ฉันขอโทษด้วยที่ทำให้แกต้องเจ็บ ”
“ ทำดีกับฉันแบบนี้กลัวฉันไปฟ้องครูสุใช่ไหม ”
“  ป่าว  ทำไมฉันต้องกลัวในเมื่อฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ”  พรศรีแวะมาหาสุปราณีย์ที่วิทยาลัย นานหลายปีแล้วที่ทั้งสองคนไม่ได้เจอกัน สุปราณีย์ดีใจที่ได้เจอกับพรศรีทั้งคู่นั่งคุยอย่างถูกคอ พรศรีไม่ลืมที่จะถามถึงมัจฉา สุปราณีย์ยิ้ม 
“ เธอได้เจอมัจบ้างไหมตอนนี้คงโตเป็นสาวแล้ว พรุ่งนี้วันหยุดฉันจะชวนเธอไปหาเพ็ญจันทร์ที่บ้านด้วยและอีกอย่างหนึ่งฉันอยากเจอหลานด้วย หลายปีแล้วที่ฉันไม่ไปหาหลานตอนนี้คงจำฉันไม่ได้แล้ว ”
“ เธอไม่ต้องรอถึงพรุ่งนี้หรอก วันนี้เธอก็เจอหลานได้ไม่ถึงห้านาที มัจฉาจะมายืนอยู่ตรงหน้าของเธอตรงนี้ ”
“ พูดจริงหรือเปล่าเนี่ย เธอไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่ไหม ”  สุปราณีย์พูดไม่ทันขาดคำ มัจฉาเดินออกมาจากห้องพอดีพร้อมกับตะโกนเรียก  มัจฉาได้ยินเสียงของสุปราณีย์รีบเดินไปหาในทันที
“  ครูเรียกมัจมีอะไรเปล่า ”
“ โอ้ย !  เมื่อไหร่จะเลิกเรียกป้าสักทีละ ตอนนี้ไม่มีใครเรียกป้าเหมือนเดิมเถอะลูก ป้าไม่ชินเลย ”  
“ ได้ค่ะแต่ถ้ามีคนอื่นอยู่ด้วยมัจขอเรียกป้าว่าครูเหมือนเดิมนะคะ ”
“ จ๊ะลูก ”   พรศรียิ้มด้วยความดีใจ  
“ เผลอแปบเดียวโตเป็นสาวแล้ว ”   
“ สวัสดีค่ะป้าศรี ” 
“ หวัดดีจ๊ะ ”
“ ป้าคิดถึงหนูมากเลย วันนี้ดีใจมากที่ได้เจอ นับตั้งแต่วันนี้เราไม่ต้องพรากจากกันอีกแล้ว  ” พรศรีสวมกอดมัจฉา มัจฉาสัมผัสได้ถึงความรักที่พรศรีมีให้กับตัวเอง   
“ ถ้าอย่างนั้นป้าขอเบอร์โทร ไลน์และก็เฟสบุคของหลานด้วย เอาไว้คุยกัน ”
“ ค่ะป้า ” 
“ ยังไม่เลิกเห่อหลานอีก ” 
“ มัจขอตัวไปก่อนนะคะออกมานานแล้ว เพื่อนรอแย่แล้ว ”  พรศรีสวมกอดมัจฉาอีกครั้ง  
หลังจากเลิกเรียนมัจฉาไปหาชลธีที่โรงเรียน ก้องภพไม่พอใจที่เห็นมัจฉาสนิทกับชลธีแต่พยายามเก็บอาการต่อหน้าชลธีไม่ให้เขารู้  มัจฉาเองก็เช่นกันเกลียดหน้าก้องภพสุด ๆ ต่อหน้าชลธีทั้งคู่แกล้งทำคุยกันดีแต่ลับหลังชลธีกัดเหมือนหมาไม่มีใครยอมใคร 
“ ไอ้ชล คิดถึงฉันหรอถึงโทรให้ฉันมาหา  ”  ชลธียิ้ม 
“ ฉันจะให้แกมาช่วยวาดภาพส่งครูให้หน่อย ฉันวาดไม่สวยเลย ”
“ เรื่องแค่นี้เองให้ฉันวาดให้ก็ได้ไม่เห็นต้องลำบากให้มัจมาเลย ”
“ ไม่ลำบากเลยก้อง ฉันเต็มใจ สำหรับไอ้ชลฉันว่างเสมอ ว่างทุกเวลา อย่าว่าแต่วาดภาพเลยทำอย่างอื่นฉันก็เต็มใจทำให้  ” มัจฉาส่งสายยั่วยวนมองไปที่ชลธี ก้องภพเข้าใจความหมายคำพูดของมัจฉา
“ อย่างอื่นที่ว่า ฉันทำให้ชลได้เพียงคนเดียวเท่านั้น คนอื่นคงได้แค่มอง ”
“ ใครจะไม่รู้ละเผื่อวันข้างหน้า เพื่อนของฉันคนนี้อาจกลับใจมาลิ้มรสชาติชะนีอย่างฉันก็เป็นไปได้ ”
“ พวกแกสองคนพูดอะไรกัน ฉันไม่เห็นเข้าใจ ”
“ ไม่มีอะไรหรอก ฉันกับก้องแค่พูดหยอกกันเล่น แก้เซ็ง ”  มัจฉารีบตัดบท ก้องภพพยายามยั่วโมโหมัจฉาแต่ก็ไม่เป็นผล  มัจฉาขอแยกตัวกลับไปก่อนเมื่อถึงใกล้ถึงเวลาเปิดร้าน  กิจการร้านขายก๋วยเตี๋ยวของมัจฉาเป็นไปด้วยดี เพ็ญจันทร์ต้องการให้มัจฉาเลิกขายก๋วยเตี๋ยว   
ร้านสามเกลอในช่วงค่ำเนืองแน่นไปด้วยลูกค้าที่พากันมาเข้ามาอุดหนุน  มัจฉาปรุงก๋วยเตี๋ยวจนมือระวิง เข้มมีหน้าที่ดูแลลูกค้า  เบิ้มมีหน้าที่เสริฟร์ก๋วยเตี๋ยว จำนวนที่โต๊ะเพิ่มขึ้นทำให้มีลูกค้ามานั่งกินเพิ่มขึ้นไปด้วย  แต่ละวันทั้งสามคนกว่าทั้งสามคนจะเก็บร้านเสร็จใช่เวลานานนับชั่วโมงเพราะเหตุนี้เองทำให้มัจฉากลับบ้านดึกทุกวัน  เพ็ญจันทร์ก็เช่นกันนั่งรอมัจฉากลับบ้านทุกคืน
“ ดึกแล้วทำไมคุณผู้หญิงยังไม่นอนอีกค่ะ ”
“ ฉันรอยัยมัจกลับบ้าน ทำไมวันนี้ยังไม่กลับมา  ” 
“ สักพักคุณหนูคงกลับค่ะ ร้านก๋วยเตี๋ยวของคุณหนูอยู่ใกล้นิดเดียวตรงหน้าปากซอยนี่เองเดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว  ”
“  ฉันจะให้ยัยมัจเลิกขายก๋วยเตี๋ยว ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเองทั้งหมด  ฉันไม่น่ายื่นข้อเสนอบ้า ๆ นี่เลย ”
“ คุณผู้หญิงไม่ต้องคิดมากไปนะคะ  คุณหนูชินแล้วที่คุณผู้หญิงเป็นแบบนี้  สักพักคุณหนูคงกลับมา คุณผู้หญิงไปนอนเถอะค่ะ นอกดึกไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ  ”  
“ ยัยมัจยังไม่กลับจะให้ฉันข่มตานอนได้ยังไงละ รอให้ยัยมัจกลับมาก่อนฉันค่อยไปนอนแล้วกัน ” 
มัจฉาลงประกวดวาดภาพใช้เวลาฝึกซ้อมวาดรูปหลังจากปิดร้านยิ่งใกล้วันแข่งยิ่งทำให้มัจฉากลับบ้านดึก ความลับขั้นสุดยอดที่เพ็ญจันทร์รู้ไม่ได้  ส่วนเพ็ญจันทร์ยังคงรอมัจฉากลับบ้านทุกวัน
ต่อหน้าทำไม่สนใจแต่ในใจรักหมดหัวใจ การแสดงออกของความรักที่ดูผิดเพี๊ยนแปลกประหลาด การกระทำกับการแสดงออกที่แตกต่างกันทำให้มัจฉาเข้าใจผิดคิดว่าเพ็ญจันทร์ไม่เคยมีความรัก ความห่วงใยมอบให้เข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเป็นกาฝากของบ้าน   มัจฉากลับบ้านช้ากว่าปกติเลยใช้ทางหลังบ้านกลับเข้าบ้านทำให้เพ็ญจันทร์ไม่เห็นมัจฉากลับเข้ามาในบ้านนั่งรอมัจฉาอยู่ในห้องโถงจนเช้า
 “ นี่ฉันเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่  ”   เพ็ญจันทร์เข้าใจผิดคิดว่ามัจฉาเพิ่งกลับบ้านทำท่าไม่ค่อยใจเมื่อเห็นมัจฉากลับมา
“ ทำไมเพิ่งกลับบ้านมัวไปทำอะไรอยู่ เมื่อคืนไปนอนที่ไหน ”
“ นอนที่บ้าน คุณนายให้มัจไปนอนที่ไหน ถ้าไม่ใช่ที่บ้านหรือคุณนายจะให้มัจไปนอนวัด ”
“ คุณหนูกลับมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ  ” 
“ ทำไมฉันไม่เห็น ”
“ คุณผู้หญิงจะเห็นได้ยังไงค่ะในเมื่อคุณหนูกลับมาทางหลังบ้าน ”
“ มัจไปหาป้าที่ห้องทำงานด้วยละ วันนี้ป้ามีเรื่องสำคัญที่จะคุยด้วย ”
“ รับทราบค่ะคุณนาย ”   เพ็ญจันทร์เดินออกไป มัจฉาไม่เข้าใจ  พิมพ์ภาช่วยอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้มัจฉาเข้าใจ  
“ เมื่อคืนคุณผู้หญิงมานั่งรอคุณหนูจนเช้า  ”   
“ มัจไม่อยากจะเชื่อ คุณนายนั้นหรอจะมานั่งรอมัจกลับบ้าน  มัจไม่อยากจะเชื่อ ”
“ คุณผู้หญิงรักคุณหนูมาก  คุณหนูรู้ไหม ”
“  อีกคนแล้วพูดเหมือนพี่พุดเลย ”
“ สักวันหนึ่งคุณหนูจะเข้าใจแต่ว่าตอนนี้คุณหนูรีบไปหาคุณผู้หญิง   ”  มัจฉาถอนหายใจ 
เพ็ญจันทร์ยืนกอดอกรับลมอยู่ตรงระเบียงห้อง มัจฉาเดินเข้ามาในห้อง เพ็ญจันทร์เดินกลับมาที่โต๊ะทำงาน  มัจฉานั่งลง 
“  นี่มัจทำอะไรผิดอีกละเรียกมัจมาหาตั้งแต่เช้าเลย ”  เพ็ญจันทร์เงียบพร้อมกับยื่นบัตรกดเงินให้มัจฉา
“ ป้าให้มัจ นับตั้งแต่นี้มัจไม่ต้องไปขายก๋วยเตี๋ยวแล้วนะ ป้าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของมัจทุกอย่าง ”
“ ไม่เป็นไร  คุณนายเก็บเงินของตัวเองไว้ให้พี่พุด มัจหาเงินเรียนเองได้ไม่ต้องรบกวนเงินของคุณนาย ”
“  ทำไมละ ป้าเต็มใจให้ไม่ได้รบกวนอะไรเลย ”
“  กราบขอบพระคุณในความหวังดีแต่มัจไม่ขอรับไว้ในเมื่อคุณนายบอกมัจเองว่า ถ้าหากมัจไม่ได้เรียนมัธยมปลายตามที่คุณนายสั่ง มัจจะต้องหาเงินเรียนด้วยตนเองแล้วทำไมตอนนี้คุณนายเปลี่ยนใจให้เงินมัจ มัจจะเชื่อใจคุณนายได้แค่ไหนกันว่าวันหนึ่งคุณนายจะไม่เปลี่ยนใจ มัจไม่กล้าเสี่ยงทุบหม้อข้าวตัวเองมารับความช่วยเหลือจากคุณนายหรอกนะ ”  
“ อวดดีนึกว่าตัวเองเก่งมากหรือไงถึงกล้าพูดแบบนี้ ”
“ มัจไม่ต้องการมีอะไรติดค้างกับคุณนายอีกแล้ว หนี้ด้วยเงินมันชดใช้ได้ทั้งหมดแต่หนี้บุญคุณชดใช้ทั้งชีวิตมันก็ไม่มีวันหมด  คุณนายมีเรื่องที่จะคุยกับมัจแค่นี้ใช่ไหม ถ้าไม่มีอะไรแล้วมัจขอตัว  ”  คำพูดของมัจฉายิ่งทำให้เพ็ญจันทร์ปวดใจรู้สึกแย่ที่ตนเองเป็นสาเหตุทำให้มัจฉาเข้าใจผิด ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเปรียบเหมือนเส้นขนานที่ไม่มีทางมาบรรจบกันได้  มัจฉายังคงไปขายก๋วยเตี๋ยวเหมือนเดิม  เพ็ญจันทร์คิดหาวิธีให้มัจฉาเลิกขายก๋วยเตี๋ยว     ภายในหอประชุมนักศึกษาชายหญิงจากวิทยาลัยต่าง ๆ ทยอยกันเดินเข้ามาในหอประชุม มัจฉาเป็นหนึ่งในผู้แข่งขันของวันนี้  เข้ม เบิ้ม และชลธีโดดเรียนมาให้กำลังใจมัจฉาอย่างพร้อมเพรียงกัน  
“ ไอ้ชล เด็กเรียนอย่างแกหนีเรียนเป็นด้วยหรอ ฉันไม่อยากจะเชื่อ ”
“ วันนี้เป็นวันสำคัญของแก ฉันต้องมาให้กำลังใจอยู่ใกล้ชิดติดขอบเวทีอยู่แล้ว  ในช่วงชีวิตของแกต้องมีฉันอยู่ด้วยเสมอ ”
“ น่ารักที่สุดเลย ”  มัจฉาเอียงแก้มไปหาชลธี  ชลธีหอมแก้มมัจฉาเบา ๆ  เข้มกับเบิ้มแกล้งแซวทั้งคู่
“  พวกแกสองคนเหมือนคู่รักกันเลย นี่ถ้าหากพวกฉันสองคนเป็นคนอื่นคงเข้าใจว่าแกสองคนเป็นแฟนกัน ”
“ เป็นได้ก็ดีสิ  ผู้ชายนิสัยดี อบอุ่นอย่างชลธีใคร ๆ ก็อยากได้เป็นแฟนกันทั้งนั้น   ” 
“ มัวแต่พูดอยู่นั้นแหละใกล้ถึงเวลาแข่งแล้ว ”   มัจฉาไปยังจุดนัดหมาย  เสียงพิธีกรกล่าวเปิดงานพร้อมทั้งอธิบายกติกาการแข่งขันให้ทุกคนฟัง สิ้นเสียงประกาศของพิธีกร ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนก้มหน้าวาดภาพของตัวเองด้วยความประณีต  ชลธี เข้ม และเบิ้มยืนให้กำลังใจมัจฉาอยู่ด้านนอกหอประชุม เข็มนาฬิกาเคลื่อนไปอย่างช้า ๆ  จนกระทั่งหมดเวลา ทุกคนเงยหน้าขึ้นพากันออกมานอกห้องประชุม มัจฉาเดินออกจากหอประชุมไปเพื่อนทั้งสามคน  กรรมการตัดสินกำลังให้คะแนนผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน 
“ .ใกล้ถึงเวลาประกาศผลแล้ว ฉันตื่นเต้นจังเลย ”  ชลธีกุมมือของมัจฉาเอามาแนบอก 
“ ได้ยินเสียงหัวใจของฉันเต้นกระทบมือของแกไหม  ฉันตื่นเต้นยิ่งกว่าแกเสีย ”  มัจฉายิ้ม
“ เมื่อไหร่พวกแกสองคนจะเลิกจีบกันสักที ถ้ารักกันชอบกันคบเป็นแฟนกันเสียเลย ไม่ต้องคบกันให้เสียเวลา ”  
“ ไอ้เข้มแกก็พูดเกินไปฉันกับมัจฉาเป็นเพื่อนไม่มีวันที่จะเป็นอย่างอื่นไปได้หรอก  นอกจากคำว่าเพื่อน ”  
“ ถ้าใครจะมาจีบคุณหนูมัจฉาต้องผ่านด่านฉันก่อน ฉันรักและหวงเพื่อนนี้คนนี้มาก ฉันไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเด็ดขาดทั้งทางกายและทางใจ ”
“ วันนี้พวกแกสองคนถ้าจะเพี๊ยนเป็นอะไรมากไปไหม หลังเลิกงานเราไปหาอะไรอร่อยกระแทกปากกันดีกว่าเหนื่อยมาหลายวันแล้ว  ”
“ เป็นความคิดที่ดีมาก พักบ้างก็ดีนะ  ”  เสียงเรียกของพิธีกรให้ทุกคนมารวมตัวกันที่หอประชุมเพื่อรอฟังผลประกาศรางวัล มัจฉาและเพื่อนกลับเข้าไปในหอประชุมแต่ พรศรีเป็นประธานมอบรางวัล  พิธีกรประกาศผลรางวัลตั้งแต่รางวัลชมเชยจวบจนกระทั่งรางวัลชนะเลิศ 
“ รางวัลชนะเลิศในการประกวดภาพวาดในครั้งนี้ได้แก่ผลงานของ นางสาวมัจฉา  รักษ์ดี ”  
“ ไอ้มัจแกได้รางวัลชนะเลิศ  ”  เข้มและเบิ้มจับมือแสดงความยินดี ชลธีสวมกอดมัจฉาด้วยความดีใจ  มัจฉาขึ้นไปรับรางวัลบนเวที พรศรีดีใจมากที่เจอมัจฉาที่นี้  หลังจากรับรางวัลเสร็จพรศรีมาแสดงความยินดีกับมัจฉาพร้อมทั้งชวนมัจฉาไปกินข้าวที่บ้าน
“ เก่งมากเลยลูก ป้าขอแสดงความยินดีด้วย ”
“ ขอบคุณค่ะ  ป้าศรีอย่าบอกเรื่องนี้กับป้านะคะ ”
“ จ๊ะลูก  ป้าเข้าใจ สุเล่าเรื่องของมัจให้ป้าฟังหมดแล้ว มัจไม่ต้องกังวลใจไปนะ ป้าสัญญาเรื่องของมัจทุกอย่างจะเป็นความลับ คุณนายของมัจจะไม่มีวันรู้  เย็นนี้ว่างไหมไปกินข้าวกับป้าที่บ้าน  ป้าชวนทุกคนเลยนะ ”  มัจฉามองหน้าทุกคนแต่ละคนพยักหน้าเป็นการตอบรับ  
บ้านของพรศรีเป็นบ้านไม้ทรงไทยหลังใหญ่ถูกประดับตกแต่งอย่างสวยงานร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ พรศรีดีใจมากทีมัจฉามาที่บ้านสั่งให้แม่บ้านทำอาหารพร้อมทั้งโทรไปบอกเพ็ญจันทร์ว่ามัจฉาอยู่กับตนเอง ทรงพลทำกับข้าวอยู่ในครัว 
“ พล !  ดูสิแม่พาใครมาวางตะหลิวแล้วออกมาคุยกับแม่ก่อนสิลูก   ”  
“ ครับแม่ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ ”  ทรงพลวางตะหลิวถอดผ้ากันเปื้อนให้แม่บ้านทำกับข้าวต่อเดินออกไปหาพรศรี ทรงพลเป็นผู้ชายที่รักในการทำอาหารทำงานรับราชการทหาร 
“ ใครกันที่แม่อยากให้ผมรู้จัก อย่าบอกนะแม่พาผู้หญิงมาให้ผมดูตัว ผมยังไม่พร้อมที่จะมีครอบครัวนะครับแม่ ”
“ นี่ไงลูกคนที่แม่อยากให้พลรู้จัก  มัจฉาไงลูก  จำน้องได้ไหม ”  ทรงพลยิ้มกว้างวิ่งถลาเข้าไปกอดมัจฉาด้วยความดีใจ มัจฉางงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เข้าใจว่าทำไมคนบ้านนี้ว่าทำไมต้องดีใจมากขนาดนี้เมื่อเจอกับตนเอง
“ มัจ ! หลายปีแล้วที่พี่ไม่ได้เจอกับน้อง ตั้งแต่ที่พี่ไปเรียนต่อเมืองนอก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่